เมื่อเข้าสู่ปีใหม่ย่อมเป็นธรรมเนียมที่มักจะที่การประกาศรางวัลที่สุดแห่งปี หรือยอดเยี่ยมแห่งปีในด้านต่างๆ ของปีที่ผ่านมาจากสถาบันต่างๆ สำหรับการถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน ที่มีเวบไซต์ของนิตยสารถ่ายภาพที่เก่าแก่ในอเมริกาได้ประกาศอุปกรณ์ถ่ายภาพยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2016 ออกมา ลองมาดูว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่ถูกยกให้เป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพยอดเยี่ยมประจำปี 2016 ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักถ่ายภาพในปี 2017 นี้ด้วย
Nikon D500
เป็นเวลาถึง 7 ปีนับตั้งแต่ที่ Nikon ประกาศว่าจะทำกล้อง DSLR DX หรือเซ็นเซอร์ฟอร์แมต APS-C ออกมาจนกระทั่ง D500 เปิดตัว ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยถึงความคุ้มค่าแก่การรอคอย ซึ่งผลที่ออกมาคือ D500 ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 20.9 ล้านพิกเซลให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ ISO 50-3200 จริงๆ แล้วความไวแสงของ D500 สามารถปรับได้ตั้งแต่ ISO 50-1,638400 หรือเกือบ 1.64 ล้าน แต่ที่ความแสงสูงขนาดนั้นจะให้สัญญาณรบกวนในภาพอย่างมาก ขณะที่ระบบออโตโฟกัสของกล้องเอามาจาก D5 ที่รุ่นท็อปของ Nikon ซึ่งมี 153 จุดโฟกัส จอ LCD แบบทัชสกรีนความละเอียด 2.4 ล้านจุด และมีเซ็นเซอร์วัดแสง 180,000 พิกเซล รวมทั้งสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30 ภาพ/วินาที สิ่งที่สำคัญสำหรับนักถ่ายภาพกีฬาและแอ็กชั่นคือ D500 สามารถถ่ายภาพแบบ JPEG ด้วยความเร็ว 10 ภาพ/วินาทีได้ต่อเนื่องถึง 200 ภาพ และ 1 การ์ด 2 ช่องใส่การ์ดของกล้องรองรับการ์ด QXD ความเร็วสูง หากที่ชุดเลนส์สำหรับกล้อง DX ครบอยู่แล้ว นี่คือการอัพเกรดที่สมควรแก่การรอคอย
360fly 4K
แน่นอนว่า 360fly ไม่ได้ให้การบันทึกภาพทรงกลมที่สมบูรณ์แบบด้วยการใช้เลนส์เพียงตัวเดียวที่บันทึกภาพแนวนอนได้ 360 องศา แต่บันทึกภาพแนวตั้งได้ 240 องศา แต่สิ่งที่อยู่หลังเลนส์สามารถสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K 30 ภาพ/วินาที และภาพฟอร์แมตสี่เหลี่ยมจตุรัส 2880 x 2880 ซึ่งให้ทั้งความละเอียดและสีสันที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ตัวกล้องยังป้องกันนํ้าและการกระแทก สามารถถ่ายโอนไฟล์วิดีโอสู่สมาร์ทโฟนได้ผ่านบลูทูธ หรือสู่คอมพิวเตอร์ผ่าน USB
Adorama Flashpoint Xplor 600 HSS TTL
หากต้องการแฟลชโมโนกำลังสูง และต้องเป็นแฟลชที่มีแบตเตอรี่ในตัวเพื่อการถ่ายภาพนอกสถานที่ รวมทั้งยังต้องการการทำงาน TTL แฟลชอีกด้วย หากใช้กล้อง Canon หรือ Nikon แฟลชตัวนี้สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ ตัวส่งสัญญาณไร้สายของแฟลชสามารถทำงานได้ประมาณ 32 หรือเกือบ 10 เมตรฟุตเมื่อใช้งานกลางแจ้งและยังมีออฟติคัลสเลฟ สำหรับการใช้แฟลชร่วมกันหลายตัว ขณะที่แบตเตอรี่ Li-ion สามารถยิงแสงแฟลชเต็มกำลังได้ถึง 450 ครั้ง
Broncolor Siros 800 L
เมื่อแบตเตอรี่ที่พกพาได้สะดวกสำหรับแฟลชโมโนได้กลายเป็นสิ่งปกติในชีวิตของนักถ่ายภาพไปแล้ว Siros 800 L ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ของแฟลชโมโนด้วยการใช้แบตเตอรี่ Li-ion กำลังสูงในตัวทำให้ไม่ต้องมีแบตเตอรี่แพกต์แยกต่างหากหรือสายไฟหรือเรียกได้ว่าเป็นแฟลชแบบ All-in one อย่างแท้จริง นอกจากนี้แฟลชรุ่นนี้ยังสร้างความประทับใจด้วยกำลังสูง 800 วัตต์ที่สามารถปรับกำลังได้ 9 สตอป โดยให้กำลังแฟลชที่เที่ยงตรง และอุณหภูมิสีที่คงที่ตลอดช่วงกำลังแฟลช สามารถยิงแฟลชแฟลชเต็มกำลังได้ 220 ครั้งก่อนที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อให้สามารถถ่ายภาพต่อไปได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ขาดไปในแฟลชนี้คือการควบคุมแฟลชแบบ TTL ที่มีในแฟลชสตูดิโอหลากหลายรุ่น
Canon EOS 5D Mk IV
หากต้องการเห็นโฉมใหม่ของกล้อง DSLR ที่สามารถสร้างความตื่นตะลึงได้ ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้จาก 5D Mk IV ซึ่งยังคงลักษณะของกล้องฟูลเฟรมรุ่นยอดนิยมซีรี่ส์ 5D ของ Canon ที่มีการปรับปรุงกล้องรุ่นใหม่ๆ อย่างสมเหตุสมผลโดยไม่พลิกโฉมจากเดิมมากนักมาอย่างต่อเนื่อง ความละเอียดของเซ็นเซอร์ภาพเพิ่มขึ้นเป็น 30.4 ล้านพิกเซลจาก 22.3 ล้านพิกเซลใน 5D Mk III สามารถให้ความละเอียดที่ยอดเยี่ยมของภาพถึง 3130 Line ที่ความไวแสงตํ่า แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องสัญญาณรบกวนที่มีระดับที่ตํ่ากว่าหรือทำได้ดีกว่าเฉพาะแค่ถึง ISO 3200 เท่านั้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าทำได้ดีถึง ISO 12800 ขณะที่วิดีโอถูกเพิ่มความละเอียดสูงสุดไปที่ 4K 30 ภาพ/วินาทีจาก HD 1080p ในรุ่นที่ 3 อย่างไรก็ตาม 5D รุ่นที่ 4 นี้มี WiFi มาให้ในตัวกล้องซะที
Canon EF 35 mm F1.4L II USM
รุ่นที่สองของเลนส์ฟูลเฟรมไวแสงนี้ทาง Canon อ้างว่ามีการใช้ออฟติคใหม่จากรุ่นเดิมซึ่งสามารถลดความคลาดสีที่เป็นสาเหตุของสีเหลื่อมและการเบลอที่ขอบได้อย่างมาก ซึ่งผลลัทธ์เป็นจริงตามที่ผู้ผลิตอ้างโดยไม่มีการเหลื่อมของสีให้เห็น รวมทั้งยังมีความคมชัดที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาจากผลลัพธ์ข้างต้นคือราคาที่แพงและนํ้าหนักที่มากของเลนส์ แต่นี่คือหนึ่งในเลนส์ L ที่ดีที่สุด
Canon Image PROGRAF Pro-1000
แม้จะเป็นปรินเตอร์รุ่นโปรแต่แตกต่างจากรุ่นโปรตรงที่สามารถปรับตั้งการทำงานได้ง่ายมากด้วยการตัดเมนูออกจึงลดความยุ่งยากในการใช้งานลง ขณะที่คุณภาพที่ได้อยู่ในระดับโปร สามารถให้สีที่ยอดเยี่ยมแม้จะปรินต์ภาพถึงขนาด 17 x 22 นิ้ว มีเซ็นเซอร์วัดความเข้มของสีในตัว และใช้ชุดหมึก Lucia 12 ตลับซึ่งหนึ่งในนั้นเป็น Chroma Optimizer ที่ออกแบบมาตรวจจับความคลาดเคลื่อนของสีที่อาจเกิดกับกระดาษผิวมัน นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการทำงานเมื่อเทียบกับปรินเตอร์ระดับเดียวกันโดยใช้เวลา 6 นาทีในการปรินต์ภาพขนาด 13 x 19 คุณภาพสูง ส่วนนํ้าหนักของปรินเตอร์อยู่ที่ 71.2 ปอนด์
Fujifilm X-Pro2
X-Pro2 ถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานของ X-Pro1 โดยตัดสิ่งต่างๆ ที่เป็นข้อด้อยออกไป ซึ่งการปรับปรุงหลักๆ คือใช้เซ็นเซอร์ APS-C แบบ X-Trans 24.3 ล้านพิกเซลแทนเซ็นเซอร์ 16 ล้านพิกเซลของรุ่นก่อนหน้า ช่องมองภาพไฮบริดที่เปลี่ยนจากออฟติคัลเป็นแบบอีเล็กทรอนิกได้สามารถเปลี่ยนได้เกือบจะทันทีด้วยก้านปรับเดียว เพื่อช่วยให้โฟกัสแมนนวลได้สะดวกขึ้นสามารถให้แสดงไฮไลต์วัตถุที่ขยายในจอได้ รวมทั้งยัง Spit-image ช่วยโฟกัสทั้งที่จอ LCD และช่องมองภาพอีเล็กทรอนิก ระบบออโตโฟกัสแม่นยำขึ้นด้วยจุดโฟกัสที่มากขึ้น ตัวกล้องยังถูกออกแบบให้จับถือได้ถนัดขึ้น แต่หากคิดว่าช่องมองภาพอีเล็กทรอนิกธรรมดาก็เพียงพอไม่จำเป็นต้องมีช่องมองภาพไฮบริด จะสามารถประหยัดเงินได้มากกับรุ่น X-T2
Fujifilm Fujinon XF 100-400 mm F4.5-5.6 R LM OIS WR
เมื่อติดกล้อง Mirrorless ของ Fujifilm ที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C จะทำให้มีมุมรับภาพเทียบเท่ากับเลนส์ 150-600 มม. ของกล้องฟูลเฟรม ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกีฬา, แอ็กชั่น, ทิวทัศน์จากระยะไกล และสัตว์ป่า โดยเลนส์ให้ความคมชัดที่ยอดเยี่ยม ดิสทอร์ชั่นที่น้อย และไม่พบอาการแสงตกที่ขอบภาพน้อยตลอดช่วงทางยาวโฟกัสของเลนส์ ไม่เพียงคุณภาพทางออฟติคที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้มือถือกล้องถ่ายภาพได้ตํ่ากว่าปกติ 4 สตอปด้วย แม้จะเป็นเลนส์ที่มีขนาดใหญ่แต่ค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับขนาดเลนส์ด้วยนํ้าหนัก 1,375 กรัม ดังนั้นจึงสามารถใช้เพียงโมโนพอดร่วมด้วยก็เพียงพอ
Fujifilm Instax Share SP-2 Smartphone Printer
เครื่องปรินต์ที่ให้ความสะดวกในการพกพาด้วยขนาดพอๆ กับสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ สามารถปรินต์ภาพขนาด 2.4 x 1.8 นิ้วบนฟิล์ม Instax Mini ได้จากสมาร์ทโฟน หรือจาก Instagram และ Facebook ผ่าน WiFi โดยใช้ RGB OLED เพื่อปรินต์ภาพสี, ขาว-ดำ หรือซีเปีย และยังสามารถสั่งปรินต์ซํ้าภาพเดิมได้ง่ายด้วยการกดปุ่ม Reprint ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธี่ยม CR2 ทั้งหมดนี้ทำให้สามารถปรินต์ภาพได้สะดวก
Olympus Pen-F
ตัวกล้อง Pen-F ที่สวยงามไม่เพียงแค่ชวนให้คิดถึงกล้องฟิล์ม Olympus Pen F ในช่วง 1960 ที่ถูกตัดแป้นกรอฟิล์มออกโดยเปลี่ยนมาเป็นสวิตช์เปิด-ปิดการทำงานของกล้องแทนเท่านั้น แต่กล้อง MicroFourThirds ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซลนี้ยังให้ความละเอียดที่ยอดเยี่ยม และการทำงานลดการสั่นไหวของภาพแบบเคลื่อนเซ็นเซอร์ 5-axis สามารถช่วยให้ใช้มือถือกล้องด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่าปกติ 4 สตอป สามารถเลือกดูภาพได้จากช่องมองภาพอีเล็กทรอนิกความละเอียด 2.360,000 ล้านพิกเซลหรือจอ LCD แบบทัชสกรีน นอกจากนี้ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและนํ้าหนักเบาจึงทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักถ่ายภาพ Street และผู้ที่ชอบเดินทาง
Venus Optics Laowa 12 mm F2.8
เลนส์ที่ถูกพัฒนาโดยผู้ผลิตในประเทศจีนด้วยการลงทุนของ Kickstarter ซึ่งให้ความประหลาดใจในเรื่องคุณภาพ เนื่องจากเลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษที่ไม่ใช่ฟิชอายสำหรับกล้องฟูลเฟรมนี้ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม อาการแสงตกที่ขอบภาพน้อย หายไปเมื่อหรี่มาที่รูรับแสง F4 และมีดิสทอร์ชั่นแบบ Barrel เล็กน้อยมากจนแทบไม่สังเกตเห็น จึงทำให้เป็นเลนส์มุมกว้างที่มีมุมรับภาพ 121 องศาที่ดีมากๆ อย่างแท้จริง มีให้เลือกทั้งเม้าต์ Canon, Nikon, Pentax และ Sony ทั้ง A และ E-mount แต่ต้องโฟกัสแมนนวลเท่านั้น
Peak Design Everyday Backpack 20L
Everyday Backpack ไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุมกันฝนเนื่องจากวัสดุภายนอกของตัวกระเป๋าที่เป็น Kodra ทั้ง 2 ด้านถูกโค๊ต 2 ชั้นด้วย Polyurethane มีช่องขนาดใหญ่สำหรับเปิดเข้าสู่ภายในทั้งสองด้านของตัวกระเป๋าซึ่งมี 3 ที่กั้นช่องที่สามารถพับลงให้เป็นช่องขนาดเล็กลงได้ จึงทำให้นักถ่ายภาพสามารถใส่กล้อง DSLR ขนาดใหญ่พร้อมเลนส์อีก 3 ตัว ไม่มีช่องสำหรับเปิดเข้าสู่กระเป๋าที่ด้านหลัง แต่ด้วยการออกแบบที่ฉลาดโดยใช้ที่เปิด-ปิดที่เป็นแม่เหล็กช่วยให้ขยายกระเป๋าให้ใหญ่ขึ้นโดยที่ยังล็อกกระเป๋าอย่างปลอดภัยได้
Rokinon 50 mm F1.2 AS UMC
เลนส์ที่ถูกออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless ที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่าฟูลเฟรมโดยมีทั้งเมาต์ Canon M, Fujifilm X, Sony E และ Micro FourThirds จึงทำให้มีทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับตั้งแต่ 75-100 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดเซ็นเซอร์ของกล้องซึ่งเป็นช่วงทางยาวโฟกัสที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพพอร์เทรตและภาพ Candid เลนส์ให้ความคมชัดที่ยอดเยี่ยม แทบไม่ปรากฏดิสทอร์ชั่น และควบคุมอาการแสงตกที่ขอบภาพน้อยได้ดีมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ขาดไปในเลนส์คือระบบออโตโฟกัสเช่นเดียวกับเลนส์ Rokinon รุ่นอื่นทำให้ต้องโฟกัสแมนนวลเท่านั้น แต่ก็สามารถโฟกัสได้นุ่มนวล และราคาของเลนส์สมเหตุสมผล
Wandrd Prvke 21
กระเป๋ารุ่นที่ออกเสียงว่า Provoke นี้เป็นเป้สะพายหลังสำหรับการผจญภัยที่ถูกออกแบบโดยใส่ใจต่อนักถ่ายภาพให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน มีช่องขนาดใหญ่สำหรับเปิดสู่ภายในจากด้านข้าง ซิปทนต่อสภาพอากาศต่างๆ พร้อมสายสำหรับรักขาตั้งกล้อง รวมทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้เข้ากับอุปกรณ์ถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีช่องที่เก็ยโน๊ตบุ๊กขนาด 15 นิ้วได้อย่างปลอดภัย
Westcott Rapid Box Beauty Dish
หากจะบอกว่าเป็น Beauty Dish ก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าเป็นร่มก็ยังยังไม่ใช่ เพราะเป็นการรวมเอาอุปกรณ์ปรับแสง 2 อย่างไว้ด้วยกัน พร้อมกับให้ความสะดวกในการพกพา อุปกรณ์นี้การออกเหมือนร่มเมื่อใช้งานเพื่อทำให้เป็นอุปกรณ์ปรับแสงทรงกลมความลึก 24 มม. พร้อมกับมีแผ่นกระจายแสงมาให้ใช้ที่ทำให้ดูเหมือนเป็นซอฟต์บ็อกเล็กๆ มีให้เลือกใช้สำหรับเม้าต์ของแฟลชสตูดิโอทั่วไป
Sigma 50-100 mm F1.8 DC HSM Art
ช่วงซูม 2 เท่าของเลนส์อาจไม่ดึงดูดความสนใจจากนักถ่ายภาพนัก แต่รูรับแสงกว้างสุด F1.8 กลับทำให้เลนส์นี้น่าสนใจ และเป็นทางเลือกอย่างไร้ที่ติสำหรับการถ่ายภาพพอร์เทรต, ในสภาพแสงน้อย และภาพวัตถุเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามเลนส์มีให้เลือกแค่ 3 เท้าต์คือ Canon, Nikon และ Sigma โดยจะทำให้เทียบเท่ากับช่วง 75-150 หรือ 80-160 ของฟูลเฟรม เนื่องจากเป็นเลนส์ระดับไฮเอนด์ซีรี่ส์ Art ของ Sigma จึงทำให้เต็มไปด้วยชิ้นแก้วคุณสมบัติพิเศษ มีการใช้มอเตอร์ HSM ที่เงียบมากในการโฟกัส และสามารถใช้ร่วมกับ USB Dock เพื่ออัพเดตเฟิร์มแวร์รวมทั้งระบบออโตโฟกัสได้ แน่นอนว่าเลนส์ซูมนี้มีขนาดใหญ่และนํ้าหนักมาก 1,490 กรัม แต่อย่าลืมว่านี่คือเลนส์ซูม F1.8
Sony Alpha 6300
แม้ Sony a6000 ทำให้ยากที่จะสร้างความน่าสนใจในรุ่นต่อมา แต่ Sony ก็ยังสามารถจัดการปัญหานี้ได้กับ 6300 ซึ่งแม้จะยังคงมีจำนวนพิกเซลเท่าเดิม แต่เซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลในกล้องเป็นรุ่นใหม่ที่ใช้สายทองแดงเพื่อเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นในการถ่ายโอนข้อมูล รวมทั้งหน่วยประมวลผลภาพยังมีความเร็วมากขึ้นเพื่อการโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น สามารถถ่ายวิดีโอ 4K 30 ภาพ/วินาทีได้ และถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็ว 11 ภาพ/วินาทีโดยที่ระบบวัดแสงและออโตโฟกัสทำงานในแต่ละภาพ นอกจากนี้คุณภาพของภาพยังยอดเยี่ยมจนถึงความไวแสง ISO 3200 ขณะที่ความไวแสงสูงสุดของกล้องถูกดันไปถึง ISO 51200 นอกจากนี้กล้องรุ่นใหม่ยังมีจำนวนจุดโฟกัสสูงกว่ารุ่น a6000 ถึง 3 เท่า ขณะที่การออกแบบตัวกล้องมีการปรับปรุงจากเดิมเพียงเล็กน้อย
Sony Cyber-shot RX100 V
ในยุคปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีกล้องคอมแพกต์ซึ่งเต็มด้วยการทำงานต่างๆ ที่น่าสนใจให้เห็นนัก แต่ Sony ยังคงมีกล้องรุ่นใหม่ที่ถูกเพิ่มประสิทธิภาพให้เหนือกว่ากล้องรุ่นเดิมอย่างเด่นชัดออกมาคือรุ่นที่ 5 ของ RX100 ที่สามารถถ่ายวิดีโอความเร็ว 960 ภาพ/วินาทีซึ่งทำให้เกิดภาพ Slowmotion 40x นาน 8 วินาทีได้ นอกเหนือจากความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K ในการถ่ายภาพนิ่งสามารถถ่ายภาพ JPEG เต็มความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซลที่ความเร็ว 24 ภาพ/วินาทีได้ต่อเนื่อง 150 ภาพโดยที่ระบบวัดแสงและออโตโฟกัสทำงานต่อเนื่อง RX100 V มีเลนส์ซูม 24-70 มม. F1.8-2.8 และช่องมองภาพอีเล็กทรอนิกความละเอียด 2,359.296 จุดแบบป็อปอัพ อาจบอกได้ว่านี่คือกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กสำหรับการถ่ายภาพที่ใหญ่
Tamron SP 85 mm F1.8 VC
เมื่อเห็นแล้วนักถ่ายภาพอาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากเลนส์ 85 มม. F1.8 อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด แต่ประสิทธิภาพจากเลนส์นี้จะทำให้ความคิดนี้เปลี่ยนไป นี่คือเลนส์ 85 มม. รุ่นแรกที่มีการทำงานลดการสั่นไหวของภาพซึ่ง Tamron เรียกว่า Vivration Compensation ที่ช่วยให้สามารถใช้มือถือกล้องถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่าปกติ 3 สตอป ดิสทอร์ชั่นแทบไม่ปรากฏให้เห็น อาการแสงตกที่ขอบภาพน้อยไม่มีทุกรูรับแสง ตัวเลนส์ถูกซีลป้องกันฝุ่น มีฟลูออไรน์โค๊ตที่เลนส์ชิ้นหน้าช่วยลดการเกาะติดของคราบต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับ TAP-in Console เพื่ออัพเดทเฟิร์มแวร์และระบบออโตโฟกัสได้ มีให้เลือก 3 เม้าต์คือ Canon, Nikon และ Sony
Tokina AT-X 14-20 mm F2 Pro DX
เลนส์ซูมมุมกว้างเป็นพิเศษที่มีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ F2 โดยเลนส์ซูมสำหรับกล้อง APS-C นี้มีช่วงซูมเทียบเท่ากับ 21-30 มม. กับ Nikon หรือ 22.4-32 มม. กับ Canon ซึ่งเป็น 2 เม้าต์ที่มีให้เลือกเท่านั้น เป็นเลนส์ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมตลอดช่วงซูม และควบคุมแสงตกที่ขอบภาพน้อยได้อย่างโดดเด่นจนไม่เหลือเลยที่ช่วง 16 มม. ที่ช่วงทางยาวโฟกัสกว้างสุดแสดงดิสทอร์ชั่นแบบ Barrel ให้เห็นซึ่งไม่ใช้สิ่งที่แปลก เพราะหมือนกับเลนส์ช่วงเดียวกันจากผู้ผลิตอื่น อย่างไรก็ตามไม่มีเม้าต์ Sony และ Pentax ให้เลือกใช้
Nikkor AF-S 16-80 mm F2.8-4 DX ED VR
หากมองหาทางเลือกที่จะอัพเกรดจากเลนส์คิตของกล้อง APS-C จาก Nikon นี่คือทางเลือกและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเลนส์นี้เหนือกว่าเลนส์ซูมที่มาพร้อมกล้องทั้งในด้านความไวแสง, ความคมชัด, น้ำหนัก และโค๊ตฟลูออไรน์ที่เลนส์ชิ้นหน้าและหลังเพื่อลดการเกาะติดของฝุ่นและคราบต่างๆ ช่วงซูมยังขยับขึ้นเป็นเทียบเท่ากับ 24-120 มม. ของกล้องฟูลเฟรม พร้อมกับมีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ค่อนข้างดี และมีการทำงานลดการสั่นไหวของภาพถึง 3 สตอป ทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับติดไว้ที่กล้อง เลนส์มีดิสทอร์ชั่นให้เห็นที่ช่วง 16 มม. แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกับเลนส์จากผู้ผลิตอื่น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่ดีสำหรับนักถ่ายภาพอาจเป็นราคาของเลนส์