สรุปไฮไลท์งาน “EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier” เมื่อ AI และดาต้า คือเครื่องยนต์ที่ช่วยสร้างคลื่นลูกใหม่ที่สร้างเติบโตให้กับธุรกิจในยุคนี้

สรุปไฮไลท์งาน “EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier” เมื่อ AI และดาต้า คือเครื่องยนต์ที่ช่วยสร้างคลื่นลูกใหม่ที่สร้างเติบโตให้กับธุรกิจในยุคนี้

กรุงเทพฯ – เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) สรุปประเด็นสำคัญจากงาน “EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier” เวทีเสวนาด้าน AI เทคโนโลยีการตลาดและโฆษณาแห่งปี ที่จัดขึ้นเพื่อสะท้อนพลังของ “การหลอมรวม” ระหว่างดาต้า AI ความคิดสร้างสรรค์ และความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก เพื่อเชื่อมต่อทุกความเป็นไปได้ พร้อมคว้าโอกาสทางธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัด โดยเอ้ก ดิจิทัล ได้รวมพลังผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรเอกชนชั้นนำของไทยและต่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันเคล็ดลับในการคว้าโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจในยุค AI ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากนักการตลาด นักโฆษณา และผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน

ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ถ่ายทอดมุมมองเชิงกลยุทธ์ว่า “AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมืออีกต่อไป แต่เป็น ‘เครื่องยนต์’ ที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนและพลิกโลกธุรกิจใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ พลิกโลกเศรษฐกิจจากศูนย์กลางเดียวสู่ระบบหลายขั้ว พลิกโฉมองค์กรสู่ระบบอัตโนมัติที่สามารถคิดและตัดสินใจได้เอง รวมถึงพลิกโฉมพฤติกรรมผู้บริโภคสู่ความต้องการประสบการณ์เฉพาะบุคคลสูงสุด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ ความท้าทายคือการผสาน AI เข้ากับข้อมูลจากทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเอ้ก ดิจิทัลพัฒนากรอบแนวคิด Infinity Loop of Growth ที่มุ่งเชื่อมต่อทุกจุดสัมผัสของธุรกิจและผู้บริโภคเข้ากับข้อมูลด้วยหลัก 5Cs – Connect, Create, Communicate, Convert, Curate เพื่อสร้างมุมมองลูกค้าเดียว (One Single View) และขับเคลื่อนประสบการณ์ Hyper-Personalized สู่คลื่นการเติบโตลูกใหม่ (New Wave of Growth) ที่ไร้ขีดจำกัด”

ไฮไลท์เสวนาจากงาน EGG Digital Nexus: The Fusion Frontier

“Connecting Infinite Growth through Context, Culture & Commerce” โดยเอ้ก ดิจิทัล

• Context – การตีความ “บริบท” อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อเข้าใจตลาด เทรนด์ และผู้บริโภคได้ลึกและชัดขึ้น
• Culture – พาแบรนด์ไปอยู่ในวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคสนใจ สร้างคอนเทนต์เฉพาะบุคคล เลือกช่องทางส่งสารที่เหมาะสม เพื่อเชื่อมโยงกับผู้บริโภคอย่างมี “ความหมาย”
• Commerce – เปลี่ยนวัฒนธรรมเป็นการค้า ด้วยประสบการณ์แบบ Hyper-Personalized วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ และใช้รีเทลมีเดียเน็ตเวิร์กแบบ Omnichannel สร้าง “ความสนใจ” พร้อมเปลี่ยนเป็น “ยอดขาย” ที่วัดผลได้จริง

“Singularity Insights: The Power of Context Clarity” โดย CP AXTRA, True Corporation, Unilever

ถอดรหัสการสร้างบริบทที่ชัดเจนด้วยการใช้ AI ผสานข้อมูลจากหลากหลายอุตสาหกรรม (Retail, Telco, Insurance) แล้วสร้างเป็นบริบทที่ชัดเจนและครบถ้วน ในแบบ Singularity Insights สร้างกลุ่มลูกค้าที่มีความหมายและขับเคลื่อนด้วยพฤติกรรมที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด

“Culture Starts with Creators: From Influence to ROI” โดย TikTok, Pun Pro, Mita Wealth (Chubby)

เจาะแนวทางการสร้าง Brand Culture บนโลกดิจิทัลจากความร่วมมือระหว่างแบรนด์และครีเอเตอร์ โดยครีเอเตอร์ทำหน้าที่เป็นผู้สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ส่วนแบรนด์ต้องปรับตัวไปสู่การสื่อสารที่ สดใหม่ ทันกระแส และจริงใจ ไม่เพียงเท่านี้ยังต้องใช้ครีเอเตอร์และช่องทางที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกทัชพอยท์ นำไปสู่การสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้ ซึ่งเครื่องมืออย่าง Influmatch.AI และ Admatch.AI สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์

“Culture Connected: Building Seamless Omnichannel Journeys” โดย LINE, TCP, เต่าบิน

แชร์ประสบการณ์ในการเชื่อมต่อช่องทางการขายและการสื่อสารเข้ากับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของผู้บริโภค ด้วยการใช้ข้อมูลและ AI เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ การใช้ LINE เป็นช่องทางสื่อสาร สร้างความแตกต่าง สร้างความภักดีให้กับแบรนด์ ไปจนถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอด Customer Journey ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน

“Where Attention Sparks Culture & Drives Commerce through Retail Media Network” โดย Dentsu, Google, Unilever

เจาะลึก Retail Media Network (RMN) กลยุทธ์การตลาดแบบ Full-Funnel ยุคใหม่ที่ทรงพลัง RMN สามารถเชื่อมโยง ‘Brand Culture’ เข้ากับ ‘Brand Commerce’ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกและ AI ในการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล เปลี่ยนความสนใจของผู้บริโภคที่กระจัดกระจายให้กลายเป็น ‘ยอดขาย’ และสร้างคุณค่าให้แบรนด์ในระยะยาว พร้อมพาไปรู้จักกับแพลตฟอร์ม Creative Fusion ที่ Google และเอ้ก ดิจิทัลร่วมกันพัฒนา ซึ่งจะช่วยส่งมอบ Hyper-Personalization at scale ได้ดียิ่งขึ้น

“Where Media Meets AI Intelligence: Driving the Future of Commerce” โดย Meta, L’Oréal, WPP Media Thailand

ถอดรหัสการวางแผนสื่อที่เปลี่ยนจากการวางแผนแยกช่องทาง สู่การวางแผนที่มุ่งเน้นพฤติกรรมลูกค้าและการวัดผลแบบองค์รวม โดยใช้ AI และข้อมูลในการขับเคลื่อนแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมายตลอดเส้นทางผู้บริโภค พร้อมยกระดับความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดมุมมองอนาคตของสื่อแบบ Autonomous ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกและเชื่อมโยงกันทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถมอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและแม่นยำยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

“Next-Level Retail – AI-Powered Dynamic Context in Action” โดย CP AXTRA, Unilever, Nestlé

ถอดรหัสอนาคตค้าปลีกยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และข้อมูลเพื่อสร้าง “Dynamic Context” หรือบริบทร้านค้าและผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ โดยมีการเล่าถึงเคสจริงถึงเส้นทางการทรานส์ฟอร์มจากรีเทลแบบดั้งเดิมสู่ “Tech-driven Retailer” ที่ใช้ AI ช่วยตัดสินใจด้านโปรโมชัน จัดการสินค้า และพัฒนาสินค้าใหม่อย่างแม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงใช้ AI ออกแบบการตลาดและโปรโมชันเฉพาะกลุ่ม

สำหรับลูกค้าองค์กรที่สนใจบริการของ บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.eggdigital.com/ หรือ โทร. 02-020-2364