CANON REVIEWS

Review Canon EOS M50 Mark II

หน้าตาเหมือนเดิม ปุ่มปรับต่างๆ ก็ดูเหมือนเดิม เซ็นเซอร์ก็ตัวเดิม แล้ว Canon EOS M50 Mark II มีอะไรใหม่ มันดีกว่า EOS M50 เดิมตรงไหน น่าใช้หรือไม่ คุ้มไหมที่จะอัพเกรดจากรุ่นเดิม คำถามเหล่านี้ ..ผมมีคำตอบให้ครับ

 

 

จากการใช้งานกว่าครึ่งเดือนกับเลนส์หลากหลายรุ่น ผมสรุปได้ว่า EOS M50 Mark II น่าใช้ เป็นกล้องระดับเริ่มต้นที่ดีมากรุ่นหนึ่ง และหากจะถามว่าอะไรคือการปรับปรุงที่ทำให้กล้องรุ่นนี้แตกต่างจากเดิม ไล่เรียงตามนี้เลยครับ

 

ภาพนี้ระบบ Eye Detection AF จับดวงตาของเด็กได้ และแสดงกรอบให้เห็นตามการขยับตัวของเด็กตลอด  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/50 วินาที f/4 , Mode : M, WB : Auto, ISO 800

ระบบออโตโฟกัสดีขึ้นชัดเจนมาก

EOS M50 Mark II ยังใช้ระบบ Dual Pixel CMOS AF เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ปรับปรุงคืออัลกอริธึมของระบบออโตโฟกัสที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพคน  EOS M50 Mark II สามารถตรวจจับดวงตาได้ตั้งแต่คนยังมีขนาดเล็กในเฟรมภาพ ซึ่ง EOS M50 เดิมไม่สามารถตรวจจับได้ (อาจจะตรวจจับได้เฉพาะใบหน้า) ทำให้ความแม่นยำของการโฟกัสเมื่อถ่ายภาพบุคคลดีขึ้น จับดวงตาได้ตั้งแต่ภาพยังกว้าง คนเต็มตัว และเริ่มแทรคได้อย่างต่อเนื่องแม่นยำ  และ EOS M50 Mark II ยังมีความเร็วในการแสดงกรอบโฟกัสขณะ Tracking ดีกว่าเดิมชัดเจน เราจะเห็นกรอบโฟกัสเคลื่อนตามใบหน้าและดวงตาของตัวแบบได้ทันต่อการเคลื่อนที่เร็วๆ  ไม่ใช่ว่าตัวแบบเคลื่อนออกไปแล้วแต่กรอบโฟกัสยังค้างอยู่ที่เดิม  เราจะมั่นใจได้มากกว่าเมื่อถ่ายภาพคนเคลื่อนไหว และแม้จะเป็นภาพการเล่นกีฬา เช่น เด็กวิ่งเล่น เตะฟุตบอล การโฟกัสด้วยระบบ Eye Detection AF ยังทำงานได้

ผมได้ลองใช้ระบบ Eye Detection AF ของ EOS M50 Mark II บ่อยมากโดยเปิดใช้ได้ง่ายๆ จากปุ่ม Q แล้วไปที่ไอคอน AF บนหน้าจอ เลือกที่ไอคอนแรก Eye Detection AF จากนั้นกล้องจะโฟกัสติดตามใบหน้าและดวงตาได้ทันที การโฟกัสทำได้เกือบทั่วทั้งเฟรมภาพ (88% แนวนอน  100% แนวตั้ง) ความแม่นยำในการโฟกัสดีกว่ารุ่นเดิมแบบชัดเจนมากครับ มันจิกตาดีกว่า แทรคตามได้ชัวร์กว่า ดังนั้นโอกาสที่ภาพจะหลุดโหกัสเมื่อถ่ายภาพคนจะน้อยกว่าเดิม และการจับดวงตาได้ตั้งแต่ระยะไกล ไม่ต้องรอให้คนมีขนาดครึ่งตัวบนเฟรมภาพนั้นช่วยให้การโฟกัสคนดีขึ้นมากโดยเฉพาะภาพที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องการบันทึก เช่น ภาพการแสดง การแข่งกีฬา และการเล่นของลูกๆ  ผมถ่ายภาพคนด้วยกล้องรุ่นนี้ได้อย่างมั่นใจกว่ารุ่นเดิม การโฟกัสทำได้ดี ตอบสนองไว ซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าคุณให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพคน  EOS M50 Mark II น่าใช้กว่ารุ่นเดิมมาก

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/400 วินาที f/5.6 , Mode : M, WB : Auto, ISO 200

Tab AF ใหม่ย้ายใบหน้าและดวงตาได้ง่าย

เมื่อในภาพมีคนหลายๆ คน หลายใบหน้า ระบบตรวจจับใบหน้าอาจจะไม่ได้โฟกัสใบหน้าที่ต้องการ หรือไม่โฟกัสดวงตาข้างที่ต้องการ  EOS M50 Mark II สามารถเลือกใบหน้าและดวงตาข้างที่ต้องการได้โดยใช้ Tap AF (เปิดเมนู Tap to select for Eye AF) เมื่อคุณมองภาพผ่านช่องมอง EVF  สามารถแตะหน้าจอเพื่อย้ายดวงตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง สามารถแตะหน้าจอ LCD เพื่อสลับใบหน้าที่คุณต้องการให้กล้องโฟกัสได้ ทำให้ใช้งานได้คล่องตัวและรวดเร็วมาก โดยคุณสามารถเลือกตำแหน่งบนหน้าจอที่จะใช้ในการแตะได้ 8 ตำแหน่ง 

ในการใช้งาน ระบบนี้ทำงานได้เวิร์คมากครับ เมื่อผมใช้ EOS M50 Mark II ถ่ายภาพที่มีคนอยู่ในภาพ ผมจะใช้ระบบโฟกัสแบบพื้นที่กว้าง + Eye detection AF เป็นหลักเพราะใช้งานสะดวก โดยเมื่อมองภาพจากช่องมอง EVF ผมจะเปิดใช้ระบบ Tap AF เพื่อเลือกดวงตาและสลับใบหน้า การแตะหน้าจอเป็นวิธีที่สลับดวงตาและใบหน้าได้สะดวก เลือกซับเจกต์ที่ต้องการได้ง่ายเมื่อมีหลายใบหน้าในภาพ

 

 

Eye Detection AF กับการถ่ายวิดีโอ

นี่คือสิ่งสำคัญมากของการบันทึกวิดีโอที่มีคนในภาพ ระบบ Eye Detection AF ทำให้สามารถโฟกัสติดตามการเคลื่อนที่ของตัวแบบในภาพได้อย่างแม่นยำโดยเฉพาะเมื่อใช้เลนส์ไวแสงและเปิดรูรับแสงกว้าง การโฟกัสจะติดตามได้ต่อเนื่อง ราบลื่น สามารถใช้กับการบันทึกวิดีโอ 4K ได้ และยังมีระบบ Touch Rec แตะที่ไอคอนปุ่มสีแดงบนหน้าจอเพื่อ บันทึกหรือหยุดบันทึกวิดีโอได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ปุ่มลั่นชัตเตอร์เป็นปุ่มบันทึกและหยุดบันทึกได้

สำหรับผมแล้วนี่คือการปรับปรุงที่แม้ดูเหมือนเล็กๆ แต่มันสำคัญมากสำหรับการถ่ายวิดีโอ เพราะในรุ่นเดิมไม่รองรับระบบ Eye Detection AF  มันช่วยให้การโฟกัสแม่นยำมากขึ้น ไม่วืดวาดเมื่อคนในภาพเคลื่อนที่เร็ว ทิศทางเปลี่ยนหรือหันหน้าไปชั่วขณะ ทำให้ภาพวิดีโอยังอยู่ในโฟกัส และยังสำคัญมากสำหรับ VLOGGER ที่ต้องถ่ายตัวเอง จะมั่นใจได้ว่าแม้ขยับตัวบ่อย ใช้เลนส์เอฟกว้าง กล้องก็ยังโฟกัสออยู่ที่ตา

 

รองรับการทำ Livestream โดยตรงจากตัวกล้อง

EOS M50 Mark II ออกแบบให้รองรับการใช้งานของ Youtuber ได้เป็นอย่างดีโดยผู้ใช้สามารถ Livestream จากตัวกล้องได้โดยตรงผ่านระบบ Wi-Fi ที่เสถียรของกล้องแล้วถ่ายทอดสดบน YouTube โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องใช้ซอฟท์แวร์  ไม่ต้องใช้อุปกรณ์สตรีมเพิ่มเติม สิ่งที่ต้องทำมีเพียงตรวจดูให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตั้งค่ากิจกรรมการสตรีมแบบสดและ URL ปลายทางไว้ล่วงหน้าบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สมาร์ท และลงทะเบียน URL ปลายทางในกล้องของคุณ แล้วกดบันทึกเมื่อคุณพร้อมถ่ายทอดสด

 

 

ถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้

EOS M50 Mark II เป็นกล้องรุ่นแรกของแคนนอนที่สามารถบันทึกวิดีโอแนวตั้งเพื่อใช้กับโซเชียลเน็ทเวิร์คอย่าง TikTok  โดยกล้องสามารถใส่แท็กข้อมูลการหมุนไว้ในไฟล์วิดีโอได้ ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าวิด๊โอจะเล่นในแนวตั้งกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือโซเชียลมีเดียที่รองรับ

 

 

ปรับซูมได้ 3-10X แม้ใช้กับเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียว

EOS M50 Mark II ออกแบบให้คุณสามารถดึงภาพระยะไกลให้เข้ามาใกล้เพื่อเน้นโมเมนต์ที่ต้องการได้ง่ายๆ  ระบบนี้จะใช้งานได้เมื่อบันทึกในโหมด Full HD 25p/30p โดยเปิดใช้ระบบดิจิตอลซูม จะสามารถซูมจากระยะ 3X-10X จากบริเวณส่วนกลางของภาพอย่างต่อเนื่อง นุ่มนวลด้วยดิจิตอลซูม คุณจึงสามารถเข้าใกล้ซับเจกต์ของคุณได้มากขึ้นแม้จะใช้กับเลนส์คิท หรือแม้จะเป็นเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียวอย่าง EF-M 22mm. F2 ก็ตาม

ระบบนี้ใช้ประโยชน์ได้ดีครับ โดยเฉพาะเมื่อต้องการซูมภาพเข้ามาใกล้ขึ้น แต่มันสุดช่วงซูมของเลนส์ที่เรามีแล้ว หรือเมื่อติดเลนส์ฟิกอยู่แต่ต้องการซูมเข้าใกล้เมื่อถ่ายวิดีโอ จากการลองพบว่าใช้งานสะดวก แต่มันจะเริ่มที่ 3X เลยนะครับ เช่น ใช้กับเลนส์ 22 มม. มันจะไปที่ 66 มม.(3X) แล้วจึงสามารถซูมต่อไปจนถึง 10X ในแบบดิจิตอล ความละเอียดภาพอยู่ในระดับ Full HD โดยคุณภาพจะลดลงบ้างแต่ก็ยังให้รายละเอียดดี และปรับซูมได้นุ่มนวล ราบเรียบดีมาก

 

 

สำรองภาพของคุณไว้บนระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ

EOS M50 Mark II รองรับ Wi-Fi และบลูทูธภายในกล้อง ทำให้สามารถจับคู่กล้องของคุณกับอุปกรณ์สมาร์ทและใช้ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพจากระยะไกลที่ให้ความสะดวกสบายและการถ่ายโอนภาพบนแอพ Camera Connect  และ EOS M50 Mark II เป็นกล้องในซีรีย์ EOS M รุ่นแรกที่มีการรองรับแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ image.canon แบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบ กล้องรุ่นนี้จึงสามารถสำรองไฟล์ภาพและวิดีโอของคุณ รวมไปถึงไฟล์ RAW ไว้บนระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติได้ด้วย  คุณสามารถดูหรือดาวน์โหลดไฟล์ที่อัพโหลดไปยังระบบคลาวด์ได้จากทุกอุปกรณ์ หรือแชร์ไปยังโซเชียลได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดก่อน ไฟล์ต้นฉบับจะถูกจัดเก็บไว้เป็นเวลา 30 วัน สามารถกำหนดพื้นที่สูงสุด 10GB เพื่อการจัดเก็บในระยะยาวได้ฟรี

 

 

ใช้เป็นกล้อง Webcam คุณภาพสูง

สำหรับผู้ที่ต้องการทำ Livestream กล้องรุ่นนี้ตอบสนองได้ดีมากเพราะใช้จอ LCD แบบพับออกด้านข้าง เห็นภาพตัวเองชัดเจน เป็นกล้อง Clean HDMI และยังสามารถใช้เป็นกล้อง Webcam คุณภาพสูงได้โดยใช้ซอฟท์แวร์ EOS Webcam Utility

 

รีโมทคอนโทรลยึดติดบนขาตั้งแบบมือจับถอดออกเพื่อใช้สั่งบันทึกวิดีโอได้

 

 

นี่คือสิ่งที่ EOS M50 Mark II ปรับปรุงขึ้นมาจากรุ่นเดิมครับ ที่เหลือก็ยังคงเป็นสเปคเดียวกัน ทั้งเซ็นเซอร์ภาพ Dual Pixel CMOS 24 ล้านพิกเซล ระบบวิดีโอ 4K 25p/30p (Crop 1.5)  Slow motion  100p/120p (HD), ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพ/วินาที (One Shot) และ 7.4 ภาพ/วินาที(Servo)

ใช้ทำ LIVE และ VLOG

มันเป็นกล้องที่สามารถใช้ทำ LIVE ได้ดีมาก เหตุผลคือจอ LCD ที่ปรับมุมพับออกด้านข้างทำให้การมองภาพ จัดคอมโพสตัวเองได้สะดวก ระบบ Eye AF ทำให้โฟกัสเข้าที่ตาตลอด ไม่ต้องห่วงว่าโฟกัสจะหลุด  Clean HDMI ทำให้ Live ได้  ขนาดกล้องที่เล็กและเบาทำให้เมื่อต้องถือกล้องบันทึกวิดีโอต่อเนื่องนานๆ จะไม่ล้ามือมากนัก ระบบกันสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์โหมด Enhanced ทำให้สามารถถือกล้องเดินถ่ายได้นิ่งโดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยอย่าง Gimbal จึงไม่เป็นภาระหากทำงานคนเดียว การใช้ไมโครโฟนภายนอกได้ทำให้การบันทึกเสียงมีคุณภาพสูง

อุปกรณ์สำหรับการทำ VLOG ครบ

EOS M50 Mark II สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมในการบันทึกวิดีโอที่จะช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้นและได้คุณภาพดี ที่แนะนำมี 2 ชิ้นครับ ตัวแรกเป็นขาตั้งกล้องแบบมือจับ รุ่น HG-100TBR เป็นขาตั้งกล้องแบบพกพาที่มีขนาดเล็กมาก สามารถใช้เป็นกริปมือจับขณะถ่ายวิดิโอได้ กางขาเพื่อตั้งบนโต๊ะได้ มีรีโมทคอนโทรลที่สามารถสั่งบันทึกและสั่งหยุดบันทึกได้ การถือกล้องจะสะดวกขึ้นโดยเฉพาะเมื่อต้องเดินไปถ่ายไป  อีกชิ้นเป็นไมโครโฟนภายนอกรุ่น DM-E100 ไมโครโฟนสเตอริโอคุณภาพสูงติดบนฮอทชูของกล้อง แล้วเสียบสายที่เป็นแจ๊คขนาด 3.5 มม.กับช่องไมโครโฟนของกล้อง  หรือจะติดไมโครโฟนที่ก้านยึดไมโครโฟนที่มาพร้อมขาตั้งกล้องแบบมือจับก็ได้ ไมโครโฟนรุ่นนี้จะช่วยให้การบันทึกเสียงทำได้ชัดเจน ได้เสียงคุณภาพสูง ตัดเสียงรบกวนให้ในระบบออโต้

 

 

ถ่ายวิดีโอได้ง่ายและสะดวก

EOS M50 Mark II มีระบบลดการสั่นไหวเมื่อบันทึกวิดีโอแบบอิเล็กทรอนิกส์ 2 โหมด คือ Digital IS ปกติ และ Enhanced ระบบนี้จะช่วยลดการสั่นไหวใช้เมื่อต้องถือกล้องด้วยมือ แต่จะทำให้ความกว้างของมุมรับภาพจากเลนส์ลดลง โดยโหมด Enhanced มุมรับภาพจะแคบกว่าโหมดปกติ แต่ภาพจะนิ่งมาก เหมาะสำหรับการเดินถือถ่าย

 

 

การใช้งาน

ผมคุ้นเคยกับการใช้กล้อง EOS M ดีเพราะใช้มาหลายรุ่น ปัจจุบันก็ใช้ EOS M6 Mark II อยู่  สิ่งที่เป็นจุดเด่นของกล้องซีรีย์นี้คือ ขนาดที่เล็ก กะทัดรัด ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวกล้อง แต่รวมถึงเลนส์ด้วย แม้จะมีเลนส์ EF-M ไม่มาก ไม่หลากหลายรุ่น แต่คุณสามารถนำเลนส์ EF และ EF-S มาใช้โดยผ่านอแดปเตอร์ได้ ทำให้มีเลนส์ใช้งานเพียงพอต่อทุกความต้องการ

สำหรับ EOS M50 Mark II นั้นผมได้ลองจับตั้งแต่วันที่เปิดตัว มันเป็นกล้องที่ออกมาทดแทน EOS M50 ที่เป็นกล้องซึ่งได้รับความนิยมสูงมากในบ้านเรา คำถามที่เข้ามายัง FOTOINFO อยู่เสมอคือ น่าใช้มั๊ย  ส่วนคนที่มี EOS M50 อยู่แล้วก็จะถามว่าคุ้มมั๊ยที่จะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่  ด้วยเหตุนี้ผมก้เลยเอาไปลองให้หายข้องใจว่า มันดีขึ้นอย่างไร

 

ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/30 วินาที f/5, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, ใช้แฟลช

ระบบออโตโฟกัส

เรื่องนี้ตอบได้เลยว่าดีขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะถ้าใช้งานระบบ Eye AF บ่อยๆ รุ่นเดิมกว่ากล้องจะจับดวงตาได้ ต้องเข้ามาใกล้จนเป็นภาพครึ่งตัวแล้ว ทำให้มีปัญหากับการถ่ายภาพคนเคลื่อนไหวเร็วๆ มันไม่สามารถจับดวงตาได้ตั้งแต่ระยะไกล บางทีก็จับใบหน้า บางทีก็จับกว้างๆ ทำให้โฟกัสพลาดได้ แต่ EOS M50 Mark II สามารถจับดวงตาได้ตั้งแต่คนยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับเฟรมภาพ และจิกตามได้ตลอด มองจากช่องมอง EVF จะเห็นการติดตามโฟกัสดวงตาที่ตอบสนองดีขึ้นมาก ตามการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้  ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่นักถ่ายภาพสมัครเล่นอาจได้ใช้งานกันเช่น ถ่ายภาพเด็กกำลังวิ่งเล่น ถ่ายภาพลูกแข่งฟุตบอล ถ่ายภาพการแสดงบนเวที อะไรแบบนี้ ระบบโฟกัสใน EOS M50 Mark II เอาอยู่ครับ  ส่วนระบบโฟกัสแบบทีละภาพ (One Shot) ความเร็วและความแม่นยำไม่ต่างจากรุ่นเดิมครับ

ที่ผมชอบมากคือเราสามารถย้ายดวงตา ย้ายใบหน้าที่ต้องการโฟกัสได้ด้วย Tab AF มองที่ช่องมองแล้วแตะหน้าจอไปยังตำแหน่งบนหน้าจอที่เราเลือกไว้กล้องจะย้ายดวงตาได้เร็วมาก หรือจะย้ายใบหน้าก็เร็ว ระบบนี้ผมใช้บ่อยครับ ทำให้ถ่ายภาพได้เร็วขึ้น

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark IIเลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/320 วินาที f/5, Mode : M, WB : Auto, ISO 250, Eye Detection AF

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/320 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 500, Eye Detection AF

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/250 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 500, Eye Detection AF

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/400 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, Eye Detection AF

 

ภาพนี้ผมใช้วิธีลากนิ้วไปที่ผึ้งแล้วแตะหน้าจอ กล้องจะล็อกโฟกัสที่ผึ้ง(โดยจดจำรูปร่าง) จากนั้นจะโฟกัสตามให้  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 28mm. F3.5 Macro IS STM  ; 1/320 วินาที f/7.1, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

ส่วนการถ่ายภาพเคลื่อนไหวซับเจกต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่คน แนะนำให้เปิดระบบ Touch & Drag AF ไว้ เปิดเมนู Positioning method เป็น Relative เมื่อเลือกรูปแบบนี้แล้วมองภาพผ่าน EVF จะไม่สามารถย้ายจุดโฟกัสด้วยการแตะหน้าจอ แต่ต้องลากนิ้วบนหน้าจอ กรอบโฟกัสจึงจะย้ายให้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการย้ายจุดโฟกัสโดยไม่ตั้งใจจากจมูกไปแตะโดนหน้าจอ  สิ่งที่น่าสนใจคือ หากเปิดระบบโฟกัสเป็น SERVO จะสามารถลากนิ้วเลื่อนกรอบโฟกัสสีส้มไปยังซับเจกต์ จากนั้นแตะหน้าจอหนึ่งที กล้องจะล็อกที่ซับเจกต์โดยวิเคราะห์รูปทรงซับเจกต์แล้วจะ Tracking ตามการเคลื่อนที่ได้ตลอด อย่างแม่นยำซะด้วย ระบบ Object Tracking ของกล้องรุ่นนี้ทำงานได้ดี น่าพอใจครับ ..ผมชอบ

 

 

การทำงานระบบ Object Tracking ค่อนข้างดีครับ ใช้ง่าย กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 28mm. F3.5 Macro IS STM  ; 1/160 วินาที f/7.1, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

ความเร็วในการโฟกัสขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ครับ  กับเลนส์คิท EF-M 15-45mm. F3.5-6.3IS STM นั้นโฟกัสได้เร็วมาก  ผมได้ลองกับเลนส์ของกล้อง DSLR รุ่น EF-S 55-250mm. F4-5.6IS STM พบว่าการโฟกัสเงียบและเร็วทั้งโหมด One shot และ Servo ส่วนเลนส์ฟิกอย่าง EF-M 32mm. F1.4 STM ความเร็วอยู่ในระดับปานกลาง กับเลนส์ฟิกยอดนิยมรุ่น EF-M 22mm. F2 STM ความเร็วอยู่ในระดับดี

 

มีคนในภาพใช้ระบบ Eye Detection AF+Tracking  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/25 วินาที f/4, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

 

ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 1/250 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 500

คุณภาพไฟล์

EOS M50 Mark II ให้คุณภาพไฟล์ในระดับดีครับ ในการถ่ายภาพทั้งหมดผมบันทึกเป็นไฟล์ RAW+JPEG โดยไฟล์ RAW โพรเซสด้วยซอฟท์แวร์ Photoshop CC ผ่าน Camera RAW 13.1 ส่วนไฟล์ JPEG ใช้ Picture Style สลับกันระหว่าง Auto กับ Standard

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/40 วินาที f/7.1, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/20 วินาที f/6.3, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

 

ภาพนี้ถ่ายด้วย กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 32mm. F1.4 STM ; 1/800 วินาที f/1.4, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, โฟกัสด้วย Spot AF แตะหน้าจอที่ตาแมวโดยใช้ Touch Shutter จึงถ่ายได้เร็ว  ไฟล์คมมาก สีสดใส

รายละเอียด 24 ล้านพิกเซลของ EOS M50 Mark II นั้นต้องบอกว่าทำได้ดีครับ ผมลองกับภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ EF-M 32mm. F1.4 STM พบว่าความคมชัดของภาพดีมาก รายละเอียดของผิวหน้าตัวแบบขุดคุ้ยให้เห็นชัดเจนมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ที่ความไวแสง ISO 100-400  เมื่อใช้ที่ ISO 800 รายละเอียดจะลดลงเล็กน้อย แต่ก้ยังน่าพอใจ  ที่ ISO 1600 ภาพจะมีสัญญาณรบกวนค่อนข้างชัดบนไฟล์ RAW ต้องใช้ระบบลด Noise ในซอฟท์แวร์ช่วยบ้าง ส่วนไฟล์ JPEG ภาพมี Noise ค่อนข้างน้อย รายละเอียดก็ยังดีอยู่  ที่ ISO 3200 สัญญาณรบกวนจะเริ่มมีผลต่อคุณภาพซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C แต่ภาพยังให้รายละเอียดได้ดี  หากเป็นการใช้งานกับโซเชียลทั้งหลาย คุณสามารถใช้งานได้ถึง ISO 12800 โดยยังได้ภาพที่มีคุณภาพดี

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 32mm. F1.4 STM ; 1/500 วินาที f/2, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, โฟกัสด้วย Spot AF แตะหน้าจอที่ตาแมวโดยใช้ Touch Shutter

 

แสงน้อยมาก ใช้ความไวแสงสูง คุณภาพก็ยังดี กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 32mm. F1.4 STM ; 1/160 วินาที f/1.4, Mode : M, WB : Auto, ISO 2000

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/5 วินาที f/4, Mode : M, WB : Auto, ISO 500

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 32mm. F1.4 STM ; 1/200 วินาที f/1.4, Mode : M, WB : Auto, ISO 640

 

ไฟล์ JPEG ที่ความไวแสง ISO 3200 คุณภาพยังดีมาก ภาพนี้ถ่ายในสภาพแสงน้อยมาก  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/5 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 3200 ถือกล้องด้วยมือ ใช้กันสั่นที่เลนส์

 

ขยายขึ้นมาให้ดูคุณภาพจาก ISO 3200 ที่ 100% กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/5 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 3200

 

ส่วนภาพนี้เป็น ISO 12800 ไฟล์ JPEG ถ้าใช้ภาพกับสื่อโซเชียลอย่าง FB , IG แทบดูไม่ออกว่าเป็นความไวแสงสูงมาก

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/10 วินาที f/6.3, Mode : M, WB : Auto, ISO 12800

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 28mm. F3.5 IS STM ; 1/125 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

สีสันที่ได้ยังคงบุคลิกของกล้องแคนนอน ให้สีสดใส การไล่เฉดสีดี ความอิ่มสีดีโดยไม่บูสท์สีมากนัก ไฟล์ JPEG มีสีสดใส ภาพดูใสเคลียร์ในระดับดี

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 28mm. F3.5 IS STM ; 1/30 วินาที f/13, Mode : M, WB : Auto, ISO 800

 

ส่วนไฟล์ RAW ก็มีความยืดหยุ่นในการโพรเซสดีทีเดียว ภาพนี้ซีกซ้ายที่เป็นจิตรกรรมฝาผนังอันเดอร์กว่า 3 สตอป ยังสามารถดึงสีและความสว่างขึ้นมาได้ค่อนข้างน่าพอใจกล้อง Canon EOS M50 Mark IIเลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/320 วินาที f/10, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File (โพรเซสด้วย Photoshop CC)

 

ภาพต้นฉบับครับ  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/320 วินาที f/10, Mode : M, WB : Auto, ISO 100

 

ขยายภาพขึ้นมา 100% ให้ดูรายละเอียดและความคมชัดครับ

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/10 วินาที f/11, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File (โพรเซสด้วย Photoshop CC)

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/20 วินาที f/5, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File (ต้นฉบับ)

ผมลองถ่ายภาพ City Scape ด้วยแสงช่วงเย็น ส่วนล่างของภาพที่เป็นตึกอันเดอร์ไป 4-5 สตอป ยังสามารถดึงรายละเอียดขึ้นมาได้ เพียงแต่ส่วนนี้จะมี Noise บ้าง แน่นอนครับว่ายังทำได้ไม่เท่า EOS R5 หรือ EOS R6 ที่ผมเคยทดสอบไป แต่สำหรับกล้องระดับสมัครเล่นราคา 25,990 บาท ผมพอใจผลที่ได้แล้ว

 

ภาพที่โพรเซสจากซอฟท์แวร์แล้ว  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/20 วินาที f/5, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/8 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File

 

ภาพนี้ตั้งกล้องสูงแล้วปรับมุมจอ ใช้ทัชสกรีนเลือกจุดโฟกัส  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 15 วินาที f/14, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File

ความคล่องตัวในการใช้งาน

นี่คือกล้องเล็กที่ใช้งานได้คล่องตัว ใช้ง่าย จับถือถนัดมือดีแม้ตัวกล้องเล็กมาก การออกแบบจัดวางปุ่มปรับดี ปุ่มน้อยแต่ควบคุมง่าย มันมีแป้นควบคุมอันเดียวการปรับความเร็วชัตเตอร์กับรูรับแสงกับรูรับแสงใช้แป้นเดียวกัน สลับการเลือกด้วยการกดที่แป้นสี่ทิศทางด้านบน หรือจะทัชสกรีนที่กรอบตัวเลขในช่องความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสงได้เลย การปรับ ISO ก็เช่นกัน ใช้วิธีทัชสกรีนที่ช่อง ISO บนหน้าจอแล้วลากนิ้วสไลด์บนหน้าจอจะเร็วสุด ฟังก์ชันที่สำคัญๆ แนะนำให้กดปุ่ม Q บนหน้าจอแล้วเข้าไปปรับด้วยระบบทัชสกรีนจะเร็วกว่าการเข้าเมนู ใช้ไม่ยากครับ ทำความคุ้นเคยสักครู่ก็จะคล่อง

จอ LCD ที่พับออกด้านข้างทำให้การถ่ายภาพมุมสูง มุมต่ำทำได้สะดวก รวมทั้งการถ่ายภาพแนวตั้งก็ยังสามารถถ่ายมุมสูง มุมต่ำได้สะดวก ระบบทัชสกรีนของแคนนอนคงไม่ต้องพูดมากนะครับว่าเป็นอย่างไร มันลื่นไหลราวสมาร์ทโฟนชั้นดี  ส่วนช่องมองภาพ EVF ความละเอียดยังเท่าเดิมคือ 2.36 ล้านจุด ขนาดภาพในช่องมองไม่ใหญ่นักแต่ก็มองภาพได้สบายตา ความคมชัดใช้ได้

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-S 55-250mm. F4-5.6 IS STM ; 15 วินาที f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 100, RAW File

 

รายละเอียดดีมาก  กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/320 วินาที f/11, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, RAW File

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 1/250 วินาที f/14, Mode : M, WB : Auto, ISO 200, RAW File

 

กล้อง Canon EOS M50 Mark II  เลนส์ Canon EF-M 11-22mm. F4-5.6 IS STM ; 8 วินาที f/13, Mode : M, WB : 4600K, ISO 100, RAW File

 

 

ถ่ายวิดีโอเป็นอย่างไร

ในส่วนของระบบวิดีโอนั้นอยู่ในระดับดีพอควร คุณภาพระดับ 4K ยังเป็นการครอปเซ็นเซอร์ 1.5 เท่าเหมือนรุ่นเดิม แต่จากการลองใช้งานพบว่ารายละเอียดของภาพทำได้ดี เพียงแต่เมื่อถ่าย 4K ความกว้างของมุมรับภาพจะหายไปพอควร และระบบออโตโฟกัสจะทำงานแบบตรวจจับคอนทราสต์เท่านั้น ระบบ Dual Pixel CMOS AF จะใช้ไม่ได้ (ใช้ระบบนี้ได้เมื่อบันทึกเป็น Full HD และ HD)  ในการใช้งานส่วนใหญ่ผมจะบันทึกด้วยคุณภาพระดับ Full HD 50p เพราะจะได้ใช้ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ที่เร็วกว่า ซึ่งคุณภาพที่ได้ก็นับว่าดีเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

ระบบ Eye Detection AF ทำงานกับวิดีโอได้ดี เมื่อลองถ่ายภาพคนเดินเข้าหากล้องแบบซิกแซีก มีการหันหน้าบ้างพบว่ากล้องยังแทรคตามได้ตลอด พอจับดวงตาไม่ได้ก็จับศรีษะแทน ทำให้การถ่ายวิดีโอด้วยเอฟกว้างอย่างเช่น f/1.4 ทำได้ง่ายๆ และหวังผลได้ 

สำหรับการบันทึกวิดีโอแบบ Slow motion นั้นทำได้ 100p/120p แต่ได้คุณภาพระดับ HD และไม่สามารถใช้ระบบโฟกัสต่อเนื่องได้ครับ กล้องจะโฟกัสให้เฉพาะก่อนกดปุ่ม REC

 

เหมาะกับใคร

นี่คือกล้องที่เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพ Beginner ที่กำลังมองหากล้องมิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาแต่ให้คุณภาพดี ไม่ว่าจะใช้ในการถ่ายภาพนิ่ง หรือวิดีโอ ด้วยการใช้งานที่ง่ายและให้คุณภาพไฟล์ดี และยังเป็นกล้องที่เหมาะกับการทำคอนเทนต์วิดีโอของ VLOGGER หรือ YouTuber ที่ทำงานคนเดียวเพราะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา จอทัชสกรีน  Flip ได้ 180 องศา 

 

สรุปจากการใช้งานภาคสนาม

EOS M50 Mark II เป็นกล้องมิเรอร์เลสขนาดเล็กที่ให้ฟีเจอร์ต่างๆมาเพียบพร้อม ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เป็นกล้องที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้งานสนุก คล่องตัว พกพาสะดวก ไฟล์สวย และยังสามารถนำไปใช้งานวิดีโอได้ดี ใช้ง่าย  มันจึงเป็นกล้องที่ดีสำหรับนักเดินทางด้วยเช่นกัน  เป็นกล้องที่แนะนำเลยครับ คุ้มค่าคุ้มราคา

 

เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์