Reviews

REVIEW CANON EOS R5C

หากงานของคุณเป็นการถ่ายวิดีโอมากกว่าภาพนิ่ง ทำไมคุณไม่เลือกที่จะใช้กล้อง Mirrorless ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ (แต่ก็ยังสามารถใช้ถ่ายภาพนิ่งคุณภาพสูง โดยมีสมรรถนะสูงสำหรับการถ่ายภาพทุกรูปแบบ) มันจะช่วยให้การทำงานราบรื่น ไม่ต้องพะวงกับเรื่องการใช้งานต่อเนื่องนานๆ และระบบการทำงานภาควิดีโอก็ครบกว่า ซึ่ง Canon EOS R5C ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้

ทำไมมันจึงน่าสนใจกับช่างภาพวิดีโอ ..จากการที่ผมได้มีโอกาสลองนำไปใช้งานประมาณสองสัปดาห์ พอสรุปจุดเด่นของ EOS R5C ได้ตามนี้ครับ

 

การใช้กล้องมิเรอร์เลสถ่ายวิดีโอ หากต้องถ่ายต่อเนื่องนานๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน มักจะเจอปัญหาเรื่องความร้อนของกล้องทำให้ระบบตัดการบันทึก จึงเป็นปัญหาต่อการทำงาน Canon EOS R5C มาพร้อมพัดลมขนาดใหญ่ในตัวที่จะช่วยระบายความร้อนจากเซ็นเซอร์รับภาพ โดยสามารถปรับระดับความแรงของพัดลมได้ และปรับโหมดการทำงานของพัดลมได้ทั้งแบบอัตโนมัติและปรับตั้งเอง จึงทำให้ Canon EOS R5Cถ่ายต่อเนื่องได้แบบไม่สะดุด ที่ดีมากคือในโหมดอัตโนมัติกล้องจะลดความแรงของพัดลมไปที่ตำแหน่งเบาเมื่อคุณกดปุ่มบันทึกวิดีโอเพื่อตัดเสียงการทำงานของพัดลมเขณะบันทึก แต่เมื่อกดปุ่มหยุดบันทึกพัดลมจะปรับเพิ่มความแรงทันทีเพื่อระบายความร้อนจากเซ็นเซอร์ให้เร็วที่สุด ทำให้ Canon R5C สามารถถ่ายต่อเนื่องได้แบบไม่จำกัดเวลา

 

Canon EOS R5C สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 8K / 60fps ได้ในตัวกล้องไฟล์ Camera RAW Light ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของส่วนมืด ส่วนสว่าง ได้เต็มที่ ไม่ตกหล่นจากสาย HDMI จึงให้รายละเอียดยอดเยี่ยม สามารถดึงรายละเอียดทั้งส่วนมืดและส่วนสว่างได้เยี่ยมยอดจากเซ็นเซอร์ที่เป็นที่ยอมรับของมืออาชีพในเรื่องความกว้างของไดนามิคเรนจ์ และยังสามารถบันทึกวิดีโอ 8K HDR ได้ทั้งในโหมด HLG และ PQ เพื่อเก็บรายละเอียดทั้งส่วนสว่างและมืดได้เยี่ยมยอดโดยไม่ต้องผ่านการโพรเซส และยังสามารถถ่ายไฟล์ 8K ต่อเนื่องแบบไม่จำกัดเวลาด้วยระบบระบายความร้อน Active Cooling System ดังนั้นกล้องรุ่นนี้จึงรองรับการทำงานระดับอาชีพได้ทุกรูปแบบ โดยสามารถบันทึก Proxy Video File ไปพร้อมกับไฟล์ 8K เพื่อใช้ไฟล์ Proxy ขนาดเล็กในการตัดต่อซึ่งจะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น

 

Canon EOS R5C แตกต่างจาก EOS R5 โดยเมนูของภาควิดีโอจะแยกจากภาพนิ่งอย่างเด็ดขาด เพียงแค่โยกสวิทช์ Photo/Video ด้านบนตัวกล้อง มันจะพาคุณเข้าสู่โลกของ Cinema เต็มตัวโดยมีฟังก์ชันของภาควิดีโอแบบจัดเต็มเช่นเดียวกับกล้อง Cinema ตระกูล C ของแคนนอน รองรับการทำงานของมืออาชีพและระดับจริงจังได้เต็มที่ เช่น เมนูปรับ Base ISO , Gain mode การปรับตั้งระบบโฟกัสที่เลือกได้หลากหลาย ระบบเสียงที่ปรับการทำงานได้มากกว่า ปรับรูปแบบการแสดงผลของจอ LCD ได้มากกว่ารวมทั้งการแสดงผลกับเลนส์ Anamorphic การแสดง Marker หลายรูปแบบ , Waveform Monitor, False Color, Timecode เป็นต้น

 

Canon EOS R5C ปรับตั้ง Base ISO ได้ที่ ISO800 และ ISO3200 รองรับการทำงานของมืออาชีพที่ต้องการไฟล์คุณภาพสูง สัญญาณรบกวนต่ำมาก ไดนามิคเรนจ์กว้าง ยืดหยุ่นต่อการ Edit สามารถเลือกได้ว่าจะปรับอัตโนมัติหรือปรับตั้งค่าเอง

 

Canon EOS R5C ยังออกแบบให้ช่างภาพสามารถปรับตั้งปุ่มต่างๆ บนตัวกล้องให้ทำงานด้วยฟังก์ชันที่ตนเองต้องการได้ถึง 13 ปุ่ม ที่ดีมากคือการแสดงตัวเลขบนปุ่มต่างๆ ตั้งแต่ 1-13 ทำให้จดจำการปรับตั้งได้ง่าย ไม่เกิดความสับสน การเรียกใช้ระบบต่างๆ จึงรวดเร็วและจดจำได้ง่าย เพียงแค่ทำความคุ้นเคยสักระยะนึงเท่านั้น

 

รองรับระบบเสียงคุณภาพสูงด้วย TASCAM CA-XLR2d-C อแดปเตอร์ไมโครโฟน XLR ที่ออกแบบมาสำหรับกล้องรุ่นนี้เชื่อมต่อผ่าน Multi-function Shoe สำหรับการบันทึกเสียงคุณภาพสูงแบบ 4 แชนเนล 24 บิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในภาพออดิโอที่มืออาชีพด้านวิด๊โอต้องการ

 

ด้วยการออกแบบให้สามารถเข้าฟังก์ชันสำคัญต่างๆ ได้จากหน้าจอ LCD โดยไม่ต้องวุ่นวายกับปุ่มปรับมากมายเหมือนในกล้อง Cinema ด้วยการใช้ทัชสกีนจากหน้าจอโดยตรง ทำให้คุณยังสามารถปรับตั้งฟังก์ชันต่าง แก้ไขการตั้งค่าโดยยังมองเห็นภาพที่กำลังจะบันทึกจากบนหน้าจอไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องละสายตาออกจากภาพ ทำให้ Canon R5C เป็นกล้องที่ใช้งานง่ายมาก ใช้สะดวกและคล่องตัวอย่างยิ่ง

 

ด้วยการแชร์เซ็นเซอร์รับภาพ 45 ล้านพิกเซลรุ่นเดียวกับ EOS R5 และใช้ชิปประมวลผล DIGIC X เช่นเดียวกัน ทำให้ Canon R5C สามารถบันทึกภาพนิ่งความละเอียดสูงและคุณภาพสูงเช่นเดียวกับ EOS R5 ใช้ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ซึ่งเป็นที่ยอมรับจาก EOS R5 ในด้านการโฟกัสติดตามวัตถุที่แม่นยำ รวดเร็ว มีระบบตรวจจับใบหน้าคน ตรวจจับศรีษะ ตรวจจับใบหน้าสัตว์ พื้นที่การโฟกัสกว้าง ทำงานในสภาพแสงน้อยได้เยี่ยมยอด ให้ไฟล์ภาพนิ่งความละเอียดสูงที่คมชัด

 

Canon EOS R5C มีน้ำหนักเบา (680 กรัมเฉพาะตัวกล้อง ไม่รวมแบตเตอรี / 770 กรัมรวมแบตเตอรีและการ์ด) จึงสะดวกในการทำงาน ให้ความคล่องตัวสูง แม้ติดพัดลมที่ทำให้กล้องหนาขึ้นแต่การควบคุมกล้อง การมองภาพจากช่องมองยังสะดวก ที่ดีมากคือ มีไฟ LED ด้านหน้าตัวกล้องแสดงสถานะการทำงาน โดยจะสว่างเป็นสีเขียวเมื่อเปิดกล้อง และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อกด REC ทำให้ตัวแบบรู้ว่ากำลังบันทึก ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดและเบา ทำให้มันเป็นกล้องที่สามารถทำงานคนเดียวได้สะดวก และด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ในตัวกล้องที่ล้ำหน้า ทำงานร่วมกับระบบกันสั่น IS ในเลนส์ RF ทำให้ภาพที่ได้นิ่งแม้ต้องเคลื่อนกล้องตามซับเจกต์ 

 

Canon R5C ใช้ร่วมกับเลนส์คุณภาพสูงในซีรีส์ RF ได้กว่า 30 รุ่น และยังรองรับการใช้ร่วมกับเลนส์ EF ได้เต็มระบบผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS R Mount Adaptor (ที่มีให้เลือกใช้ถึง 3 รุ่นรวมทั้งแบบที่มีฟิลเตอร์ ND) และยังรองรับการใช้กับเลนส์ซีเนม่าของแคนนอน เลนส์ Anamorphic ทำให้มีทางเลือกในการใช้เลนส์คุณภาพสูงที่มากมาย

 

อิสระ เสมือนโพธิ์