เมื่อพูดถึงกล้องวิดีโอ เรามักจะนึกถึงกล้องวิดีโอที่เป็นรูปทรงแนวนอน มีปุ่มปรับระบบต่างๆ มากมาย มีช่องมอง EVF ด้านท้ายที่ปรับมุมได้ มีจอ LCD ที่กางออกและปรับมุมมองได้ แต่กล้อง PTZ ไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย มันไม่มีอะไรบ่งบอกว่านี่คือกล้องบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K ไม่มีปุ่มปรับ ไม่มีช่องมองภาพ ไม่มีจอ LCD มีแค่ชุดเลนส์ โครงยึดชุดเลนส์ ฐานกล้อง แต่ช่องต่อสายต่างๆ ที่ด้านหลังตัวกล้อง คนส่วนใหญ่จึงคิดว่ามันเป็นกล้องวงจรปิดมากกว่ากล้องวิดีโอ
PTZ ไม่ใช่กล้องวงจรปิด
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง PTZ ว่ามันคือกล้องวงจรปิดระดับไฮเอ็นด์ เพราะด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคล้ายกล้องวงจรปิด และการติดตั้งที่สามารถแขวนห้อยจากมุมสูงได้ กล้องสามารถแพนกล้องไปซ้ายขวาได้ ก้มเงยกล้องได้ แต่จริงๆ แล้วกล้อง PTZ แตกต่างจากกล้องวงจรปิดทั้งการออกแบบ วัตถุประสงค์ในการใช้งานและคุณภาพ นอกจากนั้นกล้อง PTZ ของแคนนอนยังใช้วัสดุคุณภาพสูง ออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์มืออาชีพ เพื่อให้มีความแข็งแรง ทนทานและไว้ใจได้ต่อการใช้งานภายนอก
และกล้อง PTZ ของแคนนอนทุกรุ่นยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลประสิทธิภาพสูง ที่จะช่วยให้ภาพที่ได้นิ่งกว่าแม้จะใช้งานภายนอกในสภาพที่มีลมแรง หรือเมื่อต้องปรับซูม 15-20x ภาพก็ยังนิ่ง
คำว่า PTZ ย่อมาจาก Pan Tilt Zoom การทำงานของกล้องจะเป็นตามชื่อ คือ แพนกล้องไปซ้ายขวา ปรับเอียงกล้องก้มหรือเงย และปรับซูมเลนส์เพื่อเปลี่ยนมุมรับภาพ ความแตกต่างจากกล้องวงจรปิดคือ มันมีระบบการทำงานเทียบเท่ากล้องวิดีโอ Pro DV (แต่ไม่มีปุ่มปรับระบบบนตัวกล้อง มีเพียงอินเทอร์เฟซที่เป็นช่องต่อเชื่อมสัญญาณเข้าและออก) คุณสามารถปรับตั้งฟังก์ชันต่างๆ ได้เหมือนๆ กันทั้งการปรับความเร็วชัตเตอร์ ปรับ Iris ปรับ White Balance ปรับเลือกรูปแบบไฟล์ คุณภาพไฟล์ และฟังก์ชันอื่นๆ ได้เหมือนกล้องวิดีโอ โดยฟังก์ชันเหล่านี้จะทำให้กล้องสามารถทำงานได้เทียบเท่ากล้องวิดีโอ เพียงแต่การควบคุมกล้องทำจากผู้ควบคุม ไม่ต้องใช้ช่างภาพอยู่ที่กล้อง โดยสามารถปรับระบบของกล้องได้จากคอมพิวเตอร์หรือที่ ชุดควบคุมกล้องระยะไกล (Remote Camera Controller) สามารถปรับตั้งและควบคุมการทำงานของกล้องได้หลายตัว จึงลดการใช้คนทำงานได้
กล้อง PTZ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Remote Camera (กล้องควบคุมระยะไกล) หรือ PTZ Remote Camera ใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่กว่ากล้องวงจรปิดหลายเท่า ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่เท่ากับกล้องวิดีโอรุ่น XF605 คุณภาพจึงแตกต่างกันอย่างมาก สามารถติดตั้งกับขาตั้งกล้องแบบชุดเลนส์อยู่ด้านบน หรือแขวนห้อยให้ชุดเลนส์อยู่ด้านล่างได้
ประโยชน์ในการใช้งานของกล้อง PTZ
ความโดดเด่นของกล้อง PTZ เรื่องแรกคือ มันสามารถนำไปติดตั้งในมุมที่กล้องวิดีโอปกติไม่สามารถทำได้ เช่น โครงเสาเวทีคอนเสิร์ต วางบนดอลลี่บนด้านหน้าของเวที หรือแขวนกับเพดานของสตูดิโอ ทำให้ผู้กำกับภาพสามารถสร้างสรรค์มุมภาพได้หลากหลาย ทั้งมุมสูง มุมต่ำ การมีช่างภาพอยู่หน้าเวทีหรือบนเวทีเป็นสิ่งรบกวนสายตาและบดบังการมองของผู้ชม
กล้อง PTZ สามารถซ่อนตัวในมุมที่ไม่รบกวนสายตาโดยยังสามารถปรับซูม ปรับก้มเงย แพนกล้องได้ไม่แตกต่างจากการใช้ช่างภาพวิดีโอควบคุม หรือการใช้กับการประชุมสัมมนา มันสามารถทำหน้าที่แทนช่างภาพได้อย่างสมบูรณ์ ไร้เสียงจากการทำงาน ไม่ต้องวางขาตั้งกล้องให้เกะกะ
ประโยชน์อีกเรื่องคือลดการใช้คน ผู้ควบคุมกล้องหนึ่งคน สามารถควบคุมกล้อง 4-5 ตัวได้โดยไม่ต้องมีช่างภาพหลายคน เพียงเซ็ทขนาดภาพ วางเฟรมภาพของกล้องแต่ละตัวไว้ จากนั้นจะสามารถเลือกควบคุมกล้องตัวใดตัวหนึ่งได้อย่างรวดเร็วจากระบบทัชสกรีนบนหน้าจอของชุดควบคุมกล้องระยะไกล ใช้จอยสติ๊กในการแพน ซูม ก้มเงย ได้เหมือนการทำงานที่ตัวกล้องปกติ สามารถเปลี่ยนสลับไปสั่งการทำงานของกล้องตัวอื่นได้ง่ายและเร็ว และหากใช้ร่วมกับแอพพลิเคชันเสริมของแคนนอน เช่น Auto Tracking จะสามารถให้กล้องแทรคตามบุคคลที่ต้องการได้หลายรูปแบบ หรือ Auto Loop จะสั่งการให้กล้องเปลี่ยนมุมภาพ ความกว้างของภาพ วนซ้ำไปเรื่อยๆ ได้(ตามที่ผู้ควบคุมเซ็ทอัพไว้ล่วงหน้า) ผู้ควบคุม Switcher จะมีภาพหลายๆ แบบจากกล้องตัวเดียวให้เลือกใช้งาน โดยผู้ควบคุมกล้องไม่ต้องไปปรับซูมที่กล้องตัวนั้นอีก จึงลดการใช้คนในการทำงานโดยยังคงได้งานที่ไม่แตกต่างกัน
กล้อง PTZ ทำงานอย่างไร
โดยตัวกล้องเพียงลำพังกล้อง PTZ ไม่สามารถทำงานได้ มันต้องใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อใช้ในการปรับตั้งระบบการทำงาน เลือกรูปแบบไฟล์ ปรับความเร็วชัตเตอร์ ปรับ Iris ปรับ White Balance รวมทั้งการควบคุมมุมภาพก็ต้องใช้อุปกรณ์ในการสั่งกล้อง แพน ก้มเงย ซูม
สิ่งที่ต้องมีสำหรับชุดเล็กที่สุดคือ กล้อง 1 ตัวกับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง แล้วเชื่อมต่อการทำงานร่วมกันด้วยสาย LAN หรือจะใช้ระบบ Wireless ก็ได้(แต่ความเสถียรของสัญญาณน้อยกว่าและระยะห่างได้น้อยกว่า) คอมพิวเตอร์ควรเป็นระบบทัชสกรีนเพราะไม่เช่นนั้นจะพบว่าการใช้เมาส์ในการปรับระบบของกล้อง ใช้เมาส์ในการปรับซูม ปรับแพน ทำได้ยากกว่าการทัชสกรีน เมื่อติดตั้งซอฟแวร์ที่คอมพิวเตอร์และระบุ IP ของกล้องแล้ว จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมกล้องได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมการทำงานของกล้องผ่าน Wi-Fi ได้ สามารถสั่งแพน ปรับซูม และสั่งก้มเงยได้ จึงเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการใช้งานยิ่งขึ้น
แต่ถ้าคุณมีกล้อง 2 ตัวขึ้นไป การทำงานจะต้องมีอุปกรณ์อีกตัวคือ ชุดควบคุมกล้อง PTZ ของแคนนอน ซึ่งมีให้เลือกใช้งาน 2 รุ่น คือ RC-IP 100 และ RC-IP 1000 จะทำให้สามารถควบคุมกล้องได้หลายตัว(สูงสุด 100 ตัว) สลับกล้องได้เร็ว ปรับแพน ก้มเงย ซูม ด้วยจอยสติ๊กมัลติฟังก์ชัน ซึ่งจะปรับแพน ก้มเงย ซูม ได้นุ่มนวลไม่แตกต่างจากการทำงานของช่างภาพวิดีโอมืออาชีพ โดยในชุดนี้ยังจำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์เพราะการเซ็ทค่ากล้องยังทำที่คอมพิวเตอร์ได้เร็วกว่า
กล้อง PTZ ส่งภาพออกได้หลายแบบ จะส่งภาพออกด้วยสาย LAN ก็ได้ หรือจะส่งออกด้วยสาย SDI ก็ได้ หรือจะใช้ Wireless ก็ได้ แต่สำหรับการทำงานของมืออาชีพ SDI จะเป็นการส่งภาพที่สัญญาณเสถียรกว่า ลากสายได้ยาวกว่าโดยไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณ
อุปกรณ์ทำงานร่วมกับกล้อง PTZ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานร่วมกับกล้อง PTZ มีหลายอย่างด้วยกัน นอกจากคอมพิวเตอร์(หรือแท็บเล็ต) แล้ว ควรมีชุดควบคุมกล้อง PTZ ของแคนนอนรุ่น RC-IP 100 หรือ RC-IP 1000 เพื่อให้ปรับแพน ก้มเงย และซูมได้ราบเรียบนุ่มนวล และสลับการทำงานของกล้องแต่ละตัวได้เร็ว สาย LAN แบบ POE+ คือสิ่งที่จำเป็นในการเชื่อมต่อกล้องกับระบบควบคุม โดยมันจะจ่ายไฟให้กล้อง PTZ ด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องพะวงกับการต้องหาปลั๊กไฟเสียบ และยังส่งข้อมูลการควบคุมกล้อง ไฟ Tally รวมทั้งส่งสัญญาณภาพกลับมาเพื่อใช้ในการถ่ายทอดสดได้ อุปกรณ์คู่กันกับสายคือ POE+ HUB ซึ่งจะเป็นตัวรับสัญญาณจากสาย POE+ แล้วส่งสัญญาณออกไปยังคอมพิวเตอร์และชุดควบคุมกล้อง PTZ นอกจากนั้นหากใช้กล้องหลายตัวควรมี Switcher เพื่อตัดสลับกล้องที่ใช้ออกอากาศ และถ้าต้องการบันทึกภาพวิดีโอเก็บไว้จะต้องมีอุปกรณ์บันทึกภายนอกอีกเครื่อง จอมอนิเตอร์ก็เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่ควรมีเพื่อให้ตรวจสอบภาพจากกล้องแต่ละตัวได้ชัดเจน
กล้อง PTZ ของแคนนอนทุกรุ่นจะมาพร้อมฟังก์ชัน Auto Tracking กล้องจะสามารถเคลื่อนตามบุคคลได้อัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องซื้อแอพพลิเคชัน Auto Tracking เสริม หากเป็นการใช้งานทั่วไป เช่น การประชุม การเรียนการสอน แต่ถ้าเป็นงานสเกลใหญ่ที่ต้องการตัวช่วยที่ฉลาด แอพพลิเคชัน Auto Tracking เสริมจะมีฟังก์ชันเพิ่มหลายอย่างเช่น เลือกขนาดบุคคลได้หลายขนาด สั่งให้กล้องแพนตามแล้วซูมเปลี่ยนขนาดภาพได้ เป็นต้น โดยไม่ต้องใช้ผู้ควบคุมปรับเอง จึงสะดวกแต่ก็ต้องแลกด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง อีกฟังก์ชันที่เหมาะกับงานคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์คือ แอพพลิเคชัน Auto Loop ที่กล้องจะเปลี่ยนมุม แล้ววนซ้ำได้หลายขนาดภาพ หลายมุม ทำให้ผู้ควบคุม Switcher มีภาพให้เลือกใช้มากขึ้น
ไดอะแกรมนี้เป็นหนึ่งตัวอย่างของการทำงานร่วมกันของระบบที่แสดงให้เห็นการเชื่อมต่อสายสัญญาณ POE+ ทำงานผ่าน XC Protocol(IP) จากกล้องมายังคอมพิวเตอร์และชุดควบคุมกล้อง PTZ ในขณะที่สัญญาณภาพจากกล้องส่งออกด้วยสาย SDI เพื่อคุณภาพและความเสถียรของสัญญาณ ระบบนี้จะสามารถควบคุมกล้อง PTZ ได้จำนวนหลายตัว และยังควบคุมกล้องวิดีโอ Pro DV และกล้อง Cinema EOS ได้ด้วย
กล้อง PTZ สำหรับใช้งานภายนอกอาคาร
กล้อง PTZ สำหรับงานภายนอกอาคารของแคนนอนมี 2 รุ่นคือ CR-X500 และ CR-X300 เห็นรูปลักษณ์ภายนอกแล้วหลายคนคงคิดว่าเป็นกล้องวงจรปิด แต่จริงๆ แล้วกล้องสองรุ่นนี้มีระบบการทำงานที่ล้ำหน้าโดย CR-X 500 จะมีสมรรถนะแทบทุกอย่างเทียบเท่ากล้อง Canon XF605 โดยใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 1.0 นิ้ว ให้คุณภาพระดับ 4K/ 60P 4:2:2 10 บิต Housing ของ CR-X 500 ออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง กันฝุ่นและละอองน้ำได้ในระดับ IP65 จึงสามารถใช้งานได้แม้ฝนตก โดยจะมีใบปัดน้ำฝนด้านหน้าเพื่อให้หน้าเลนส์ใสสะอาด ภาพจึงคมชัดใสเคลียร์เสมอ ใช้เลนส์ซูม 15X ออปติคอล (25.5-382 มม. เมื่อเทียบกับกล้อง 35 มม.) และมีระบบ Advanced zoom 30X ที่ Full HD โดยคุณภาพไม่ลด สัญญาณออกแบบ 12G SDI ตัวกล้องมีขนาดใหญ่ น้ำหนักอยู่ที่ 17 กก.
ส่วน CR-X 300 นั้นมีขนาดเล็กกว่า โดยใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว ระบบการทำงานและสมรรถนะเทียบเท่ากล้อง Canon XA75 ให้คุณภาพระดับ 4K/ 30P 4:2:2 10 บิต ใช้เลนส์ซูม 20X ออปติคอล (29.3-601 มม. เมื่อเทียบกับกล้อง 35 มม.) CR-X 300 ออกแบบให้กันฝุ่นและละอองน้ำได้เช่นเดียวกันในระดับ IP65 มีใบปัดน้ำฝนด้านหน้าเช่นเดียวกัน น้ำหนักตัวกล้อง 7 กก.
ประโยชน์ของกล้อง 2 รุ่นนี้คือ ความทนแดด ทนฝน จึงสามารถนำไปใช้งานกับกิจกรรมกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องพะวงกับความเสียหายของกล้อง เช่น งานคอนเสิร์ต สามารถแขวนกล้องกับโครงเสาของเวทีเพื่อเก็บภาพมุมสูงจากบนเวที หรือแขวนกับโครงเสาไฟด้านหลังผู้ชมเพื่อเก็บภาพบนเวที ภาพผู้ชมจากมุมสูงได้โดยไม่ต้องใช้ช่างภาพคุมกล้อง ทำให้ได้มุมภาพที่แปลกใหม่ พลังของการซูม 15-30X จะสามารถเก็บได้ทั้งภาพกว้างและภาพนักร้องบนเวที นอกจากนั้นยังสามารถใช้กับงานอีเวนต์กลางแจ้งใหญ่ๆ หรือการแข่งขันกีฬากลางแจ้งได้
กล้อง PTZ สำหรับใช้งานภายในอาคาร
กล้อง PTZ สำหรับงานภายในอาคารของแคนนอนมี 4 รุ่นคือ CR-N 700 , CR-N 500 , CR-N 300 และ CR-N 100 โดยแต่ละรุ่นจะมีสเปคแตกต่างกันตามระดับของกล้อง โดยขนาดเซ็นเซอร์ภาพ เลนส์ซูมที่ใช้ ระบบการทำงานจะเหมือนกับกล้องวิดีโอ Pro DV ของแคนนอน
CR-N 700 เป็นกล้องรุ่นสูงสุดของกล้อง PTZ ในอาคาร สมรรถนะเทียบเท่ากล้อง Canon XF605 และเทียบเท่า CR-X 500 ออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูง ใช้ชิปประมวลผล DIGIC DV7 ใหม่ ใช้ระบบ Dual Pixel CMOS AF มีระบบโฟกัสตรวจจับดวงตา โฟกัสติดตามใบหน้าและศีรษะได้ ใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 1.0 นิ้ว ให้คุณภาพระดับ 4K/ 60P 4:2:2 10 บิต ใช้เลนส์ซูม 15X ออปติคอล มีฟังก์ชันครอปตัดส่วน ทำให้ได้ภาพ 2 มุมมองจากกล้องเดียว โดยภาพเต็มออกจาก 12G SDI ภาพครอปออกจาก 3G SDI พร้อมกัน
CR-N 500 กล้อง PTZ รุ่นรอง สมรรถนะเทียบเท่ากล้อง Canon XA75 ใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 1.0 นิ้ว ให้คุณภาพระดับ 4K/ 30P ใช้เลนส์ซูม 15X ออปติคอล ใช้ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ที่แม่นยำ รวดเร็ว ส่งสัญญาณออก 3G SDI รองรับโปรโตคอล เช่น Canon XC protocol (โปรโตคอลดั้งเดิมของแคนนอน), VISCA, VISCA over IP, NDI|HX สตรีมวิดีโอทั้งหมดได้ 3 ช่องทางพร้อมกัน เชื่อมต่อได้หลายรูปแบบและสามารถขยายการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตและการเผยแพร่วิดีโอ
CR-N 300 กล้อง PTZ มาพร้อมกับระบบ Hybrid AF ที่ให้ความแม่นยำสูง จากการทำงานร่วมกันของการโฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจจับคอนทราสและแบบตรวจจับเฟสความเร็วสูง ใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 1/2.3 นิ้ว ให้คุณภาพระดับ 4K/ 30P เป็นกล้องเล็กแต่ทรงพลังสมรรถนะเทียบเท่ากล้อง Canon XA65 ด้วยการซูมแบบออปติคอล 20x เพื่อตอบสนองความต้องการในการถ่ายภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่การสตรีมเว็บอย่างง่ายไปจนถึงการผลิตเนื้อหาระดับมืออาชีพ สามารถเชื่อมต่อด้วย USB นอกเหนือจากการเชื่อมต่อมาตรฐานอย่าง IP, SDI และ HDMI
CR-N 100 กล้อง PTZ รุ่นเล็ก ราคาที่จับต้องได้โดยไม่มีผลต่อคุณภาพของภาพ ขนาดกะทัดรัด สามารถนำไปวางไว้ในห้องประชุม ห้องเรียน โดยไม่กินพื้นที่ เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ให้คุณภาพของภาพระดับ 4K / 30P เลนส์ซูมออปติคัล 20x ที่มาพร้อมกับมุมกว้างและกำลังขยายสูง ใช้ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF ที่ให้ความแม่นยำสูง ระบบการเชื่อมต่อ UVC (USB Video Class)
กล้อง PTZ เหมาะกับงานอะไร
กล้อง PTZ สามารถใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่งานสเกลใหญ่จนถึงงานสเกลเล็ก ขึ้นอยู่กับประเภทของงานและความต้องการของผู้ใช้ งานเล็กๆ เช่น ใช้กับการเรียน การสอน ก็อาจใช้เพียงกล้องรุ่นเล็กอย่าง CR-N100 ตัวเดียว กับคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต 1 เครื่อง คนควบคุมกล้อง 1 คน เพื่อซูมภาพ แพนกล้อง ปรับระบบการทำงานของกล้อง หรืออาจใช้งานแบบง่ายๆ โดยเปิดระบบติดตาม (Auto Tracking) ที่มีมาพร้อมกล้อง กล้องจะจับภาพและแพนตามผู้สอนโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังใช้กับการประชุมสัมมนา หรือ Video Conference ได้อย่างดีเยี่ยม ให้ภาพที่คมชัด เห็นรายละเอียดชัดเจน และด้วยพลังของเลนส์ซูม 20x ทำให้เลือกขนาดภาพได้หลากหลาย
กล้อง PTZ สามารถใช้งานกับงานถ่ายทอดกิจกรรมทางศาสนาได้ เมื่อใช้กล้อง 2-3 ตัว วางในมุมที่เหมาะสมก็จะสามารถเก็บบรรยากาศและพิธีกรรมต่างๆ ได้สมบูรณ์โดยไม่ต้องใช้ช่างภาพวิด๊โอ ไม่ต้องใช้คนทำงานหลายคน
กล้อง PTZ ยังเหมาะกับงานในสตูดิโอและสถานีโทรทัศน์ เพราะสามารถวางตำแหน่งกล้องยังจุดที่ใช้งานประจำแทนการใช้ช่างภาพได้และสามารถวางกล้องในมุมที่ไม่สามารถใช้ช่างภาพทำงานได้ ด้วยสาย LAN เพียงเส้นเดียวก็สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของสถานีได้ ทั้งการจ่ายไฟให้ตัวกล้อง การควบคุมกล้อง PTZ การส่งสัญญาณภาพวิดีโอออกสำหรับสตรีมมิ่ง รวมทั้งการแสดงไฟ Tally ที่ตัวกล้องเพื่อแสดงสถานะการทำงาน ลดการเดินสายที่ยุ่งยาก และยังมีฟังก์ชัน OSD ทำให้สามารถตรวจสอบการปรับตั้งของกล้องจากอุปกรณ์ภายนอก รองรับ Free-D ทำให้ใช้อุปกรณ์ชุดเล็ก กะทัดรัดและประหยัดค่าใช้จ่าย และยังสามารถใช้ร่วมกับกล้องและอุปกรณ์ถ่ายทอดสดที่ใช้กันเป็นมาตรฐานได้
กล้อง PTZ สามารถใช้กับการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ต สามารถวางกล้องในมุมที่ช่างภาพไม่สามารถทำงานได้ เช่น มุมสูงจากบนเวที มุมต่ำจากดอลลี่หน้าเวที สามารถใช้ร่วมกับกล้อง Pro DV อย่างเช่น Canon XF605 หรือกล้องซีเนม่าอย่าง Canon C80 หรือ C400 ได้ ทำให้สามารถสร้างสรรค์มุมภาพใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาได้ เช่นกันกับการถ่ายทอดสดงานอีเวนต์ต่างๆ กล้อง PTZ จะช่วยให้การทำงานง่ายและราบรื่นขึ้น
นอกจากนั้นกล้อง PTZ ยังสามารถใช้กับการถ่ายทอดสดการแข่งกีฬาได้ กล้องสามารถวางบนรางดอลลี่เพื่อติดตามเกมได้ต่อเนื่อง สามารถวางกล้องในบางมุมที่ช่างภาพเข้าไม่ถึงและยังใช้ร่วมกับกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพ ใช้ร่วมกับกล้อง Pro DV อย่างเช่น Canon XF605 ได้
และกล้อง PTZ ยังสามารถใช้ร่วมกับระบบ Visual effects ในการถ่ายทำภาพยนตร์ โฆษณา สามารถแม็บภาพกับระบบ Visual ได้ ทำให้กล้อง PTZ ของแคนนอนสามารถนำไปสร้างสรรค์งานวิดีโอได้หลากหลายยิ่งขึ้น
จุดเด่นของกล้อง PTZ จากแคนนอน
กล้อง PTZ มีหลายยี่ห้อทั้งจากญี่ปุ่นและจีน แคนนอนเป็นผู้ผลิตกล้องที่เป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพอย่างสูงมาตลอด และแคนนอนก็มีการพัฒนากล้อง PTZ มาอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นที่แตกต่างจากกล้อง PTZ อื่นคือ ระบบการทำงานที่ไว้ใจได้ ทำงานได้เงียบสนิท ไร้เสียงรบกวนไม่ว่าจะแพน ซูม หรือปรับก้มเงย จะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา จึงไม่รบกวนการประชุม การเรียนการสอน การบันทึกเสียง นอกจากนั้นกล้องยังเข้ากันได้กับระบบของอุปกรณ์มืออาชีพที่อยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือบรอดแคสต์ ทำให้สามารถใช้ร่วมกันได้ และด้วยเลนส์คุณภาพสูง ระบบโฟกัสชั้นยอด การถ่ายทอดสีที่สมจริง ก็เป็นสิ่งที่โดดเด่นของแคนนอนมาตลอด กล้อง PTZ ของแคนนอนจึงเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและเหมาะสำหรับใช้สร้างสรรค์งานวิดีโอ
Leave feedback about this