กล้องนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ในการบันทึกภาพแล้ว ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมันได้กลายมาเป็น GADGET และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งของผู้ใช้ การออกแบบให้สวยงามสะดุดตาผู้พบเห็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ
EOS M100 คือหนึ่งในกล้องมิเรอร์เลสที่ออกแบบภายนอกได้สวย เท่ มีสไตล์ โดยยังคงไว้ซึ่งขนาดอันกะทัดรัด นํ้าหนักเบา พกพาสะดวก และให้คุณภาพสูงในระดับที่นักถ่ายภาพระดับจริงจังต้องการ EOS M100 พัฒนาต่อเนื่องมาจาก EOS M10 ออกแบบมาสำหรับนักถ่ายภาพระดับมือสมัครเล่นที่ชื่นชอบกล้องขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เซลฟี่สะดวก และให้ภาพสวยงามที่พร้อมจะแชร์สู่โลกโซเชียลได้ทันที การปรับปรุงจากรุ่นเดิมไม่ได้มีเพียงรูปลักษณ์ภายนอกแต่แคนนอนจัดเต็มเพื่อให้ EOS M100 เป็นกล้องระดับ Entry Level ที่สมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์ความสะดวกในการใช้งานและคุณภาพอัดแน่นเต็มประสิทธิภาพทีเดียว มีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
คุณภาพที่ไม่มีทางได้จากสมาร์ทโฟน EOS M100 เป็นกล้องที่เจาะกลุ่มตลาดผู้หญิง วัยรุ่น วัยทำงานเป็นหลัก ซึ่งผู้ใช้กลุ่มนี้มักจะใช้สมาร์ทโฟนในการบันทึกภาพ แต่ข้อจำกัดในหลายๆ เรื่องของสมาร์ทโฟน เช่น คุณภาพแย่เมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย เบลอฉากหลังไม่ได้ (ใช้ฟังก์ชั่นเบลอฉากหลังก็ดูไม่เนียน) และปรับเลือกชัดลึกชัดตื้นไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้กลุ่มนี้มองหากล้องมิเรอร์เลสที่ใช้งานง่าย ให้ภาพสวยคุณภาพสูง และแชร์ภาพได้สะดวกมาใช้งาน และ EOS M100 ก็พร้อมจะตอบสนองผู้ใช้กลุ่มนี้ได้ตรงความต้องการในแทบทุกด้านโดยเฉพาะคุณภาพเพื่อให้ได้คุณภาพที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนจะทำได้ แคนนอนจึงได้ปรับปรุง EOS M100 ในจุดสำคัญคือการเปลี่ยนเซ็นเซอร์รับภาพจากรุ่น EOS M10 ที่มีความละเอียด 18 ล้านพิกเซล มาเป็นเซ็นเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF 24.2 ล้านพิกเซล ถ่ายทอดรายละเอียดได้สูงขึ้น มีสัญญาณรบกวนตํ่า ใช้งานในสภาพแสงน้อยได้ดี โดยสามารถตั้งความไวแสงได้สูงถึง ISO 25600 และยังช่วยให้การโฟกัสของกล้องรุ่นนี้เร็วขึ้น แม่นยำขึ้นกว่าเดิม ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพขนาด APS-C ทำให้คุณภาพเทียบเท่ากับกล้อง DSLR ของแคนนอนในรุ่น EOS 200D หรือ EOS 800D และยังสามารถเบลอฉากหลังได้เท่าๆ กัน ซึ่งในจุดนี้สมาร์ทโฟนยังห่างชั้น ดังนั้น EOS M100 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ขยับขึ้นมาจากสมาร์ทโฟน
ใช้งานได้สนุกยิ่งกว่า พกกล้องไปเที่ยวจะทำให้ทริปของคุณสนุกขึ้นแน่ๆ EOS M100 ออกแบบให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้มากกว่ากล้องระดับเดียวกัน ด้วยการออกแบบให้มีปุ่มปรับน้อย ไม่สับสนในการปรับตั้งค่าต่างๆ โดยไม่ใช้แป้นปรับโหมดที่แสดงระบบบันทึกภาพหลายๆ อย่างไว้บนแป้นเหมือนกล้องทั่วไป แต่วางแป้นปรับโหมดไว้แค่ 3 ตำแหน่งคือ AUTO+ โหมดสร้างสรรค์ภาพและโหมดถ่ายวิดีโอ โดยแป้นจะวางอยู่รอบนอกของปุ่มเปิดปิดการทำงานจึงใช้สะดวก เมื่อใช้ที่โหมดสร้างสรรค์ภาพ เราสามารถเลือกโหมดบันทึกภาพได้หลายหลายรูปแบบ โดยการแตะหน้าจอที่มุมซ้ายบน กล้องจะแสดงระบบบันทึกภาพทั้งหมดเรียงบนหน้าจอ LCD สามารถใช้นิ้วสไลด์ไปยังโหมดที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่โหมด M, AV, TV, P ถัดลงมาเป็นโหมด Hybrid Auto โหมด Creative Assist สำหรับการสร้างโทนสีของภาพด้วยตัวเอง Scene Mode ต่างๆ ก็รวมไว้บนหน้าจอนี้เลยครับ รวมทั้งเอฟเฟกต์ภาพ เช่น เอฟเฟกต์ Soft focus , Fisheye, Art bold, Toy Camera, Minature และโหมด HDR เป็นต้นและที่น่าสนใจก็คือ เอฟเฟกต์ Smooth Skin เพื่อช่วยให้หน้าเนียน ใสปิ๊ง โดยภาพยังคงมีรายละเอียดสูงในส่วนอื่นๆ ของภาพ ยกเว้นใบหน้าที่จะดูเนียนเป็นพิเศษ โดยสามารถปรับระดับความเนียนได้ถึง 5 ระดับ ด้วยการใช้จอ LCD ทัชสกรีนความละเอียดสูงแบบ Capacitive ที่ลื่นไหลตอบสนองต่อการสั่งของนิ้วได้รวดเร็วทันใจราวกับหน้าจอของสมาร์ทโฟนชั้นยอด ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกการทำงานต่างๆของกล้องได้สะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ปุ่มปรับมากมาย ระบบทัชสกรีนทำได้เต็มรูปแบบทั้ง Touch Focus,Touch Shutter รวมทั้งสามารถ Touch Menu ได้ทุกอย่าง ทำให้การปรับตั้งทำได้รวดเร็ว รวมทั้งสามารถปรับความเร็วชัดเตอร์ รูรับแสงความไวแสง(ISO) ได้จากหน้าจอ LCD ทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ และหากต้องการปรับระบบสำคัญอื่นๆ ก็เพียงแค่แตะที่ปุ่ม Q บนหน้าจอแล้วเข้าไปยังฟังก์ชันที่ต้องการได้เลย โดยไม่ต้องใช้ปุ่มหรือแป้นสี่ทิศทางในการปรับ เหมาะกับผู้ใช้ที่อัพขึ้นมาจากสมาร์ทโฟน เพราะจะคุ้นกับการทัชสกรีนได้เร็ว ส่วนนักถ่ายภาพที่มีประสบการณ์ในการใช้กล้องมาก่อน จะชอบใช้ปุ่มพร้อมแป้นสี่ทิศทางมากกว่า
สร้างโทนสีของคุณเอง EOS M100 ออกแบบให้คุณสามารถสร้างโทนสีในสไตล์ของคุณได้ง่ายๆ ด้วยฟังก์ชั่น Creative Assist โดยเมื่อเข้าที่ฟังก์ชันนี้คุณจะสามารถปรับโทนสีของภาพได้ตั้งแต่ การปรับความอิ่มสี Color Tone 1 (โทนฟ้าหรือโทนอุ่น) Color Tore 2 (มาเจน-ต้าไปเขียว) ปรับคอนทราสต์ ปรับความสว่าง และปรับชัดลึกชัดตื้นได้ หากต้องการบันทึกค่าการปรับทั้งหมดไว้ก็สามารถทำได้ โดยจะบันทึกได้ถึง 6 ช่อง แต่ที่เยี่ยมมากคือ คุณสามารถแชร์สไตล์โทนสีของคุณไปให้เพื่อนๆ ที่ใช้กล้องตระกูล M ได้ โดยกดปุ่มส่งออกและเพื่อนกดยืนยันการรับเท่านั้น เพื่อนก็จะได้เซ็ทติ้งของโทนสี เหมือนที่คุณใช้ได้อย่างรวดเร็ว
เซลฟี่ได้สวยกว่าเดิม EOS M100 ใช้จอ LCD แบบปรับมุมได้ 180 องศา พลิกขึ้นด้านบนเช่นเดียวกับ EOS M10 แต่มาพร้อมโหมด Self Portrait ที่ออกแบบให้คุณสามารถปรับตั้งให้ได้ภาพสวยถูกใจยิ่งขึ้น โดยเมื่อพลิกจอขึ้น บนหน้าจอ LCD จะมีไอคอนของระบบนี้อยู่ เพียงแตะไอคอนนี้กล้องก็จะแสดงเมนูการปรับตั้งต่างๆ ที่ส่วนขวาของจอ โดยสามารถปรับหน้าเนียนได้ถึง 5 ระดับ ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงเนียนมาก ลบริ้วรอยให้หายไปเลยทีเดียว ในขณะที่รายละเอียดส่วนอื่นของภาพยังดีอยู่ นอกจากนั้นยังสามารถปรับความสว่างได้ 5 ระดับ ปรับชัดลึกชัดตื้นได้อีก 5 ระดับ ซึ่งน่าจะถูกใจกลุ่มเป้าหมายของกล้องรุ่นนี้ที่เป็นสุภาพสตรีอย่างมาก
ดีไซน์โดดเด่นและเสริมความเท่ด้วยแจ๊กเก็ต EOS M100 ออกแบบเส้นสายตัวกล้องโค้งมนกลมกลืน สวยสะดุดตา ด้านบนปรับเป็นแนวโค้งแตกต่างจากดีไซน์กล้องส่วนใหญ่ ด้านข้างก็ทำเป็นเส้นโค้งเช่นกัน กับบอดี้สีขาวและสีเทาจะดูเป็นทูโทน ผิวตัวกล้องส่วนหน้าทำเป็นลายที่ดูสวย EOS M100 มี 3 สีคือ ดำ ขาวและเทา โดยเฉพาะสีเทานั้นเป็นเฉดสีเทาอมเขียว เล็กน้อย สวยและมีสเน่ห์อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อตัดกับส่วนบนของตัวกล้องที่เป็นสีเงิน รวมทั้งเลนส์สีเงิน สีเทานี้เป็นสีพิเศษที่เรียกว่าเทาอาร์มานี่นอกจากนั้นยังมีแจ็คเก็ตที่เพิ่มความเท่ให้ EOS M100 อีก 6 แบบ คือ สีแดง สีนํ้าเงิน สีเขียว สีทอง สีขาวคาดเส้นสีนํ้าเงิน 5 แบบนี้วัสดุเป็นพลาสติก ส่วนสีนํ้าตาลเป็นหนัง ทุกแบบดีไซน์ให้มีสันนูนด้านขวา ใช้เป็นกริปช่วยให้จับถือได้ถนัด
ถ่ายวิดีโอได้ง่ายและคุณภาพสูง EOS M100 ออกแบบให้คุณถ่ายวิดีโอได้ง่ายๆ มีระบบกันสั่น ช่วยให้ถ่าย VDO ได้นิ่งแม้เดินถ่าย เพียงแค่ปรับแป้นโหมดด้านบนตัวกล้องไปที่ MOVIE จากนั้นสามารถเลือกโหมดบันทึกวิดีโอได้ 3 โหมดด้วยการแตะไอคอนรูปกล้องถ่ายภาพยนตร์ที่มุมซ้ายบน คือ โหมดวิดีโอแบบออโต้ โหมดวิดีโอแมนนวล และโหมด Time Lapse ถ้าต้องการใช้แบบง่ายๆ ก็เลือกที่ AUTO แต่ถ้าต้องการควบคุมค่าแสงด้วยตัวเองก็เลือกที่แมนนวล ทั้ง 2 โหมดสามารถชิพท์จุดโฟกัสด้วยการ Touch AF บนหน้าจอ และลากนิ้วตามการเคลื่อนที่ของซับเจกต์ได้ สามารถใช้ระบบโฟกัสติดตามใบหน้าได้ ทำให้การบันทึกทำได้ง่ายและให้ผลแบบมืออาชีพ
EOS M100 สามารบันทึกวิดีโอ Time Lapse ได้ง่ายๆ โดยมี Scene ให้เลือกใช้แบบอัตโนมัติ 3 แบบ แต่สามารถปรับเลือกจำนวนภาพและเวลาการบันทึกในแต่ละภาพด้วยตัวเองได้ เลือกค่าแสงแบบ Fix ในทุกช็อต หรือแบบปรับค่าวัดแสงใหม่ในแต่ละช็อตก็ได้ กล้องจะคำนวณเวลาที่ใช้ถ่ายและเวลาของคลิปให้เสร็จ ง่ายมากๆEOS M100 ให้คุณภาพวิดีโอระดับ Full HD 60p/50p ให้ภาพคมชัดรายละเอียดสูง และภาพที่ดุนุ่มนวลราบเรียบ
ระบบเด่นๆ มีอีกหลายอย่าง แม้ EOS M100 เป็นกล้องระดับ Entry Level แต่ก็ให้ระบบการทำงานมากเกินตัว โดยมีฟังก์ชันแปลงไฟล์ RAW ในตัวกล้องที่ออกแบบดีมากสามารถแปลงได้ครั้งละหลายๆ ภาพโดยสามารถเลือกได้ว่าจะแปลงทีละภาพ หรือเลือกช่วงของภาพที่ต้องการแปลง เช่น ตั้งแต่ ภาพที่ 1-100 จากนั้นปรับค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความสว่างของภาพ ไวท์บาลานซ์ Picture Style ได้ความต้องการ และสั่งแปลง กล้องจะใช้ค่าที่เลือกในการโพรเซสภาพ 1-100 ทั้งหมดทันที โดยใช้เวลาในการแปลงน้อยมาก เมื่อเทียบกับการแปลงด้วยคอมพิวเตอร์
EOS M100 สามารถเลือกพื้นที่โฟกัสได้ 3 แบบ เช่นเดียวกับ EOS M5 และ EOS M6 คือระบบโฟกัสติดตามใบหน้า ระบบ Smooth Zone AF แบบจุดเดียว และด้วยการใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF ทำให้ประสิทธิภาพของ EOS M100 ทำได้ดีกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะการโฟกัสติดตามวัตถุ รวมทั้งระบบโฟกัสติดตามวัตถุอัตโนมัติเมื่อใช้โหมด AUTO+ ก็จะมีประสิทธิภาพดีขึ้น ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องของ EOS M100 ขยับสูงกว่า EOS M10 โดยทำได้ 6.1 ภาพ/วินาที เมื่อใช้โหมด ONE SHOT และ 4 ภาพ/วินาที เมื่อโฟกัสติดตามวัตถุในโหมด AI SERVO
นอกจากนั้นยังมาพร้อม Wi-Fi (ตั้งชื่อกล้องได้) มี NFC และบลูทูธที่ประหยัดพลังงาน EOS M100 สามารถตั้ง Copyright ของภาพเพื่อยืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าของภาพ EOS M100 มีไวท์บาลานซ์แบบ Kelvin แล้วครับ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะจะช่วยให้การควบคุมอุณหภูมิมีสีทำได้เที่ยงตรง โดยเฉพาะเมื่อถ่ายวิดีโอ และยังมีฟังก์ชัน Peaking ทำให้การโฟกัสแมนนวลทำได้ง่ายปุ่ม Wi-Fi ของ EOS M100 แยกออกมาต่างหากทำให้การแชร์ภาพทำได้เร็วและง่าย ไม่ต้องค้นหาในเมนู
ผลการใช้งาน
โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นยูสเซอร์คนนึงของกล้องตระกุล M ใช้งานมาตั้งแต่ EOS M จนถึง EOS M3 ได้เห็นการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงแรกจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อแคนนอนปล่อย EOS M5 และ EOS M6 ออกมา ก็เห็นได้ว่าแคนนอนได้เข้ามาสู่ตลาดกล้องมิเรอร์เลสเต็มตัว ด้วยกล้องที่ดีเพียงพอสำหรับการใช้งานของมืออาชีพและนักถ่ายภาพระดับจริงจัง ส่วนกล้องระดับสมัครเล่นนั้นทำตลาดด้วย EOS M10 ที่เป็นกล้องคุณภาพดีพอควร แต่อายุ 2 ปีของกล้องรุ่นนี้ก็ถึงเวลาต้องมีการปรับปรุง ซึ่งแคนนอนก็อาศัยจุดแข็งของตนเองที่เป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์รับภาพเอง เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ที่ใช้กับ EOS M5 และ EOS M6 จึงได้ถูกนำมาใช้กับกล้องรุ่นนี้ด้วย ทำให้มันเป็นกล้องระดับ Entry Level ที่ให้คุณภาพได้เทียบเท่ากล้องระดับ Advanced แต่รูปแบบ สมรรถนะและคอนเซปต์เท่านั้นที่แตกต่างกัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบดีไซน์ของ EOS M100 มาก แคนนอนกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงหน้าตาของกล้องรุ่นนี้ฉีกออกจากสไตล์เดิมๆ ชวนให้นึกถึงยุครุ่งเรืองของกล้องคอมแพคอย่าง IXUS ผมว่าการดีไซน์มันมาในแนว IXUS นั่นแหล่ะ ตัวกล้องมีขนาดเล็กมากเมื่อคิดว่านี่คือเซ็นเซอร์ขนาด APS-C การจัดวางปุ่มปรับต่างๆ ทำได้ดีครับ ใช้งานสะดวก เมนูก็ดูเข้าใจง่าย จัดวางได้ลงตัว ระบบทัชสกรีนเต็มรูปแบบทำให้ใช้งานได้สะดวกคล่องตัว เป็นกล้องที่ใช้ง่ายมากครับ เป็นมิตรกับมือสมัครเล่นและมือใหม่อย่างยิ่งครับ
เป็นกล้องที่ใช้ง่าย ใช้สนุก ด้วยทัชสกรีนที่ดีมาก แตะเลือกจุดโฟกัสได้ง่ายและโฟกัสแม่นยำ แม้เปิดเอฟกว้างสุดก็คมชัดมากและภาพใสมาก เบลอฉากหลังได้น่าพอใจ กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ; 1/125 Sec f/2, Mode : M, WB : Auto, ISO 500, Picture Style : Auto
กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ; 1/160 Sec f/2, Mode : M, WB : Auto, ISO 500, Picture Style : Auto
ระบบทัชสกรีนของแคนนอนนั้น ผมชอบมานานแล้วครับ น่าจะดีที่สุดในบรรดากล้องมิเรอร์เลสแล้ว ตอบสนองฉับไว ลื่นไหล หากใช้จนคุ้นจะไม่อยากใช้ปุ่มกดกับแป้นสี่ทิศทางในการเข้าระบบเลยเมื่อใช้กล้องรุ่นนี้ จอ LCD คมชัดและแสดงสีสันได้สดใส สวยงาม ความสว่างของจอก็นับว่าดีมาก ยังใช้งานกลางแจ้งได้ดี การปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงทำได้สะดวกคล่องตัวมาก แม้มันจะมีแป้นควบคุมอันเดียว โดยดูจากหน้าจอว่าตอนนี้ปรับอะไรอยู่ หากจะเปลี่ยนก็แตะหน้าจอไปที่อีกอย่างหนึ่งแล้วหมุนแป้นควบคุมเพื่อเปลี่ยนค่าได้เลย เช่นเดียวกับ ISO ก็เปลี่ยนจากหน้าจอได้เลย มันจึงไม่ต้องใช้ปุ่มมากมายบนตัวกล้อง การย้ายจุดโฟกัสด้วย Touch AF ทำงานดีมาก ตอบสนองไวและเห็นกรอบโฟกัสบนจอชัดเจน โดยสามารถเลือกพื้นที่โฟกัสได้ 3 รูปแบบ เช่นเดียวกับ EOS M6 จึงใช้งานได้คล่องตัว ระบบโฟกัสทำงานได้เร็วมากโดยเฉพาะกับเลนส์ค่า EF-M 15-45mm. การโฟกัสเงียบสนิทและเร็วน่าประทับใจ ความเร็วในการโฟกัสยังทำได้ดีแม้จะเปลี่ยนจาก ONE SHOT มาเป็น AI SERVO โดยกล้องจะโฟกัสต่อเนื่องให้อย่างราบเรียบ ไม่โฟกัสแบบกระตุกๆ แล้วล็อกเหมือนรุ่นแรกๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เซ็นเซอร์ Dual Pixel CMOS AF กับอัลกอริธึมของชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้การโฟกัสติดตามวัตถุทำได้ดีกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก
ย้อนแสงแรงๆ ก็ยังไม่มีปัญหาเรื่องโฟกัส ยังเร็วและแม่นอยู่ กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF 50mm f/1.2L USM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) ; 1/400 Sec f/1.4, Mode : M, ISO 200, Picture Style : Standard
การโฟกัสติดตามวัตถุทำได้น่าพอใจ ไม่ใช่กล้องที่จะเอาไว้ใช้ถ่ายภาพในชีวิตประจำวันอย่างเดียวแต่กับภาพเคลื่อนไหวแบบนี้ก็ถ่ายได้ กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-S 55-250mm f/4-5.6 IS STM (ใช้ที่ช่วงซูม 250 มม.) ; 1/1600 Sec f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO250, Picture Style : Auto
ผมลองแบบโหดๆ กับกล้องเล็กๆ รุ่นนี้ โดยนำไปถ่ายนกที่บินโฉบหาอาหาร โดยใช้เลนส์ 2 รุ่นคือ EF-M 55-200 mm. f/4.5-6.3 IS STM และ EF-S 55-250mm.f/4-5.6 IS STM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) พบว่าการโฟกัสติดตามวัตถุทำได้ดีพอควร อาจจะยังเทียบกับรุ่นพี่อย่าง EOS M5 และ EOS M6 ไม่ได้ แต่หากเทียบกับกล้องมิเรอร์เรสระดับ Entry Level ด้วยกันล่ะก็ บอกได้เลยครับว่าน่าจะดีที่สุดแล้ว ภาพที่ได้อยู่ในโฟกัสราวๆ 60-70% ซึ่งผมพอใจมากแล้วครับ เพียงแต่การเคลื่อนกล้องติดตามนกยากกว่า EOS M5 เพราะไม่มีช่องมองภาพ EVF
กล้องรุ่นนี้สามารถนำไปใช้ถ่ายภาพแอคชันได้ ภาพชุดนี้ผมถ่ายด้วยเลนส์ EF-S 55-250mm f/4-5.6 IS STM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) ทีช่วงซูม 150 มม. ใช้ระบบโฟกัส AI Servo พื้นที่โฟกัสแบบ Smooth Zone AF โดยถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 4 ภาพต่อวินาที การโฟกัสทำได้ดีครับ อาจจะยังเป็นรอง EOS M6 บ้าง แต่ดีกว่ากล้องระดับเดียวกันแทบทุกรุ่น กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-S 55-250mm f/4-5.6 IS STM ; 1/1250 Sec f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO200
จุดต่อไปคือ เวคบอร์ด ผมถ่ายด้วยเลนส์สองตัวเดิม พบว่าการโฟกัสติดตามซับเจกต์ทำได้ดีในระดับน่าพอใจ ภาพที่ได้อยู่ในโฟกัสราวๆ 70-75% หากรัวเป็นชุด 4 ภาพ /วินาที ราวๆ 4-5 วินาทีต่อชุดจะได้ภาพชัดประมาณ 12-14 ภาพ ที่เหลือหลุดโฟกัส ซึ่งน่าพอใจมากแล้วสำหรับกล้องระดับนี้การโฟกัสแบบ ONE SHOT ไม่มีที่ติครับ แม่นยำอย่างยิ่งแม้จะเปิดรูรับแสง f/2 (เลนส์ EF-M 22mm.f/2 STM) ภาพอยู่ในโฟกัสทุกช็อต แต่ที่น่าประทับใจมากคือแม้ใช้กับเลนส์ EF หรือ EF-S ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M การโฟกัสก็ยังแม่นยำอย่างยิ่ง กับเลนส์ EF 50mm.f/1.8 STM โฟกัสเข้าตลอด และความเร็วในการโฟกัสก็ดีมาก ผมลองกับเลนส์ EF 50mm.f/1.2 L พบว่าความเร็วในการโฟกัสก็ยังดีอยู่และความแม่นยำก็ยังดี กับเลนส์ของแคนนอน การใช้ผ่านอแดปเตอร์ไม่มีปัญหาใดๆ แต่กับเลนส์อิสระหลายๆ รุ่น (เมาท์ EF) กล้องไม่โฟกัสให้ ต้องใช้เป็นแมนนวลโฟกัส
ผมส่งกล้องให้นางแบบเอาไปถ่ายเซลฟี่เอง ผลที่ได้น่าพอใจมาก ภาพนี้ใช้ระบบหน้าเนียนระดับ 3 ความสว่าง +1 กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ; 1/1600 Sec f/2, Mode : Self Portrait, WB : Auto, ISO400
กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ; 1/800 Sec f/2, Mode : M, WB : Auto, ISO100
เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ที่อยู่ในชุดเลนส์คู่เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการเซลฟี่มาก ความกว้างกำลังดี เบลอฉากหลังได้สะใจ และคมกริบแม้เปิดเอฟกว้างสุด กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 22mm f/2 STM ; 1/200 Sec f/2, Mode : Self Portrait, WB : Auto, ISO100
EOS M100 เป็นกล้องที่ใช้เซลฟี่ได้ดี ในการทดลองผมส่งกล้องให้นางแบบและอธิบายคร่าวๆเรื่องการปรับฟังก์ชั่นหน้าเนียน จากนั้นก็ปล่อยให้นางแบบเซลฟี่ตามใจชอบ เลือกมุมเอง ปรับตั้งเองโดยใช้เลนส์ EF-M 22mm. f/2 STM ผ่านไป 15 นาที เธอก็นำกล้องมาให้ลองเช็คภาพว่าใช้ได้มั๊ย ผมพบว่าภาพที่ได้มีดีๆ หลายภาพ ที่น่าพอใจคือ การโฟกัสไม่มีปัญหาเลยแม้จะเปิด f/2 เป็นส่วนใหญ่ ภาพก็อยู่ในโฟกัสแทบทั้งหมด ส่วนฟังก์ชั่นหน้าเนียนนั้น นางแบบของเราชอบที่ระดับ 2-3 เธอบอกว่าเนียนพอแล้ว มากกว่านี้จะเนียนเกินไป และเธอชอบที่มันเบลอฉากหลังได้มากกว่าสมาร์ทโฟน สำหรับผม หากตัวแบบผิวหน้าดีพอควร การใช้ที่ระดับ 2 ก็เพียงพอแล้วครับ เนียนเป็นธรรมชาติรายละเอียดอื่นๆ ยังดีเยี่ยม รวมทั้งเส้นผม ที่ระดับ 4-5 ผิวจะเนียนมาก แต่รายละเอียดของผิวจะหายไปค่อนข้างมากในขณะที่ส่วนอื่นๆ ในภาพรายละเอียดยังดีอยู่ การปรับความสว่างช่วยเล็กน้อยก็จะทำให้หน้าดูใสยิ่งขึ้น
ภาพกีวีช็อตนี้ถ่ายด้วยเลนส์มาโคร EF-M 28mmf/3.5 IS STM โฟกัสเร็วและแม่นยำ ได้อัตราขยายสูง รายละเอียดดีมาก ใช้ไฟ LED ของเลนส์ช่วยเปิดให้เห็นรายละเอียดด้านหน้าได้เล็กน้อย โดยแสงหลักมาจากการวางไฟ LED ไว้ด้านล่างของกีวี กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 28mm f/3.5 IS STM Macro ; 1/100 Sec f/8, Mode : M, WB : 4300K, ISO200
ลองในสภาพแสงน้อยมากด้วยความไวแสง ISO 3200 รายละเอียด สีสัน ยังอยู่ในระดับดี กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF-M 11-22mm f/4.5-5.6 IS STM ; 1/40 Sec f/6.3, Mode : M, ISO 3200, Picture Style : Standard
คุณภาพของไฟล์ EOS M100 น่าประทับใจมากครับ มันทำได้เท่าๆ กับ EOS M6 ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูง ความคมชัดสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้ที่ ISO 100-800 ภาพจะคมชัดน่าพอใจ มีสัญญาณรบกวนน้อยมาก ที่ ISO 1600 รายละเอียดจะลดลงบ้าง แต่โดยรวมภาพยังมีคุณภาพดีมาก ที่ ISO 3200 ภาพยังมีคุณภาพในระดับดี รายละเอียดยังใช้ได้ สิ่งที่ผมชอบในกล้องแคนนอนรุ่นใหม่ๆ คือไฟล์ JPEG ที่ใสขึ้น สีสดใสขึ้น จูนสีมาได้ดีกว่าเดิม ทำให้ภาพพร้อมสำหรับการนำไปใช้งานโดยไม่ต้องปรับสีสัน คอนทราสต์ สีผิวของตัวแบบก็สวย คอนทราสต์ก็ไม่ตํ่าเกิน ไม่สูงเกิน ผมพอใจเรื่องสีของไฟล์ JPEG จากกล้องรุ่นนี้มากและเชื่อว่ากลุ่มผู้ใช้กล้องรุ่นนี้ก็น่าจะถ่ายภาพเป็นไฟล์ JPEG มากกว่าไฟล์ RAW แต่ในการถ่ายภาพผมจะถ่ายด้วยไฟล์ RAW +JPEG โดยไฟล์ RAW ได้ลองนำมาโพรเซสจากตัวกล้อง พบว่าการแปลงทำได้เร็วมาก และที่ชอบสุดๆ คือ สามารถแปลงเป็นชุดๆ ได้ด้วย Setting เดียวกัน สะดวกและรวดเร็วอย่างยิ่ง
ในส่วนของวิดีโอนั้น EOS M100 ทำได้ในระดับดี ไฟล์ Full HD 60p/50p ของกล้องรุ่นนี้ให้ภาพคมชัด รายละเอียดดี ภาพใสเคลียร์ สีสันสดใส การบันทึกก็ทำได้สะดวกและง่าย การโฟกัสเมื่อถ่ายวิดีโอจะเน้นความนุ่มนวลมากขึ้น ภาพจึงดูสบายตา และการโฟกัสติดตามซับเจกต์ก็ทำได้น่าพอใจด้วยประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ Dual Pixel CMOS AF และการประมวลผลที่ดี ไฟล์วิดีโอจึงมีคุณภาพดีและมีการโฟกัสที่ราบเรียบ นุ่มนวล การชิพท์จุดโฟกัสด้วย Touch AF ก็จะช่วยให้มือใหม่ถ่ายวิดีโอได้ง่ายขึ้น และการมีไวท์บาลานซ์แบบเคลวินก็ช่วยให้กำหนดอุณหภูมิสีของแสงได้แน่นอนกว่าแบบออโตไวท์บาลานซ์
ระบบโฟกัสแม่นยำและใช้สะดวกด้วย Touch AF ทำให้ใช้งานคล่องตัว กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF 50mm f/1.8 STM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) ; 1/800 Sec f/2, Mode : M, ISO 200, Picture Style : Standard
กับเลนส์ตัวนี้ เบลอฉากหลังได้ดีมาก และคุณภาพดีมาก การโฟกัสก็เร็วน่าพอใจ กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF 50mm f/1.8 STM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) ; 1/1250 Sec f/2, Mode : M, ISO 200, Picture Style : Standard
ในส่วนของการใช้งาน ต้องบอกว่า EOS M100 ใช้ง่ายจริงๆ ครับ เป็นมิตรกับมือใหม่อย่างมาก ใช้สักครึ่งวันก็น่าจะคุ้นมือแล้ว ที่เหลือก็คือหา Accessories มาเสริมความเท่อีก 2 ชิ้น คือ แจ็กเก็ตที่คุณชอบและสายสะพายเก๋ๆ อีกเส้น เท่านี้ EOS M100 ก็จะกลายเป็นพร๊อพที่ดูดีในทุกๆ ที่
ความเห็น
กล้อง Canon EOS M100 เลนส์ EF 50mm f/1.8 STM (ผ่านอแดปเตอร์ EF-EOS M) ; 1/400 Sec f/2, Mode : M, WB : Auto, ISO100
น่าใช้ครับ โดยเฉพาะชุดเลนส์คู่ (EOS M100 + EF-M15-45mm.f/3.5-6.3 IS STM+ EF-M 22mm.f/2 STM) นั้นน่าใช้กว่าซื้อชุดเลนส์คิทอย่างเดียว เพราะราคาชุดเลนส์คู่อยู่ที่ 24,990 บาท ในขณะที่เลนส์คิทอยู่ที่ 21,990 บาท ต่างกันแค่ 3,000 บาท แต่คุณจะได้เลนส์ Fix ไวแสง f/2 ชั้นยอดที่ใช้สนุก เบลอฉากหลังได้ดี คุณภาพเยี่ยม และโฟกัสได้ใกล้ (หากซื้อแยก เลนส์ EF-M 22mm.f/2 STM ราคา 8,790 บาท) แนะนำครับสำหรับผู้ที่มองหากล้องขนาดเล็กๆ แต่คุณภาพสูง หน้าตาสวย ใช้งานง่ายและราคาคุ้มค่า EOS M100 เป็นกล้องที่ควรหาโอกาสไปลองเล่นครับ
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) สำหรับความอนุเคราะห์กล้องและเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.canon.co.th
เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews
