5 ปัจจัยพื้นฐานที่ลดคุณภาพของภาพถ่ายในกล้องสมาร์ตโฟน

5 ปัจจัยพื้นฐานที่ลดคุณภาพของภาพถ่ายในกล้องสมาร์ตโฟน

การถ่ายรูปเป็นฟังก์ชันสำคัญของสมาร์ตโฟนทุกรุ่นในปัจจุบัน สมาร์ตโฟนหลายรุ่นออกแบบมาเน้นเรื่องของการถ่ายรูปโดยเฉพาะ เช่น การใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1″, การจับมือกับแบรนด์กล้องดังๆทั้งค่ายจากญี่ปุ่น และโซนยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Leica, Hasselblad, Ricoh มีลูกเล่น หรือฟีเจอร์สำหรับทั้งมือใหม่ และระดับแอดวานซ์ มาให้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สมาร์ตโฟนถ่ายภาพเป็นประจำอาจจะพบว่าบ่อยครั้งภาพถ่ายที่ได้ไม่สวยดั่งใจ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาพื้นฐาน 5 ข้อนี้ครับ

1. เลนส์กล้อง 

สมาร์ตโฟนเกือบทั้งหมดทุกรุ่นมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และถูกหยิบใช้บ่อย แม้จะใส่ไว้ในเคสหรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นๆก็หลีกเลี่ยงการเกิดรอยนิ้วมือ รอยขูดขีด รอยข่วนหรือคราบสกปรกต่างๆที่เลนส์ได้ยาก(ถึงยากมาก)​ เลนส์ถ่ายภาพเป็นส่วนรับแสงสะท้อนเข้าสู่เซนเซอร์รับภาพเป็นส่วนแรกซึ่งมีความสำคัญมาก หากเลนส์สกปรก โอกาสที่จะได้ภาพคมชัดก็ลดลงตามไปด้วย

2. การโฟกัสภาพ 

ระบบโฟกัสของกล้องสมาร์ตโฟนจะเป็นระบบออโต้โฟกัส มีความแม่นยำสูงมั่นใจได้ว่าจะได้ภาพที่คมชัด  แต่ในบางสถานการณ์ เช่น ถ่ายภาพใกล้หรือมาโคร การเคลื่อนกล้องเข้าใกล้วัตถุมากเกินระยะโฟกัสก็ทำให้ภาพเบลอ, การถ่ายภาพในที่ที่แสงน้อย กล้องไม่สามารถจับโฟกัสได้ หรือการถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวภาพก็เบลอได้เช่นกัน เพราะระบบโฟกัสในกล้องสมาร์ตโฟนทำงานต่างจากในกล้องถ่ายภาพ แม้โฟกัสไม่ได้ก็สามารถกดชัตเตอร์ถ่ายภาพได้

3. การใช้ดิจิตอลซูม

ดิจิตอลซูม เป็นการขยายภาพ หรือครอปด้วยซอฟต์แวร์ ภาพที่ได้ถึงแม้จะดูเหมือนดึงภาพให้เข้ามาใกล้ได้เหมือนการใช้เลนส์ซูม แต่รายละเอียดและความคมชัดของภาพจะขาดหายไป สีสันอาจจะผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง ยิ่งซูมมากก็จะยิ่งเห็นความแตกต่างเยอะมากขึ้นตามไปด้วย แนะนำให้เลือกใช้ออฟติคอลซูมจะให้คุณภาพของภาพถ่ายสูงที่สุด

4. การถือกล้อง(สมาร์ตโฟน)ไม่นิ่งพอ

ด้วยลักษณะทางกายภาพของสมาร์ตโฟน การจับถือกล้องให้นิ่งทำได้ยากกว่าการจับถือกล้องถ่ายภาพ และหากถือกล้องด้วยมือขวาและใช้นิ้วมือซ้ายเพื่อซูมภาพที่จอ หรือกดปุ่มชัตเตอร์ที่จอ ยิ่งจะทำให้มีโอกาสกล้องสั่นได้มากขึ้น ลดโอกาสการได้ภาพที่คมชัดลงไปอีก ปัจจุบันกล้องสมาร์ตโฟนหลายรุ่นมีซอฟต์แวร์ช่วย หรือในหลายๆรุ่นมีระบบกันสั่นที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดได้มากขึ้น

5. การใช้แฟลชในระยะไกลเกินไป

แฟลชในกล้องสมาร์ทโฟนจะมีค่าไกด์นัมเบอร์ต่ำ ระยะการทำงานหวังผลอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 3-4 ฟุต หากระยะห่าระหว่างกล้องและวัตถุที่จะถ่ายอยู่ไกลเกินกว่านั้น แสงแฟลชจะไม่สว่างพอที่จะทำให้รูปถ่ายนั้นออกมาสมบูรณ์ได้

ปัจจัยทั้ง 5 ข้อดังกล่าว เป็นปัจจัยหลักพื้นฐานที่ผู้ใช้งานกล้องสมาร์ตโฟนต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสุดเต็มประสิทธิภาพของกล้องครับ