ในยุคที่เทคโนโลยีการถ่ายภาพพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การเลือกกล้องถ่ายรูปสักตัวอาจทำให้นักถ่ายภาพมือใหม่หลายคน มีความสงสัยไม่น้อย เกี่ยวกับ กล้อง DSLR และ กล้อง Mirrorless ซึ่งทั้งสองต่างก็มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกัน แล้วมือใหม่อย่างเราควรจะรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับกล้องทั้งสองประเภทนี้ หากมีโอกาสได้ใช้งานกล้องทั้งสองประเภท บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของกล้องทั้งสองประเภทนี้คร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางให้มือใหม่ทุกคนเข้าใจกล้องทั้งสองแบบมากขึ้น
ความเหมือนระหว่างกล้อง Mirrorless และ DSLR
คุณภาพของภาพถ่าย : ทั้ง Mirrorless และ DSLR สามารถให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า กล้องรุ่นไหนใช้เซ็นเซอร์แบบใด รวมไปถึงการเลือกใช้เลนส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกรดของเลนส์ ระยะ และคุณภาพอื่นๆ ในเลนส์แต่ละตัวด้วย หากใช้เซ็นเซอร์และเลนส์แบบเดียวกัน คุณภาพของภาพที่มีการตั้งค่ากล้องในการถ่ายเหมือนกัน ก็ให้ภาพที่แทบไม่ต่างกัน
ภาพโดย : Brunox from Pixabay
การควบคุม : มีโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลาย (เช่น Manual, Aperture Priority, Shutter Priority, Program) และสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ละเอียดคล้ายๆ กัน แต่ในกล้อง mirrorless อาจมีฟังก์ชันบางอย่างที่ต่างออกไป
การเปลี่ยนเลนส์ : สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้
เซ็นเซอร์รับภาพ : มีขนาดเซ็นเซอร์ที่หลากหลายให้เลือก เช่น APS-C, Full-Frame
การเชื่อมต่อ : มักมี Wi-Fi และ Bluetooth ในตัวเพื่อการเชื่อมต่อและถ่ายโอนข้อมูล
ขอบคุณภาพจาก : https://www.nikon.co.th/mirrorless-z6iii
ข้อดีและข้อเสียของกล้อง Mirrorless
ข้อดี:
ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา : พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเดินทางและถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ในหมู่ช่างภาพอาชีพเอง ความที่กล้องมีน้ำหนักเบาลงก็ช่วยให้การทำงานสบายยิ่งขึ้น
ภาพโดย : Al Barizi from Pixabay
ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) : แสดงภาพแบบเรียลไทม์ พร้อมแสดงค่าการตั้งค่า ทำให้เห็นผลลัพธ์ก่อนถ่ายจริง มีประโยชน์มากในสภาพแสงต่างๆ และการถ่ายวิดีโอ ซึ่งในข้อดีข้อนี้นับว่าเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะกับช่างภาพรุ่นใหม่ๆ ที่ค่อนข้างมีปัญหากับการวัดแสงแล้วต้องปรับตั้งค่ากล้องให้ถ่ายภาพออกมาแล้วแสงพอดี ซึ่งแอดมินเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เรียกได้ว่า ถ่ายไปสามภาพถึงจะปรับได้ค่าแสงที่พอดีมาหนึ่งภาพ ซึ่งในบางสถานการณ์อาจทำให้เราหมดโอกาสได้ภาพเลยก็ว่าได้ครับ
ขอบคุณภาพจาก : https://www.nikon.co.th/mirrorless-z6iii
ระบบโฟกัสที่ทันสมัย : มักมีจุดโฟกัสจำนวนมาก ครอบคลุมพื้นที่กว้าง และมีเทคโนโลยีโฟกัสที่ล้ำสมัย เช่น Eye AF หรือการโฟกัสที่รวดเร็วมากขึ้นก็เป็นข้อดีของกล้อง Mirrorless เช่นกัน
ขอบคุณภาพจาก : https://onlinemanual.nikonimglib.com/zf/en/focus_guid-c17f653e-5bfd-dc34-6d1b-f69cdc52caa7_25.html
การถ่ายวิดีโอที่ดีกว่า : หลายรุ่นมีฟีเจอร์วิดีโอขั้นสูง เช่น ความละเอียด 4K, Log profile, และระบบกันสั่นในตัว
ขอบคุณภาพจาก : https://snapshot.canon-asia.com/article/eng/videography-basics-7-fundamental-camera-settings-to-check-and-set
การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง : โดยเฉพาะการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง และยังไม่มีเสียงดังของกระจกอีกด้วย ซึ่งเหมาะมากกับการถ่ายภาพแอคชั่นที่ต้องการเก็บภาพทุกสถานการณ์
ดีไซน์ทันสมัย : มักมีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของผู้ใช้ครับ แต่โดยส่วนมาก มักจะออกแบบให้ทันสมัย แม้จะมีบางรุ่นที่เน้นการออกแบบให้ออกมาคล้ายกล้องรุ่นเก่าๆ ที่ยังคงความคลาสสิกอยู่
ภาพโดย : Cristhian Adame from Pixabay
ข้อเสีย:
อายุแบตเตอรี่สั้นกว่า : การใช้พลังงานในการแสดงผลบน EVF และ LCD ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่า ซึ่งผมเคยเทียบแบตฯ รุ่นเดียวกันที่สามารถใช้ได้ทั้งกล้อง Mirrorless และ Dslr ผลที่ได้ค่อนข้างชัดเจนว่าแบตฯ ที่ใช้กับ Mirrorless หมดก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ภาพโดย : René Bittner from Pixabay
จำนวนเลนส์ยังมีให้เลือกไม่หลากหลาย : โดยเฉพาะเลนส์สำหรับเมาท์ใหม่ๆ อาจยังมีตัวเลือกไม่มากเท่า DSLR รุ่นเก่า แต่ในหลายๆ ค่ายก็กำลังพัฒนาและมีออกเลนส์ตัวใหม่มาเรื่อยๆ ครับ หรือในบางค่ายก็มี Adaptor สำหรับแปลงเลนส์ Dslr มาใช้กับกล้อง Mirrorless ได้ครับ
ราคา : กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีสูง มักมีราคาสูงกว่า DSLR ในระดับเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรครับ เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้ช่างภาพทำงานได้ง่ายมากขึ้น ความต้องการเทคโนโลยีที่ดีขึ้นย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
ภาพโดย : Qamera from Pixabay
ความรู้สึกในการจับถือ : บางคนอาจไม่คุ้นเคยกับขนาดที่เล็กกว่า และชอบความรู้สึกที่มั่นคงของกล้อง DSLR ที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่อุปกรณ์ช่วยอย่างกริปเสริมในหลายๆ รุ่นก็สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ หรือ ในกล้องรุ่นใหม่ๆ มักจะออกแบบให้บริเวณกริปมีขนาดที่เหมาะกับการจับถือมากขึ้น
ภาพโดย : Kiều Trường from Pixabay
ข้อดีและข้อเสียของกล้อง DSLR
ข้อดี:
อายุแบตเตอรี่ยาวนาน : ช่องมองภาพแบบออปติคอลไม่ใช้พลังงาน ทำให้ถ่ายภาพได้จำนวนมากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ภาพโดย : Kiều Trường from Pixabay
ช่องมองภาพแบบออปติคอล (OVF) : ให้ภาพที่คมชัด เป็นธรรมชาติ และไม่มีอาการหน่วง ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับการมองภาพด้วยตาจริงๆ
จำนวนเลนส์หลากหลาย : มีเลนส์ให้เลือกใช้งานมากมาย โดยเฉพาะจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีระบบเลนส์มาอย่างยาวนาน ซึ่งข้อนี้เป็นที่รู้กันดีครับ เพราะ Dslr พัฒนามาอย่างยาวนาน และยังใช้เลนส์กับกล้องฟิล์มหลายๆ ตัวได้อีกด้วย
ภาพโดย : Jozef Petrencik from Pixabay
ความรู้สึกในการจับถือที่ดี : ด้วยขนาดที่ใหญ่และมีกริปที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้ ทำให้การจับถือได้ถนัด มั่นคง เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นเวลานาน ไม่เมื่อยอีกด้วยครับ
ภาพโดย : ames Kim from Pixabay
ราคา (บางรุ่น) : กล้อง DSLR ระดับเริ่มต้นและรุ่นเก่าบางรุ่นอาจมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า Mirrorless ในสเปคที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในตลาดกล้องมือสองจะเห็นได้ชัดมากๆ
ข้อเสีย:
ขนาดใหญ่และหนัก : พกพาไม่สะดวก โดยเฉพาะเมื่อต้องพกเลนส์หลายตัว หรือในการถ่ายภาพในบางสถานการณ์ถือว่าเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
ภาพโดย : Karolina Grabowska from Pixabay
ระบบโฟกัสอาจล้าสมัยกว่า : ในบางรุ่น ระบบโฟกัสอาจมีจุดโฟกัสจำกัด และความเร็วอาจไม่เท่า Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ในการถ่ายภาพทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการความเร็วอะไรมากมายก็ยังถือว่าไม่ใช้ข้อเสียเท่าไหร่นัก แต่ในบางสถานการณ์ที่ต้องใช้ความเร็วจริงๆ นับว่าเป็นข้อเสียหลักที่ควรนำมาคิดเมื่อต้องการอยากจะซื้อกล้องเลยครับ
ไม่มีการแสดงผลภาพแบบเรียลไทม์ : ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ของการตั้งค่าต่างๆ ในช่องมองภาพก่อนถ่าย ยกเว้นในกล้องบางตัวที่มีโหมด Live View ซึ่งก็อาจช้าและใช้พลังงานมากขึ้น และประสิทธิภาพในการใช้งานก็อาจจะเทียบกับกล้อง Mirrorless ไม่ได้ และความสะดวกในการใช้งานออาจจะน้อยกว่าด้วย
การถ่ายวิดีโออาจไม่ทันสมัย : ฟีเจอร์วิดีโออาจไม่หลากหลายเท่ากล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ
ภาพโดย : yrcca from Pixabay
มีเสียงดังของกระจก: การยกและลดกระจกขณะถ่ายภาพทำให้เกิดเสียงดัง และอาจมีผลต่อความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง และยังส่งผลต้องการถ่ายภาพในบางสถานการณ์ด้วย เช่น การถ่ายภาพสัตว์ป่า ที่ต้องใช้ความเงียบให้มากที่สุดอีกด้วย
แอดฯ พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่า การเลือกระหว่างกล้อง Mirrorless และ DSLR ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความชำนาญ และสไตล์การถ่ายภาพของคุณ หากคุณต้องการกล้องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เทคโนโลยีทันสมัย และเน้นการถ่ายวิดีโอ กล้อง Mirrorless อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับอายุแบตเตอรี่ ช่องมองภาพแบบออปติคอล และมีเลนส์ให้เลือกมากมาย กล้อง DSLR ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การพัฒนากล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพก็จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ การอัพเดทเทคโนโลยีการถ่ายภาพสม่ำเสมอก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่าดีเยี่ยมครับ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณนะครับ
Leave feedback about this