El Capitan เป็น 1 ใน 3 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซาสเกล (Exascale) สร้างโดย HPE ทั้งหมด
และยังติดสามอันดับแรกของโลกที่มีระบบการทำงานที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- El Capitan ทำงานสูงสุดได้ถึง 1.742 Exaflopsและเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
- มาพร้อมนวัตกรรมระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรงแบบไร้พัดลม 100% และยังติดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงานสูงสุด 20 อันดับแรกใน Green500
- การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระบบ El Capitan จะช่วยสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของชาติ และช่วยเร่งการศึกษาวิจัยทั้งแบบที่เป็นความลับของทางราชการและที่ไม่เป็นความลับ ในประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย การคิดค้นยา และด้านอื่นๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 2 ธันวาคม 2567 – ในงาน SC24 บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE) ได้ประกาศการส่งมอบระบบ El Capitan ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดให้กับห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore National Laboratory (LLNL) สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา โดย HPE เป็นผู้พัฒนาเพียงหนึ่งเดียวของระบบระดับเอ็กซาสเกล (Exascale) ที่มีเพียงสามระบบในโลก[i] ที่มีความเร็ว 1.742 Exaflops [ii]และทำงานได้สูงถึง 58.89 Gigaflops ต่อวัตต์[iii] นอกจากนี้ El Capitan ยังได้รับการพัฒนาด้วยนวัตกรรมที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรงแบบไร้พัดลม 100% ยังเป็นหนึ่งในระบบที่ประหยัดพลังงานสูงสุด 20 อันดับแรกของโลกอีกด้วย
ทริช แดมโครเกอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป HPC & AI Infrastructure Solutions บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า “El Capitan ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับเอ็กซาสเกลที่มอบประสิทธิภาพอันทรงพลังมหาศาล และยังประหยัดพลังงาน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการเร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้เกิดสุดยอดแห่งความก้าวหน้าในการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและเปิดโอกาสใหม่ๆ ในด้านพลังงานหมุนเวียน โดยความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือที่แข็งแกร่ง และการวิจัยและพัฒนาที่ยาวนานหลายปีร่วมกับกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา, สำนักงานบริหารความมั่นคงนิวเคลียร์แห่งชาติ, ห้องปฏิบัติการ Lawrence Livermore National Laboratory และ AMD เรามั่นใจว่า El Capitan จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการค้นพบและนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลที่เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใดในโลก El Capitan จะส่งเสริมให้สหรัฐอเมริกาสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันด้านความมั่นคงของชาติ พร้อมทั้งช่วยให้ Tri-Labs ของสำนักงานบริหารความมั่นคงนิวเคลียร์แห่งชาติ (NNSA), LLNL, ห้องปฏิบัติการ Sandia National Laboratories และ Los Alamos National Laboratory สามารถตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นในการดูแลความปลอดภัย ความมั่นคง รวมถึงความน่าเชื่อถือของคลังอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ LLNL ยังมีความตั้งใจที่จะใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับเวิร์กโหลดทั้งแบบที่เป็นความลับและไม่เป็นความลับทางราชการอีกด้วย
ร็อบ นีลลี ผู้อำนวยการโปรแกรมการจำลองอาวุธและระบบคอมพิวเตอร์ของ LLNL กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง HPE และ AMD ได้สำเร็จลุล่วงตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเพื่อนำ El Capitan มาใช้ ทรัพยากรอันทรงคุณค่านี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการสร้างโมเดลและแบบจำลอง 3 มิติที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ทีมงานของเราได้เตรียมความพร้อมด้านแอปพลิเคชันเพื่อใช้ประโยชน์จากระบบอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจาก HPE ผ่าน Center of Excellence นอกจากนี้ เรายังมีเป้าหมายที่จะลงทุนกับ AI ในระบบ El Capitan เพื่อการฝึกฝนและการอนุมาน AI ในสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการคำนวณ ทั้งนี้ด้วยคุณสมบัติที่พัฒนามาอย่างประณีตให้รองรับได้ทั้งการสร้างโมเดล สร้างแบบจำลอง และเวิร์กโหลด AI ทุกอย่างในระบบเดียว นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก”
ระบบ El Capitan ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภารกิจรองด้านความมั่นคงของชาติ อาทิ การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์และการต่อต้านการก่อการร้าย และจะใช้เพื่อการค้นคว้าด้านวัสดุ ข้อมูลนิวเคลียร์ และวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพลังงานที่มีความหนาแน่นสูง เช่น การวิจัยฟิวชันการกักเก็บด้วยความเฉื่อยที่ National Ignition Facility ทั้งนี้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิจัยที่ดำเนินการโดยระบบ El Capitan จะนำไปใช้ในโครงการที่ไม่เป็นความลับทางราชการในด้านความมั่นคงทางพลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย การค้นพบยา และด้านอื่นๆ
แพลตฟอร์มนวัตกรรมที่ช่วยให้ระบบ El Capitan มีประสิทธิภาพนั้นใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สนับสนุนโดยโซลูชันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชั้นนำของ HPE อย่าง HPE Cray EX ที่ติดตั้ง APU AMD Instinct™ MI300A และผสานคอร์ CPU และคอร์ GPU ที่มีหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงรวมเป็นแพ็คเกจเดียว มาพร้อมกับอินเตอร์คอนเนค HPE Slingshot กับโซลูชันที่เก็บข้อมูลแบบกำหนดเอง สำหรับ HPE Slingshot เป็นโครงข่ายความเร็วสูงที่ใช้อีเทอร์เน็ต ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของศูนย์รวมพลังของ El Capitan ช่วยให้ทำการประมวลผลขนาดใหญ่ได้ทั่วทั้งระบบมากกว่า 11,000 โหนด และในฐานะพาร์ทเนอร์ของทั้งภาครัฐและเอกชน LLNL และ HPE ได้ร่วมกันพัฒนาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลภายในแบบโหนดระยะใกล้กำหนดเอง (custom near-node) เพื่อช่วยลดเวลาแฝง ซึ่งกำหนดค่าแบบไดนามิกและแบ่งชั้นเป็นระบบไฟล์แบบขนาน Lustre ที่ใช้ร่วมกันระหว่างโหนดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดทั่วโลก
นอกเหนือจากประสิทธิภาพที่ทรงพลังแล้ว El Capitan ยังได้รับการออกแบบมาให้เน้นการประหยัดพลังงานเป็นหลัก และพัฒนามาเพื่อรองรับการใช้งานหนาแน่นสูงโดยสถาปัตยกรรมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรงแบบไร้พัดลม 100% รายแรกของอุตสาหกรรม ของ HPE ซึ่งมีองค์ประกอบการระบายความร้อนมากถึง 8 ส่วน
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ [iv]HPE ได้ส่งมอบโซลูชันครบวงจรที่มีประสิทธิภาพสุงสุด พร้อมซอฟต์แวร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และบริการที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และการค้นพบในยุค AI
###
เกี่ยวกับ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์
ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE)เป็นบริษัทระดับโลกแบบ edge-to-cloudที่ช่วยให้องค์กรเสริมประสิทธิภาพ ปลดล็อคทุกข้อจำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ HPEถือกำเนิดจากการสร้างจินตนาการใหม่ในอนาคตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อความก้าวหน้าในการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คน HPEนำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เปิดกว้างและเป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ด้วยข้อเสนอที่ครอบคลุมบริการคลาวด์ การประมวลผล คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงและปัญญาประดิษฐ์, การประมวลผลอัจฉริยะในระดับเอดจ์ ซอฟต์แวร์ และพื้นที่เก็บข้อมูล HPEมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกันทั่วทั้งคลาวด์และเอดจ์ทั้งหมด ช่วยให้ลูกค้าพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ มีส่วนร่วมในรูปแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.hpe.com
Leave feedback about this