ในช่วงหลังๆ Sigma ผลิตเลนส์ Art-series ออกวางจำหน่าย โดยวางระดับเป็นเลนส์เกรดพรีเมี่ยม ออกแบบมารองรับการใช้งานระดับโปร ที่เน้นทั้งคุณภาพที่ได้จากเลนส์ ความแข็งแรงของโครงสร้าง และรูปลักษณ์ในการออกแบบที่สวยงามต่างจากเลนส์ยุคเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง และถึงแม้ว่า เลนส์หลายๆ รุ่น ที่ผลิตออกมาใหม่ จะไม่ได้ถูกวางตัวให้เป็นเลนส์ Art-series แต่ก็ให้คุณภาพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน อย่าง Sigma 16mm F1.4 DC DN ตัวนี้ครับ
จุดเด่นของ Sigma 16mm F1.4 DC DN Contempolary
- รูรับแสงกว้าง f/1.4
- ออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless
- ทางยาวโฟกัสเทียบเท่าระยะ 24 มม. (E-mount)
- ใช้มอเตอร์โฟกัสแบบ Fast Hybrid AF
- เคลือบผิวเลนส์ด้วยเทคโนโลยี Super Multi-Layer Coating
- ซีลรอยต่อป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า
- โครงสร้างกระบอกเลนส์แข็งแรง
ประสิทธิภาพ
ซ้าย : ชื่อและรายละเอียดด้านหน้าเลนส์ ระบุ Made In Japan
ขวา : ตัวเลนส์มาพร้อมฮูดรูปกลีบดอกไม้ ดูสวยงามลงตัว
เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN เป็นเลนส์ที่ออกแบบให้ใช้งานกับกล้อง Mirrorless ของหลายๆ ค่าย แต่สำหรับตัวที่ผมได้รับมานี้ ออกแบบสำหรับ E-mount หรือสำหรับใช้งานกับกล้อง Mirrorless ของโซนี่ โดยจะได้ทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 24 มม. ของระบบฟิล์ม ให้มุมมองกว้าง 83.2 องศา เหมาะสำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพสถาปัตยกรรมต่างๆ ด้วย รวมทั้งเมื่อต้องการเก็บบรรยากาศกว้างๆ ภายในพื้นที่สำหรับตั้งกล้องที่ค่อนข้างจำกัด โครงสร้างตัวเลนส์ประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น จัดเป็น 13 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษอย่างชิ้นเลนส์ Aspherical 2 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ SLD 2 ชิ้น และชิ้นเลนส์ FLD อีก 3 ชิ้น โดยชิ้นเลนส์พิเศษทั้งหมดช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดทั่วทั้งเฟรมภาพ รวมทั้งช่วยปรับแก้ไขความผิดเพี้ยนต่างๆ และแก้ไขความคลาดสี, ให้ภาพที่มีคอนทราสต์ที่ดีเยี่ยมและใสเคลียร์อีกด้วย นอกจากนี้ ชิ้นเลนส์ได้รับการเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยี Super Multi-Layer Coating ช่วยลดการสะท้อนของแสงในกระบอกเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่ปราศจากอาการแฟลร์และภาพหลอน
ซ้าย : เม้าท์เลนส์โลหะ ให้ความแข็งแรง พร้อมขั้วเชื่อมต่อไฟฟ้า และยางกันฝุ่นและละอองนํ้ารอบๆ เม้าท์เลนส์
ประสิทธิภาพ
เป็นเลนส์ที่ช่วยให้เก็บบรรยากาศได้กว้างๆ แม้จะมีพื้นที่ตั้งกล้องค่อนข้างจำกัดก็ตาม Sony NEX-7 เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN โหมด M ชัตเตอร์ 1/3 วินาที f/11, ISO100, WB: Auto
โดยที่เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN ออกแบบสำหรับใช้งานกับกล้องตัวคูณ ดังนั้น ผมจึงใช้งานกับกล้องตัวเดิม นั่นคือ Sony NEX-7 ซึ่งให้คุณภาพของไฟล์เต็ม 24 ล้านพิกเซล แต่หลายๆ ครั้ง ผมก็เอามาใช้กับ Sony A7 II และเลือกครอบเซ็นเซอร์เป็นขนาด APS-C เพื่อไม่ให้ติดขอบมืด เนื่องจากเป็นเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมนั่นเอง และความละเอียดจะลดลงเป็น 10 ล้านพิกเซล แต่ก็ได้ฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ระบบป้องกันการสั่นไหวมาแทนนั่นเอง แต่อย่างหนึ่งที่มีความแตกต่างจากการใช้งานนั่นคือ การตอบสนองการโฟกัส เมื่อใช้กับ A7 II จะดีกว่าเมื่อใช้กับ NEX-7 จากประสิทธิภาพของระบบโฟกัสที่พัฒนาได้ดีขึ้นนั่นเอง และมีการโฟกัสที่เงียบเชียบอีกด้วย ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ที่บันทึกวิดีโออยู่เป็นประจำ หรือมืออาชีพที่บันทึกวิดีโอเป็นหลักครับ
ตัวเลนส์เมื่อติดเข้ากับ NEX-7 ที่มีขนาดตัวกะทัดรัด จะรู้สึกว่าเลนส์จะมีขนาดใหญ่ จากหน้าเลนส์ที่ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 67 มม. รวมทั้งเมื่อติดฮูดรูปกลีบดอกไม้เข้าไปด้วย แต่ก็มีขนาดที่สมดุลลงตัวเมื่อใช้กับ A7 II บนตัวเลนส์ไม่มีปุ่มปรับใดๆ มีเพียงวงแหวนโฟกัสที่มีขนาดใหญ่มาก และจะหมุนฟรีเมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัส แต่ให้ความนุ่มลื่นดี เมื่อต้องการปรับโฟกัสเองแบบแมนนวล
การควบคุมแฟลร์และภาพหลอน ทำได้ดีน่าพอใจ Sony NEX-7 เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN โหมด M ชัตเตอร์ 1/200 วินาที f/8, ISO100, WB: Daylight
จุดเด่นของเลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN คือเปิดรูรับแสงได้กว้างถึง f/1.4 ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าผมจะลองถ่ายภาพที่ f/1.4 ความคมชัดที่ได้ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว ขอบๆ ภาพอาจจะสู้กลางภาพไม่ได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียวครับและโดยที่เป็นเลนส์มุมกว้าง ดังนั้นจึงจะเจอปัญหาเรื่อง Distortion หรือความบิดเบี้ยวอยู่บ้าง รวมทั้ง CA หรือ Chromatic Abberation ซึ่งเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน เมื่อถ่ายภาพในลักษณะย้อนแสง โดยเฉพาะที่รูรับแสงกว้างๆ แต่อย่างไรก็ดี อาการนี้ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ จากโปรแกรมตกแต่งภาพครับ อาการ Vignette เกิดขึ้นตั้งแต่รูรับแสงกว้างสุด f/1.4 และค่อยๆ น้อยลงเมื่อหรี่รูรับแสงไปที่ f/2.8 และหายไปเมื่อหรี่รูรับแสงลงไปถึง f/4 ส่วนอาการแฟลร์และภาพหลอนในกระบอกเลนส์นั้น ไม่ได้สร้างปัญหาให้ผมเลย ตลอดช่วงการทดสอบใช้งาน ถึงแม้ว่าบางครั้งหรือหลายๆ ครั้ง ผมจะถ่ายภาพย้อนกับพระอาทิตย์ก็ตามครับเลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN ปรับโฟกัสได้ใกล้สุด 25 เซนติเมตร ทำให้ผมเล่นสนุกกับโบเก้จากการเบลอฉากหลัง ซึ่งจะแตกต่างจากโบเก้ของช่วงนอร์มอล หรือเทเลโฟโต้ เพราะสามารถเก็บบรรยากาศของฉากหลังได้มากกว่านั่นเอง และถึงแม้ว่าจะหรี่รูรับแสงแคบลงบ้างเป็น f/2 ก็ยังคงได้โบเก้กลมๆ เช่นเดิม จากการออกแบบให้มีกลีบรูรับแสงถึง 9 กลีบนั่นเอง
Sony NEX-7 เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN โหมด M ชัตเตอร์ 1/40 วินาที f/11, ISO100, WB: Auto
ผลการใช้งาน
ให้คอนทราสต์ของภาพและถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีทีเดียว Sony A7 II เลนส์ Sigma 16mm F1.4 DC DN โหมด M ชัตเตอร์ 1/30 วินาที f/9, ISO200, WB: Auto
สำหรับผู้ที่ใช้กล้องตัวคูณ หรือเซ็นเซอร์ APS-C อยู่แล้ว และต้องการเลนส์มุมกว้างคุณภาพสูง อีกทั้งยังเป็นเลนส์ไวแสง ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ โดยไม่ต้องใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้อง ช่วยให้คล่องตัวในการใช้งาน เป็นเลนส์ที่เหมาะกับช่างภาพ Landscape หรือผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ รวมทั้งใช้เป้นเลนส์ติดกล้องออกไป Snap ในรูปแบบ Street Photo ก็ได้เช่นกัน จากการได้ใช้งานอยู่กว่าสองสัปดาห์ ถือเป็นเลนส์อีกตัวหนึ่งที่ผมใช้แล้วถูกใจ ใช้งานได้สนุก และต้องขอบอกว่า Sigma 16mm F1.4 DC DN เป็นเลนส์ที่ Highly Recoommended ครับ
เรื่อง / ภาพ : พีร วงษ์ปัญญา
ขอบคุณ บริษัท ชีร์โร่ มาร์เก็ตติง (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับความอนุเคราะห์กล้องและเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.shriromarketing.co.th
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
(SCAN QR CODE ด้านล่างเพื่อเพิ่มเพื่อนใน Line อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ)
หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews