แม้ในยุคดิจิทัลที่สีสันสดใสครองเมือง แต่ก็ยังมีผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของภาพถ่ายขาวดำจำนวนไม่น้อย ด้วยความคลาสสิกเหนือกาลเวลา และความงดงามที่ไร้สีสัน ภาพถ่ายขาวดำจึงเป็นมากกว่าแค่ภาพถ่าย แต่เป็นศิลปะที่สื่ออารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความเรียบง่ายที่ทรงพลัง หรือความโดดเด่นที่แตกต่าง ภาพถ่ายขาวดำยังคงเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในวงกว้าง

ความนิยมนี้สามารถยืนยันได้จากการที่กล้องหลายๆ ค่าย หลายๆ รุ่นฝังฟังก์ชันนี้มาให้ในตัวกล้อง โดยที่ไม่ต้องไปปรับแต่งจากโปรแกรมตกแต่งภาพเลย หรือแม้กระทั่งการสร้างกล้องบันทึกภาพสำหรับถ่ายภาพขาวดำโดยเฉพาะเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็น Leica Q2 Monochrom, PENTAX K-3 Mark III Monochrome
และต่อไปนี้คือเทคนิคการถ่ายภาพขาวดำให้ดูดียิ่งขึ้น ซึ่งผมรวบรวมมากจากการหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาสรุปให้อ่านกันครับ ไปดูกันครับว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง
ก่อนอื่น ผมอยากให้ลองนึกภาพในเฟรมเป็นพื้นสีขาว หรือ สีดำทั้งเฟรมก่อน และลองนึกต่อไปอีกว่า การจะเกิดรูปทรง รูปร่างขึ้นมาในเฟรมภาพนั้น มันจะเกิดได้ก็เพราะมีสีตรงข้ามแต้มเข้าไปในเฟรมที่ว่างเปล่านั้นได้ ซึ่งในโลกของการถ่ายภาพมักจะกล่าวกันว่า สิ่งที่วาดภาพในภาพถ่ายก็คือแสง และพื้นฐานนี่เองครับ ที่ทำให้ภาพขาวดำเกิดเป็นภาพถ่ายขึ้นมาได้

เฟรมภาพสีดำที่แต้มด้วยเส้นสีขาว ทำใหห้ภาพนี้เป็นภาพขาวดำขึ้นมา และในสภาพความเป็นจริงมันมีแสงและเงาไล่โทนตั้งแต่สีดำสุดไปจนขาวสุด (เพิ่มเทา) อยู่ด้วย ทำให้ภาพขาวดำดูมีมิติมากขึ้นมากกว่าที่จะเป็นสีขาว-ดำ อย่างเดียว
เมื่อเกิดเป็นภาพขึ้นมาแล้ว เรามาคิดต่อว่า การถ่ายภาพขาวดำให้สวย มีความโดดเด่น มีเสน่ห์ จะแตกต่างจากภาพสีเพราะไม่สามารถใช้สีสันเข้ามาช่วยในภาพได้ ช่างภาพที่ถ่ายภาพขาวดำจึงจำเป็นต้องอาศัยเรื่องความคิด การจัดองค์ประกอบภาพ แสงและเงา รูปร่างรูปทรง พื้นผิว และอื่นๆ มาช่วยสร้างเรื่องราวและอารมณ์ของภาพให้ออกมาเป็นโทนขาวและดำครับ
1. ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบภาพ
องค์ประกอบภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการถ่ายภาพสวย ในการถ่ายภาพขาวดำ สามารถใช้หลักการจัดองค์ประกอบภาพได้ทุกข้อเช่นเดียวกับการถ่ายภาพสี แต่องค์ประกอบนั้นต้องมีความสมบูรณ์มากพอที่จะทำให้ภาพมีความโดดเด่นและสวยงามได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเรื่องของสีสันเข้ามาช่วย

จัดวางองค์ประกอบให้ดูน่าสนใจขึ้น เพื่อชดเชยเมื่อถูกตัดสีสันออกไป

องค์ประกอบยังคงแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของภาพ แม้ไม่มีสีสันเข้ามาเกี่ยวข้อง
เช่น การถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตก เราจะชินกับสีสันที่สวยงามของดวงอาทิตย์และท้องฟ้า แต่ในการถ่ายภาพขาวดำ ต้องคิดเสมอว่าไม่สามารถนำองค์ประกอบเรื่องของสีสันต่างๆมาใช้ในภาพถ่ายได้ จึงต้องนำเสนอในมุมที่แตกต่าง

ความต่างระหว่างภาพที่นำเสนอความสวยงามของสีสันในภาพ กับการเปลี่ยนมาเป็นภาพขาวดำที่ลดทอนความเด่นของสีสันออกไป ทำให้ความน่าสนใจของภาพถ่ายดรอปลง
2. ถ่ายภาพให้มีค่าความเปรียบต่างสูง
เหมือนที่ได้เกริ่นมาแล้วว่าให้นึกถึงเฟรมภาพที่ว่างเปล่าสีขาว หรือ ดำ แล้วใช้สีตรงข้ามมาวาดภาพ ซึ่งนั่นก็คือค่าความเปรียบต่างนั่งเองหละครับ ค่าความเปรียบต่าง หรือ contrast สำหรับการถ่ายภาพขาวดำ คือการมองหาวัตถุหลักที่มีค่าความเปรียบต่างกับฉากหลังที่ต่างกันมากๆ เช่น วัตถุหลักที่มีสีสว่างตัดกับฉากหลังที่มีสีเข้ม เมื่อถ่ายภาพออกมาเป็นภาพขาวดำ วัตถุหลักจะมีสีโทนขาวตัดกันกับฉากหลังที่เป็นโทนมืด ภาพขาวดำในลักษณะนี้จะมีความโดดเด่น สื่อความหมายชัดเจน เป็นภาพขาวดำที่สวยงามน่ามอง

ค่าความเปรียบต่าง หรือ contrast หรืออีกนัยหนึ่ง พื้นสีดำจัดกับวัตถุที่มีส่วนที่เป็นสีขาวจัดมาตัดกันให้เกิดเป็นภาพนั่นเอง

ภาพแนวซิลลูเอทดูจะเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงภาพที่มี contrast สูงได้ดีที่สุด

ภาพวัตถุสว่างในที่มืดก็ทำให้เรามองเป็นภาพ หรือถ่ายภาพขาวดำได้ดีขึ้นด้วย
3. แสงปัจจัยสำคัญของภาพขาวดำ
ในการถ่ายภาพทั่วๆ ไป จำเป็นต้องมีแสงที่ดี แต่การถ่ายภาพขาวดำสามารถถ่ายภาพได้ทั้งในสภาพแสงปรกติ แสงขมุกขมัวในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ หรือแม้แต่แสงในเวลากลางวันที่เป็นแสงแข็ง ให้คอนทราสต์สูง และเกิดเงาที่ดูแข็งมากไป ลักษณะดังกล่าวนี้ไม่เป็นที่ต้องการสำหรับการถ่ายภาพสี แต่ค่าคอนทราสต์สูง เงาที่แข็งเกินไป หรือแสงที่ขมุกขมัว เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพขาวดำมีความโดดเด่น น่าสนใจขึ้นมาได้

สภาพแสงในตอนกลางวันที่มี contrast จัดจะช่วยผลักดันให้เงาของลวดลายวัตถุมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ดูเด่นขึ้น

สภาพแสงในตอนกลางวันที่มี contrast จัดจะช่วยผลักดันให้มีเงาเพิ่มมากขึ้น นั่นจะทำให้เหมาะแก่การถ่ายภาพขาวดำที่มีความเปรียบต่างของแสงมากนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ในสภาพแสงที่ดี เช่น golden hour ก็ยังสามารถสร้างภาพขาวดำที่ให้ความโดดเด่น สวยงาม มีมิติและความน่าสนใจได้เช่นกัน ปัจจัยเรื่องแสงจึงเป็นข้อได้เปรียบของการถ่ายภาพขาวดำ

ภาพขาวดำที่ถ่ายในช่วงเวลา golden hour แม้แสงจะไม่แข็ง ไม่บิ้วด์ให้เห็นรายละเอียดเหมือนแสงตอนเที่ยงวัน แต่ก็ทำให้ได้บรรยากาศที่แต่กต่างออกไป
4. เพิ่มหมอก หรือควัน ลงในภาพ
การเพิ่มหมอก หรือควัน ทั้งจากธรรมชาติ หรือใช้เครื่องมือสร้างขึ้น ช่วยให้ภาพถ่ายขาวดำธรรมดาๆ กลายเป็นภาพที่งดงาม เหมือนภาพฝัน ช่วยเพิ่มมิติให้ภาพ เพิ่มเรื่องราว อารมณ์ลึกลับ หรือภาพที่มีแสงส่องเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มควันก็ทำให้ภาพขาวดำดูงดงามขึ้นมาได้ไม่ยาก

หมอกในภาพขาวดำก็ยังสามารถเพิ่มเรื่องราวให้ภาพขาวดำได้ แม้ความเปรียบต่างจะน้อย

หมอกในภาพขาวดำสามารถใช้เป็น background ไว้รองรับวัตถุหลักที่มีแสงน้อย หรือมีรูปร่างที่เป็นเงา และทำให้วัตถุโดดเด่นขึ้นมาได้
5. ใส่ลวดลาย หรือรายละเอียดของวัตถุลงในภาพ
การถ่ายภาพขาวดำ ไม่มีสีสันต่างๆ ที่น่าสนใจมาดึงดูดสายตาของผู้ชมภาพ ดังนั้นจึงควรมองหาวัตถุหลักที่มีลวดลาย หรือลักษณะเด่นของพื้นผิว เช่น ผิวของเปลือกไม้, ลักษณะผิวของสนิมเหล็ก หรือพื้นผิวอื่นๆ ที่มีรายละเอียดเข้ามาแทนการใช้สี เพื่อสร้างจุดเด่นให้ภาพ ที่สามารถดึงดูดสายตาได้

หากพูดถึงภาพขาวดำ สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือความเป็น Texture ของวัตถุหลายๆ อย่างบนโลกครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะนำมาถ่ายเป็นภาพขาวดำ เพราะด้วยลวดลายของมันเมื่อโดนแสง มันจะบิ้วด์ตัวเองขึ้นมาจนเป็นลวดลายที่จัดเจน ในส่วนของความสวยงาม ก็แล้วแต่คนจะมองครับ โดยส่วนตัวแล้ว ลวดลายที่เกิดจากธรรมชาติมันสวยงามมากๆ

Texture ที่มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ
6. ให้รูปร่างหรือรูปทรงที่โดดเด่นเป็นวัตถุหลักในภาพ
การใช้รูปร่าง รูปทรง หรือ form ของวัตถุหลักที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ แทนการใช้สี ก็สามารถนำมาจัดวางองค์ประกอบเพื่อใช้ดึงดูดความสนใจให้ภาพขาวดำได้เป็นอย่างดี

form เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการถ่ายภาพ เพราะอาจเป็นสิ่งแรกๆ เลยที่เรามองเห็นในภาพ หรือมองเห็นก่อนที่จะถ่ายภาพครับ

การมอง form ออกตั้งแต่แรกก็จะเป็นการง่ายที่จะทำให้เราตัดสินใจถ่ายเป็นภาพขาวดำติดเมมฯ มาด้วย
7. ถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
เทคนิคการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ก็สามารถนำมาใช้กับการถ่ายภาพขาวดำได้เช่นเดียวกับการถ่ายภาพสี เช่น การถ่ายภาพทะเล, แม่น้ำ หรือภาพที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าที่มีเมฆลอยอยู่ แล้วใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเพื่อให้ผืนน้ำหรือเมฆ แสดงผลออกมาเหมือนมีการเคลื่อนไหว น้ำทะเลจะดูฟุ้ง เนียนนุ่ม, เมฆจะลอยเห็นเป็นเส้น หรือเป็นริ้วไปตามทิศทางการเคลื่อนที่ ทั้งผืนน้ำและเมฆจะเป็นสีโทนขาวตัดกับหาดทราย โขดหินหรือถนนที่เป็นโทนเข้มกว่า หรือสีดำ ทำให้เกิดภาพที่น่าสนใจได้เช่นกัน

เทคนิค Long exposure ส่วนใหญ่มักจะทำให้เกิดเส้นซึ่งสำคัญมากๆ กับการถ่ายภาพขาวดำ

เทคนิค Long exposure โดยใช้ค่าชัตเตอร์สปีดที่เหมาะสมจะเปลี่ยนจากน้ำเป็นหยดกลมรี หรือน้ำที่เป็นก้อนให้กลายเป็นเส้นได้ แต่หากตั้งค่าชัตเตอร์สปีดนานไป เส้นที่เห็นก็จะกลายเป็นพื้นขาวๆ แทน เพราะฉะนั้น การใช้ค่าชัตเตอร์สปีดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
และก็มาถึงข้อสุดท้าย ซึ่งผมอยากจะแนะนำวิธีนี้ให้เป็นทั้งขั้นตอนก่อน และหลังการกดชัตเตอร์ครับ นั่นก็คือ การ หัดใช้โปรแกรมแต่งภาพ
ปัจจุบันสามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมตกแต่งภาพที่มีให้เลือกใช้มากมาย ข้อดีของโปรแกรมเหล่านี้นอกจากจะใช้งานง่าย ช่วยแต่งภาพขาวดำให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนภาพสีเป็นภาพขาวดำได้ด้วย โปรแกรมต่างๆ เหล่านี้มีเครื่องมือให้เลือกใช้งานมากกว่าในตัวกล้องครับ และยังมีความละเอียดกว่าด้วย

ภาพที่ถ่ายด้วยฟัก์ชันขาวดำในกล้องดิจิทัลแล้วนำมาตกแต่งเพิ่มเติม ซึ่งสามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก เพราะตัวเรื่องของสีสันออกไป
การใช้ซอฟต์แวร์แต่งภาพแนะนำให้ถ่ายภาพด้วย RAW File ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับนำภาพมาตกแต่งภายหลัง
ทำไมผมถึงอยากแนะนำให้ใช้ก่อนกดชัตเตอร์ ก็เพราะว่าหลายคนมองภาพไม่ออกว่า ภาพที่เราจะถ่ายมันเป็นภาพสี แล้วมองไม่ออกว่าถ้าเป็นภาพขาวดำแล้วมันจะออกมาเป็นภาพยังไง การที่เราลองนำภาพสีมาเปลี่ยนเป็นขาวดำดูก่อน มันจะทำให้เราเริ่มเรียนรู้ จะทำให้เราชินกับการมองภาพสีแล้วเปลี่ยนเป็นขาวดำได้ดียิ่งขึ้นครับ

ในสภาพแสงน้อยเป็นอีกสภาวะหนึ่งที่ทำให้เรามองเป็นภาพขาวดำได้ยาก แต่ถ้าหากลองนำภาพทำนองนี้มาทำเป็นภาพขาวดำแล้ว มันจะทำให้เราคุ้นชินมากขึ้น และช่วยให้เราตัดสินใจในการเปลี่ยนเป็นโหมดขาวดำได้ง่ายและเร็วขึ้น

การเห็น form ในภาพถ่ายที่มีสีก็เป็นอีกอย่างที่ควรสังเกต แล้วลองจินตนาการโดยการตัดเรื่องสีสันออกไป มันจะทำให้เรามองความเป็น form ตามสถานที่ต่างๆ ที่เราพบเจอได้มากขึ้น

เมื่อหัดที่จะตัดเรื่องสีสันออกไป มันจะทำให้เราหัดมองเรื่องของเส้นสาย ความเปรียบต่างของแสง และ Perspective มากขึ้น ซึ่งเราอาจจะลองมองภาพสีที่เราเคยถ่ายมา แล้วเอามาลองทำเป็นขาวดำดูครับ มันจะช่วยให้เรามองภาพได้ง่ายขึ้น
ช่างภาพที่มีความสนใจในการถ่ายภาพขาวดำ ควรต้องเริ่มเรียนรู้ที่จะหัดมองภาพต่างๆ ให้เป็นสีขาวและสีดำ มีเวลาฝึกฝนมากพอ และสนุกไปกับการถ่ายภาพขาวดำ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพและยังช่วยพัฒนาให้ถ่ายภาพขาวดำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยครับ
แม้ว่าในปัจจุบันเราจะเห็นภาพขาวดำตั้งแต่หลังจอ (ในกล้องบางรุ่นที่สามารถแสดงภาพขาวดำแบบเรียลไทม์ได้) ได้ก็ตาม แต่ทักษะในการมองภาพด้วยตาออกก่อนที่จะกดชัตเตอร์ มันจะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้นครับ
ขอให้มีความสุขกับการทดลองถ่ายภาพแบบใหม่ๆ นะครับ
แอดมินโย
Leave feedback about this