สิงคโปร์, 8 กันยายน 2564 – เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศสานต่อปณิธานพัฒนาธุรกิ
นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน สิงคโปร์ กล่าวว่า “สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชี
“การย้ายมาที่สำนักงานใหญ่แห่ งใหม่นี้มีนัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ข้อแรก เป็นการตอกย้ำว่าเอปสันยังคงมี ความมั่นใจในประเทศสิงคโปร์ ในการเป็นศูนย์รวมธุรกิ จของเอปสันสำหรับภูมิภาคนี้ ข้อสองคือการแสดงให้เห็นถึ งความมุ่งมั่นของเอปสันที่ จะเปลี่ยนแปลงวิถี การทำงานขององค์กรธุรกิจในภูมิ ภาคนี้ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ไม่ เพียง จะช่วยเพิ่มผลิตผล แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนอี กด้วย และข้อสุดท้าย คือความพยายามจะทำให้ลูกค้ าของเอปสันได้พบกับการดำเนินธุ รกิจอย่างยั่งยืนได้ง่ายยิ่งขึ้ น เพราะความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็ นต่อระบบธุรกิจปัจจุบัน การเลือกเอปสันจึงเท่ากับการเลื อกสิ่งที่ดีกว่าให้กับธุรกิจ ที่ทั้งเพิ่มผลผลิ ตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อมควบคู่กันไปในเวลาเดียวกัน”
นายซิ่ว ยังกล่าวถึงผลกระทบอย่างรุ นแรงทางสังคมจากการเปลี่ ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน และความร่วมมือระหว่างกลุ่มบิ รษัทเอปสันในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้กับรัฐบาลสิงคโปร์ รวมถึงหน่วยงาน NGO ในภูมิภาคนี้ เพื่อรณรงค์เรื่องการสร้ างความยั่งยืนและสร้างการมีส่ วนร่วมของภาคธุรกิจ โดยยกตัวอย่างของความร่วมมือล่ าสุดกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ในการยกระดับความตื่นตัวต่ อปรากฏการณ์การละลายของชั้นดิ นเยือกแข็ง (permafrost) ที่ขั้วโลกเหนือ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ ยนแปลงไป ซึ่งจะส่งผลร้ายกับทั่วโลก ดังนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ สร้างความยั่งยืน จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่ วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่ งแวดล้อมได้
“เอปสันได้พยายามสร้างแรงบั นดาลใจ ให้ความรู้ และกระตุ้นภาคธุรกิจทั่วเอเชี ยตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่ องการดำเนินงานอย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิ ดกับเอปสันในทุกประเทศ ในการสร้างสังคมที่ลดการปล่อยก๊ าซคาร์บอน”
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดสำนั กงานใหม่ครั้งนี้ก็คือเครื่อง PaperLab ที่ตั้งอยู่ในโซลูชั่นเซนเตอร์ ส่วนองค์กรธุรกิจ ซึ่ง PaperLab เป็นเครื่องผลิตกระดาษขึ้ นมาใหม่จากกระดาษที่ใช้แล้ วในสำนักงาน ที่ใช้เทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสัน ไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ต่างจากการรีไซเคิลกระดาษแบบดั้ งเดิม ทำให้ผู้ใช้ งานสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อม นอกจากนี้ กระดาษที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่ยั งสามารถกำหนดความหนา ขนาด และสีของกระดาษอีกด้วย โดยกระบวนการผลิตกระดาษใหม่นี้ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ การย่อยให้เป็นเส้นใย (Defibrating) การผสานเส้นใย (Binding) และการขึ้นรูปกระดาษ (Forming) ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญในกระดาษเก่าจะถูกย่ อยสลายอย่างสมบูรณ์แบบ PaperLab มีแผนเริ่มจำหน่ายภายในปีนี้ โดยเริ่มจากประเทศสิงค์โปร์ และจะทยอยเปิดตัวในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ โซลูชั่นเซนเตอร์ทั้งสองศูนย์ยั งได้รวมเอาสินค้า B2B ครบทั้งไลน์ของเอปสันไว้ ทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สแกนเนอร์ โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ โปรเจคเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรั บการพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ภาพถ่าย ป้ายโฆษณา และสิ่งทอ
“ความยั่งยืนเป็นประเด็ นทางเศรษฐกิจที่สำคั ญของประเทศไทย มีจำนวนธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตระหนักถึงความจำเป็ นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ เราจะเดินหน้าผลักดันให้ความยั่ งยืนเติบโตขึ้นในสังคมธุรกิ จของประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทั้ งหลายของเรา” นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม
การย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิ ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่ งใหม่ และการเปิดตัว PaperLab ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถให้กั บเอปสัน ในการให้ความรู้กับคู่ค้าและลู กค้าเกี่ยวกับโซลูชั่นที่ยั่งยื น ซึ่งจะเป็นหนทางสู่การสร้างชุ มชนที่เป็นมิตรและใส่ใจต่อสิ่ งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นทั่วทั้งภู มิภาคนี้