BASIC

5 เรื่องต้องระวังในการใช้กล้องหน้าฝน

เข้าหน้าฝนหลายคนก็เก็บกล้องมากกว่าถ่าย แต่หลายคนก็ยังออกไปถ่ายภาพกันอยู่ ซึ่งก็อาจต้องพบเจอทั้งความชื้น ฝน หรือละอองน้ำ เราจึงควรต้องใช้งานและดูแลกล้องและเลนส์ของเรามากกว่าฤดูอื่นอยู่บ้าง เพื่อให้กล้องและเลนส์ปลอดภัยจากความเสียหาย ทั้งรา ฝ้า แลอื่นๆ  มีอะไรต้องระวังบ้างมาดูกันครับ

เพราะหน้าฝนความชื้นในอากาศสูงมาก และกระเป๋ากล้องก็เป็นที่อับชื้นค่อนข้างมาก อากาศไม่ถ่ายเท เป็นแหล่งเพาะเชื้อราเป็นอย่างดี หากคุณไม่ได้ใช้กล้องเกิน 10 วัน แนะนำว่าไม่ควรเก็บกล้องและเลนส์ในกระเป๋ากล้อง เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากที่เลนส์จะขึ้นราได้ ควรเอากล้องและเลนส์ออกจากกระเป๋า หาที่ๆ อากาศถ่ายเท หรือเก็บกล้องในตู้กันความชื้นจะดีกว่า เพราะถ้าเลนส์ขึ้นรา โดยเฉพาะกับชิ้นเลนส์ด้านในจะต้องส่งล้างแต่เพียงสถานเดียว

 

นักถ่ายภาพหลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ซิลิก้าเจล เพราะคิดว่าจะดูดความชื้นจากในกระเป๋าได้ แต่ ความจริงก็คือซิลิก้าเจลเป็นสารดูดความชื้นที่ต้องใช้งานในที่ๆอากาศไม่ถ่ายเท เช่น ใส่เลนส์ในกล่องกันความชื้น ใส่เลนส์ลงในถุงพลาสติก แล้วใส่ซิลิก้าเจลลงไป แล้วปิดฝา รัดปากถุง แบบนี้โอเคครับ  แต่ถ้าเป็นกระเป๋ากล้องมันจะดูดความชื้นจนอิ่มตัว จากนั้นก็ไม่ดูดความชื้นอีกต่อไป จึงไม่ได้ช่วยอะไรเลย และหากจะใช้ซิลิก้าเจล ควรซื้อแบบ Blue Siliga Gel เท่านั้นเพราะจะสังเกตการหมดสภาพการทำงานได้ง่าย โดยถ้ายังอยู่ในสภาพที่ดูดความชื้นได้ มันจะเป็นเม็ดสีน้ำเงินเข้ม อต่เมื่อดูดความชื้นสีจะจางลงจนกลายเป็นเม็ดใสๆ และสีชมพูในที่สุด ต้องนำไปตากแดดหรือทำให้แห้งมันจะกลับมาเป็นสีน้ำเงินเข้มอีกครั้ง ก็จะใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ

 

ในหน้าฝนความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมักจะสูงถึง 70-90% แม้ในวันที่ร้อนอบอ้าวหรือมีแดด การที่กล้องและเลนส์อยู่ในรถยนต์ที่แอร์เย็นๆ หรืออยู่ในห้องแอร์นานๆ เมื่อออกมานอกรถหรือนอกห้องแอร์(ที่มักจะมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ) แล้วมีการเปลี่ยนอุณหภูมิทันที เปลี่ยนระดับความชื้นสัมพัทธ์มาเป็นสูงๆ  ไอน้ำจะจับกล้องและเลนส์ทันที โดยจะพบว่าภายในกระบอกเลนส์จะเกิดละอองน้ำเล็กๆ เกาะเต็มผิวเลนส์หลายชิ้นด้านในและด้านหน้า  ช่องมองภาพของกล้องก็จะเกิดไอน้ำเกาะภายในจนภาพที่เห็นในช่องมองฟุ้งฝ้าไปหมด หากมีแดดมันจะใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที ละอองน้ำก็จะระเหยหมด แต่ถ้าไม่มีแดดอาจใช้เวลาถึง 4-5 นาทีจึงระเหยหมด เลนส์ก็จะดูใสเหมือนเดิม แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวผมพบว่า ความใสของเลนส์มีโอกาสที่จะไม่เท่าเดิม(ขึ้นอยู่กับผิวโค้ทของเลนส์) และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ เชื่อได้ว่าความใสของเลนส์ตัวนั้นลดลงแน่นอน

วิธีที่ดีคือ กล้องและเลนส์ควรอยู่ในกระเป๋ากล้อง ถ้าออกจากห้องแอร์ไม่ควรเปิดกระเป๋ากล้องทันที ปล่อยให้กล้องและเลนส์ภายในได้ค่อยๆ ปรับอุณหภูมิ ค่อยๆ ปรับความชื้น ใช้เวลาสัก 1-2 นาที กล้องและเลนส์จะไม่เป็นฝ้าครับ

 

แม้กล้องและเลนส์หลายๆ รุ่นในปัจจุบันจะเคลมว่ากันละอองน้ำได้ แต่ไม่ควรมั่นใจจนเกินไป หากจำเป็นต้องใช้งานในสภาพที่ฝนตกโดนกล้องและเลนส์ ควรระวังบางจุด เช่น หากระบบซูมของเลนส์เป็นแบบกระบอกยืดเข้าออก ต้องระวังหยดน้ำที่จะติดเข้าไปกับกระบอกเลนส์เมื่อซูมเข้า แม้น้ำอาจไม่เล็ดรอดเข้าไปภายในได้แต่ความชื้นที่ติดอยู่กับกระบอกอาจสร้างปัญหาในภายหลังหากทำความสะอาดไม่ดีพอหลังใช้งาน และในส่วนของกล้องรอยต่อบางจุดอาจไม่แน่นหนาอย่างที่เคลมไว้ เช่น ช่องมองภาพหรือแป้นหมุนต่างๆ  ต้องระวังด้วยครับ และถ้าเลนส์ไม่ได้ซีลกันละอองน้ำแบบภาพข้างบน ยิ่งต้องระวังนะครับ

 

เมื่อต้องใช้กล้องและเลนส์ในสภาพอากาศชื้น และอาจโดนละอองน้ำจากฝนบ้าง จากละอองน้ำของน้ำตกบ้าง จากหมอกและไอน้ำช่วงเช้าบ้าง  ในช่วงกำลังใช้งานก็ไม่ต้องพะวงอะไรมากครับ หน้าเลนส์เลอะหยดน้ำก็เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ให้สะอาด(ใช้งานหน้าฝนเลนส์ควรมีฟิลเตอร์ Protect เพื่อป้องกันชิ้นเลนส์ด้านหน้า)  ช่องมองภาพเลอะก็เช็ดแล้วถ่ายต่อ แต่เมื่อกลับที่พักและมีเวลาควรเช็ดทำความสะอาดกล้องและเลนส์ให้แห้งสนิท แล้วผึ่งไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเทได้ดีสัก 1 ชั่วโมงจึงค่อยนำไปเก็บในตู้กันความชื้น กล้องและเลนส์ของคุณก็จะปลอดภัยจากรา

 

 

 

เรื่อง : อิสระ เสมือนโพธิ์