การถ่ายภาพท่องเที่ยวเป็นมากกว่าแค่การบันทึกภาพ แต่เป็นการเก็บเรื่องราว ความรู้สึก และบรรยากาศของสถานที่ที่เราไปเยือน การเลือกเลนส์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางออกมาได้ดีมากยิ่งขึ้น

ในสถานการณ์แบบนี้ การเปลี่ยนเลนส์ทำได้ยากแน่ๆ หากต้องใช้เลนส์ตัวเดียวจึงต้องพิจารณาเป็นอย่างดีครับว่าจะใช้เลนส์ระยะเท่าไหร่ติดกล้องขึ้นไปด้วย ในภาพผมเลือกเป็นเลนส์ 24-120mm ครับ เพื่อเก็บภาพมุมกว้าง และบางครั้งก็เจาะเข้าไปที่ที่น่าสนใจเมื่อบินผ่านสถานที่สวยๆ ครับ
ปัจจัยทีใช้ในการเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยว
การเดินทางท่องเที่ยวของใครหลายคน หรือคนส่วนใหญ่มักต้องการความคล่องตัวและลดภาระน้ำหนัก เพราะหลายคนก็ไม่ใช่ช่างภาพท่องเที่ยว (ไม่ใช้คนทำงานเกี่ยวกับการถ่ายภาพท่องเที่ยวมืออาชีพ) การเลือกเลนส์จึงควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

Photo by Pixabay : SplitShire
ความคล่องตัว เลนส์ที่ครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสได้หลากหลาย (เลนส์ซูม) จะช่วยลดความจำเป็นในการเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ และลดจำนวนการพกพาหรือหาซื้อเลนส์หลายตัวได้ ยิ่งในยุคสมัยที่สามาร์ทโฟนเข้าใกล้กล้องดิจิทัลมากขึ้น สามารถทำทุกอย่างได้ใกล้เคียงกล้องดิจิทัล โดยเฉพาะมุมรับภาพ ทั้งกว้าง ซูม และการละลายฉากหลังได้คล้ายๆ กัน ความจำเป็นในการมีเลนส์หลายตัวจึงเป็นทางเลือกที่หลายคนมองขาม เพราะฉะนั้น มันจะดีกว่าไหม ถ้าคุณพกเลนส์แค่ตัวเดียวแล้วเอาอยู่เหมือนคุณมีแค่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เพื่อทำให้คุณสะดวก คล่องตัวในการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยไม่ต้องมาพะวงกับอุปกรณ์มากเกินไป

เลนส์ซูมอเนกประสงค์ที่เบาเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราได้ภาพในขณะที่เราเดินทางท่องเที่ยวทั้งวันแบบไม่เมื่อยครับ
น้ำหนักและขนาด เลนส์ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาจะช่วยให้คุณสามารถพกพาไปได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกเหมื่อยล้า แม่ในปัจจุบันกล้องและเลนส์จะมีขนาดที่เล็กลง แต่ไม่ดีแน่ หากมีเลนส์หลายตัวที่ซุกซ่อนในกระเป๋าบนไหล่ของคุณ เพราะฉะนั้น มันจะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าคุณเลือกเลนส์ที่น้ำหนักเบา แต่ก็ไม่ลดทอนคุณภาพของภาพถ่ายของคุณ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเลนส์หลายตัวที่ตอบโจทย์คุณได้

Photo by Pixabay : StockSnap
สถานการณ์การถ่ายภาพ พิจารณาว่าคุณจะถ่ายภาพแนวไหนเป็นหลัก เช่น วิวทิวทัศน์ (Wide-Angle), ภาพบุคคลพร้อมฉากหลัง (Standard/Portrait), หรือภาพระยะไกล (Telephoto) เมื่อคุณวางแผนคร่าวๆ หรือมีแนวภาพในหัวอยู่แล้ว มันจะเป็นการง่ายต่อการวางแผนในการจัดอุปกรณ์ของคุณ หรือง่ายต่อการเลือกซื้ออุปกรณ์ในการออกทริปท่องเที่ยวของคุณด้วยเช่นกัน ซึ่ง หลายๆ ครั้งตัวผมเองก็ผิดหวังกับการเลือกซื้อเลนส์ในการท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ (ซื้อมาก็ไม่ค่อยได้ใช้ ซื้อมาเพราะคิดว่ามันจะช่วยให้เราได้ภาพ แต่ความเป็นจริงได้ใช้งานไม่กี่ครั้งก็เก็บเข้าตู้ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ)

ภาพมุมกว้างของวิวทิวทัศน์ที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนมักจะเก็บภาพเหล่านี้เสมอ
เอาหละครับ รู้ปัจจัยคร่าวๆ แล้ว เรามาดูกันว่า เลนส์ประเภทไหนที่ตอบโจทย์สายท่องเที่ยวบ้าง
ประเภทเลนส์ยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยว
และนี่ คือตัวอย่างเลนส์ 3 ประเภทที่นักเดินทางท่องเที่ยวนิยมใช้ (ผมใช้ประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยท่องยุทธภพของผมล้วนๆ เลยครับ ผิดพลาดประการใดให้อภัยผมด้วย ฮ่าๆๆๆ) พร้อมข้อดี และข้อที่ควรระวังครับ

ภาพจากเลนส์ซูมอเนกประสงค์ในระยะ Normal ถึงกว้างนิดหน่อย ข้อที่ควรระวังเมื่อต้องใช้มุมกว้างไปกว่านี้คือความผิดเพี้ยนของ Perspective
1. เลนส์ซูมเอนกประสงค์ (Superzoom/All-in-One)
โดยส่วนมากก็จะอยู่ที่ระยะ 18-200mm, 24-240mm ข้อดีของเลนส์ช่วงระยะนี้เลยคือ ครอบคลุมทุกสถานการณ์ ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ คือใช้ได้ตั้งแต่ภาพมุมกว้าง ถึง เทเลโฟโต้ (ระยะต้นถึงกลาง) พกพาเพียงตัวเดียวเรียกได้ว่าแทบจบได้เลยครับ

สถานการณ์ในการใช้งาน ผมขอยกตัวอย่างคร่าวๆ ในสถานการณ์ที่ผมเคยเจอมาคือ เสาดินนาน้อย หรือแม้กระทั่งหมู่บ้านแม่กำปอง ที่จะต้องใช้มุมกว้างเพื่อเก็บภาพหมู่บ้าน หรือกลุ่มเสาดิน ผนังดินที่มีฟอร์มสวยงาม แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็อยากจะถ่ายเจาะไปที่ Texture ของชั้นดินด้วย หรือ ในบางสถานที่ก็อยากจะถ่ายเจาะจากระยะใกล้บ้างหากเห็นว่ามันสวย แบบนี้ เราก็ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ เราก็ได้มุมภาพที่หลากหลายได้ครับ

ถ่ายภาพเจาะ หากเห็นว่าบางสถานที่บางสถานการณ์น่าสนใจ โดยใช้ช่วงซูมแคบที่สุดของเลนส์อเนกประสงค์ (200mm)

ถ่ายภาพเจาะ หากเห็นว่าบางสถานที่บางสถานการณ์น่าสนใจ โดยใช้ช่วงซูมแคบที่สุดของเลนส์อเนกประสงค์ (200mm)
แต่เลนส์แบบนี้ก็มีข้อควรระวังหรือต้องทำความเข้าใจครับว่า คุณภาพของภาพ มักจะคมชัดน้อยกว่าเลนส์เฉพาะทาง (Prime/Pro Zoom) และรูรับแสงแคบ อาจไม่ดีในที่แสงน้อยนั่นเอง
2. เลนส์ซูมมาตรฐาน (Standard Zoom)
เลนส์กลุ่มนี้ก็จะมีคุณภาพอื่นๆ ดีขึ้นมาหน่อย อย่างพวกเลนส์ 24-70mm f/2.8 หรือ 24-105mm f/4 ที่จะให้คุณภาพของภาพดีเยี่ยม คมชัด สามารถใช้รูรับแสงกว้างได้พอสมควร อย่าง f/2.8 หรือ ถึงแม้จะเป็น F4 ก็ยังให้คุณภาพแบบ F เดี่ยวที่ดีกว่า F ไหล อยู่บ้าง และยังครอบคลุมการถ่ายภาพทั่วไป อย่างวัตถุ วิวทิวทัศน์ รวมถึงภาพบุคคล และยังช่วยให้คุณครีเอทภาพท่องเที่ยวของคุณได้มากขึ้นจากคุณสมบัติ F กว้างได้ด้วยนั่นเองครับ

มีข้อดีก็น่าจะต้องมีข้อจำกัดหรือควรทำความเข้าใจอยู่บ้าง อย่างเช่นว่า ช่วงโฟกัสจำกัด ไม่กว้างพอสำหรับวิวอลังการ (ไม่กว้างเหมือนพวกเลนส์ Ultra-wide zoom lens) และไม่ยาวพอสำหรับซูมไกลๆ และมักมีราคาสูง(อันนี้แล้วแต่กำลังทรัพย์เลยครับ ผมมิอาจตอบแทนได้ ^^) และมีน้ำหนักมากกว่าเลนส์ซูมทั่วไปหลายๆ รุ่น โดยเฉพาะพวก f กว้างๆ อย่าง f/2.8 เป็นต้น

การใช้ระยะกว้างสุดของเลนส์ซูมมาตรฐานและเป็นเลนส์ที่มี f กว้าง ทำให้สามารถเปิดรับแสงได้กว้างขึ้นและช่วยยืดช่วงเวลาแห่งการเก็บภาพออกไปในยามพลบค่ำได้อีกนิดหน่อย (ไม่ได้พกขาตั้งไปด้วย)
3. เลนส์ฟิกซ์ (Prime Lens) 35mm หรือ 50mm)
เลนส์แบบสุดท้ายที่จะแนะนำ คือกลุ่มเลนส์ฟิกซ์ อย่าง 35mm f/1.4 หรือ 50mm f/1.8 อันที่จริง ในการใช้งานจริงผมก็ไม่แนะนำให้เป็นเลนส์หลักเท่าไหร่ครับ ผมจะแนะนำให้เป็นเลนส์เสริมพกติดกระเป๋าเผื่อไว้ครับ เพราะมันก็ไม่ได้มีน้ำหนักอะไรมากมายจนเกินไป และเมื่อถึงคราวได้ใช้งาน คุณสมบัติความเป็นเลนส์ฟิกซ์ที่สามารถเปิด F กว้าง ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี ละลายฉากหลัง มีโบเก้สวย และให้ DOF ที่สวยงาม เหล่านี้ ก็ยังสามารถช่วยให้คุณได้ภาพที่มีคุณภาพสำหรับการท่องเที่ยวของคุณได้ครับ

ถ่ายเจาะวัตถุที่มีความน่าสนใจเมื่อเจอสถานการณ์ที่ประทับใจด้วยเลนส์ฟิกซ์เพื่อดึงความสามารถในการละลายฉากหลังและสร้างสรรค์ภาพด้วยโบเก้ที่สวยงาม ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเลนส์ฟิกซ์ไวแสง
ส่วนที่ต้องทำความเข้าใจกับเลนส์ฟิกซ์เลยก็คือ การสร้างสรรค์มุมภาพ คุณจะต้องใช้ขาตัวเองซูมครับฮ่าๆๆๆ คือคุณต้องเดินเข้า-ออก เพื่อจัดองค์ประกอบภาพ และมันอาจทำให้คุณพลาดช็อตที่ซูมไกลๆ ได้นั่นเอง
เอาหละครับ เมื่อเราพอที่จะทราบคร่าวๆ เกี่ยวกับปัจจัยทีใช้ในการเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยว และประเภทเลนส์ยอดนิยมสำหรับถ่ายภาพท่องเที่ยว ไปดูกันครับว่า มีเลนส์จากค่ายไหนที่ผมอยากจะแนะนำให้ได้พิจารณากันบ้าง ไปเริ่มกันเลยครับ
Sony FE 24-240mm f/3.5-6.3 OSS
หากต้องการระยะ ผมแนะนำตัวนี้ครับ เพราะมีความครอบคลุมสุดๆ (10x Zoom) เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ หรือไม่เปลี่ยนเลย ถ่ายได้ตั้งแต่ภาพวิวทิวทัศน์กว้างๆ ไปจนถึงซูมรายละเอียดไกลๆ แต่ก็อย่างที่เห็นครับว่า f ที่กว้างสุดเพียง 3.5 และ 6.3 เมื่อซูมไปที่ 240 อาจจะทำให้คุณครีเอทภาพละลายฉากหลัง โบเก้ ได้น้อยกว่า f กว้างๆ ครับ

ความพิเศษของเลนส์ตัวนี้เลยคือ เป็นเลนส์ที่มีการป้องกันภาพสั่นไหว Optical SteadyShot (OSS) ในตัว ซึ่งช่วยให้เราถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น เปิด f แคบสุดที่ f/22-40 หากจะถ่ายภาพทิวทัศน์ที่ต้องการภาพชัดลึกมากๆ ก็สามารถช่วยให้เราถ่ายภาพแบบนั้นได้ และเปิด f กว้างสุดเมื่อถ่ายภาพมุมกว้าง (24mm) ที่ 3.5 หากเป็นการถ่ายดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเก็บบรรยากาศของฉากหลัง และยังอยากได้ความละลายบ้าง f3.5 ผมว่ามันก็ยังสามารถทำให้เราได้ภาพแบบนั้นอยู่บ้าง และยิ่งสามารถโฟกัสใกล้สุดได้ที่ 0.5-0.8 ม. (1.64-2.63 ฟุต) ก็จะยิ่งทำให้เราครีเอทการถ่ายวัตถุได้มากขึ้นด้วยครับ
นอกจากนี้ ตัวเลนส์ยังมีซีลป้องกันละอองน้ำ/ฝุ่น ทำให้คุณมั่นใจในการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์ได้อย่างกังวลน้อยยยยที่สุดแน่นอน และตัวเลนส์ยังมีน้ำหนักเพียง 780 กรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ถือว่าอยู่ในการพกพาไปท่องเที่ยวได้ครับ
ราคาประมาณ : 32,990.00 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.sony.co.th/th/electronics/camera-lenses/sel24240
Sony FE 24-105mm f/4 G OSS
หากต้องการคุณภาพขึ้นมาบ้าง เลนส์ตัวนี้ให้ความเป็น f เดี่ยวคงที่ตลอดช่วง ทำให้ง่ายต่อการควบคุมครับ ไม่ต้องเปลี่ยนค่า f บ่อยๆ และให้ความสว่างคงที่แม้จะเปลี่ยนทางยาวโฟกัส

ให้ความคมชัดสม่ำเสมอและคอนทราสในทุกสภาพแสงจากการเคลือบ Nano AR ของ Sony ลดภาพสะท้อนที่ไม่สมจริง มีการใช้ชิ้นเลนส์ Aspherical จำนวน 4 ชิ้น และ 2 ชิ้นเป็น AA (Advanced Aspherical) ช่วยลดการบิดเบือนอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความละเอียดสูงทุกจุดอย่างสม่ำเสมอ และคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยมตลอดช่วงซูมของเลนส์ตัวนี้นั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความละเอียดด้วยการลดความคลาดเคลื่อนของสี และการสร้างสีที่เป็นธรรมชาติด้วย ชิ้นเลนส์กระจก ED (Extra-low Dispersion) 3 ชิ้นด้วย
มีน้ำหนักอยู่ที่ 663 กรัม เหมาะสำหรับการพกพาไปท่องเที่ยวมากๆ ความยาวโฟกัส 24-105mm ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 35 มม. และ 36-157.5mm เมื่อใช้กับกล้อง APS-C การออกแบบชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น แบ่งเป็น 14 กลุ่ม มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่0.38 ม. ครับ
ราคาประมาณ : 46,990.00 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.sony.co.th/th/electronics/camera-lenses/sel24105g
Tamron 28-200mm f/2.8-5.6 Di III RXD
เลนส์แบบอเนกประสงค์ all-in-one zoom สำหรับกล้อง Full Frame Mirrorless (ใช้งานได้ทั้ง Fullframe และ APS-C) ระบบ E-mount ของ Sony ครับ เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมากๆ มีค่า f เริ่มต้นที่ f/2.8 โดยเมื่อซูมไปที่ทางยาวโฟกัสต่างๆ ปริมาณแสงจะเปลี่ยนแปลงไป และได้ค่า f ลดลงเป็น f/3.5 ที่ 50mm, f/4.5 ที่ 100mm, และ f/5.6 ที่ 150-200mm เรียกได้ว่าเป็นเลนส์ที่มีความสมดุลที่ดีระหว่างขนาด/คุณภาพ/ช่วงซูม จุดเด่นคือมีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ที่ช่วง Wide ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี และ f2.8 ที่ระยะ 28mm มันจะทำให้คุณจินตนาการถึงการครีเอทภาพถ่ายท่องเที่ยวของคุณด้วยมุมภาพที่กว่างและให้ Dof แบบ f/2.8 รวมถึงการละลายฉากหลังและโบเก้ที่สวยงามได้เลย

การออกแบบชิ้นเลนส์ โครงสร้างชิ้นเลนส์ 18 ชิ้น แบ่งเป็น 14 กลุ่ม ที่มาพร้อมชิ้นเลนส์พิเศษ ทั้ง LD (Low Dispersion) ที่มาช่วยเพิ่มคุณภาพของเลนส์ และ XLD (eXtra Low Dispersion) จำนวน 1 ชิ้น เพื่อช่วยลดความคลาดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และเคลือบเลนส์ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์แบบ BBAR (Broad-Brand Anti-Reflection) ที่ช่วยลดอาการแฟลร์ และแสงหลอน (Ghosting) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบที่เน้นความเล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบาเพียง 575 กรัม และมีความยาวที่ 117มม.ครับ ตัวเลนส์มี Weather Seal ป้องกันละอองน้ำ/ฝุ่น ได้ด้วย
ราคาประมาณ : 24,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://tamronthailand.com/product/28-200mm-f-2-8-5-6-di-iii-rxda071/
Tamron 17-70mm f/2.8 Di III-A VC RXD
เลนส์ซูมมาตรฐานไวแสงที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง mirrorless โซนี่และฟูจิฟิล์ม X-Mount ในกล้อง Aps-c format เปิดค่ารูรับแสงได้กว้างสุดที่ f/2.8 ตลอดช่วงซูม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการครีเอทภาพถ่ายในหลายๆ สถานการณ์ แม้ในเวลาที่มีสภาพแสงน้อยครับ และยังเปิด f แคบสุดที่ f/22 หากต้องการรายละเอียดของภาพในแบบภาพชัดลึกอย่างเช่นถ่ายผู้คนแล้วฉากหลังยังชัดเพื่อที่จะแสดงถึงสถานที่ในภาพอย่างชัดเจน และมีการใช้ใบเบลดรูรับแสง 9 ใบ จึงทำให้ได้โบเก้ทรงกลมสวยงามถูกใจสายเที่ยวแน่นอนครับ

การออกแบบโครงสร้างชิ้นเลนส์มีชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น แบ่งเป็น 12 กลุ่ม และมีชิ้นเลนส์พิเศษ hybrid aspherical 1 ชิ้น glass-molded aspherical 2 ชิ้น และ LD อีก 2 ชิ้น ซึ่งทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงแบบขอบชนขอบทีเดียวครับ และยังออกแบบให้การโฟกัสมีเสียงโฟกัสที่เงียบด้วย Rapid eXtra-silent stepping drive’ (RXD) stepper motor ในการขับเคลื่อนชิ้นเลนส์ ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการถ่ายภาพผู้คน เพราะจะไม่มีเสียงดังให้เป็นจุดเด่น และยังเป็นประโยชน์กับการถ่ายวิดีโอสำหรับครีเอเตอร์สายวิดีโออีกด้วยครับ
การออกแบมีน้ำหนักเพียง 525 กรัมครับ และกระบอกเลนส์ยังมีการซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่นครับ เรียกได้ว่าเป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่สมบุกสมบันได้ครับ นอกจากนี้ยังมีการเคลือบ fluorine coating ที่เลนส์ชิ้นหน้าทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และทำให้ละอองน้ำเกาะติดหน้าเลนส์ได้ยากขึ้นครับ
ราคาประมาณ : 26,990 – 29,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://tamronthailand.com/product/17-70mm-f-2-8-di-iii-a-vc-rxdb070/
NIKKOR Z 24-200mm f/4-6.3 VR
เป็นเลนส์ซูมแบบ all-in-one อเนกประสงค์สำหรับกล้อง Full frame เมาส์ Z อีกตัวที่ไม่แนะนำไม่ได้สำหรับชาวนิคอนครับ ด้วยระยะที่ครอบจักวาลแบบนี้เหมาะมากๆ สำหรับพกท่องเที่ยวแบบตัวเดียวอยู่ เปิด f กว้างสุดที่ f4 ที่ระยะ 24mm และ 6.3 ในระยะ 200mm โดยปรกติแล้วเลนส์ช่วงนี้จะเริ่มต้นกันที่ระยะ 28mm แต่เลนส์ตัวนี้ต่างออกไปครับ มุมกว้างที่สุดทำได้ถึง 24mm ทำให้การครีเอทภาพเมื่ออยู่ในสถานที่ที่ต้องการเก็บภาพกว้างๆ นั้นสามารถตอบสนองความต้องการของเราได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกันสั่น (VR) แบบการปรับเลนส์โดยใช้วอยซ์คอยล์มอเตอร์ (VCM) ซึ่งจะช่วยให้การโฟกัสที่รวดเร็ว เงียบ และแม่นยำมาก

การออกแบบชิ้นเลนส์มีองประกอบชิ้นเลนส์พิเศษ ED 2 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ Aspherical 2 ชิ้น ชิ้นเลนส์พิเศษ Aspherical ED 1 ชิ้น และใช้เทคโนโลยีการเคลือบ ARNEO และ Nano Crystal Coats ช่วยลดแสงแฟลร์ และภาพซ้อนแสงสะท้อน ให้อัตราส่วนคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยมครับ
การออกแบบเน้นกะทัดรัดสำหรับเป็นเลนส์คิทได้เลยครับ (มีชุดคิทเมื่อซื้อกับ Nikon Z5II ด้วยนะครับ เผื่อสนใจ ^^) แม้ว่าปรกติแล้วเลนส์คิทหลายๆ ตัวในหลายๆ ค่ายจะมีระยะที่ 24-70mm หรือ 24-120mm แต่เจ้าตัวนี้แตกต่างออกไปด้วยระยะที่ยืดหยุ่นมากๆ บนเลนส์ที่มีน้ำหนักเพียง 570 กรัม นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับกล้อง Aps-c (z เมาส์) ได้ และระยะก็จะอยู่ที่ 36mm ถึง 300mm นั่นเองครับ
ราคาประมาณ : 30,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.nikon.co.th/nikkor-z-24-200mm-f-4-6-3-vr
NIKKOR Z 24-120mm f/4 S
เลนส์ “ตัวจบ” (จบเฉพาะทริปนี้หรือปล่าวก็ไม่รู้นะครับ ฮ่าๆๆๆ) สายท่องเที่ยวคุณภาพสูง เป็นเลนส์เกรด S-Line (ระดับมืออาชีพ) ที่ให้ความคมชัดยอดเยี่ยม และมีรูรับแสงคงที่ที่ f/4 ตลอดช่วงซูม ทำให้เป็นเลนส์ที่ใช้งานได้หลากหลายและคุณภาพดีเยี่ยม ข้อดีของการเปิด f ได้ถึง f4 คือ ให้เอ็ฟเฟ็กต์โบเก้ขนาดใหญ่ และยังถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้นครับ

การออกแบบชิ้นเลนส์มีชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น แบ่งเป็น 13 กลุ่ม ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ ED จำนวน 3 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ Aspherical ED 1 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ Aspherical 3 ชิ้น เพื่อช่วยลดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวแกนจากระยะใกล้ถึงระยะอินฟินิตี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีชิ้นเลนส์โค้ทผิวนาโนคริสตัลและโค้ทผิว ARNEO และชิ้นเลนส์ด้านหน้าโค้ทผิวฟลูออรีน ช่วยจัดการกับแสงตกกระทบแนวตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีนี้ เลนส์นี้จึงลดผลกระทบจากแสงโกสต์และแสงแฟลร์ที่เกิดจากแสงตกกระทบจากทุกทิศทางให้เหลือน้อยที่สุดได้นั่นเองครับ
การออกแบบเน้นความกระทัดลัดครับ มีความยาววัดจากระยะห่างจากหน้าแปลนเมาท์ถึงปลายเลนส์ที่ 118 มม. มีน้ำหนักประมาณ 630 กรัม มีการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพอากาศซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเลนส์ถ่ายภาพท่องเที่ยวครับ
ราคาโดยประมาณ : 35,500 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.nikon.co.th/nikkor-z-24-120mm-f-4-s
Canon RF 24-240mm f/4-6.3 IS USM
เลนส์ซูมที่ซูมได้ไกล (มีระบบซูมแบบออฟติคอลได้ถึง 10 เท่า) ในขณะที่มุมกว้างก็ทำได้ดีเยี่ยมถึง 24mm ซึ่งถือได้ว่าเป็นระยะเลนส์ที่ทำได้ครอบคลุมมากครับ ถ่ายได้ทั้งวิวและวัตถุที่น่าสนใจครับ RF 24-240mm เป็นเลนส์ Superzoom ตัวหลักของ Canon RF ที่มีระบบกันสั่น (IS) ได้ถึง 5 สต๊อป และโฟกัสเร็วด้วยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์นาโนอัลตร้าโซนิค (Nano USM) เปิด f กว้างสุดที่ f4 ที่ระยะ 24mm ช่วยให้การครีเอทภาพแบบมุมกว้างทำได้ดีแม้สภาพแสงน้อยอย่างเวลาพลบค่ำครับ มันจะช่วยยืดระยะเวลาของความสุขในการถ่ายภาพท่องเที่ยวของเราไปได้อีก ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางเอามากๆ

การออกแบบโครงสร้างเลนส์มีชิ้นเลนส์ทั้งหมด 21 ชิ้น แบ่งเป็น 15 กลุ่ม ช่วยให้คุณภาพภาพดีเยี่ยมพร้อมการควบคุมความคลาดเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีน้ำหนักโดยประมาณที่ 750 กรัม ถือว่าเบามากๆ สำหรับสายถ่ายภาพท่องเที่ยวครับ
ราคาโดยประมาณ : 36,590 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://th.canon/th/consumer/rf24-240mm-f-4-6-3-is-usm/product
Canon RF 24-105mm f/4L IS USM
เลนส์ RF-Mount Lens สำหรับกล้อง Full-Frame เลนส์ L- Series คุณภาพสูง มีความคมชัดที่ดีเยี่ยม ทนทานต่อสภาพอากาศ (Weather Sealed) และรูรับแสง f/4 คงที่ สำหรับนักเดินทางที่ต้องการความมั่นใจด้านคุณภาพและความทนทาน ใช้มอเตอร์ Nano USM ช่วยให้โฟกัสได้เร็วและราบรื่นขึ้น มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้สูงสุดถึง 5 สต็อป เปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 ตลอดช่วงทางยาวโฟกัส ทำให้ใช้สะดวกในการถ่ายภาพมุมกว้าง อย่างวิวทิวทัศน์ ไปจนถึงเทเลโฟโต้ระยะต้นซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพโคลสอัพได้อีกด้วยครับ

การออกแบบโครงสร้างชิ้นเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 18 ชิ้น จัดแบ่งเป็น 14 กลุ่ม มีการเคลือบ Super Spectra ในแต่ละชิ้นเพื่อลดแสงโกสต์และแสงแฟลร์ให้มีความเปรียบต่างและความเป็นกลางของสีมากขึ้นเมื่อทำงานในสภาพแสงจ้า มีน้ำหนักโดยประมาณที่ 700 กรัม มีการออกแบบให้สามารถป้องกันฝุ่นและหยดน้ำได้
ราคาโดยประมาณ : 51,600 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://th.canon/th/consumer/rf24-105mm-f-4l-is-usm/product
Fujinon XF 18-135mm f/3.5-5.6 R LM OIS WR
เลนส์อเนกประสงค์ normal zoom ช่วงเลนส์ 18-135mm ที่มีจุดเด่นที่ระบบกันสั่น ทำงานร่วมกับ Gyro Sensor มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง และสามารถช่วยลดการสั่นไหวได้ถึง 5 สต๊อป เหมาะกับการถ่ายภาพ บุคคล และวิว สามารถเปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/3.5 ที่ระยะ 18mm และ f/5.6 ที่ 135mm

การออกแบบโครงสร้างชิ้นเลนส์ ใช้เลนส์ aspherical 4 ชิ้น เพื่อให้ได้ระยะออปติคัลที่สั้นมาก มีชิ้นเลนส์พิเศษที่มีการกระจายแสงต่ำมาก 2 ชิ้น เพื่อช่วยลดความคลาดเคลื่อนสี (Chromatic Aberration) ให้น้อยที่สุด ส่วนหน้าเลนส์ใช้ EBC เคลือบป้องกันและลดการเกิดแสงแฟร์และ ghosting รอบตัวเลนส์เคลือบปกป้องฝุ่นละออง น้ำแข็งและภูมิอากาศต่างๆ
มีการออกแบบให้มีความสามารถกันน้ำกันฝุ่นจากการซีลป้องกันกว่า 20 จุด และตัวเลนส์ยังมีการออกแบบช่องระบายอากาศเอาไว้ที่บริเวณฐานของเลนส์ด้วย เพื่อช่วยไม่ให้เกิดการดูดฝุ่นและความชื้นเข้าไปสะสมในเลนส์เวลาเราใช้งานซูมเข้า/ออก มีน้ำหนักโดยประมาณที่ 490 กรัม ครับ
ราคาโดยประมาณ : 26,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.fujifilm-x.com/th-th/products/lenses/xf18-135mmf35-56-r-lm-ois-wr/
Fujinon XF 16-80mm f/4 R OIS WR
เลนส์ซูมมาตรฐานคุณภาพสูง ช่วง Wide ที่กว้างถึง 16mm (Aps-c) เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการความคมชัดสูง และมีรูรับแสง f/4 คงที่ ตลอดช่วงซูม ให้ภาพที่คุณภาพดีมากในขนาดที่พกพาสะดวก ใช้ชุดโฟกัสขนาดเล็กและเบาแบบ Stepping Motor ทำให้โฟกัสได้อย่างรวดเร็ว เงียบ และแม่นยำ

การออกแบบโครงสร้างเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 16 ชิ้นเลนส์ จัดเป็น 12 กลุ่ม ชิ้นเลนส์ Aspherical 3 ชิ้น ชิ้นเลนส์ ED Aspherical 1 ชิ้น ที่ควบคุมด้วยความแม่นยำสูงเพื่อลดความโค้งและความคาดทรงกลม เลนส์ ED และชิ้นเลนส์ Aspherical เป็นชุดเลนส์ป้องกันการสั่นไหว ความบิดเพี้ยนที่ผันผวนจากการป้องกันการสั่นไหวจะลดลง
มีขนาดกะทัดรัดที่มีน้ำหนักเพียง 440 กรัม ในความยาวรวมเพียง 88.9 มม. และมีโครงสร้างโลหะ มีการซีลถึง 10 จุดเพื่อป้องกันละอองฝุ่นละอองน้ำ และสามารถใช้งานที่อุณหภูมิได้ต่ำถึง -10°C
ราคาโดยประมาณ : 23,600บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.fujifilm-x.com/th-th/products/lenses/xf16-80mmf4-r-ois-wr/
Sigma 20-200mm F3.5-6.3 DG | Contemporary
เลนส์ซูมอเนกประสงค์ที่ให้มุมกว้างได้ถึง 20 มม. และซูมได้ที่ระยะ 200mm (เทเลโฟโต้ระยะต้นถึงกลาง) การที่จะเป็นเลนส์แบบอัลตราไวด์ที่ 20 มม. นั้น ถือว่าเป็นระยะที่เลนส์ซูมกำลังสูงทั่วไปทำได้ยากครับ และระยะเลนส์ที่ถ่ายได้ทั้งมุมกว้างทำให้เราสามารถถ่ายได้ตั้งแต่ภาพทิวทัศน์ที่อลังการไปจนถึงภาพแอคชั่นที่เข้าใกล้ได้ยากได้เป็นอย่างดีครับ

การออกแบบโครงสร้างเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 18 ชิ้นเลนส์ แบ่งเป็น 14 กลุ่ม ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ FLD 1 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ SLD 3 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ Aspherical 4 ชิ้น มีการใช้แก้วที่มีค่าดัชนีการหักเหแสงสูงช่วยลดการเคลื่อนที่ของเลนส์ขณะซูม ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อด้อยของเลนส์ซูมได้ดีมากๆ ครับ
มีน้ำหนักรวม 550 กรัม ซึ่งเบามากสำหรับการพกพาในการท่องเที่ยวครับ และมีการออกแบบให้ช่วยป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้ และชิ้นเลนส์ด้านหน้ายังมีการเคลือบผิวแบบกันน้ำและน้ำมัน ช่วยให้สามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานการณ์ในการท่องเที่ยวได้อย่างไร้กังวลครับ
ราคาโดยประมาณ : 34,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.srishtidigilife.co.th/Sigma_Und_20-200mm_Und_F3_Dot_5-6_Dot_3_Und_DG_Und__Pip__Und_Contemporary_Und_for_Und_SONY_Und_E-Mount_product/5de9dfecc2aaf20013536165/605d65ca9912150012c44c72/Products_68bfa853a2d4710013628657/65f6d0d8850f06001afd9ed8?srsltid=AfmBOoo5rRM3aR_IusvbFO7A36-fT_GNwHWS576RcsGPhodi1G24oRfp
Sigma 16-28mm f/2.8 DG DN Contemporary
เลนส์ซูมมาตรฐานที่เปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ตลอดช่วง ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยทำดีขึ้น แม้จะซูมได้ไม่มาก แต่การได้ถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวแบบเก็บรายละเอียดสภาพแวดล้อมมาไว้ในภาพถ่ายเพื่อเป็นความทรงจำ ก็ถือว่าเลนส์ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่จะทำให้คุณครีเอทภาพถ่ายของคุณได้มากขึ้นครับ นอกจากนี้ ด้วย f2.8 มันจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพโบเก้หรือภาพวัตถุที่ต้องการความละลายฉากหลังได้ดีขึ้นครับ

การออกแบบโครงสร้างเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น แบ่งเป็น 11 กลุ่ม มาพร้อมเทคโนโลยี Super Multi-Layer Coating ที่ลดการสะท้อนและเพิ่มความคมชัดให้ภาพถ่ายได้ดีขึ้น
ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพียง 450 กรัม แม้จะเป็นเลนส์ f2.8 ซึ่งเหมาะสำหรับการพกพาออกไปท่องเที่ยวมากๆ นอกจากนี้ยังออกแบบให้สามารถช่วยป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้ ทำให้เลนส์นี้ทนทานต่อทุกสภาพอากาศซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับการเป็นเลนส์สำหรับการท่องเที่ยวมากๆ ครับ
ราคาโดยประมาณ : 36,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.srishtidigilife.co.th/SIGMA_Und_16-28mm_Und_F2_Dot_8_Und_DG_Und_DN_Und__Pip__Und_Contemporary_Und_for_Und_L-mount_product/5de9dfecc2aaf20013536165/605d65ca9912150012c44c72/Products_65800146a65d5e001a8c3b72/5de9dfecc2aaf2001353616b?srsltid=AfmBOoqphLFnmxSVIigfThratayDzhcC1k5ZPWppAcmYisH8Y3NlfyVL
Panasonic Lumix S 28-200mm F4-7.1 MACRO O.I.S (L-Mount (Full Frame))
เลนส์ L-Mount สไตล์ All-in-One Zoom Lens ระยะกว้างสุดที่ 28mm ช่วยให้สามารถเก็บภาพมุมกว้างอย่างวิวทิวทัศน์ หรือบรรยากาศที่เราอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำได้ และยังสามารถถ่ายโคสอัพวัตถุ หรือบุคคลได้ที่ระยะ 200mm (เทเลโฟโต้ระยะเริ่มต้นถึงกลาง) ได้อีกด้วย ซึ่ง 28-200mm ถือว่าเป็นระยะที่ครอบคลุมที่ยืดหยุดได้ดีมากๆ ครับ

การออกแบบโครงสร้างเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น แบ่งเป็น 13 กลุ่ม และมีชิ้นแก้วพิเศษ Aspherical 1 ชิ้น, UHR 1 ชิ้น และ ชิ้นเลนส์ ED 4 ชิ้น สามารถเปิดรูรับแสงได้กว้างสุดที่ f4 ที่ระยะ 28mm และ f/7.1ที่ระยะ 200mm และเปิดแคบสุดที่ f32 – f45 ครับ มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Dual I.S ซึ่งป้องกันภาพสั่นไหวได้ถึง 6.5 Stop ที่เดียว
ออกแบบให้มีน้ำหนักเพียง 413 กรัม และสามารถป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้ และยังสามารถใช้งานที่อุณภูมิต่ำสุด -10 องศาเซลเซียสได้ ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นอย่างมากครับ
ราคาโดยประมาณ : 34,000 – 35,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.panasonic.com/th/consumer/camera-camcorder/lumix-s-camera/lumix-s-lens/s-r28200gc.html
Panasonic Leica DG Vario-Elmarit 12-60mm f/2.8-4.0 ASPH. POWER O.I.S.
เลนส์ซูมมาตรฐานสำหรับกล้องแบบ Micro Fourthirds (ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24-120mm. บน กล้อง Fullframe) สามารถเปิดค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ที่ระยะ 12mm. และ f/4 ที่ระยะ 60mm. ช่วยให้คุณถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น ถือว่าเป็นค่า f ที่ดีมากๆ สำหรับเลนส์ช่วงนี้ครับ เพราะมันให้ความอเนกประสงค์และยืดหยุ่นในการใช้งานในการถ่ายภาพท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เรียกว่าไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ ก็ว่าได้ครับ

การออกแบบโครงสร้างชิ้นเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 14 ชิ้น แบ่งเป็น 12 กลุ่ม และมีชิ้นเลนส์ Aspherical Elements 4 ชิ้น, Extra-Low Dispersion Elements 2 ชิ้น เพื่อช่วยลดการเกิดความบิดเบี้ยวและเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่ายของคุณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบ Power OIS ที่สามารถเปิด-ปิดได้ และยังกันสั่นได้ถึง – 5.5 Stops เลยทีเดียวครับ
การออกแบบให้มีน้ำหนักเพียง 320 กรัม ซึ่งถือว่าเบาและเหมาะกับการพกพามาก และยังมี Weather Seal ที่ช่วยป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้ด้วยครับ ซึ่งเหมาะกับการพกพาไปท่องเที่ยวได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อมเลยครับ
ราคาโดยประมาณ : 32,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.panasonic.com/mea/en/consumer/cameras-camcorders/lumix-g-micro-four-thirds-system/lenses/h-es12060.specs.html
Olympus M.Zuiko Digital ED 12-200mm f/3.5-6.3
เลนส์ซูมอเนกประสงค์ที่มีมุมกว้างที่ 12mm และยังซูมได้ถึง 200mm (24-400mm หากเทียบกับระบบ Fullframe ) สามารถเปิด f กว้างสุดที่ f/3.5 ที่ระยะ 12mm และ f/6.3 ที่ระยะ 200mm ครับ ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปของเลนส์ช่วงนี้ครับ แต่ด้วยระยะที่สามารถซูมได้ขนาดนี้ การครีเอทภาพท่องเที่ยวก็ยังสามารถทำได้หลากหลายจากระยะที่สามารถซูมได้ไกลขนาดนี้ครับ

การออกแบบโครงสร้างชิ้นเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น แบ่งเป็น 11 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์ Aspherical 3 ชิ้น, ชิ้นเลนส์ HR 3 ชิ้น และชิ้นเลนส์ ED 4 ชิ้น เพื่อช่วยลดความคลาดเคลื่อนของสี และแสงฟุ้งเพื่อให้ภาพมีความคมชัดและสว่างทั่วทั้งเฟรม และมีการโคสเลนส์แบบ Z.E.R.O Coating อีกด้วย
ออกแบบให้มีน้ำหนักเพียง 455 กรัม มีการป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้ ซึ่งเหมาะที่จะพกพาไปในการท่องเที่ยวในหลากหลายสถานการณ์และหลายสถานที่ได้ครับ
ราคาโดยประมาณ : 27,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://explore.omsystem.com/th/th/m-zuiko-ed-12-200mm-f3-5-6-3
Olympus M.Zuiko Digital ED 12-100mm f/4.0 IS PRO
เลนส์ซูมสำหรับ Micro Four Thirds ที่มีความอเนกประสงค์อีกตัวที่ทำระยะได้ดี (12-100mm เมื่อเทียบเท่ากล้องฟลูเฟรมก็จะได้ระยะ 24-200mm) ครอบคลุม และยืดหยุ่นมากๆ สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยว มาพร้อมรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 ตลอดช่วงซูม ซึ่งสะดวกมากๆ ในการใช้งาน และยังสามารถใช้งานในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้นอีกด้วย

การออกแบบโครงสร้างเลนส์ มีชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น แบ่งเป็น 11 กลุ่ม และมีชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง ชิ้นเลนส์ Aspherical 4 ชิ้น รวมทั้งเลนส์ DSA ทำให้สามารถลดการเกิดความผิดเพี้ยนต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นเวลาซูม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ชิ้นเลนส์ ED 5 ชิ้น เพื่อลดการเกิดปัญหาการเหลื่อมสีเมื่อใช้ระยะซูมสูงสุด และยังใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Z Coating Nano ในการเคลือบผิวเลนส์ เพื่อป้องกันการเกิดแสงฟุ้ง (Ghosts) และแสงแฟร์ (Flares) ช่วยให้ภาพถ่ายที่มีความคมชัด สดใส คุณภาพสูงด้วยครับ และที่เลนส์ตัวนี้สามารถเป็นเลนส์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดได้นั้น ก็เพราะการใช้เลนส์ DSA และเลนส์ Super HR ในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ เพื่อลดจำนวนชิ้นเลนส์ลง แต่ยังคงให้คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีนั่นเองครับ นอกจากนี้ยังใช้เลนส์ DSA ซึ่งเป็นชิ้นแก้วที่มีการหักเหของแสงสูง จึงทำให้ขนาดของเลนส์โดยรวมมีขนาดที่เล็กลงครับ
มีน้ำหนักเพียง 561 กรัม มีการออกแบบโครงสร้างที่ช่วยป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้ ช่วยให้การท่องเที่ยวถ่ายภาพในหลากหลายสถานที่หลายสถานการณ์สามารถทำได้แบบแทบจะไร้กังวลได้เลยครับ
ราคาโดยประมาณ : 43,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://explore.omsystem.com/c/en/m-zuiko-ed-12-100mm-f4-0-is-pro
จบไปแล้วสำหรับการแนะนำเลนส์สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยว ก็ได้แต่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบ้าง และเหนือสิ่งอื่นใด การท่องเที่ยวหรือการเข้าพื้นที่แล้วได้กดชัตเตอร์ถ่ายภาพนั้น ผมว่า นั่นคือภาพถ่ายที่สวยที่สุดแล้วครับ ขอให้มีความสุขกับการกดชัตเตอร์นะครับ


Leave feedback about this