กล้องดิจิทัลตัวแรก กับบทเรียนความล้มเหลวจากความลังเลของ Kodak

กล้องดิจิทัลตัวแรก กับบทเรียนความล้มเหลวจากความลังเลของ โกดัก (Kodak)​ ที่กำอนาคตของวงการถ่ายภาพไว้ในมือ แต่กลับเลือกที่จะไม่ลงมือสานต่อ

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1975 “Steven Sasson” วิศวกรของ โกดัก (Kodak)​ ได้สร้าง “กล้องดิจิทัล” ตัวแรก ที่จุดประกายการปฏิวัติวงการถ่ายภาพขึ้นมาอย่างเงียบๆ ด้วยชิ้นส่วนของกล้องถ่ายภาพยนตร์ Super 8, วงจรไฟฟ้าดิจิทัล ใช้เทปคาสเซ็ตต์สำหรับเก็บข้อมูล ในเบื้องต้นสามารถถ่ายภาพขาวดำความละเอียด 0.01 ล้านพิกเซล โดยใช้เวลาในการประมวลผล และบันทึกลงบนเทปคาสเซ็ตต์ด้วยเวลา 23 วินาที ตัวกล้องมีขนาดใหญ่และหนักถึง 3.6 กิโลกรัม

Steven Sasson นำสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวนี้ไปนำเสนอต่อผู้บริหารของโกดัก แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ด้วยเหตุผลที่ว่า โกดัก ครองตลาดการถ่ายภาพมานานหลายสิบปี มีส่วนแบ่งการตลาดของฟิล์มถ่ายรูปและภาพพิมพ์ที่มีมูลค่ามหาศาล ในเวลานั้นผู้บริหารมองว่า กล้องดิจิทัล เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อธุรกิจที่ดำเนินอยู่ แม้ว่าในปี ค.ศ. 1978 ทางโกดักได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการจดสิทธิบัตรที่ถูกเก็บไว้ ไม่มีการนำมาต่อยอดเพื่อนำไปใช้งานจริง ทิ้งโอกาสการเป็นผู้นำจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการถ่ายภาพในอนาคตที่มีมูลค่าสูงมากโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเข้าสู่ยุคทศวรรษ ค.ศ. 1990’s บริษัทผู้ผลิตกล้องรายใหญ่ๆอย่าง Sony, Canon และ Nikon เริ่มหันมาสู่เทคโนโลยีการถ่ายภาพดิจิทัลอย่างจริงจัง และในเวลาไม่กี่ปีกล้องดิจิตัลก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการถ่ายภาพ ผู้ผลิตรายอื่นๆต่างก้าวเข้าสู่การถ่ายภาพแบบดิจิทัล และ โกดัก เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้สถานการณ์ของโกดักดีขึ้นได้

ต่อมาในปี 2012 โกดักยื่นขอล้มละลาย วงการถ่ายภาพเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ทั้งกล้องดิจิทัล สมาร์ตโฟน ฯ ก็ได้เข้ามาแทนที่กล้องใช้ฟิล์ม แทบทุกบริษัทหยุดพัฒนา หยุดผลิตกล้องฟิล์ม ฟิล์มถ่ายรูปหลายตัวหายไปจากตลาด และมีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว

เป็นที่น่าเสียดายสำหรับ โกดัก ที่มีบทเรียนจากความลังเล และการตัดสินใจผิดพลาด แม้จะเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคตของการถ่ายภาพอยู่ในมือ แต่กลับเลือกที่จะไม่ลงมือทำ

ที่มา : CamGeek PH