ฟูจิฟิล์ม เปิดตัว instax mini Link 3 สมาร์ตโฟนปรินเตอร์ที่มาพร้อมลูกเล่นสนุกๆ อย่าง instax AiR Studio และ Click to Collage
พร้อมปล่อยเซอร์ไพรส์ฉลอง 90 ปี ด้วยการเผยโฉมกล้องลิมิเต็ดเอดิชัน “instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit”
อวดดีไซน์สีพรีเมียมและอุปกรณ์เสริมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม 2567 – บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ตโฟนปรินเตอร์รุ่นล่าสุด instax mini Link 3 ที่สามารถปรินต์ภาพจากสมาร์ตโฟนลงบนฟิล์ม instax ขนาดมินิ โดย Link 3 เป็นรุ่นที่ 3 ของซีรีส์ instax mini Link ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกชื่นชอบด้วยหลากหลายลูกเล่นที่ทำให้ความทรงจำระหว่างกลุ่มเพื่อนพิเศษกว่าเคย ตัวกล้องมาพร้อมสองฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ instax AiR Studio ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายรูปด้วยเอฟเฟกต์ AR แบบ 3 มิติลงในภาพถ่ายได้ และ Click to Collage ที่สร้างภาพปะต่อจากหลาย ๆ ช็อต เหมือนการถ่ายรูปที่โฟโต้บูธ โดยฟังก์ชันใหม่เหล่านี้ช่วยมอบช่วงเวลาสนุก ๆ ให้กลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ทำให้การถ่ายและปรินต์ภาพสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน โดยฟูจิฟิล์มจะจัดกิจกรรมพิเศษให้ผู้ที่สนใจได้มาทดลองใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้ที่ Libi Home ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม – 10 กันยายน เวลา 9.00 – 18.00 น.
ดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นใหม่วางโลโก้ instax ไว้บนลายเส้นแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ mini Link พร้อมด้วยไฟ LED สามสีบนโลโก้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเปิดเครื่อง สะท้อนความสนุกสนานตามแบบฉบับของ Link 3 ได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องของ Link 3 มาใน 3 สีสันที่เข้ากับยุคสมัย ได้แก่ สีขาว CLAY WHITE, สีชมพู ROSE PINK และสีเขียว SAGE GREEN ตอบโจทย์ความชอบและสะท้อนตัวตนของผู้ใช้แต่ละคน
นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์ม ยังประกาศวางจำหน่ายฟิล์มขนาดมินิรุ่นใหม่ “SPRINKLES” ที่จะเพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายภาพด้วยดีไซน์สีสันสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายเม็ดน้ำตาลตกแต่งขนมหลากสีสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเอฟเฟกต์ AR ใน instax AiR Studio อีกด้วย
คุณสมบัติหลักของ instax mini Link 3
(1) ปรินต์ภาพนิ่งหรือช็อตจากวิดีโอได้อย่างสะดวก
ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปภาพที่เก็บไว้ในสมาร์ตโฟนก่อนจะปรินต์ออกมาได้สะดวกสบายผ่านแอปที่ใช้งานง่าย จะเพิ่มหรือลดขนาด หมุนภาพ ใส่ฟิลเตอร์ หรือปรับความสว่างก็ทำได้ดั่งใจ นอกจากนี้ยังใช้แอปเพื่อนำเข้าและแก้ไขวิดีโอในสมาร์ตโฟนได้ หรือจะเลื่อนดูเฟรมวิดีโอเพื่อเลือกปรินต์ช็อตที่ดีที่สุดได้เช่นกัน
(2) ตกแต่งรูปถ่ายด้วยเอฟเฟกต์ AR สามมิติ ผ่านฟังก์ชัน instax AiR Studio
– ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ผสมผสานเอฟเฟกต์ AR แบบสามมิติได้ตามต้องการเพื่อตกแต่งรูปผ่านฟีเจอร์ instax AiR Studio และสนุกกับการถ่ายภาพ วิดีโอ รวมถึงภาพปะต่อ
– มีเอฟเฟกต์ AR ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ “Back” สำหรับสร้างฉากหลัง “Decor” สำหรับตกแต่งบริเวณรอบ ๆ และ “Effect” สำหรับสร้างภาพถ่ายที่โดนใจด้วยเอฟเฟกต์ AR ที่เคลื่อนไหวได้ จะเลือกใช้เอฟเฟกต์ AR เพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานหลาย ๆ อย่างเพื่อตกแต่งก็ทำได้ตามใจ
– ฟังก์ชัน Remote Live View ช่วยให้ผู้ใช้แชร์ภาพจากกล้องกับคนอื่น โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ตโฟนอีกเครื่องจะเป็นการแชร์วิดีโอแบบเรียลไทม์กับคนที่อยู่ในเฟรม พร้อมกับดูเอฟเฟกต์ AR ไปด้วยได้
(3) เสกภาพที่ถ่ายให้เป็นสไตล์ภาพปะต่อเหมือนถ่ายที่โฟโต้บูธด้วยฟังก์ชัน Click to Collage
– ฟีเจอร์ Click to Collage ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพปะต่อได้ผ่านแอปได้โดยสามารถเปลี่ยนท่าทางตอนถ่ายภาพได้สูงสุด 6 ภาพ และมีการนับถอยหลัง 3-2-1 แสดงบนหน้าจอในการถ่ายแต่ละรูป เป็นการเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขที่ไม่เหมือนใคร คล้ายกับการถ่ายภาพในโฟโต้บูธ
– เมื่อปรินต์ภาพปะต่อที่สร้างขึ้นด้วย Link 3 ฟีเจอร์ instax Animation จะรวมแต่ละภาพเข้าด้วยกันเป็นวิดีโอแบบ
ฟลิปบุ๊ก โดยผู้ใช้สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรินต์บนภาพ instax เพื่อดูวิดีโอ, ปรินต์รูปจากวิดีโอฟลิปบุ๊กให้กับเพื่อนและครอบครัว หรือจะกดแชร์ลงในโซเชียลมีเดียก็ทำได้
(4) สนุกกับการปรินต์ภาพไปอีกขั้นด้วย instax UP! เวอร์ชันใหม่
แอป instax UP! ได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งสามารถแปลงภาพปรินต์ instax เป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกนภาพปรินต์รวมถึงกรอบภาพ โดยยังได้โทนสีอันนุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ของ instax แอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปของ Link 3 ได้ จึงส่งภาพปรินต์ instax จากแอปไปยัง instax UP! เพื่อเก็บไฟล์ในรูปแบบดิจิทัลได้
การอัปเดตล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า instax Days ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างปฏิทินส่วนตัวด้วยการเพิ่มชื่อกิจกรรมลงในภาพปรินต์ instax ที่ถ่ายไว้ โดยสามารถจัดเรียงภาพที่สแกนไว้หรือส่งมาจากแอป Link 3 ตามวันที่ได้ ทำให้ย้อนกลับไปดูความทรงจำได้สะดวก นอกจากนี้ instax Days ยังเพิ่มความสนุกในการปรินต์ภาพ instax เพราะสามารถโพสต์ปฏิทินของตนเองไปยังโซเชียลมีเดียได้โดยตรงผ่าน instax UP! เพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ ได้
พบกับกล้อง instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit รุ่นลิมิเต็ดฉลองครบรอบ 90 ปีของฟูจิฟิล์ม
ฟูจิฟิล์มยังประกาศเปิดตัว instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit รุ่นลิมิเต็ดของ instax mini Evo (mini Evo) กล้องอินสแตนท์ระดับแฟล็กชิปในซีรีส์ instax โดยกล้องรุ่นพิเศษนี้มีวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลก เพื่อฉลองครบรอบ 90 ปีของฟูจิฟิล์ม ตัวกล้องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง TITANIUM GOLD และ สีเงิน DARK SILVER นอกจากนี้กล้องรุ่นพิเศษยังประกอบด้วยฝาปิดเลนส์ สายคล้อง และเคสกล้อง โดยดีไซน์ตัวกล้องและอุปกรณ์เสริมสีพิเศษมอบความรู้สึกพรีเมียม
mini Evo เป็นกล้องอินสแตนท์ไฮบริดที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล รองรับการใช้ฟิล์มขนาดมินิที่เปิดตัวในปี 2021 ตัวกล้องมาพร้อมรูปแบบเลนส์ 10 แบบ เช่น Soft Focus และ Light Leak รวมถึงรูปแบบฟิล์ม 10 แบบ เช่น Monochrome และ Retro ซึ่งผู้ใช้สามารถนำทั้งสองเอฟเฟกต์มาใช้ร่วมกันเพื่อถ่ายทอดภาพถ่ายได้ถึง 100 แบบ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้ได้เต็มที่ผ่านการปรินต์ภาพจากกล้อง instax นอกจากนี้ตัวกล้องยังมีดีไซน์พรีเมียมและคลาสสิก ออกแบบให้มีประสบการณ์การใช้งานแบบอนาล็อก ทั้งเลนส์มือหมุน แป้นปรับฟิล์ม และคันโยกปรินต์ ที่ให้สัมผัสและเสียงในการใช้งานแบบกล้องอนาล็อก นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายน 2023 ฟูจิฟิล์มได้เปิดตัวกล้องสีน้ำตาลใหม่มาเพิ่มนอกจากสีดำ
วันวางจำหน่ายและราคา
instax mini Link 3 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2024 ในราคา 4,490 บาท ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของฟูจิฟิล์ม ส่วนกล้อง instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลก จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ติดตามอัปเดตล่าสุดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Instax Thailand
ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับกล้อง instax ได้ทาง
- เพจเฟซบุ๊ก Instax Thailand
- IG: @instax_thailand
- Line OA: @instaxthailand
- และติดต่องานหรือธุรกิจได้ที่ [email protected]
Leave feedback about this