NEWS PR NEWS

ฟูจิฟิล์มไม่เคยหยุดยั้งพัฒนาเทคโนโลยีสร้างสรรค์นวัตกรรม ภายใต้แนวคิด “NEVER STOP” (Improving The Future) พัฒนาและวิจัยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์และตรวจหาร่องรอยของโรคในเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์การรักษาในปัจจุบันและอนาคต

ฟูจิฟิล์มพัฒนาธุรกิจให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้ ด้วยวิสัยทัศน์และการตัดสินใจของ Shigetaka Komori ซีอีโอของ Fujifilm Corporation โดยการคิดนอกกรอบที่มองว่า โลกเทคโนโลยีดิจิทัล “ไม่ใช่วิกฤต” สำหรับเขา หากแต่เป็น “โอกาส” ขอเพียงแต่ถ้าเราไม่หยุดที่จะมุ่งไปข้างหน้า ภายใต้แนวคิด “NEVER STOP” (Improving The Future)  ทำให้ปัจจุบัน ฟูจิฟิล์มมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งในกลุ่มกล้องดิจิตอล กลุ่มฟิล์มสีและกระดาษอัดรูป กลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทขนาดใหญ่ รวมไปถึงการเติบโตในกลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของผู้บริโภคทำให้ฟูจิฟิล์มยืนหยัดความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีมาจนถึงทุกวันนี้

 

 

เมื่อถึงยุคของการเปลี่ยนผ่านฟูจิฟิล์มไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด “NEVER STOP” (Improving The Future) จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจฟิล์มสำหรับการถ่ายภาพ  มีวิสัยทัศน์มองอนาคตในยุคดิจิตอล โดยการพัฒนานวัตกรรมและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีการขยายบิสซิเนสโดยมุ่งเน้นไปที่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ (Medical System และ Health Care) เข้ามามีบทบาทช่วยให้วิทยาการทางการแพทย์พัฒนาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืนหยัดความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีต่อไป

 

 

ฟูจิฟิล์มเล็งเห็นความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ (Medical system) จึงได้พัฒนาและวิจัยนำ #เทคโนโลยี AI ซึ่งใช้ชื่อว่า REiLI (ไลลิ) เข้ามาช่วยวิเคราะห์และตรวจหาร่องรอยของโรคในอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม หลักการทำงานของ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) ในอุปกรณ์การแพทย์  เมื่อเครื่องตรวจตรวจเจอสิ่งผิดปกติ  AI จะ detect แล้วแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ ทางทีมแพทย์ก็จะสามารถตรวจสอบความผิดปกติได้ทันที ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยวิเคราะห์ ตรวจหาร่องรอยของโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยทีมแพทย์ทำงานได้สะดวกและช่วยลดขั้นตอนการทำงานของแพทย์ได้มากขึ้น โดยในสถานการณ์โควิค-19 ในขณะนี้  เครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล (Digital Portable X-Ray) ของฟูจิฟิล์มได้นำ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) เข้ามาช่วยเหลือแพทย์ในการวินิจฉัย  ซึ่งในประเทศไทยได้เริ่มนำ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) มาใช้กับเครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล FDR Nano (Digital Portable X-Ray) มาช่วยทีมแพทย์ใช้ตรวจผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะโรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ที่ส่งผลต่อปอดโดยตรง  เครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอลจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการตรวจรักษาโควิด-19 

 

 

ฟูจิฟิล์มเล็งเห็นความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ (Medical system) จึงได้พัฒนาและวิจัยนำ #เทคโนโลยี AI ซึ่งใช้ชื่อว่า REiLI (ไลลิ) เข้ามาช่วยวิเคราะห์และตรวจหาร่องรอยของโรคในอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม หลักการทำงานของ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) ในอุปกรณ์การแพทย์  เมื่อเครื่องตรวจตรวจเจอสิ่งผิดปกติ  AI จะ detect แล้วแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ ทางทีมแพทย์ก็จะสามารถตรวจสอบความผิดปกติได้ทันที ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยวิเคราะห์ ตรวจหาร่องรอยของโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยทีมแพทย์ทำงานได้สะดวกและช่วยลดขั้นตอนการทำงานของแพทย์ได้มากขึ้น โดยในสถานการณ์โควิค-19 ในขณะนี้  เครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล (Digital Portable X-Ray) ของฟูจิฟิล์มได้นำ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) เข้ามาช่วยเหลือแพทย์ในการวินิจฉัย     ซึ่งในประเทศไทยได้เริ่มนำ #เทคโนโลยี AI (REiLI (ไลลิ)) มาใช้กับเครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล FDR Nano (Digital Portable X-Ray) มาช่วยทีมแพทย์ใช้ตรวจผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะโรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ที่ส่งผลต่อปอดโดยตรง  เครื่องเอ็กซ์เรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอลจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการตรวจรักษาโควิด-19
.
ปัจจุบันฟูจิฟิล์มได้ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย อาทิ กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร Endoscopy, เครื่องตรวจเต้านม Mammography, ระบบสารสนเทศทางการแพทย์ Synapse, เครื่องอัลตราซาวนด์, เครื่องวิเคราะห์ตัวอย่างเลือด สินค้าในกลุ่มเวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อมของร่างกาย ฟูจิฟิล์มในฐานะผู้ผลิตเครื่องมือการแพทย์จึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยยกระดับการรักษาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมที่จะดูแลคุณภาพชีวิตการรักษาในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้น