
เลนส์ตระกูล Cine Servo ของแคนนอนเป็นเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ที่ผสานคุณภาพออปติคอลระดับ 4K อันน่าทึ่งกับคุณสมบัติที่รองรับงานบรอดแคสต์ทั้งเรื่องช่วงซูมที่กว้างมาก และรองรับระบบ Servo Zoom จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายทอดสด รองรับเมาท์ PL ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในการถ่ายทำภาพยนตร์ สารคดี และงานโฆษณา และเลนส์ CN Cine Servo ของแคนนอนยังรองรับการทำงานระดับอาชีพได้หลากหลาย และงานคอนเสิร์ตก็เป็นอีกรูปแบบที่เลนส์ตระกูลนี้ตอบสนองการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
คุณนวศนัย ม่วงแก้ว หรือคุณแม็ก เป็นผู้ที่ใช้เลนส์แคนนอนตระกูลนี้ถ่ายภาพคอนเสิร์ตใหญ่ๆ รวมทั้งรายการทีวี มาแล้วมากมายหลายงาน ทำไมเขาจึงเลือกเลนส์ CN ของแคนนอนในการทำงาน มาฟังจากคุณแม็กกันเลยครับ

คุณแม็กแนะนำตัวว่าเขาทำบริษัท Maxina Studio ซึ่งเป็นโปรดักชันเฮาส์ที่มีทั้งระบบไฟ กล้องและระบบเสียงครบ กล้องก็มีทั้งถ่ายคอนเสิร์ต สตรีมมิ่งและถ่ายโฆษณา งานที่ทำมีตั้งแต่รายการทีวี สปอตโมษณาเพื่อโปรโมทคอนเสิร์ต แต่ในช่วงหลังๆ จะเป็นงานคอนเสิร์ตเป็นส่วนใหญ่โดยอยู่ในส่วนของกล้องและทีมโอบีเพื่อถ่ายทอดคอนเสิร์ตออกไปให้คนข้างนอกคอนเสิร์ตฮอลได้ดู หรือออกจอเซอร์กิตซ้ายขวาข้างเวทีให้คนในคอนเสิร์ตฮอลได้ดู ได้เห็นหน้าศิลปินชัดๆ

คุณแม็กบอกว่าเราต้องการภาพที่ใส คุณภาพสูงจึงเลือกใช้กล้อง Cinema แต่พอไปใช้เลนส์ซูมทั่วไปที่เป็นเลนส์แบบภาพนิ่งจะพบปัญหาคือ ช่วงมันกั๊กๆ จะไปก็ไปไม่สุด ช่วงไวด์ก็กว้างไม่สุด และพอซูมเข้าออกโฟกัสจะเลื่อนทำให้ภาพไม่ชัดตลอดเมื่อซูม

ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาเขาจึงเลือกใช้เลนส์ CN ของแคนนอน เพราะเลนส์ตระกูลนี้เป็นเลนส์ซูมฝั่ง Cinema ที่เป็นเลนส์แบบ Parfocal เมื่อปรับซูมโฟกัสจะไม่เลื่อน ซับเจ็กต์จะอยู่ในโฟกัสตลอด เขาจึงใช้เลนส์แคนนอน CN เป็นชุดหลักในการทำงานทั้งการถ่ายรายการและถ่ายคอนเสิร์ต เพราะมันใช้งานดีมาก ภาพใสและคมกริบ

คุณแม็กเล่าว่ารายการที่ทำเป็น State Show มีศิลปินที่เป็นทีป๊อปและวงมาโชว์ในรายการ เป็นรายการที่เป็นลิขสิทธิ์ต่างประเทศ ความคาดหวังของเจ้าของรายการที่ไปซื้อลิขสิทธิ์มา รวมถึงเจ้าของลิขสิทธิ์เอง ก็อยากให้ได้งานใกล้เคียงต้นฉบับเกาหลีมากที่สุด


ในการถ่ายรายการเขาเลือกใช้เลนส์ 17-120mm ( CN7x17 KAS S/P1 Cine-Servo 17-120mm T2.95) ตัวนี้จะติดบนดอลลี่ กว้างได้และปรับซูมมาแคบได้ และอีกตัวเป็น 25-250mm ( CN10x25 IAS S P1 Cine-Servo 25-250mm T2.95) ตัวนี้ใช้ปรับมุมแคบ ซึ่งสไตล็เกาหลีนั้นเขาต้องการภาพแบบกว้างครบวงแล้วกระแทกซูมเร็วๆ มาเข้าแคบตัวนักร้องได้เลย เลนส์อีกตัวก็รับมุมแคบต่อ แล้วพร้อมไวด์กระชากออกทันทีได้ เลนส์ของแคนนอนตระกูลนี้จึงตอบโจทย์ของเขามากที่สุด


เลนส์คู่นี้จะวางหน้าเวที จุดเด่นของ 25-250mm คือมันเข้าแคบได้ประมาณนึงและสามารถปรับใช้ Extender 1.5X ในตัวได้ทันทีเลยโดยโยกสวิตช์ที่ด้านท้ายเลนส์ทำให้สามารถซูมภาพให้แคบเข้าไปได้เพิ่มขึ้น 1.5 เท่าได้ง่ายๆ โดยที่ความคมชัดยังเท่าเดิม


ส่วนเลนส์ 50-1000mm ( CN20x50 IAS H P1 Cine-Servo) จะใช้กับคอนเสิร์ตกลางแจ้งใหญ่ๆ โดยวางบนแสตนด้านหลังผู้ชม เพื่อเก็บภาพบนเวทีได้ทั้งเต็มวงและเจาะเฉพาะศิลปิน ด้วยช่วงซูมที่ยาวถึง 1000 mm ทำให้เพียงพอต่อการบันทึก และมันยังสามารถเพิ่มช่วงซูมให้แคบได้อีกด้วยการปรับโยกสวิตช์ Extender 1.5X ในตัวทำให้ได้เลนส์ที่ยาวถึง 1500 mm

และเลนส์ชุดนี้มีระบบ Servo Zoom เมื่อใช้ร่วมกับชุดควบคุมซูม ( Canon Zoom Demand) ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะสามารถควบคุมความเร็วในการซูมได้ ในเพลงช้าๆ ซึ้งๆ ที่ต้องการซูมเข้าอย่างช้ามากๆ ได้ทำให้ภาพที่ถ่ายทอดออกไปดูมีอารมณ์ร่วมกับเพลงมากขึ้น ส่วนเพลงเร็วเราก็สามารถปรับซูมกระชากเข้าออกได้อย่างรวดเร็ว

คุณแม็กบอกว่าสิ่งที่เขาชอบเลนส์ชุดนี้ของแคนนอนไม่ว่าจะเป็น 17-120 mm , 25-250 mm หรือ 50-1000 mm เพราะเขาต้องการคาแรคเตอร์ของเลนส์บรอดแคสต์แต่เอามาใช้กับกล้อง Cinema ได้ ด้วยความที่มันเป็นเมาท์ PL ทำให้เขาได้คาแรคเตอร์ภาพของกล้อง Cinema อยู่ แต่ได้ฟังก์ชันการทำงานของเลนส์บรอดแคสต์ในเรื่องช่วงซูมกว้าง ปรับซูมเข้าออกได้แบบ Servo Zoom สามารถซูมแบบเนียนๆ ได้ มันจึงเหมือนรวมสองอย่างไว้ด้วยกัน เลนส์ตระกูล CN ของแคนนอนก็เลยตอบโจทย์การทำงานของเขา
Leave feedback about this