NEWS

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III และเลนส์ไพรม์ RF 45mm f/1.2 STM ตอบโจทย์ทุกจินตนาการ ด้วยศักยภาพเหนือชั้นเพื่อช่างภาพตัวจริง

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III และเลนส์ไพรม์ RF45mm f/1.2 STM ตอบโจทย์ทุกจินตนาการ ด้วยศักยภาพเหนือชั้นเพื่อช่างภาพตัวจริง

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซลบันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

กรุงเทพฯ 6 พฤศจิกายน 2568 – แคนนอน (Canon) เปิดตัวสมาชิกล่าสุดในตระกูล EOS R ด้วยผลิตภัณฑ์กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นใหม่ “EOS R6 Mark III” และเลนส์ไพรม์รูรับแสงกว้าง “RF45mm f/1.2 STM” ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพและช่างภาพที่ต้องการยกระดับผลงานแบบมืออาชีพ

EOS R6 Mark III สานต่อความสำเร็จจากรุ่น EOS R6 Mark II (ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2566) โดยอัปเกรดความละเอียดสูงขึ้นเป็น 32.5 ล้านพิกเซล พร้อมการทำงานที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพ และคุณภาพที่มั่นใจได้มากกว่าเดิม พร้อมผสานฟีเจอร์การถ่ายงานวิดีโอขั้นสูงเพื่อรองรับเวิร์กโฟลว์ระดับมืออาชีพเต็มรูปแบบ

พร้อมปล่อยหมัดเด็ดเลนส์ไพรม์สำหรับถ่ายภาพบุคคล RF 45mm f/1.2 STM เป็นเลนส์ไพรม์รูรับแสงกว้างที่สุดของซีรีส์ RF ในราคาที่เข้าถึงง่าย ทางยาวโฟกัสที่ 45 มม. เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องฟูลเฟรม และเมื่อใช้กับกล้องเซนเซอร์ APS-C อย่างรุ่น EOS R50 จะให้มุมมองเทียบเท่าระยะ 72 มม. ซึ่งเหมาะสมกับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงาม

นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัว EOS R6 Mark III ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ซีรีส์ EOS R ‘6’ ก้าวสู่เจเนอเรชันที่สามอย่างเต็มตัว โดยกล้องรุ่นนี้สืบทอดดีเอ็นเอของซีรีส์เอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีภาพนิ่งและวิดีโอใหม่ล่าสุดของแคนนอน เพื่อสร้างเครื่องมือถ่ายทอดเรื่องราวอันทรงพลังและมอบความยืดหยุ่นในการทำงานมากที่สุด”


อัปเกรดความละเอียดพร้อมความเร็วในการทำงาน

ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล EOS R6 Mark III มอบรายละเอียดที่คมชัดและยืดหยุ่นต่อการครอปภาพมากขึ้น และเหมาะอย่างยิ่งเมื่อต้องถ่ายภาพวัตถุระยะไกลเพื่อนำมาครอปให้ใกล้ขึ้น

EOS R6 Mark III สามารถถ่ายภาพได้ราว 150 ภาพ เมื่อใช้งานโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง ความเร็วสูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) และแม้ในขณะประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาล กล้องก็ยังสามารถรักษาอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงไว้ได้สูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) และสูงสุด 12 เฟรมต่อวินาที (แบบผสมทั้งชัตเตอร์กลไก/ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)

ไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญ

EOS R6 Mark III มาพร้อมฟีเจอร์ Pre-Continuous Shooting ที่ใช้งานง่าย บันทึกภาพต่อเนื่องได้ล่วงหน้าสูงสุด 20 เฟรม ก่อนกดชัตเตอร์ลงสุด รองรับไฟล์ภาพนิ่งทุกรูปแบบ ทั้ง RAW, C-RAW และ HEIF และโฟกัสอัตโนมัติทุกโหมด โดยสามารถเลือกเฟรมไปปรับแต่งต่อได้เหมือนไฟล์ภาพทั่วไป

อัลกอริทึมระบบออโต้โฟกัสรุ่นปรับปรุงใหม่ ช่วยให้ติดตามวัตถุได้แม่นยำกว่าเดิม เพิ่มโอกาสในการถ่ายวัตถุยาก ๆ ได้มากขึ้นและลดภาระงานหลังการถ่ายทำ นอกจากนี้ยังติดตั้งฟังก์ชัน Register People Priority จากรุ่นเรือธง EOS R1 ช่วยให้กล้องสามารถจดจำตัวบุคคลที่กำหนดไว้ ทำให้จับภาพและติดตามได้อย่างเหนียวแน่นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เหมาะกับการถ่ายบุคคลในกลุ่มคนจำนวนมาก ทั้งในงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต หรือกีฬาที่เล่นเป็นทีม

การพัฒนางานวิดีโอแบบก้าวกระโดด

EOS R6 Mark III เพิ่มตัวเลือกการบันทึกวิดีโอและการตัดต่อให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลาย โดยรองรับการบันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p จากตัวเครื่องไปยังการ์ด CFexpress Type B และยังเป็นกล้องตระกูล EOS R รุ่นแรกที่รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ Open Gate ในอัตราส่วน 3:2 (สูงสุด 7K 30p RAW)

ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในขั้นตอนการตัดต่อเมื่อต้องการจัดกรอบภาพใหม่ โดยเฉพาะเมื่อต้องการสร้างวิดีโอแนวนอนและแนวตั้งจากฟุตเทจเดียวกัน ในระหว่างการบันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p ยังสามารถบันทึกไฟล์พร็อกซีขนาดเล็กแบบ MP4 หรือไฟล์ 4K DCI Fine MP4 สำรองลงการ์ด SD พร้อมกันได้

กล้องรุ่นนี้สามารถบันทึกไฟล์ได้หลายรูปแบบมากขึ้น โดยเพิ่ม Internal RAW, Canon Log 2, และ HLG Gamma เสริมจาก Canon Log 3 และ HDR PQ ที่มีอยู่เดิม พร้อมรองรับ Custom Picture (CP) แบบเดียวกับกล้องตระกูล Cinema EOS รวมถึง Custom LUTs เพื่อกำหนดตัวเลือกการถ่ายอย่าง gamma, colour sampling และ bit depth ให้เหมาะกับเวิร์กโฟลว์และความต้องการที่แตกต่างกัน ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดโปรไฟล์สี LUT ได้ฟรี จากเว็บไซต์ Canon LUT Library (https://color.ssw.imaging-saas.canon) นอกจากนี้ ยังสามารถอิมพอร์ตไฟล์ LUT ใส่กล้องผ่านทางแอปพลิเคชัน Camera Connect หรือผ่านสื่อบันทึกอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

EOS R6 Mark III รองรับการวัดแสงแบบ Waveform Monitor พร้อม False Color และ Zebra เพื่อช่วยเช็กและตั้งค่ารูรับแสงที่แม่นยำได้ตั้งแต่แรกเช่นเดียวกับรุ่น EOS R5 Mark II โดยฟีเจอร์ใหม่อย่าง AWB Response และ Shockless WB ยังช่วยให้การเปลี่ยนสมดุลแสงขาวระหว่างถ่ายวิดีโอ สามารถทำได้อย่างเนียนตา ไม่ว่าจะใช้โหมดปรับสมดุลแสงขาวอัตโนมัติหรือปรับเองก็ตาม

ในระหว่างการบันทึกวิดีโอยังสามารถเลือกโทนสีอัตโนมัติ Color Filters ได้ถึง 14 แบบ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อการจบงานได้อย่างรวดเร็ว หรือพรีวิวผลงานไฟนอลได้อย่างฉับไว นอกจากนี้ ยังมีโหมด S&F ที่บันทึกวิดีโอ 4K แบบเร่งเวลาได้สูงสุด 60 เท่า และสโลว์โมชันได้สูงสุด 5 เท่า (ความละเอียด 4K) หรือ 7.5 เท่า (ความละเอียด 2K DCI)

การออกแบบบอดี้ที่ล้ำสมัย

EOS R6 Mark III ยังคงมอบสัมผัสการใช้งานพื้นฐานที่เรียบง่าย รวมถึงความทนทานและการออกแบบตัวเครื่องที่ไว้ใจได้ในสไตล์ EOS R6 Mark II พร้อมการปรับแต่งปุ่มให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและปรับรูปทรงให้เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อการถ่ายแนวตั้งที่สะดวกขึ้น ใช้แบตเตอรี่รุ่น LP-E6P และยังรองรับอุปกรณ์เสริม แบตเตอรีกริปรุ่น BG-R20/BG-R20EP ที่ใส่แบตได้ถึงสองก้อน ช่วยยืดเวลาการถ่ายภาพและเพิ่มความถนัดในการจับกล้องถ่ายแนวตั้งได้มากกว่าเดิม

เข้าถึงประสิทธิภาพเลนส์ระดับ f/1.2

ด้วยความเป็นเลนส์ f/1.2 รุ่นแรกในคลาสนี้ของแคนนอน ทำให้ RF45mm f/1.2 STM มีจุดเด่นที่ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และโบเก้ละลายพื้นหลังได้สวย พร้อมความยืดหยุ่นในการถ่ายในที่แสงน้อยและระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เงียบ โดยทางยาวโฟกัส 45 มม. ยังให้มุมมองที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถขยับจากภาพมุมกว้างมาสู่ระยะคลอสอัพได้อย่างง่ายดายในแค่ก้าวเดียว

เมื่อใช้ร่วมกับกล้องเซนเซอร์ APS-C เลนส์นี้ให้มุมมองเทียบเท่าระยะ 72 มม. เหมาะกับการถ่ายพอร์ตเทรต คลอสอัพวัตถุ และภาพแนวสตรีต พร้อมการทำโบเก้ของ f/1.2 ยังช่วยกำหนดกรอบภาพเพื่อบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างชัดเจน และเมื่อหรี่รูรับแสงถึง f/8 ก็จะมอบความคมชัดจรดขอบภาพทุกด้านด้วยมาตรฐานระดับมืออาชีพ

เลนส์ RF45mm f/1.2 STM มีน้ำหนักประมาณ 346 กรัม ถือเป็นเลนส์ f/1.2 ขนาดเล็กที่สุดทั้งในตระกูล EF และ RF ซึ่งเกิดจากการประยุกต์ใช้ชิ้นเลนส์ PMo (plastic molded) aspherical อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานมอร์เตอร์ขับเคลื่อนชิ้นเลนส์ STM แบบเฟือง พร้อมฟังก์ชันการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์แบบดิจิทัล (Digital Lens Correction)

นอกจากนี้ บอดี้ที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบาถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้ร่วมกับกล้องฟูลเฟรมอย่าง EOS R6 Mark III และกล้องเซนเซอร์แบบ APS-C ขนาดเล็กอย่าง EOS R50 เพื่อการใช้งานที่มีความคล่องตัวสูง

ประสิทธิภาพทรงพลังพร้อมความคุ้มค่า

ทั้ง EOS R6 Mark III และ RF45mm f/1.2 STM มอบความคุ้มค่าในด้านประสิทธิภาพด้วยการติดตั้งฟีเจอร์ทรงพลังที่มีในกล้องระดับสูง รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.2 ของ RF45mm f/1.2 STM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเปิดรับแสงให้กับเซนเซอร์ของ EOS R6 Mark III เพื่อดึงศักยภาพของ Dual Pixel CMOS AF II ให้ทำงานในสภาพแสงน้อยได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้การตรวจจับและติดตามวัตถุในที่มืดมีความรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

เมื่อทำงานร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง EOS R6 Mark III จะทำให้เลนส์ RF45mm f/1.2 STM มอบภาพที่คมชัด ไม่สั่นไหว แม้ใช้สปีดชัตเตอร์และค่า ISO ต่ำ ทำให้สองผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ถือเป็น “คู่หูทรงพลัง” สำหรับผู้ที่ใช้งานกล้องที่กำลังมองหาความคุ้มค่าสูงสุด พร้อมสมรรถนะและความยืดหยุ่นเต็มพิกัด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://asia.canon

Leave feedback about this

  • Quality
  • Price
  • Service

PROS

+
Add Field

CONS

+
Add Field
Choose Image
Choose Video