เชื่อว่าอาการเลนส์งอกจะเกิดขึ้นกับคนที่เล่นกล้องไปได้ซักพักแรกๆก็เริ่มต้นด้วยเลนส์คิทพอถ่ายรูปไปซักระยะก็จะมองหาเลนส์มาเพิ่มชอบถ่ายวิวก็มองเลนส์มุมกว้างชอบถ่ายคนก็มองหาเทเลโฟโต้ระยะสั้นชอบถ่ายนกถ่ายสัตว์ป่าก็มองหาช่วงซูเปอร์เทเลโฟโต้
นักท่องเที่ยว นักเดินทาง ที่ไม่ชอบพกเลนส์หลายๆตัวให้เป็นภาระก็จัดเลนส์ซูมเอนกประสงค์ ช่วงซูมกว้างๆตั้งแต่มุมกว้างไปจนถึงเทเลโฟโต้ จบได้ในตัวเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ไปมาให้ยุ่งยาก สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพจริงๆ ก็คงต้องมีเลนส์ครบช่วงล่ะครับ เพราะเลนส์แต่ละช่วงก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกัน ไปดูกันครับว่าประโยชน์ที่ได้จากเลนส์ช่วงเทเลโฟโต้มีอะไรบ้าง
ช่างภาพหลายๆ คน คงต้องมีเลนส์ถ่ายภาพอย่างน้อย 1 ตัว เอาแบบเริ่มต้นเลยก็คือเลนส์คิทติดกล้องที่จำหน่ายมาพร้อมๆ กับตัวกล้องนั่นล่ะครับ แต่พอถ่ายรูปไปซักพัก ก็ต้องมองหาเลนส์เพิ่ม ซึ่งมีทั้งเลนส์ช่วงมุมกว้าง และช่วงเทเลโฟโต้ ถามว่าช่วงไหนจำเป็น เอาจริงๆ เลนส์แต่ละช่วงก็มีความสำคัญในตัวเองล่ะครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการภาพแบบไหน ถ้าจะให้ครอบคลุมการใช้งานจริงๆ ก็ต้องมีครบช่วงครับ จะครบแบบจบในตัวเดียว ประเภทตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก ซูมได้ตั้งแต่มุมกว้างๆ ไปจนถึงเทเลโฟโต้ หรือจะแยกเป็นมุมกว้าง นอร์มอล เทเลโฟโต้ ก็ไม่ว่ากันครับ เอาที่สะดวกของแต่ละคน
เลนส์ช่วงเทเลโฟโต้ ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีความสำคัญกับการใช้งานไม่น้อย มาดูกันครับ ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากเลนส์เทเลโฟโต้ได้ยังไงบ้าง
1. ได้ภาพชัดตื้นง่ายๆ
คุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งของเลนส์เทเลโฟโต้คือมีช่วงชัดตื้นแคบมาก ดังนั้นจึงช่วยให้ได้ภาพซับเจค ที่โดดเด่นออกจากฉากหลังและฉากหน้าที่ดูเบลอๆ ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอิงกับขนาดรูรับแสงกว้างๆ รวมทั้งระยะห่างระหว่างกล้องกับซับเจค และซับเจคกับฉากหลังด้วย เลนส์เทเลโฟโต้ที่มีรูรับแสงกว้างมากๆ อย่าง f/1.2, f/1.4 หรือ f/1.8 จะช่วยให้ได้ภาพที่ชัดตื้นมาก หรือภาพแบบที่เรียกว่าหลังละลายนั่นล่ะครับ
2. ฉากหลังดูใกล้ขึ้น
เลนส์เทเลโฟโต้จะทำให้รู้สึกว่าดึงสิ่งที่อยู่ไกลๆ ให้ดูใกล้ขึ้นได้ ดังนั้น เราจึงนำเอาคุณสมบัตินี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับภาพของเราได้ โดยถ่ายกับวิว แล้วเน้นให้เห็นรายละเอียดของฉากหลังที่ชัดเจนขึ้นนั่นล่ะครับ
3. ได้ตัวแบบใหญ่ขึ้น
เช่นเดียวกับการดึงฉากหลังให้ใกล้ขึ้นล่ะครับ เลนส์เทเลจะให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งที่อยู่ไกลๆ ดูใกล้เข้ามามากขึ้น ดังนั้นการถ่ายภาพด้วยเลนส์เทเลก็เลยทำให้เราได้ซับเจคที่ดูใหญ่ขึ้น เมื่อถ่ายที่ระยะเดียวกันกับเลนส์อื่นๆ
4. เลือกฉากหลังได้ง่ายกว่า
เป็นความรู้พื้นฐานเรื่องมุมรับภาพของเลนส์แต่ละช่วง ซึ่งเลนส์เทเลโฟโต้ จะมีมุมรับภาพที่แคบ ดังนั้นเราจึงใช้คุณสมบัติแบบนี้แหละ มาช่วยให้เราเลือกฉากหลังที่รบกวนซับเจคให้น้อยที่สุด โดยการขยับเปลี่ยนมุมแค่เล็กๆน้อยๆ ซับเจคของภาพที่ฉากหลังเรียบเนียน ก็จะน่าสนใจและมีความโดดเด่นมากกว่าภาพที่มีฉากหลังรกรุงรังล่ะครับ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มเสน่ห์ให้ภาพได้จากโบเก้ของไฟประดับต่างๆ หรือโบเก้จากแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านใบไม้ลงมา ถ้าหากใช้เลนส์ไวด์ จะทำให้ได้พื้นที่ของฉากหลังมากกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะเยอะเกิน และไม่ได้เสริมความน่าสนใจให้กับภาพของเราได้ เลนส์เทเลโฟโต้จะช่วยให้ควบคุมฉากหลังให้ได้องค์ประกอบภาพตามที่ต้องการง่ายขึ้นครับ รวมทั้งได้โบเก้ที่กลมโตมากกว่าด้วย4. เลือกฉากหลังได้ง่ายกว่า
เป็นความรู้พื้นฐานเรื่องมุมรับภาพของเลนส์แต่ละช่วง ซึ่งเลนส์เทเลโฟโต้ จะมีมุมรับภาพที่แคบ ดังนั้นเราจึงใช้คุณสมบัติแบบนี้แหละ มาช่วยให้เราเลือกฉากหลังที่รบกวนซับเจคให้น้อยที่สุด โดยการขยับเปลี่ยนมุมแค่เล็กๆน้อยๆ ซับเจคของภาพที่ฉากหลังเรียบเนียน ก็จะน่าสนใจและมีความโดดเด่นมากกว่าภาพที่มีฉากหลังรกรุงรังล่ะครับ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มเสน่ห์ให้ภาพได้จากโบเก้ของไฟประดับต่างๆ หรือโบเก้จากแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านใบไม้ลงมา ถ้าหากใช้เลนส์ไวด์ จะทำให้ได้พื้นที่ของฉากหลังมากกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะเยอะเกิน และไม่ได้เสริมความน่าสนใจให้กับภาพของเราได้ เลนส์เทเลโฟโต้จะช่วยให้ควบคุมฉากหลังให้ได้องค์ประกอบภาพตามที่ต้องการง่ายขึ้นครับ รวมทั้งได้โบเก้ที่กลมโตมากกว่าด้วย
5. ถ่ายแคนดิดง่ายกว่า
เมื่อเราอยู่ไกลๆ การยกกล้องขึ้นถ่ายแคนดิดเด็กๆ หรือใครก็ตาม ตัวแบบก็อาจจะไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงทำให้เราได้อิริยาบถที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น แน่นอนครับถ้ายกกล้องเข้าไปถ่ายใกล้ๆ คนๆนั้นก็คงจะหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ จนทำให้เราพลาดโอกาสไปได้ครับ
6. ไม่ต้องเข้าไปถ่ายใกล้ๆ
ทั้งเป็นการตั้งใจถ่ายจากระยะไกล หรือเข้าไปถ่ายภาพซับเจคที่ต้องการในระยะใกล้ๆไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ่ายภาพสัตว์ป่าในธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเค้าต้องมีการระแวดระวังภยันตรายตามสัญชาตญาณ ดังนั้น เพียงแค่เราขยับตัวเข้าไปในระยะที่เรายังรู้สึกว่ายังห่างอยู่มาก แต่พวกเค้าก็หนีไปแล้ว หรือสัตว์ที่มีอันตราย อย่างสิงห์โต, เสือ หรือจระเข้ ใช้ช่วงเทเลนั่นแหละครับปลอดภัยกว่า นอกเสียจากว่าเป็นสัตว์ที่ถูกฝึกมาอย่างดี และมีผู้ฝึกอยู่ด้วย แบบนี้เลนส์ช่วงไวด์ก็ใช้ได้ครับ
อีกกรณีหนึ่งคือ เป็นซับเจคปกตินี่แหละ แต่มีอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆได้ เช่น ดอกไม้ขึ้นอยู่กลางธารน้ำตกที่ถาโถมลงมาอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าจะต้องเข้าไปถ่ายให้ใกล้ชิด ก็คงต้องใช้กล้องกันน้ำ หรือดอกไม้หายากที่เบ่งบานอยู่บนยอดไม้ อะไรแบบนี้ครับ
7. ได้ซับเจกต์ที่ดูหนาแน่น
เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของเลนส์เทเลโฟโต้ที่ทำให้สิ่งต่างๆ ที่อยู่ห่างไกล จะดูเสมือนใกล้กันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อเราถ่ายภาพแปลงดอกไม้ที่อาจจะขึ้นอยู่ไม่มากมายนัก หรือเมื่อใช้เลนส์มุมกว้างแล้วเข้าไปถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ช่องว่างระหว่างดอกไม้ หรือกอดอกไม้จะดูเหมือนอยู่ห่างๆ กัน หรือมีช่องว่างระหว่างกอดอกไม้มากพอสมควร แต่พอเปลี่ยนเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ ดอกไม้แต่ละดอก หรือกอดอกไม้แต่ละกอ จะดูเหมือนถูกจับวางให้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งรู้สึกถึงความหนาแน่นได้มากขึ้นนั่นเอง
Leave feedback about this