BASIC

Choose “Tripod Head” ลักษณะของหัวขาตั้งกล้องที่ควรเลือกใช้

ขาตั้งกล้องบางรุ่นไม่ได้ถูกขายพร้อมกับหัว หรือสามารถเปลี่ยนหัวขาตั้งกล้องเป็นแบบอื่นได้เมื่อซื้อ ทำให้นักถ่ายภาพมีโอกาสที่จะเลือกหัวขาตั้งกล้องได้เองตามที่ต้องการ หรือนักถ่ายภาพบางคนเมื่อใช้ขาตั้งกล้องไปสักระยะแล้วอาจรู้สึกว่าหัวที่ติดมาพร้อมกับขาตั้งกล้องใช้งานไม่สะดวก ก็อาจคิดที่จะเปลี่ยนหัวขาตั้งเป็นแบบอื่น แต่การจะเลือกหัวขาตั้งกล้องที่เหมาะสมได้นั้นควรที่จะรู้จักกับหัวขาตั้งกล้องแต่ละแบบก่อน

ถึงแม้จะเป็นเรื่องของหัวขาตั้งกล้อง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหัวขาตั้งกล้อง นักถ่ายภาพควรพิจารณาให้ดีก่อนว่าจะใช้ขาตั้งกล้องอย่างไร เช่น หากสิ่งที่ถ่ายภาพเป็นประจำเสมอคือทิวทัศน์สิ่งที่ต้องการคือหัวขาตั้งกล้องที่นํ้าหนักเบาและกะทัดรัดเพื่อให้สามารถถือไปไหนมาไหนได้สะดวก สำหรับนักถ่ายภาพที่อยู่แต่ในสตูดิโอจะมีทางเลือกที่ตรงกันข้ามเนื่องจากขนาดและนํ้าหนักของหัวขาตั้งกล้องไม่ใช่ปัญหา แต่ความละเอียดในการปรับหัวขาตั้งกล้องเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งในการเลือกหัวขาตั้งกล้องคือสามารถรับนํ้าหนักได้มากกว่าที่ต้องการเผื่อสำหรับการอัพเกรดกล้องเป็นรุ่นสูงขึ้นและมีนํ้าหนักมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้กล้องระดับ Entry-level หรือระดับกลาง เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อหัวขาตั้งกล้องใหม่อีกครั้ง


หัวบอล (Ball Head)

หัวบอลเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักถ่ายภาพส่วนใหญ่ เนื่องจากมีขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา รวมทั้งยังสามารถปรับได้รวดเร็วและง่าย ด้วยระบบเมคานิคของหัวบอลจะทำให้นักถ่ายภาพสามารถขยับกล้องไปในทิศทางต่างๆ ได้ด้วยการปลดล็อกเพียงครั้งเดียว แตกต่างจากหัว 3 ทางหรือ Pan-and-Tilt ที่การปลดล็อกจุดหนึ่งจะสามารถปรับหัวได้ทิศทางเดียว อย่างไรก็ตามหัวบอลอาจไม่ให้ความแม่นยำในการปรับนักจึงทำให้การปรับตำแหน่งกล้องอย่างละเอียดเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ที่มีนํ้าหนักมาก

หัว Pan-and-Tilt

ปกติแล้วหัวขาตั้งกล้องลักษณะนี้จะถูกเรียกว่า Pan-and-Tilt แต่มักถูกเรียกว่าหัว 3 ทางด้วย หัวขาตั้งกล้องแบบนี้จะปรับตั้งได้ช้ากว่าหัวบอลและมีขนาดใหญ่เทอะทะกว่า แต่นักถ่ายภาพจะสามารถปรับได้อย่างละเอียดผ่านแนวในการปรับ 3 ทิศทางของหัวคือ ปรับก้ม-เงย แนวตั้ง-นอน และปรับหนุนในแนวนอนหรือแพน โดยทั่วไปหัวขาตั้งกล้องแบบ Pan-and-Tilt มักจะมีราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับหัวขาตั้งกล้องแบบอื่น หรือมีราคาถูกกว่าในคุณสมบัติที่พอๆ กัน เหมาะสำหรับการใช้งานในสตูดิโอและการถ่ายภาพมาโคร

หัว Fluid Video

หากมองหาหัวขาตั้งกล้องสำหรับถ่ายวิดีโอ สิ่งสำคัญของหัวขาตั้งกล้องที่ต้องพิจารณาคือ ความราบลื่นในการแพนซึ่งเป็นคุณสมบัติของหัว Fluid Video โดยทั่วไปแล้วหัว Fluid จะมีลักษณะเหมือนหัวแบบ Pan-and-Tilt เพียงแต่โดยทั่วไปจะมีก้านปรับเดียวซึ่งมีขนาดใหญ่และนํ้าหนักมาก ที่หัวขาตั้งถูกเรียกว่า Fluid เนื่องจากหัวมีระบบไฮดรอลิกเพื่อความราบลื่นและความนิ่งในการปรับ

หัวแบบ Pistol Grip

หัวขาตั้งแบบ Pistol Grip มีลักษณะเหมือนกับหัวบอลคือควบคุมการทำงานบนบอลที่เคลื่อนที่เพียงจุดเดียว แต่อย่างไรก็ตามแทนการปรับความแน่นและปลดล็อกที่ตัวบอล หัว Pistol Grip จะมีระบบเมคานิคสำหรับปลดล็อกบอลด้วยการบีบกริปจับที่สะดวกกว่า ซึ่งทำให้สามารถควบคุมได้รวดเร็วและง่ายกว่าหัวบอลปกติผ่านกริปจับที่มีลักษณะเหมือนด้ามปืนขนาดใหญ่และหนัก โดยหัว Pistol Grip บางรุ่นยังมีปุ่มสำหรับใช้ปลดล็อกอีกที่ด้วย


สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกหัวขาตั้งกล้อง

การรับนํ้าหนัก : หัวขาตั้งกล้องที่เหมาะสำหรับการเลือกใช้ควรรับนํ้าหนักได้อย่างน้อยที่สุด 5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นนํ้าหนักของกล้อง DSLR ระดับกลางรวมกับเลนส์เทเลโฟโตระยะยาว ดังนั้นจึงควรตรวจสอบการรับนํ้าหนักสูงสุดของหัวขาตั้งกล้องก่อนซื้อ

ขนาดและนํ้าหนัก : หัวขาตั้งกล้องที่เหมาะสมควรมีนํ้าหนักประมาณ 0.5 กิโลกรัม แต่บางรุ่นก็อาจมีนํ้าหนักมากกว่านี้อีกเท่าตัว นักถ่ายภาพจึงควรตรวจสอบข้อมูลในด้านนี้ด้วย นอกจากนี้หัวขาตั้งกล้องบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่มากซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการถือเมื่อเคลื่อนย้ายตำแหน่งไกลๆ

โครงสร้าง : ควรเลือกหัวขาตั้งที่เป็นอลูมิเนียมหากเป็นไปได้ เนื่องจากหัวขาตั้งที่เป็นโลหะจะมีนํ้าหนักมากกว่า แต่ควรหลีกเลี่ยงหัวขาตั้งที่เป็นพลาสติก โดยเฉพาะในส่วนฐานที่ติดกล้องเนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหายได้เมื่อใช้งานหนัก

มีระดับนํ้าในตัว : ระดับนํ้าจะช่วยให้สามารถปรับระดับของกล้องในแนวนอนได้อย่างถูกต้องซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพทิวทัศน์

 

แปล / เรียบเรียง : กองบรรณาธิการ


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หรือสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการถ่ายภาพที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

https://test2.fotoinfo.online/all-about-photo/basic