จุดเด่น
- หน้าจอขนาดใหญ่ 27 นิ้ว
- ความละเอียด 2K (2560 X 1440 พิกเซล) 10 bits
- เทคโนโลยี AQColor แสดงสี 99% Adobe RGB & 100% sRGB
- จอคาริเบรทแล้วจากโรงงาน และมี Hardward Calibration สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำซ้ำ
- สีตรงตามมาตรฐาน ได้รับการรับรองจาก Pantone & CalMAN
- มุมมองกว้าง 178 องศา มองจากด้านข้างได้ชัดเจน
- Hotkey Puck แบบใหม่ ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
- รองรับการใช้งานได้ทั้ง Window และ Mac OS
- มีฮูดบังแสง ป้องกันแสงรบกวนจากภายนอก
สำหรับช่างภาพในยุคดิจิตอลนั้น โดยเฉพาะช่างภาพมืออาชีพ การจัดการเรื่องสีสันของภาพ หรือการปรับแต่งภาพถ่ายใหม่ หลังจากที่ถ่ายภาพไปแล้ว เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะต้องมีการจัดการกันแทบจะทุกคนล่ะครับ เพราะส่วนใหญ่ ช่างภาพมืออาชีพมักจะถ่ายภาพ RAW file มาด้วยอย่างแน่นอน มีน้อยมากที่จะจบงานด้วยไฟล์ JPEG ทั้งหมด ยกเว้นงานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งสามารถจบงานด้วยไฟล์ JPEG ได้เลย เพราะงานแบบนี้ ลูกค้าก็ต้องการความรวดเร็วในการส่งไฟล์ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของตัวเองนั่นเอง
แน่นอนว่า ช่างภาพมืออาชีพ รวมทั้งช่างภาพที่ให้ความสำคัญในการปรับแต่งไฟล์ภาพ ก็จะให้ความสำคัญในตัวอุปกรณ์ที่ใช้เป็นอย่างมาก เพราะอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี และมีมาตรฐาน ก็จะตอบสนองการใช้งานได้ดีด้วยเช่นกัน ช่างภาพมืออาชีพจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นหลังจากที่ถ่ายภาพจบไปแล้ว และได้ไฟล์ภาพที่มีคุณภาพจากกล้องแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการโปรเซสให้ได้คุณภาพสำหรับการนำไปใช้งาน ซึ่งคงจะไม่ดีแน่ๆ ถ้าโปรเซสภาพไปแล้ว แต่สีเพี้ยน รายละเอียดหาย เพราะใช้จอมอนิเตอร์ที่แสดงสีและรายละเอียดของภาพได้ไม่ครบถ้วนนั่นเอง
ที่เกริ่นมายืดยาว ก็เพียงจะบอกเล่าถึงอุปกรณ์ที่ผมเพิ่งจะได้รับมาใช้งานนั่นเองครับ ได้ใช้ของดีก็ต้องบอกต่อล่ะครับ ผมมีโอกาสได้ใช้จอคอมแต่งภาพรุ่นล่าสุด นั่นคือ BenQ SW270C ที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพโดยตรงครับ ซึ่งเบนคิวเอง ก็มีจอมอนิเตอร์สำหรับช่างภาพอยู่หลายๆ รุ่นเช่นกัน รองรับการใช้งานตั้งแต่นักแต่งภาพมือใหม่ ไปจนถึงรีทัชเชอร์มืออาชีพล่ะครับ
BenQ SW270C ยังคงจุดเด่นหลักๆ เช่นเดียวกับจอเบนคิว SW-series รุ่นอื่นๆ นั่นคือครอบคลุมการแสดงสีแบบ AdobeRGB ได้มากถึง 99% นั่นหมายถึงมีช่วงสีที่กว้างมากและยังมีสีตรง ทำให้ผมสามารถเช็คโทนสีต่างๆ ในภาพได้เป็นอย่างดี ช่วงสีที่กว้างจะทำให้ภาพที่นำมาปรับแต่งแก้ไข ยังคงมีโทนภาพที่มีการไล่เฉด ไล่โทนที่เป็นธรรมชาติอยู่นั่นเอง และจอภาพที่ดี มีคุณภาพสูงนั้น จะมีค่า Delta Error หรือค่า Delta E ที่ต่ำกว่า 2 ซึ่งผมแอบดูใบแสดงค่าสีที่ปรับตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิตที่แนบมาในกล่อง ซึ่งเป็นมาตรฐานของจอเบ็นคิวใน SW Series ทุกรุ่น มีค่า Delta E อยู่ที่ (maximum) 1.45 ซึ่งการันตีถึงคุณภาพและความแม่นยำในการแสดงสีได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ
BenQ SW270C ยังคงมีฮูดบังแสงแถมมาในกล่องเช่นเดียวกับรุ่น SW271 หรือ SW320 การประกอบก็ง่ายและสะดวกเช่นเดิม โดยประกอบแผ่นด้านข้างซ้าย-ขวาเข้ากับแผ่นยึดมุมซ้าย-ขวาก่อน จากนั้นก็สอดเขี้ยวให้ตรงช่องที่อยู่ด้านข้างจอ และกดลงเล็กน้อย ขั้นตอนสุดท้ายก็นำแผ่นกลางสอดให้เข้าล็อกจากด้านหน้า และกดด้านหลังลงตามช่องล็อกเท่านั้นเองครับ ฮูดบังแสง จะช่วยป้องกันแสงรบกวนจากภายนอกที่อาจจะเข้ามาที่จอ ซึ่งเป็นแบบด้านและมีการสะท้อนน้อยอยู่แล้ว ถึงผมจะไม่ประกอบฮูด ก็ยังคงใช้งานได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องคอยก้มจอหลบมุมแสงสะท้อนให้ยุ่งยาก แต่การมีฮูดครอบอีกชั้น ก็ช่วยป้องกันแสงได้มากขึ้น และทำให้ผมไม่วอกแวกกับสิ่งรบกวนจากภายนอกอีกด้วย อันนี้เป็นผลพลอยได้ครับ
จุดเด่นของ BenQ SW270C มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกเลยคือความละเอียดของจอระดับ 2K และแสดงสีได้ลึกถึง 10 bit ทำให้ดูภาพได้เต็มตา ผมสามารถซูมขยายตรวจสอบรายละเอียดในส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเมื่อต้องการปรับแก้สีสัน หรือความสว่างของภาพ ก็จะไม่มีอาการสีเละเป็นปื้นๆ ให้เห็น ซึ่งเป็นการให้โทนภาพที่ดูเป็นธรรมชาตินั่นเองครับ ซึ่งอาการนี้ หลายๆ คนคงจะเคยเจอ เวลาที่อยากจะเร่งสีสันของภาพให้สดใสอิ่มตัวขึ้น จอที่แสดงสีได้น้อย การไล่โทนสีของภาพจะเละแน่นอนครับ
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ฟีเจอร์ HDR10 ที่เป็นการแสดงผล High Dynamic Range ช่วยให้การเช็กโทนภาพ เช็กส่วน High light และ Shadow แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะงานวิดีโอ ซึ่งตอบสนองทั้งรูปแบบบันทึก 24p และ 25p ไม่ต้องมาแปลงค่าในภายหลัง ที่อาจจะทำให้เกิดการบิดเบือนของไฟล์ต้นฉบับได้ ทำให้การปรับแต่งแก้ไขต่างๆ ทำได้แม่นยำและสมบูรณ์แบบมากขึ้นครับ
จุดเด่นที่ผมชอบมากอย่างหนึ่งคือ Hotkey Puck ซึ่งได้รับการออกแบบมาใหม่ ดูสวยงามไฉไลมากขึ้น แบบเดิมนั้นจะเป็นหน้าตัดราบเรียบ และแบ่งเป็นส่วนต่างๆ ให้ใช้งานโดยการกดเท่านั้น ซึ่งในการใช้งานจริง ก็สะดวกดีล่ะครับ แต่ Hotkey Puck ใหม่ออกแบบปุ่มควบคุมตรงกลางให้นูนสูงขึ้นมา และปรับหมุนได้ ซึ่งสะดวกกับการใช้งานมากครับ โดยถ้าหากหมุนเพียงอย่างเดียว จะเป็นการปรับตั้งค่าความสว่างของจอ
ผมสามารถควบคุมการปรับตั้งเมนูต่างๆ ได้โดยการกดปุ่มตรงกลางลงไปตรงๆ ซึ่งจอจะแสดงเมนูต่างๆ ขึ้นมา ผมสามารถเลือกเมนูที่ต้องการได้โดยการหมุนปุ่มตรงกลางไปที่เมนูที่ต้องการ และกดซ้ำลงไปอีกครั้ง จอก็จะโชว์เมนูย่อยขึ้นมาครับ โดยที่ผมไม่ต้องยกนิ้วไปกดปุ่มนั้นที ปุ่มนี้ทีให้เสียเวลาครับ การเลือกเมนูย่อยก็เช่นเดียวกันครับ แค่หมุนปุ่มไปยังเมนู และกดซ้ำอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน ส่วนปุ่มอื่นๆ อย่างปุ่ม 1, 2 หรือ3 ก็ยังคงใช้งานเป็นการเลือกแสดงผลแบบต่างๆ ได้ตามปกติ ซึ่งถ้าต้องการที่จะใช้งานแบบอื่น ก็สามารถปรับตั้งค่าใหม่ได้เช่นเดิมครับ โดยเฉพาะปุ่ม Rotation Key หรือปุ่มที่มีจุด 3 จุดครับ สามารถตั้งเป็นคีย์ลัดได้มากมายทีเดียว
GamutDuo เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นเด่นของ BenQ SW270C ด้วยเช่นกัน ที่ช่วยให้เปรียบเทียบการแสดงสีของภาพที่นำมาตกแต่งแก้ไขได้ว่าเมื่อเอ้าท์พุตในโหมด Adobe RGB และ sRGB แล้วภาพจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นภายในจอมอนิเตอร์เดียวกัน เพื่อให้การเลือกการปรับแต่งหรือการนำไปใช้งานได้ แม่นยำมากขึ้น โดยสำหรับฟังก์ชั่นนี้ จะต้องเลือกใช้งานจากเมนู PIP/PBP ครับ
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ มีช่องเชื่อมต่อ USB type C มาให้ด้วยครับ ซึ่งสะดวกสำหรับการทำงานต่างๆ อย่างเช่น การอัพโหลดสัญญาณภาพและเสียง หรือข้อมูลต่างๆ ด้วยความเร็วสูง รวมทั้งยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยในตัวครับ แต่คงต้องเช็กสเปกโน๊ตบุ๊คส์ของตัวเองกันอีกทีว่าซัพพอร์ทกับฟีเจอร์นี้หรือไม่ครับ
และเช่นเดียวกับจอ SW-series รุ่นอื่นๆ BenQ SW270C มีฟีเจอร์ Hardware Calibration ที่สามารถปรับคาลิเบตจอได้ด้วยซอฟท์แวร์ของตัวเอง นั่นคือ Palette Master Element โดยทำงานร่วมกับอุปกรณ์อ่านค่าสีอื่นๆ เช่น Spyder หรือ X-rite ที่ทำเป็นเพียงเครื่องมือวัดค่าสีเท่านั้น ส่วนการประมวลผลต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของโปรแกรม Palette Master Element โดยจะเป็นการแจ้งให้การ์ดจอแสดงสีให้ถูกต้องตามค่าที่อ่านได้จริง ซึ่งยังคงได้ค่าสีที่อิ่มตัวเช่นเดิม ต่างจากการใช้ซอฟท์แวร์อื่น ที่จะสั่งให้การ์ดจอลดการแสดงสีที่มีความผิดเพี้ยน ซึ่งจะทำให้สีนั้นๆ ดรอปลง หรือแสดงสีนั้นได้ไม่เต็ม 100% นั่นเองครับ
สรุปผลการใช้งาน
ถือเป็นจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่เอี่ยมที่มาถึงมือผมล่ะครับ เพราะคาดว่า ณ ตอนนี้ก็คงจะยังไม่มีวางขายที่ไหน สำหรับความโดดเด่นนั้น ยังคงฟีเจอร์หลักๆ ของจอมอนิเตอร์ SW-series ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับช่างภาพ ซึ่งหลีกเลี่ยงการปรับแต่งภาพในยุคดิจิตอลได้ยากอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่างภาพที่ซีเรียสในคุณภาพของไฟล์ภาพหลังจากที่เอ้าท์พุตไปแล้ว ซึ่งถือเป็นจุดตัดสินได้เลยว่ามีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน ไม่ใช่แค่ถ่ายภาพออกมาดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ
ซึ่งจอมอนิเตอร์ที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน ก็จะช่วยให้มืออาชีพทำงานได้ง่ายขึ้น ลดความยุ่งยากต่างๆ ไปได้เยอะ สามารถตรวจสอบไฟล์เอ้าท์พุตได้ว่า เมื่อแสดงผลที่จอภาพทั่วๆ ไปที่มักจะเป็น sRGB ภาพจะออกมาแบบไหน สามารถเปิดไฟล์เปรียบเทียบกันได้เลย ไม่ต้องแปลงไปมา ให้เสียเวลาอีกด้วย ซึ่ง BenQ SW270C สามารถตอบสนองการใช้งานของช่างภาพมืออาชีพได้ครบถ้วน รวมไปถึงงานวิดีโอ ที่ได้รับความนิยมควบคู่ไปกับภาพนิ่งด้วยเช่นกันครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหาจอมอนิเตอร์สำหรับแต่งภาพดีๆ ซักจออยู่ล่ะก็ จอมอนิเตอร์ BenQ SW270C เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ขอแนะนำ “Highly Recommened” ครับ
รู้จักกับจอเแต่งภาพ BenQ SW270C เพิ่มเติมได้ที่
BenQ Website : http://visit.news/FotoBenQSW270C
BenQ Official Store :https://s.tenmax.io/Suhwk
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)
ขอบคุณครับ
ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่
Line@ : @fotoinfo
YouTube : Fotoinfo Channel
Website : fotoinfomag.com
e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine
ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus
หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews
