‘ในหลวง’ เป็นคนดีครับ ท่านช่วยเหลือคนยากจน ทั้งน้ำทั้งป่าไม้ ภูมิใจท่านหลายๆ ในส่วนของเราก็ได้โครงการโคนมของสหกรณ์โคนมที่ให้กู้ยืมวัวมาก่อน 5 ตัว เป็นเงินประมาณสองแสนบาท เราก็คอยรีดนมใช้คืนเขา ต้องใช้อยู่ 5 ปี พอดีลูกช่วยซื้อวัวมาเพิ่มก็เลยคืนสหกรณ์ได้เร็ว ใครคืนช้า ‘ในหลวง’ ท่านก็คอยช่วยเหลือ
ภาพ ‘ในหลวง’ ที่ติดตาผมมากเลยคือภาพตอนที่ท่านเสด็จไปในป่าต้องเดินข้ามน้ำ ไม่รู้ไปได้ยังไง ทางลำบากท่านก็ยังเสด็จไป ผมประทับใจที่ท่านไปได้ ตามไร่ตามเขาท่านเสด็จไปหมด
เวลาจะมีการแต่งตั้งนายกฯ คนใหม่ ท่านจะพูดดีมีความหมาย และอีกครั้งก็ตอนก่อนวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ผมฟังแล้วก็ประทับใจทุกที ความคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของท่านผมเอามาใช้ได้มากๆ เลย ท่านสอนให้เรารู้จักปลูกผักกินเอง ตอนนี้ก็มีคนมาอบรมให้เราเผาถ่านใช้เอง ทำแชมพู ทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปซื้อแพง หรือการเอาเศษอาหารมาทำปุ๋ยชีวภาพแล้วเอาไปใส่ข้าวใส่นามันก็งามดี ‘ในหลวง’ท่านสอนให้เรารู้จักพึ่งพาตนเอง
สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการทำความดีไม่เบียดเบียนคนอื่นเพื่อตอนแทน ‘ในหลวง’ คนอื่นจะว่าดีไม่ดีไม่รู้แต่เราว่าเราทำดี ไม่ได้ไปรังแกเขา ไปรบกวนเขา วัวเราก็เลี้ยงไว้ไม่ให้ไปเหยียบย่ำที่ของใคร ผม อยากให้ ‘ในหลวง’ อยู่ไปนานๆ ท่านเหมือนเป็นพ่อเป็นแม่ของประเทศ ประเทศอื่นไม่มี ‘ในหลวง’ แต่ประเทศของเราโชคดีมี ‘ในหลวง’ ผม ชอบเอารูปของท่านมาติดไว้ในบ้าน เวลาปฏิทินหมดปีผมก็จะเก็บรูป ‘ในหลวง’ เอาไว้ ภูมิใจว่ามีพ่ออยู่ ไปไหนก็เหมือนมีพ่อมีแม่อยู่บ้านให้ ก็ไม่มีใครมาเบียดเบียนเรา เพราะเราทำความดีก็เหมือนท่านช่วยเหลือเรา
สำหรับเรา ‘ในหลวง’ เปรียบเสมือนพ่อ พ่อหลวง เหมือนพระอะไรอย่างนั้น อย่าว่าบ้านะคะ คือถ้าเห็นรูปท่านก็จะต้องยกมือไหว้ ทุกวันนี้ที่เราทำได้คือการไม่ทำความผิดและไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน ทำมาหากินตามประสาของเราไป ก็คือทำความดีไม่เดือดร้อนใคร ทุกๆ คนก็จะมีความสุข ในหลวงก็มีความสุข
ภาพที่ประทับใจคือภาพที่ท่านสะพายกล้องถ่ายภาพแล้วก็มีอะไรม้วนๆ อยู่ในมือของท่าน อีกภาพเป็นภาพที่มีเหงื่อที่จมูก ชอบภาพนี้มานานแล้วตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ เห็นแล้วรู้สึกปลื้ม น้ำตาจะไหล ดูโทรทัศน์ครั้งล่าสุดก็ร้องไห้กัน ตอนที่ท่านใส่เสื้อสีชมพูออกมาจากโรงพยาบาล ประทับใจคำที่ว่าเราต้องสนับสนุนคนดี ชอบเพราะมันกว้างดีทั้งประเทศเลย ถ้าทั่วประเทศทำได้ประเทศก็รุ่งเรืองแหละ
รู้กันอยู่แล้วว่าทุกคนยกให้ท่านเป็นที่หนึ่ง ในความรู้สึกผม ‘ในหลวง’ เปรียบเสมือนพ่อแม่ของผมก็ได้เพราะท่านดูแลประชาชนทุกคน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ผมอยู่มีโครงการของ ‘ในหลวง’ เป็นโครงการชลประทานในหมู่บ้านผม ทำให้ระบบน้ำในหมู่บ้านดีขึ้น
ผมว่าถ้าเราทำสิ่งดีๆ ทำตัวเองให้ดีแล้วก็ถึง ‘ในหลวง’ ถ้าเรา ทำดีกันทั้งประเทศ ผมก็ดี คุณก็ดี ‘ในหลวง’ ก็ดีใจ
รูปที่ผมคุ้นตาเสมอคือรูปที่ในหลวงออกมาให้ประชาชนเห็น ที่ท่านโบกมือประทับใจมาก รู้สึกแลดูสดชื่นแข็งแรง ช่วงที่ ‘ในหลวง’ เข้าโรงพยาบาลก็รู้สึกว่าเอาใจช่วยกันทุกคน บางทีก็ส่งข้อความไปช่วยกันเพื่อเอาใจช่วยให้ท่านหายป่วยด้วย ขอให้ในหลวงหายจากอาการประชวรกลับมามีพลานามัยแข็งแรงเหมือนเดิม อยากให้อยู่ คู่ประชาชนคนไทยไปอีกนานๆ
ที่ ‘ในหลวง’ ว่าเรื่องพอเพียงเมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจช่วงนี้ผมคิดว่าความพอเพียงเหมาะสมกับเศรษฐกิจปัจจุบันที่สุด
ความสามารถของ ‘ในหลวง’ เรื่องการปกครองนั่นมาที่หนึ่ง ประเทศไทยไม่มีการรบ มีความสามัคคีกัน ไม่เหมือนประเทศอื่น ฟังข่าวเห็นเดี๋ยวรบเดี๋ยวโจมตีที่โน่นที่นี่ ในใจผมว่าเรื่อง การปกครองนี่แหละ
สำหรับผม ‘ในหลวง’ คือพ่อของแผ่นดินครับ ถ้าไม่มีท่านก็คงไม่มีพวกเราอย่างทุกวันนี้ ทุกครั้งเวลาขึ้นชกก็จะนึกถึงพระองค์ท่านเพื่อให้มีกำลังใจดีขึ้น
ที่จะทำได้เพื่อท่านก็คือการทำความดี ไม่เสพยาเสพติด ไม่เที่ยวเตร่ และที่ผมอยากจะทำมากก็คือการได้ไปต่อยมวยในวันที่ 5 ธันวาคม ที่เวทีท้องสนามหลวงครับ เพราะเป็นงานต่อยมวยการกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ผมเคยขึ้นต่อยในวันที่ 5 ธันวาแล้วเหมือนกันได้เงินมาก็ถวาย ‘ในหลวง’ อยากให้ท่านนำไปช่วยเหลือเด็กยากจนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ต่างๆ และก็พวกคนชราครับ
ผมชอบภาพที่ ‘ในหลวง’ ท่านออกมายืนโบกมือให้กับประชาชนเมื่อปีที่แล้วมากเลย ดูท่านเป็นกันเองดี ทำให้ประชาชนรู้สึกดีมีกำลังใจมากขึ้น
‘ในหลวง’ ท่านเป็นผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนนะครับ ผมเห็นท่านทำอะไรมาหลายอย่างมาก ก็อยากจะสู้ต่อไปเหมือนกัน
ที่ลุงทำได้ก็คือการทำความดีไม่ประพฤติชั่ว และก็บูชา ‘ในหลวง’ เหมือนเป็นพ่ออีกคน ประทับใจภาพที่ ‘ในหลวง’ ใส่ชุดสีกากียืนคู่กับพระราชินี ที่ชอบภาพนี้เพราะแลดูท่านน่าเลื่อมใสเป็นที่น่าเคารพนับถือและก็มีภาพนี้ติดอยู่ที่บ้านอยู่ด้วย
ลุงก็เป็นห่วง ‘ในหลวง’ ท่านนะโดยเฉพาะตอนที่ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ไม่มีโอกาสได้ไปลงนามเยี่ยมท่านถึงที่กรุงเทพฯ โน่นหรอก แต่ก็ไปลงชื่อที่อำเภอแทน ขอให้ท่านหายไวๆ ติดตามข่าวจากในโทรทัศน์ทุกวันแล้วรู้สึกใจไม่ค่อยดี อยากให้ ‘ในหลวง’ สบาย อายุยืนอยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนไปนานๆ
‘ในหลวง’ ท่านเหมือนเป็นพ่อแม่เพราะท่านช่วยสั่งสอนอบรม ช่วยประชาชนให้อยู่ดีกินดีให้เจริญ ท่านเป็นห่วงราษฎรมากนะครับ อยากให้บ้านเมืองอยู่ดีมีสุข สิ่งที่ผมนำคำของท่านใช้ในการดำเนินชีวิตคือต้องมีความมานะอดทน หากินด้วยความสุจริต ซื่อสัตย์ และต้องไม่เบียดเบียนใคร
เวลาที่ ‘ในหลวง’ ท่านเจ็บป่วยผมก็จะอธิษฐานอวยพรขอให้ท่าน อยู่เย็นเป็นสุข ไม่ให้เจ็บให้ป่วยหรือขอให้หายไวๆ บางทีก็บวชพราหมณ์ทำบุญและอุทิศให้ท่าน เวลาสวดมนต์ภาวนาก็จะนึกถึงท่าน ขอให้โรคภัยไข้เจ็บอย่าได้มากล้ำกลายตัวท่าน ขอให้ห่างไกลกันอย่างน้ำกับฟ้าเลย ผมอยากให้ท่านอยู่กับเราไปนานแสนนาน จะได้ช่วยพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
‘ในหลวง’ ท่านก็ทรงชอบเลี้ยงสุนัขครับ เวลาที่เห็นภาพที่ท่านถ่ายกับสุนัขของท่านผมชอบมาก รู้สึกว่าท่านเป็นคนรักสัตว์มากท่านถึงเอาไปถ่ายภาพคู่ด้วย
สำหรับพี่ ‘ในหลวง’ เปรียบเสมือนพ่อ พอเห็นท่านแล้วรู้สึกปลาบปลื้ม ท่านเป็นเสมือนพ่อของแผ่นดิน พ่อของพวกเรา ปวงประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ก็เห็นท่านทำแต่สิ่งดีๆ ให้แก่ประเทศชาติแระชาชนมากมาย ฉะนั้นสิ่งดีๆ ที่เราจะทำเพื่อท่านบ้างก็คือการเหล้าไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ที่ร้านก็จะไม่มีเหล้าและบุหรี่ขายด้วย หากมีโอกาสก็จะปฏิบัติธรรมให้ท่าน เวลาทำดีก็จะคิดถึงท่าน
ภาพประทับใจที่นึกถึงเป็นอันดับแรกคือภาพตอนที่ท่านบวชเป็นพระ ภาพนั้นประทับใจมาก ขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาของเราเลย
เรื่องความสามารถท่านก็เก่งทุกๆ ด้านเลยไม่ว่าจะเป็นดนตรี ด้านเกษตร หรือเรื่องการทำฝนเทียมท่านก็เก่ง ช่วงที่พระองค์ท่านเข้าโรงพยาบาล พี่ก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ ใส่บาตร ช่วยภาวนาให้ท่านหายไวๆ พอท่านเสด็จออกมาเห็นแล้วก็น้ำตาไหลเลยค่ะ มันรู้สึกปลื้ม อยากให้ท่านรู้ว่าประชาชนทุกคนรักท่าน ช่วงวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ก็จะไปตักบาตรและปล่อยโคเพื่อเป็นพระราชกุศลด้วย
ฉันเปรียบ ‘ในหลวง’ เป็นพ่อแม่ที่คอยดูแลและช่วยเหลือลูกๆ นะสิ่งที่จะทำเพื่อท่านได้คือการทำความดี อยากจะสอนลูกให้เป็นคนดีของทุกๆ คน คนเราเกิดมาแล้วไม่กี่ปีก็ตายไป ถ้าเราเหลือความดีเอาไว้ ญาติพี่น้องเขาก็จะชื่นชม ชั่วชีวิตฉันก็ทำแต่ความดี
ฉันประทับใจภาพที่ท่านชอบออกไปเยี่ยมคนจนๆ ในสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ออกไปเดินอย่างนั้นแล้ว ท่านจะโบกไม้โบกมือแค่นี้เราก็ประทับใจแล้ว ธรรมดาพ่อแม่มาทักทาย ลูก ลูกก็ดีใจอยู่แล้ว ตอนนี้ท่านก็เดินไม่ค่อยจะไหวเพราะอายุ 80 ปีแล้วนะ การบ๋ายบายของท่านก็เหมือนการที่พ่อแม่บอกว่า ให้อยู่สบายนะลูกๆ หลานๆ
ฉันชอบคำพูดของท่านที่ว่าให้สร้างแต่ความดี ส่วนมากฉันจะได้ยินเวลาข่าว ฉันก็รู้ว่าความดีจะกลับมาสนองเราเอง แต่ว่ามันอาจจะมาช้าๆ ไม่เหมือนคนทำชั่ว พอทำชั่วปุ๊บก็เห็นผลปั๊บเลยเหมือนกับที่เขาพูดว่าความดีเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ให้ผลช้านั่นแหละ
เรื่องความสามารถฉันว่าท่านเก่งทุกอย่างนะโดยเฉพาะเรื่องชลประทาน แต่ก่อนทำนากันแค่ปีละ 1 หน มาตอนนี้ทำปีละ 3 หนก็ได้ เพราะว่ามีชลประทานของ ‘ในหลวง’ ฉันเคยเห็น ‘ในหลวง’ ครั้งหนึ่งสมัยที่ยังเป็นเด็กๆ อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เห็นตอนนั้นท่านยังหนุ่มๆ อยู่เลย ตอนนี้ก็ขอให้ท่านสบาย เพราะท่านทำงานมามาก ลำบากมามากแล้ว
ถ้าพูดถึง ‘ในหลวง’ ก็จะนึกถึงความดี ท่านทำอะไรดีไปหมด ถ้าเปรียบท่านก็คงเหมือนเทวดา ประเสริฐเลิศเลอจนไม่สามารถจะเปรียบกับใครได้เลย ชอบทุกอย่างที่ท่านดำริที่ท่านทำ เวลาดูทีวีจะเห็นว่าท่านเสด็จไปทุกที่ และมีแต่คนล้อมรอบ ดูแล้วเป็นภาพที่ประทับใจมาก ทุกคนเห็นท่านเหมือนเป็นอะไรมา โปรด
เราเคยไปรับเสด็จท่านครั้งหนึ่งตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมที่วัดหลวงพ่อโสธร ไปรอกันตั้งแต่เช้าแต่ท่านมาเย็น เราก็ยังนั่งได้ไม่ยอมไปไหน จำได้ว่าพอท่านเสด็จมาถึงนี่เราแทบน้ำตาจะไหลออกมาเลย ปลื้มมาก ขอให้ได้เห็นก็ดีใจแล้ว มันรู้สึกตื้นตัน
โครงการส่วนพระองค์ที่ท่านทรงมาริเริ่มไว้เกี่ยวกับการทำนาผสมผสานไปกับการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ กุลาขาว และกุ้งก้ามกราม เป็นโครงการที่อยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรีแต่ก็ติดๆ กัน มีอยู่พักหนึ่งที่รัฐบาลไม่ให้เลี้ยงกุ้งกุลาเพราะจะทำให้น้ำเสีย แต่ท่านก็มีโครงการทดลองเพื่อให้คนในพื้นที่ไม่ขัดแย้งกันเพราะจะ มีทั้งนาข้าวกับนากุ้งในบริเวณนี้ กุ้งทำน้ำเสียแต่นาข้าวต้องการน้ำดี เดิมมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ท่านก็เลยทดลองให้นาข้าวนากุ้งอยู่ในแปลงเดียวกันเพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่าอยู่ด้วยกันได้ไม่ต้องทะเลาะกัน
‘ในหลวง’ ท่านเป็นแบบฉบับที่ดีที่สุด ท่านทำอะไรก็อยากให้พลเมืองของท่านได้สิ่งที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี มีสภาพชีวิตที่ดี มีการศึกษาดี เรามักจะได้ยินเรื่องการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เราก็จำได้แต่ไม่ได้คิดจะมาใช้ ตอนหลังๆ นี่เราทำอะไรไม่พอกินพอใช้ ก็เลยลองทำดูบ้าง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยได้ผลเพราะมีหนี้เยอะ ก็พยายามนึกถึงว่าพอเพียงก็พอ ประหยัด อย่าเพิ่งอยากได้นั่นอยากได้นี่ อย่าเพิ่งขยายมาก เมื่อก่อนอยู่อย่างฟู่ฟ่า ตอนนี้กุ้งเราก็เลี้ยงให้น้อยลง หันมาทำแบบพอเพียงไม่ต้องเยอะค่าใช้จ่ายก็น้อยลงก็พออยู่ได้ ต้องขอบคุณ ‘ในหลวง’ ท่าน
‘ในหลวง’ ท่านดีมากๆ ครับ ท่านเป็นนักพัฒนาประเทศและรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านและประเพณีไทยไว้ได้ดีอย่างไม่มีที่ติ ท่านเป็นตัวอย่างของคนทั้งในประเทศรวมถึงชาวโลกด้วยไม่ใช่แค่ประเทศไทย ทั้งเรื่องการพัฒนา เศรษฐกิจพอเพียงก็ดี ใครอยู่ที่ไหนท่านก็ไปบอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ครับ
‘ในหลวง’ ทรงบอกเสมอว่าให้ประชาชนอยู่อย่างพอเพียง อย่าเห็นแก่ตัว ซึ่งผมเองก็นำมาใช้ในการทำงาน พระคุณของ ‘ในหลวง’ เยอะมาก ท่านเข้าถึงทุกที่ทุกทาง ไปถึงไหนคนก็นิยมชมชอบ มีสาระให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ตลอด ช่วยเหลือประชาชนทุกอย่าง ตอนที่ท่านป่วย พวกเราก็ยังร่วมอวยพรจุดธูปจุดเทียนไม่อยากให้ท่านไปไหน อยากให้อยู่นานๆ เพราะท่านเป็นคนดีที่สุด อยากให้เป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทย
ผมเคยมีโอกาสเห็นท่านครั้งหนึ่งตอนยังหนุ่มๆ ที่เมืองขอนแก่น แต่เห็นอยู่ไกลๆ ท่านเดินผ่านมาเราก็ได้แต่ยกมือท่วมหัวรู้สึกว่าเป็นบุญ ตอนนั้นท่านเดินมากับพระราชินี ท่านก็จับมือคนนั้นคนนี้แล้วก็ยิ้ม ผมรู้สึกปลาบปลื้มมากๆ ผมว่าท่านหล่อที่สุดในโลกเลย ตอนนั้นท่านยังหนุ่มๆ
ขอบคุณจากใจ
สิ่งที่ทุกคนในกองบอกอปลาบปลื้มใจในการทำคอลัมน์นี้คือ แทบทุกท่านที่เราติดต่อขอสัมภาษณ์และถ่ายภาพ จะตอบรับด้วยไมตรีจิต ด้วยน้ำเสียงที่กรุณาต่อเราซึ่งเป็นนิตยสารฉบับเล็กๆ ฉบับหนึ่ง หลายๆ ท่านงานรัดตัวจนแทบหาเวลาว่าง ไม่ได้ ก็ยังอุตส่าห์ปลีกตัวจากงานมาเพื่อคอลัมน์นี้ แต่ที่สุขใจยิ่งกว่าใดๆ ก็คือ การได้สัมผัสรับรู้ความในใจของแต่ละท่านเมื่อพูดถึง “ในหลวง” ของเรา หลายท่านน้ำตาคลอขณะบอกเล่า บางท่านถึงกับปาดน้ำตาไปเล่าไป ถ้อยคำจากใจที่อาจไม่ได้เรียบเรียงคำพูดมาก่อนกลับบ่งบอกความหมายคำว่า “ในหลวง” ได้ยิ่งกว่าถ้อยคำสละสลวยจากสื่อใดๆ
พวกเราทุกคนที่ออกไปทำคอลัมน์นี้ มีความรู้สึกเดียวกัน เมื่อกลับมาจากการสัมภาษณ์ทุกครั้งคือ อิ่มเอิบใจ อย่างบอกไม่ถูก ทุกคนตอบเป็นเสียงดียวกันว่า มีความสุขกับการทำโครงการเทิดพระเกียรติในปีนี้
ขอบคุณครับ.. คงไม่มีคำกล่าวใดที่แทนน้ำใจและความกรุณาจากทุกท่านที่สละเวลา เพื่อมาบอกเล่าในเรื่องที่เรารู้สึก เหมือนกันคือ “เรารักในหลวง” ผมในฐานะตัวแทนของนิตยสาร FOTOINFO ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สำหรับสิ่งดีๆ ที่เกิดในนิตยสารฉบับเดือนธันวาคม 2550 นี้ และผมต้องขอบคุณทีมงานโฟโต้อินโฟทุกคนที่ช่วยกันเต็มกำลังจนทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้แม้จะถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของเวลาอย่างมาก หลายหน่วยงานองค์กรต่างจัดทำโครงการและกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติกันอย่างพร้อมเพรียง เราก็คงเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงแซ่ซ้องที่จะแสดงออกตามกำลังและรูปแบบที่เราสามารถทำได้ และขณะนี้ทุกๆ เสียงจากทุกดวงใจคนไทยก็คงกำลังทำเช่นกัน
ขอบคุณ ชวลิต แสงอินทร์, พศวีร์ พัชรภัทรพันธุ์, ฤทัยรัตน์ พวงแก้ว, แก้วจิดา หะทัยธรรม สำหรับการเดินทางไกลที่แสนคุ้มค่า ภารกิจที่ได้รับ มอบหมายนั้นทุกคนทำกันอย่างเต็มที่ เหนื่อยและล้าแต่ไม่มีท้อ
ขอบคุณ บัณฑูร พานแก้ว , สุพัฒน์ ลาวัณจรัสโยธิน และเดชฤทธิ์ โกปาราเมศ สำหรับการถ่ายภาพในกรุงเทพและปริมณฑล
ขอบคุณ แก้วจินดา (อีกครั้ง)และวริษฐา เปี่ยมพุทธากุล สำหรับการถอดเทปสัมภาษณ์ที่ทำได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
ขอบคุณ อีกหลายๆ ท่านที่ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้โฟโต้อินโฟครับ
อิสระ เสมือนโพธิ์
บรรณาธิการ
นิตยสารโฟโต้อินโฟ ฉบับเดือน ธันวาคม 2550