แคนนอน เปิดตัวเลนส์ซูมสำหรับกล้องฟูลเฟรมที่กว้างที่สุดในโลก

เปิดมุมมองใหม่ที่กว้างกว่าเคยกับเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษฟูลเฟรมออโต้โฟกัสที่กว้างที่สุดในโลก[1] มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวคุณภาพเยี่ยม

กรุงเทพฯ 17 ตุลาคม 2566 – แคนนอน (Canon) ประกาศเปิดตัวเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM เลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษสำหรับเมาท์เลนส์ RF ที่ให้มุมกว้างกว่าเลนส์ EF11-24mm f/4L USM ซึ่งเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM เก่งรอบด้านด้วยการมอบภาพถ่ายคุณภาพเหนือระดับและระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (Optical IS) โฉมใหม่ในตัว ด้วยน้ำหนักที่เบากว่ารุ่น EF ถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้พกพาสะดวกและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น สามารถใช้งานร่วมกับกิมบอลหรืออุปกรณ์เสริมเพื่อรังสรรค์มุมมองสไตล์ภาพยนตร์ที่สดใหม่ หรือใช้เป็นเลนส์เสริมในการถ่ายภาพระหว่างทริปเดินป่าเดินเขาแบบลุย ๆ ก็ได้เช่นกัน

“แคนนอนเข้าใจดีว่าช่างภาพต้องการช่วงโฟกัสที่หลากหลาย จึงรังสรรค์เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM มาเสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์เลนส์ซูม f/4L ซึ่งโดดเด่นด้านความทนทาน คุณภาพระดับมืออาชีพ และขนาดที่กะทัดรัดพกง่าย ช่วยให้ช่างภาพใช้งานเลนส์ในระยะนี้ได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพ” นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว

สร้างสรรค์มุมมองใหม่ด้วยเลนส์กว้างขั้นสุด

ระยะเลนส์ที่กว้างขึ้นทุก ๆ มิลลิเมตรนั้นหมายถึงความสามารถในการเก็บภาพได้กว้างขึ้นทวีคูณ โดยระยะโฟกัส 10 มม. สามารถเก็บภาพได้ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 2 เท่า ของระยะโฟกัส 14 มม. และครอบคลุม 1.4 เท่า ของระยะเลนส์ 12 มม. ซึ่งนับเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้การถ่ายภาพ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายวัตถุขนาดใหญ่ในพื้นที่แคบ

ด้วยมุมมองของเลนส์อันเป็นเอกลักษณ์ วัตถุที่อยู่ใกล้เลนส์จึงดูใหญ่และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น พื้นที่และฉากในเฟรมจะดูกว้างขวางไร้ขอบเขต นอกจากนี้ความสามารถในการซูมยังช่วยจัดเฟรมที่แคบลงได้อย่างง่ายดาย เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จึงเป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษที่เข้ามายกระดับการสร้างสรรค์ภาพอย่างแท้จริง

เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง APS-C EOS R ตัวเลนส์ยังให้ภาพแบบมุมกว้างพิเศษ โดยเก็บภาพได้เทียบเท่าระยะ 16 ถึง 32 มม. บนเลนส์ฟูลเฟรม

กะทัดรัดและทรงพลัง

โดยปกติแล้ว การจะขยายระยะเลนส์ให้กว้างขึ้นโดยยังรักษาค่ารูรับแสงกว้างและประสิทธิภาพอันทรงพลังไว้มักจะส่งผลให้เลนส์มีน้ำหนักมากขึ้น แต่ RF10-20mm f/4L IS STM สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยน้ำหนักที่เบาลงอย่างมากอยู่ที่ประมาณ 570 กรัม ซึ่งเบากว่า EF11-24mm f/4L USM ถึง 600 กรัม แม้ว่าจะมีระบบ Optical IS เสริมในตัวก็ตาม แถมยังมีขนาดใกล้เคียงกับเลนส์ f/4L ทั้ง 3 รุ่นในท้องตลาด จึงทำให้พกพาสะดวกและเหมาะในการถือกล้องถ่ายหรือใช้ร่วมกับกิมบอล

ชัดเจนทุกรายละเอียดพร้อมขอบภาพที่คมชัดกว่าเคย

RF10-20mm f/4L IS STM เป็นเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษตัวแรกของแคนนอนที่มีระยะเลนส์ต่ำกว่า 13 มม. มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (Optical IS) ผู้ใช้จึงสามารถถือกล้องถ่ายภาพแบบเปิดรูรับแสงนาน (Long Exposure) ได้อย่างง่ายดาย เพราะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวถึง 5 สต็อป (6 สต็อป ในกล้องที่รองรับระบบ Coordinated Control IS) นอกจากนี้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลยังทำงานควบคู่กับระบบ Movie Digital IS เพื่อให้เกิดการป้องกันภาพสั่นไหวระหว่างการถ่ายวิดีโอ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าฟุตเทจจากการถือกล้องถ่ายจะราบรื่นแม้ในขณะเดิน

RF10-20mm f/4L IS STM ยังรองรับระบบ Peripheral Coordinated Control[2] โฉมใหม่ ซึ่งแก้ปัญหาขอบภาพเบลอที่มักเกิดกับเลนส์มุมกว้างพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยลดการบิดเบือนของภาพเมื่อมีการตั้งค่าเลนส์และตัวกล้องอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังลดความคลาดเคลื่อนสีตลอดทุกช่วงการซูม ส่งผลให้ได้รูปถ่ายที่สวยงามโดดเด่นไม่แพ้เลนส์ระดับมาสเตอร์พีซอย่าง EF11-24mm f/4L USM

ไม่พลาดทุกโมเมนต์ด้วยระบบออโต้โฟกัสฉับไว

ระบบโฟกัสของเลนส์ ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ STM และเลนส์โฟกัส ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AF จึงมอบการโฟกัสที่รวดเร็วระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน AF ที่มีความแม่นยำสูง ราบรื่น และเงียบสนิทระหว่างการบันทึกวิดีโอ ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเลนส์ EF11-24mm f/4L USM นอกจากนี้ยังใช้เซนเซอร์ระบุตำแหน่งที่มีในเลนส์ Nano USM ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับมอเตอร์ STM ประเภท Lead Screw จะช่วยลดเวลาเริ่มต้นของกล้อง ทำให้สามารถเริ่มถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วหลังจากเปิดเครื่อง

ชูดีไซน์ล้ำสมัยและใช้งานง่าย

RF10-20mm f/4L IS STM ชูดีไซน์ที่แข็งแกร่งที่ออกแบบมาเพื่อความทนทาน ไม่ต่างจากเลนส์ซีรีส์ L อันทรงพลัง มีการเคลือบสารฟลูออรีนเพื่อป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ ด้านบนของเลนส์ RF มีวงแหวนสำหรับควบคุมค่าแสง และยังมีปุ่มฟังก์ชันแบบใหม่สำหรับกำหนดเป็นปุ่มลัดเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ที่กดง่ายด้วยนิ้วโป้งซ้าย ตัวเลนส์มาพร้อมกับตัวยึดฟิลเตอร์เจลาตินด้านหลังสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์ชนิดต่าง ๆ

คุณสมบัติผลิตภัณฑ์

[1] ในบรรดาเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้ทั้งหมดสำหรับกล้องที่รองรับเซนเซอร์ฟูลเฟรม 35 มม. (ไม่รวมเลนส์ฟิชอาย) ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2023 อ้างอิงจากการวิจัยของแคนนอน
[2] มีเฉพาะในกล้อง EOS R5 ที่อัปเดตเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1.9.0 ขึ้นไป โดยต้องปิดฟังก์ชัน Movie Digital IS เพื่อใช้งาน