แคนนอน เปิดตัว RF200-800mm f/6.3-9 IS USM เลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นแรกของโลก

ปฏิวัติวงการด้วยเลนส์ RF นอกกลุ่มลักซ์ชัวรีโปรดักต์รุ่นแรกที่มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นพร้อมระยะซูมสูงสุด 800mm (หรือ 1600mm เมื่อใช้กับ Teleconverter)

กรุงเทพฯ 7 พฤศจิกายน 2566 – แคนนอน (Canon) ประกาศเปิดตัวเลนส์ RF200-800mm f/6.3-9 IS USM เลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้ตัวแรก[1] ที่ซูมได้ไกลสุดถึง 800 มม. มอบความสามารถเหนือกว่าเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ 600 มม. ทั่วไปในตลาด เพราะเป็นเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นแรกของโลกที่ใช้กับกล้องฟูลเฟรม1 แต่มีขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก พร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น มอบคุณภาพของภาพถ่ายขั้นสูงตลอดระยะซูมทุกช่วง พร้อมนำเสนอในระดับราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

“แคนนอนมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของช่างภาพด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเลนส์รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับช่างภาพถ่ายสัตว์ป่า กีฬากลางแจ้ง และการถ่ายวัตถุระยะไกลซึ่งต้องการทั้งความยืดหยุ่นในการซูม คุณภาพของภาพถ่ายที่เหนือชั้น และความทนทานขั้นสูง ในขณะเดียวกันก็มีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น” นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว

ครั้งแรกกับเลนส์ซูมที่ยืดหยุ่นสูงครอบคลุมระยะ 200-800mm

แคนนอนเคยวางจำหน่ายเลนส์ไพรม์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ราคาจับต้องได้อย่าง RF800mm f/11 IS STM แต่เลนส์รุ่น RF200-800mm f/6.3-9 IS USM นี้มาพร้อมฟังก์ชันการซูมที่ครอบคลุมช่วงโฟกัสกว้างมาก ซึ่งตามปกติต้องใช้เลนส์เทเลโฟโต้ถึง 3 ตัวจึงจะสามารถเข้าใกล้วัตถุได้มากในระดับนี้ ไม่ว่าจะเป็นนกที่บินอยู่ในระยะไกลหรือนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตในช่วงเวลาการขับเคี่ยวในสนามแข่งขัน ช่วงโฟกัสแบบอเนกประสงค์ตั้งแต่ 200-800mm (หรือ 320-1280mm ในกล้อง APS-C)  จะช่วยให้ช่างภาพสามารถถ่ายวัตถุเดียวกันทั้งแบบโคลสอัปและมุมกว้างได้อย่างง่ายดายโดยไม่ถูกจำกัดด้วยระยะโฟกัสหรือพลาดช่วงเวลาสำคัญเพราะมัวเปลี่ยนชุดเลนส์ และเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ RF Extender 2x จะครอบคลุมระยะถึง 1600mm (2560mm ในกล้อง APS-C) ซึ่งมากพอแม้แต่การถ่ายภาพโคลสอัปพระจันทร์ให้สวยงามอย่างน่าทึ่ง

ถือถ่ายได้สบายด้วยน้ำหนักเบา พกพาง่าย พร้อมกันสั่นในเลนส์ถึง 5.5 สต็อป

แม้มีช่วงการซูมกว้างที่น่าประทับใจ แต่เลนส์ RF200-800mm f/6.3-9 IS USM กลับมีน้ำหนักเบาเพียง 2,050 กรัม ความยาว 314.1 มม. นับว่ามีขนาดและน้ำหนักใหล้เคียงกับเลนส์ระยะ 600mm ส่วนใหญ่ในตลาด คุณสมบัติความกะทัดรัดนี้ทำให้ง่ายต่อการแพนกล้องติดตามและจับภาพวัตถุเคลื่อนไหวเมื่อต้องถือกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลในชิ้นเลนส์สูงสุดถึง 5.5 สต็อปยังช่วยลดการสั่นไหวของกล้อง ซึ่งทำงานเมื่อใช้ระยะโฟกัสยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้ภาพที่สวยคมชัดแม้ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/20 วินาที และอยู่ที่ระยะเทเลสูงสุด 800mm

ตอบโจทย์ภาพแอ็กชันด้วยระบบออโต้โฟกัสความเร็วสูงและฟังก์ชันใช้งานง่าย

เลนส์ RF200-800mm f/6.3-9 IS USM พัฒนาขึ้นเพื่อจับภาพที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ขับเคลื่อนด้วย Nano USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิก) อันทรงพลัง ทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และด้วยคุณสมบัติการจับโฟกัสที่รวดเร็ว แม่นยำ ต่อเนื่องและทำงานเงียบ จึงเหมาะทั้งสำหรับการถ่ายวิดีโอและภาพนิ่ง ทั้งยังรองรับระบบ Focus Breathing Correction (ระบบลดความผันผวนของมุมมองเมื่อเปลี่ยนโฟกัส)

ชุดเลนส์ถูกออกแบบมาให้ควบคุมได้ง่ายและฉับไว ซึ่งนอกส่วนวงแหวนโฟกัส/ควบคุมที่ปรับแต่งได้ ยังมาพร้อมปุ่มฟังก์ชั่นเลนส์ 2 ปุ่มที่สามารถเปลี่ยนเป็นปุ่มลัดเข้าฟังก์ชันต่างๆ เช่น ออโต้โฟกัส (AF) หรือการควบคุมรูรับแสง

มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นเพื่อการทำงานที่สมบุกสมบันได้มากขึ้น

เลนส์ RF200-800mm f/6.3-9 IS USM มอบคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นเช่นเดียวกับเลนส์กลุ่มลักซ์ชัวรี เพื่อให้ทนทานสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง[2] พร้อมเคลือบผิวสีขาวเพื่อลดการดูดซับความร้อนและการสะสมอุณหภูมิภายในชิ้นเลนส์เมื่อใช้งานกลางแดด

ข้อมูลเชิงเทคนิคของ RF200-800mm f/6.3-9 IS USM

[1] ในกลุ่มเลนส์ AF แบบถอดแบบเปลี่ยนได้ สำหรับกล้องมิเรอร์เลสเซนเซอร์ฟูลเฟรมที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 (อ้างอิงจากการสำรวจภายในของแคนนอน)
[2]  ไม่รับประกันการป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าชิ้นเลนส์ได้โดยสมบูรณ์