หนึ่งในตัวเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพสำหรับใช้งานสักตัวหนึ่ง เรื่องของความละเอียดของกล้องรุ่นนั้นๆ ก็ยังคงเป็นตัวเลือกในระดับต้นๆ เพราะถึงแม้ว่าจะได้กล้องมาในราคาที่แสนถูก แต่ความละเอียดน้อยเกินไป ก็อาจจะไม่รองรับการใช้งานได้ดีพอ อย่างการโพสต์ภาพไปบนโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ก็ไม่ได้ต้องการกล้องที่ละเอียดมากมาย เพราะยังไงก็ต้องนำไฟล์มาย่อขนาดให้พอดีกับการแสดงผลอยู่ดี แต่สำหรับการทำงานบางอย่าง เช่น รับงานถ่ายภาพสินค้า หรือจะต้องนำภาพนั้นไปพิมพ์โปสเตอร์ขนาดใหญ่ แบบนี้ จำเป็นที่จะต้องใช้กล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงเพียงพอ เพื่อจะให้ได้ภาพที่ยังคงละเอียด คมชัดนั่นเองครับ FotoinfoPlus ฉบับนี้ ว่าด้วยเรื่องของกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง ซึ่งคัดเลือกเอากล้องที่ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ไม่ยากนัก มีขนาดไฟล์ภาพที่ใหญ่กว่ากล้องตลาดทั่วๆ ไป และมีราคาค่าตัวที่จับต้องได้ ไปดูกันครับ ว่ามีรุ่นไหนบ้าง
Canon EOS 5Ds
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Fullframe
- ความละเอียด 50.6 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
- บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD
- ความไวแสง ISO 100-6400
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพต่อวินาที
- ระบบวัดแสง 150,000-Pixel RGB+IR
- ออกแบบลดแรงกระดกของกระจกสะท้อนภาพ
กล้อง DSLR ระดับมืออาชีพสำหรับช่างภาพที่ต้องการไฟล์ภาพขนาดใหญ่ มาพร้อมความละเอียด 50.6 ล้านพิกเซล ตัวกล้องออกแบบชุดกระจกสะท้อนภาพใหม่ โดยไม่ได้ใช้เป็นแบบสปริงเหมือนกล้อง DSLR รุ่นเดิมๆ เป็นแบบมอเตอร์สำหรับยกกระจก ซึ่งให้ความนิ่มนวล และช่วยลดการสั่นเวลาที่กระจกกระดกขึ้น เมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพนั่นเอง
ตัวกล้องมาพร้อมจุดโฟกัส 61 จุด และเป็นแบบ Cross-type 41 จุด ครอบคลุมการถ่ายภาพทั้งแนวนอนและแนวตั้งด้วย สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพ Full HD ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที ความไวแสงได้ปกติตั้งแต่ ISO100-6400 และปรับขยายได้เป็น ISO 50-12,800 ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 5 ภาพต่อวินาที นอกจากนี้ยังมี GPS และ Wi-Fi พร้อม NFC ในตัวอีกด้วย
EOS 5Ds เลือกปรับฟอร์แมทภาพแบบครอป 1.3 เท่า (APS-H) ได้ความละเอียด 30.5 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 6768 x 4512 พิกเซล และ 1.6 เท่า (APS-C) ความละเอียด 19.6 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 5424 x 3616 พิกเซล สำหรับการเลือกใช้งานหลายๆ รูปแบบนั่นเอง
Canon EOS 5Ds R
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Fullframe
- ความละเอียด 50.6 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
- บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD
- ความไวแสง ISO 100-6400
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพต่อวินาที
- ระบบวัดแสง 150,000-Pixel RGB+IR
- ออกแบบลดแรงกระดกของกระจกสะท้อนภาพ
เป็นคู่แฝดของ EOS 5Ds ที่แตกต่างกันตรงฟังก์ชั่น Low-pass filter effect cancellation ซึ่งจะให้ภาพที่เหมือนกับเซ็นเซอร์ที่ไม่มี Low-pass คือจะถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีขึ้น แต่เวลาเปิดชมสำหรับบางภาพนั้น อาจจะเกิด more’ ขึ้นได้ ทำให้ไม่สบายตาในการชมภาพอยู่บ้าง
ความโดดเด่นอื่นๆ ยังคงเป็นความละเอียดสูงถึง 50.6 ล้านพิกเซล และมาพร้อมวิวไฟน์เดอร์แบบ OVF ที่สว่างใส มองได้อย่างสบายตา ด้วยเทคโนโลยี Intelligent Viewfinder II ครอบคลุมการมองเห็น 100% และเช่นเดียวกับ 5Ds ที่สามารถปรับเลือกครอปภาพได้ 2 รูปแบบ คือครอป 1.3 เท่า (APS-H) ได้ความละเอียด 30.5 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 6768 x 4512 พิกเซล และ 1.6 เท่า (APS-C) ความละเอียด 19.6 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 5424 x 3616 พิกเซล
ทั้ง 5Ds และ 5Ds R ยังมาพร้อม Picture Style แบบใหม่ คือ Fine Detail ที่ช่วยปรับเพิ่มความคมชัดของไฟล์ภาพและวิดีโอ ซึ่งเลือกระดับของการปรับได้ 3 ระดับคือ Strength, Fineness และ Treshold
Fujifilm GFX 50S
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Medium Format
- ความละเอียด 51.4 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
- วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล ถอดเปลี่ยนได้
- บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD
- ความไวแสง ISO 100-12800 ปรับขยายได้สูงถึง ISO 102400
- Contrast-Detection AF System จุดโฟกัส 117 จุด
- เลือกอัตราส่วนในการบันทึกได้หลายแบบ
- ตัวบอดี้ซีลป้องกันนํ้า และฝุ่นละออง
กล้อง Mirrorless แบบ Medium Format จากค่ายฟูจิฟิล์ม ถือเป็นกล้องมีเดียมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน ทั้งระดับมืออาชีพ และ Consumer ทั่วๆ ไป ที่ต้องการไฟล์ภาพขนาดใหญ่ เพื่อนำไปใช้งานที่ต้องการถ่ายทอดรายละเอียดที่ครบถ้วน อย่างการพิมพ์โปสเตอร์ขนาดใหญ่เป็นต้น ใช้หน่วยประมวลผล X-Processor Pro ช่วยให้กล้องตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และให้ไฟล์ภาพที่ใสเคลียร์อีกด้วย
ตัวกล้องออกแบบการปรับตั้งค่าและควบคุมการใช้งานไม่แตกต่างจากกล้อง 35 มม. ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ถึงแม้ตัวกล้องจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติตามฟอร์แมทเซ็นเซอร์ขนาดกลางนั่นเอง และสามารถเลือกอัตราส่วนในการบันทึกภาพเพิ่มเติมจากปกติ 4:3 ได้หลายแบบ อาทิ 1:1, 65:24, 5:4, 7:6, 3:2 และ 16:9
ระบบโฟกัสเป็นแบบ Contrast Detection 117 จุด และสามารถปรับขยายได้เป็น 425 จุดได้ สามารถเลือกจุดโฟกัสได้ด้วย joystick ด้านหลัง หรือจะแตะเลือกที่จอมอนิเตอร์ระบบสัมผัสได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Peaking เมื่อใช้งานกับเลนส์แมนนวลโฟกัส หรือต้องการปรับหมุนโฟกัสด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้ดูจุดที่ต้องการปรับโฟกัสได้สะดวกมากขึ้นด้วย
Fujifilm GFX50R
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Medium Format
- ความละเอียด 51.4 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
- วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
- บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD
- ความไวแสง ISO 100-12800 ปรับขยายได้สูงถึง ISO 102400
- Contrast-Detection AF System จุดโฟกัส 117 จุด
- ช่องเมมโมรี่การ์ด SD 2 ช่อง
- ตัวบอดี้ซีลป้องกันนํ้า และฝุ่นละออง
กล้อง Mirrorless แบบ Medium Format ตัวที่สองของค่ายฟูจิฟิล์ม ตัวกล้องออกแบบในสไตล์กล้อง Range Finder แต่พิเศษที่สามารถปรับระดับของจอมอนิเตอร์ได้ รวมทั้งรองรับการควบคุมระบบสัมผัส ช่วยให้ปรับตั้งค่ากล้อง เลือกจุดโฟกัส หรือเปิดชมภาพ ซูมขยายภาพทำได้สะดวกมากขึ้น
ตัวกล้องตอบสนองการทำงานที่รวดเร็วจากหน่วยประมวลผล X-Processor Pro ทำให้ได้ Dynamic range กว้างถึง 14 สตอป ทำให้ถ่ายทอดรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ครบถ้วน และลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้เป็นอย่างดี ให้ไฟล์ภาพที่ใสเคลียร์ แม้จะถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูงๆ ก็ตาม โดยสามารถปรับเพิ่มความไวแสงได้สูงสุดถึง ISO 102400 เพียงพอที่จะช่วยให้ถ่ายภาพจากแสงธรรมชาติในสภาพแสงน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี
GFX 50R ยังคงมี Film Simulation ให้ใช้งานอย่างครบครันเช่นดียวกับกล้อง Fujifilm รุ่นอื่นๆ โดย Film Simulation ที่โดดเด่นคือ Classic Chrome ที่ให้อารมณ์ภาพในสไตล์คล้ายๆ กับฟิล์มภาพยนตร์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีช่องเมมโมรี่การ์ดแบบ SD Card สองช่อง ช่วยให้การถ่ายภาพที่ความละเอียดสูง และการบันทึกวิดีโอทำได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
Leica Q2
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาดฟูลเฟรม 47.3 ล้านพิกเซล
- วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 3.68 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล ควบคุมระบบสัมผัส
- บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
- ความไวแสง ISO 50-50000
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที
- มี Bluetooth LE และ Wi-Fi ในตัว
- ตัวบอดี้ซีลกันฝุ่นและละอองนํ้า
กล้องคอมแพ็คระดับ Premium เป็นแบรนด์กล้องในฝันของหลายๆ คน ปรับปรุงมาเป็นรุ่นที่สอง มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 47.3 ล้านพิกเซล ตัวกล้องออกแบบได้สวยงาม ติดเลนส์ Leica Summilux 28mm F1.7 ASPH แบบถอดเปลี่ยนไม่ได้ แต่สามารถเลือก Crop Mode เปลี่ยนทางยาวโฟกัสเป็น 35 มม., 50 มม. และ 75 มม. ได้ และถ่ายภาพได้ใกล้ถึง 6.7 นิ้วในโหมด Macro ที่ปรับเลือกได้อย่างสะดวกที่ฐานเลนส์อีกด้วย
โครงสร้างตัวกล้องเป็นแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมซีลป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า ตัวกล้องตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว จากประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล Maestro II Image Processor รวมทั้งให้ภาพที่ใสเคลียร์ แม้จะถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูงๆ ก็ตาม ซึ่งสามารถปรับความไวแสงได้สูงถึง ISO 50000 ช่วยให้เก็บบันทึกแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แม้จะใช้งานในสภาพแสงน้อยๆ ก็ตาม รวมทั้งรูรับแสงที่เปิดได้กว้างถึง F1.7 ด้วยเช่นกัน
Q2 มี Bluetooth LE และ Wi-Fi ในตัว ช่วยให้สามารถโอนถ่ายไฟล์ภาพผ่านแอพลิเคชั่น Leica FOTOS รองรับการใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS ซึ่งนอกจากจะใช้โอนถ่ายไฟล์ภาพแล้ว ยังใช้เป็นรีโมทควบคุมตัวกล้องได้เช่นเดียวกับสายลั่นชัตเตอร์ รวมทั้ง Bluetooth LE ยังเชื่อมต่ออัตโนมัติ เมื่ออยู่ในระยะควบคุม โดยไม่ต้องคอยเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง
Sony Cyber-shot RX-1R II
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ Exmor R CMOS ขนาดฟูลเฟรม 42.4 ล้านพิกเซล
- วิวไฟน์เดอร์ XGA OLED Tru-Finder ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.228 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
- บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD
- ความไวแสง ISO 100-25600
- ระบบโฟกัส Phase-Detection 399 จุด
- มี NFC และ Wi-Fi ในตัว
- เลนส์ Zeiss Sonnar T* 35mm F2
กล้องดิจิตอลคอมแพคระดับ Premium จาก Sony โดดเด่นที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรม ความละเอียดสูงถึง 42.4 ล้านพิกเซล และมาพร้อมเลนส์คุณภาพสูง Zeiss Sonnar T* ทางยาวโฟกัส 35 มม. แบบถอดเปลี่ยนไม่ได้ มีขนาดรูรับแสงกว้างสุดถึง F2 ช่วยให้เบลอฉากหลังได้ และยังสะดวกเมื่อต้องเก็บบันทึกแสงธรรมชาติในสภาพแสงน้อยๆ อีกด้วย
ตัวกล้องออกแบบได้สวยงาม ซ่อนวิวไฟน์เดอร์ EVF เอาไว้ในตัวกล้อง และกดให้เด้งขึ้นมา เมื่อต้องการใช้งาน โดยมีความละเอียดถึง 2.36 ล้านพิกเซล มองภาพได้อย่างคมชัด และสบายตา ส่วนจอมอนิเตอร์ ขนาด 3 นิ้ว เป็นแบบปรับระดับได้ ช่วยให้สะดวกกับการถ่ายภาพมุมตํ่า และมุมสูงเหนือหัวด้วยเช่นกัน
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ มีฟังก์ชั่น Variable Optical Low-Pass Filter ถือเป็นกล้องตัวแรกของโลกที่ใช้ฟังก์ชั่นแบบนี้ โดยสามารถเลือกระดับเอฟเฟคต์ Low-Pass Filter ตามรูปแบบการใช้งานได้ 3 รูปแบบคือ Off ปิดการใช้งาน, Standard ตั้งค่าเอฟเฟคต์กลางๆ และ Hi เลือกเอฟเฟคต์เสมือนไม่มี Low-Pass Filter เพื่อความคมชัดและถ่ายทอดรายละเอียดได้สูงสุด และเลือกใช้งานเฉพาะในแต่ละภาพได้
Sony A7R III
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ Exmor R CMOS ขนาดฟูลเฟรม 42.4 ล้านพิกเซล
- วิวไฟน์เดอร์ OLED Tru-Finder EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
- บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
- ความไวแสง ISO 100-32000
- ระบบโฟกัส Phase-Detection 399 จุด Contrast-Detection 425 จุด
- มี NFC และ Wi-Fi ในตัว
- ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว 5 แกน
กล้อง Mirrorless ระดับโปร มาพร้อมความโดดเด่นหลายๆ อย่าง อาทิ ใช้เซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรม ความละเอียดสูงถึง 42.4 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัส Fast Hybrid AF System พร้อม 4D Focus และจุดโฟกัสแบบ Phase-Detection 399 จุด กับ Contrast-Detection 425 จุด ช่วยให้กล้องตอบสนองการโฟกัสที่รวดเร็ว และแม่นยำมากทีเดียว
ตัวกล้องตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็วจากประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล BIONZ X ที่ให้ไฟล์ภาพที่ใสเคลียร์ มี Noise ตํ่า แม้จะถ่ายภาพที่ความไวแสงสูงๆ ก็ตาม โดยสามารถปรับความไวแสงปกติได้ตั้งแต่ ISO 100-32000 และปรับขยายได้สูงถึง ISO 102400 ช่วยให้บันทึกภาพในสภาพแสงน้อยได้สะดวกมากขึ้น
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่โดดเด่นคือ Pixel Shift Multi Shooting ซึ่งเป็นการถ่ายภาพซํ้าๆ 4 ภาพ โดยการขยับเซ็นเซอร์ ตามทิศทางการป้องกันการสั่นไหว และนำภาพที่ได้นั้นมาประมวลผลใหม่ และรวมเป็นภาพเดียวที่มีความละเอียดสูงถึง 169.9 ล้านพิกเซล ซึ่งการบันทึกภาพแบบนี้ จะต้องตั้งกล้องบนขาตั้ง เพื่อให้กล้องสามารถรวมภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
Nikon D850
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Fullframe
- ความละเอียด 45.7 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้ ระบบสัมผัส
- บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
- ความไวแสง ISO 64-25600 ปรับได้สูงสุดถึง ISO 102400
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที
- ระบบวัดแสง 180,000-pixel RGB
- ฟังก์ชั่น intelligent Scene Recognition
- จุดโฟกัส 153 จุด Cross-type 99 จุด
กล้อง DSLR ระดับโปรจากนิคอน มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 45.7 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานไฟล์ภาพขนาดใหญ่ ตัวกล้องตอบสนองการทำงานที่รวดเร็ว จากหน่วยประมวลผลอันทรงประสิทธิภาพ EXPEED 5 และยังให้ไฟล์ภาพที่ใสเคลียร์มีไดนามิกเรนจ์กว้าง ถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม
ตัวกล้องมีการโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำจากเซ็นเซอร์โฟกัสแบบ AF Multi-CAM 20K มาพร้อมจุดโฟกัส 153 จุด เป็นแบบ Cross-type 99 จุด ครอบคลุมการถ่ายภาพทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และถึงแม้จะมีไฟล์ขนาดใหญ่ แต่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 7 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่อง 51 ภาพ ด้วยไฟล์ RAW 14bit แบบไม่บีบอีดอีกด้วย นอกจากนี้ยังบันทึกวิดีโอด้วยคุณภาพระดับ 4K UHD (3840 x 2160 พิกเซล) ความเร็ว 30, 25 และ 24 เฟรมต่อวินาที และรองรับการบันทึกภาพ 120 เฟรมต่อวินาที ด้วยคุณภาพ Full HD เพื่อเล่นภาพแบบ Slow Motion นั่นเอง
นอกจากการบันทึกวิดีโอปกติแล้ว D850 ยังบันทึกวิดีโอ Timelapse ด้วยคุณภาพสูงสุดระดับ 8K ในโหมด Interval Timer Mode หรือ 4K time-lapse movies ซึ่งสามารถบันทึกเฟรมได้มากถึง 9999 ภาพ ต่อการสร้างวิดีโอ Timelape ในแต่ละครั้ง ซึ่งโหมดนี้ จะใช้รูปแบบ silent interval timer ไม่มีเสียงชัตเตอร์มารบกวนอีกด้วย
Nikon Z7
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาดฟูลเฟรม 45.7 ล้านพิกเซล
- วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้ ควบคุมระบบสัมผัส
- บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
- ความไวแสง ISO 64-25600
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 9 ภาพต่อวินาที
- มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
- ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว 5 แกน
กล้อง Mirrorless ฟูลเฟรมรุ่นท๊อป ที่มาพร้อมระบบการทำงานที่ก้าวหน้ามากมาย ตัวกล้องตอบสนองการโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำจากระบบโฟกัสแบบ Phase Detection พร้อมจุดโฟกัสกว่า 493 จุด และมีจอ LCD สำหรับแสดงผลการทำงานเพิ่มเติมจากจอมอนิเตอร์ด้านหลัง ที่สามารถปรับระดับได้ และควบคุมด้วยระบบสัมผัส ตัวกล้องมาพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวนตัวแบบ 5 แกน ช่วยชดเชยการสั่นเบลอของตัวกล้อง เมื่อต้องถือกล้องถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ ด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่าปกติ ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดตามที่ต้องการ ตัวกล้องตอบสนองการทำงานที่รวดเร็วจากหน่วยประมวลผล EXPEED 6 ให้ภาพที่ใสเคลียร์ แม้จะถ่ายภาพที่ความไวแสงสูงๆ ก็ตาม
Z7 บันทึกวิดีโอคุณภาพ UHD 4K (3840 x 2160 พิกเซล) 10 bit ความเร็ว 30, 25 และ 24 เฟรมต่อวินาที พร้อม N-Log สำหรับการ Grading ไฟล์ในภายหลัง เลือกขนาดพื้นที่บันทึกภาพของเซ็นเซอร์ได้ทั้งเต็มเฟรม หรือขนาด DX crop นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เพื่อเพล์ภาพแบบสโลโมชั่นได้ สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอลงในเมมโมรี่การ์ดหรือเลือกบันทึกไฟล์ไปยังหน่วยความจำเสริมภายนอกผ่าน HDMI ได้
Panasonic Lumix S1R
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ MOS ความละเอียด 47.3 ล้านพิกเซล
- วิวไฟน์เดอร์ OLED LVF ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซล
- จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล
- ปรับระดับได้ ควบคุมระบบสัมผัส
- บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K 60p
- ความไวแสง ISO 100-25600
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 9 ภาพต่อวินาที
- มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
- Cantrast Detection AF DFD 255 จุด
กล้อง Mirrorless ฟูลเฟรม S-Series จากค่าย Panasonic โดดเด่นที่ช่องมองภาพ LVF OLED ความละเอียดสูงถึง 5.76 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยีการโฟกัสแบบ DFD หรือ Depth-From-Defocus โดยกล้องจะส่งผ่านข้อมูลแสดงระยะห่างระหว่างกล้องกับซับเจคต์ด้วยความเร็ว 480 เฟรมต่อวินาที ทำให้กล้องสามารถปรับโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วด้วยเวลา 0.08 วินาทีเท่านั้นเอง ซึ่งรองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และการบันวิดีโอด้วย
นอกจากความละเอียดของภาพนิ่งแล้ว S1R ยังโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอ โดยบันทึกด้วยคุณภาพ UHD 4K ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:0 ความลึกสี 8 bit และเลือกคุณภาพ UHD 4K ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ เมื่อเลือกคุณภาพ Full HD ยังสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง 180 เฟรมต่อวินาที สำหรับการเปิดชมภาพแบบสโลว์โมชั่นนั่นเอง
ตัวกล้องมาพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน ทำงานผสานกันกับระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวเลนส์ เมื่อใช้งานร่วมกัน จะทำให้ชดเชยการสั่นไหวได้ถึง 6 สตอปเลยทีเดียว ช่องเมมโมรี่การ์ดเลือกใช้งานได้ 2 ช่อง แบบ XQD และ SD Card จอมอนิเตอร์เป็นแบบปรับหมุนได้หลายทิศทาง และควบคุมด้วยระบบสัมผัส ทั้งการปรับตั้งค่าต่างๆ และการถ่ายภาพ มีเทคโนโลยี AI ช่วยในการประเมินรูปแบบภาพต่างๆ ทำให้ได้ภาพที่คมชัด และให้สีสันที่สดใจสวยงาม
เรียบเรียง : กองบรรณาธิการ
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)
ขอบคุณครับ
ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่
Line@ : @fotoinfo
YouTube : Fotoinfo Channel
Website : fotoinfomag.com
e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine
ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus
หรือสนใจสาระความรู้ด้านการถ่ายภาพที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่
