NEWS PR NEWS

NetApp นำร่องนวัตกรรมใหม่ ผสานระบบตรวจจับการละเมิดข้อมูลในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร

NetApp นำร่องนวัตกรรมใหม่ ผสานระบบตรวจจับการละเมิดข้อมูลในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร

ความสามารถใหม่นี้ตอกย้ำเน็ตแอพในฐานะผู้นำด้านโซลูชันจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – 3 พฤศจิกายน 2025 – เน็ตแอพ® (NASDAQ: NTAP) บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์และเน้นการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ประกาศเปิดตัวความสามารถด้านการป้องกันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่ยกระดับความปลอดภัยของระบบจัดเก็บข้อมูลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ภายใต้บริการ NetApp Ransomware Resilience ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความปลอดภัยไซเบอร์อย่างสมบูรณ์ บริการ NetApp Ransomware Resilience มาพร้อมเทคโนโลยีการตรวจจับแรนซัมแวร์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเสริมด้วยความสามารถใหม่ 2 ด้านหลัก ได้แก่ การตรวจจับการละเมิดข้อมูล (Data Breach Detection) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร  และ สภาพแวดล้อมการกู้คืนแบบแยกส่วน (Isolated Recovery Environments) โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อให้การกู้คืนข้อมูลและเวิร์กโหลดเป็นไปอย่างปลอดภัย รวดเร็ว และปลอดมัลแวร์อย่างสมบูรณ์

ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุด ทั้งในด้านนวัตกรรม AI การปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัย การป้องกันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ และการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ องค์กรจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการลงทุนในเทคโนโลยี AI จะสร้างโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับองค์กร แต่ก็เพิ่มโอกาสการโจมตีทางไซเบอร์ให้กว้างขึ้นด้วย เน็ตแอพจึงพัฒนาให้โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ความปลอดภัยขององค์กร โดยการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อปกป้องข้อมูลระดับองค์กร และขจัดปัญหาการหยุดชะงักในการดำเนินงาน

Gagan Gulati รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริการข้อมูลของเน็ตแอพ กล่าวว่า “การปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการตรวจจับการโจมตีได้ตั้งแต่ช่วงต้น เพื่อให้สามารถตอบสนองและรับมือได้อย่างทันท่วงที ความสามารถใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเราถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจจับสัญญาณบ่งชี้เบื้องต้นของความพยายามขโมยข้อมูล ซึ่งต่อยอดจากเทคโนโลยีชั้นนำเดิมในการตรวจจับแรนซัมแวร์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลระดับองค์กรให้รัดกุมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลถือเป็นด่านป้องกันสุดท้ายในการปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของลูกค้า นั่นก็คือ ‘ข้อมูล’ โดยเน็ตแอพจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ที่สุดในโลก”

อรรณพ วาดิถี ผู้จัดการเน็ตแอพ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเร่งขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 อย่างเต็มที่ ข้อมูลได้กลายมาเป็นหัวใจหลักของนวัตกรรมในทุกภาคอุตสาหกรรม บริการ NetApp Ransomware Resilience ไม่ได้เป็นเพียงการป้องกัน แต่ยังช่วยเสริมศักยภาพให้องค์กรสามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อบกพร่อง นี่คือแนวทางที่เราช่วยสนับสนุนองค์กรไทยในการปกป้องชื่อเสียงองค์กร สร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ และความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน”

การอัปเดตฟีเจอร์สำคัญด้านความทนทานต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์จากเน็ตแอพ มีดังนี้:

  • บริการ NetApp Ransomware Resilience: เดิมมีชื่อว่า NetApp Ransomware Protection service ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้กระบวนการปกป้องและกู้คืน รวมถึงเวิร์กโหลดของ ONTAP จากการโจมตีของแรนซัมแวร์ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านความปลอดภัยหรือการฝึกอบรมเฉพาะทาง บริการ Ransomware Resilience ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ จะช่วยขับเคลื่อนการป้องกันแรนซัมแวร์แบบองค์รวม, มีการประสานงาน และเน้นที่เวิร์กโหลดเป็นศูนย์กลาง ครอบคลุมทั้งการจัดเก็บข้อมูลแบบไฟล์และบล็อกทั้งหมดผ่านระนาบการควบคุมเพียงหนึ่งเดียว
  • การตรวจจับการละเมิดข้อมูล (Data Breach Detection): NetApp Ransomware Resilience ถูกพัฒนามาพร้อมกับความสามารถตรวจจับการละเมิดข้อมูลด้วย AI ซึ่งสามารถระบุพฤติกรรมผู้ใช้หรือระบบไฟล์ที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้เบื้องต้นของการพยายามขโมยข้อมูล และการละเมิดข้อมูลที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อตรวจพบ ระบบ Ransomware Resilience จะทำการแจ้งเตือนลูกค้าโดยอัตโนมัติผ่านโซลูชัน SIEM ของลูกค้า พร้อมทั้งจัดเตรียมข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินการได้อย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว ด้วยการระบุการละเมิดได้ในเชิงรุก ลูกค้าจึงสามารถยับยั้งการถ่ายโอนข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติมได้ ซึ่งเป็นการหยุดยั้งภัยคุกคามทางไซเบอร์ก่อนที่จะก่อให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตในวงกว้าง
  • สภาพแวดล้อมการกู้คืนแบบแยกส่วน (Isolated Recovery Environments): บริการ NetApp Ransomware Resilience เปิดตัวสภาพแวดล้อมการกู้คืนแบบแยกส่วน เพื่อรับประกันว่าการกู้คืนเวิร์กโหลดจะมีความปลอดภัยและปลอดจากมัลแวร์โดยสิ้นเชิง  โดยสภาพแวดล้อมการกู้คืนดังกล่าวใช้เทคโนโลยีสแกนขั้นสูงด้วย AI แบบลิขสิทธิ์เฉพาะของเน็ตแอพ เพื่อตรวจจับข้อมูลที่ได้รับผลกระทบจากมัลแวร์อย่างแม่นยำ พร้อมระบุจุดเวลาที่ข้อมูลนั้นถูกแก้ไข หลังจากนั้น Ransomware Resilience จะนำลูกค้าผ่านกระบวนการกู้คืนเวิร์กโหลด เพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลล่าสุดที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ปราศจากมัลแวร์ และป้องกันการติดเชื้อซ้ำ

การยกระดับความสามารถเหล่านี้เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของเน็ตแอพ ในด้านการป้องกันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเข้ามาเสริมความสามารถที่มีอยู่เดิม เช่น การตรวจจับที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-powered Detection) ซึ่งฝังอยู่โดยตรงในระบบปฏิบัติการ ONTAP หรือระบบ NetApp ONTAP Autonomous Ransomware Protection with Artificial Intelligence (ARP/AI) ซึ่งได้รับรางวัลและรองรับข้อมูลทั้งในรูปแบบโพรโทคอลไฟล์ (File Protocols) และบล็อก (Block Protocols) อย่างสมบูรณ์ โดยได้แสดงผลลัพธ์การตรวจจับการโจมตีแรนซัมแวร์ประเภทการเข้ารหัสไฟล์เต็มรูปแบบขั้นสูง (Advanced Full-file Encryption Ransomware Attacks) ได้ถึง 99% พร้อมทั้งไม่พบผลบวกเท็จ (Zero False Positives) ในการทดสอบและการตรวจสอบจากภายนอก ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถอันแข็งแกร่งในการปฏิบัติงานในบริบททางธุรกิจ โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะแจ้งเตือนเกินความจำเป็น (Alert Fatigue)

Philip Bues ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัยด้านความปลอดภัยคลาวด์และการประมวลผลเชิงลับของ IDC กล่าวว่า “เน็ตแอพยึดแนวทาง ‘ออกแบบเพื่อความปลอดภัยตั้งแต่ต้น’ ทำให้โซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของบริษัทไม่ใช่เพียงด่านป้องกันสุดท้ายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ แต่ยังทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันเบื้องต้นด้วย เมื่อผู้ไม่ประสงค์ดียังคงพัฒนาวิธีการโจมตี รวมถึงเทคนิค double extortion ในรูปแบบแรนซัมแวร์ ความสามารถใหม่ของเน็ตแอพในการตรวจจับการละเมิดข้อมูลแสดงให้เห็นว่า บริษัทปรับตัวทันต่อสถานการณ์ และช่วยให้องค์กรได้รับสัญญาณเตือนล่วงหน้า สามารถหยุดและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ นี่สะท้อนว่าเน็ตแอพไม่ได้เป็นเพียงบริษัทผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล แต่เป็นพันธมิตรที่ลงทุนและเชื่อถือได้ในการสนับสนุนความสำคัญสูงสุดของลูกค้า”

ล่าสุด เน็ตแอพประกาศเปิดตัวการอัปเดตครั้งสำคัญทั่วทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงฟังก์ชัน AI ที่ได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้น เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ด้าน AI ของบริษัท โดยมุ่งเน้นการหลอมรวมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง เข้ากับบริการข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อนำเสนอเป็นข้อเสนอที่มีความปลอดภัยและสามารถปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดต และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งหมดในกลุ่มพอร์ตโฟลิโอของ NetApp โปรดเข้าชมที่:

https://www.netapp.com/product-updates

ในงาน NetApp INSIGHT 2025 ณ ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 14–16 ตุลาคมที่ผ่านมา เน็ตแอพได้จัดเซสชันและจัดแสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถติดตาม Keynote Session ได้ที่: https://www.netapp.com/insight/

-จบ-

ไม่มีระบบตรวจจับหรือป้องกันแรนซัมแวร์ใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยจากการโจมตีได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้มีความเป็นไปได้ที่การโจมตีบางประเภทอาจเล็ดลอดการตรวจจับไปได้ เทคโนโลยีของ เน็ตแอพยังคงทำหน้าที่เป็นชั้นการป้องกันเพิ่มเติมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และจากผลการวิจัยของเรา ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีของเน็ตแอพประสบความสำเร็จในการตรวจจับการโจมตีแรนซัมแวร์ประเภทการเข้ารหัสไฟล์ได้ในระดับสูง ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลองค์กร

ข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ NetApp

ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา NetApp ช่วยให้องค์กรชั้นนำของโลกให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ ตั้งแต่ยุคของการจัดเก็บข้อมูลองค์กร ไปจนถึงยุคอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI และในปัจจุบัน NetApp คือ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligent Data Infrastructure) ที่ช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรม ความยืดหยุ่น และการเติบโต

หัวใจของโครงสร้างพื้นฐานนี้คือแพลตฟอร์มข้อมูลของ NetApp ซึ่งเป็นรากฐานข้อมูลอัจฉริยะระดับองค์กรแบบรวมศูนย์ที่เชื่อมต่อ ปกป้อง และใช้งานข้อมูลได้ในทุก ๆ คลาวด์ งานประมวลผล และสภาพแวดล้อมรูปแบบต่าง ๆ แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นบนพลังที่พิสูจน์แล้วของ NetApp ONTAP ระบบซอฟต์แวร์และ OS สำหรับการจัดการข้อมูลชั้นนำ พร้อมยกระดับด้วยการอัตโนมัติผ่าน AI Data Engine และ AFX ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมข้อมูล ปกป้องข้อมูล และสร้างความอัจฉริยะในระดับขนาดใหญ่ได้

ด้วยการออกแบบแบบแยกส่วน แพลตฟอร์มข้อมูลของ NetApp จึงแยกส่วนระบบจัดเก็บ ข้อมูลบริการ และการควบคุม ทำให้องค์กรสามารถปรับปรุงระบบให้ทันสมัย สามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมโดยไม่ถูกจำกัด ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรเพียงแห่งเดียวที่ฝังตัวอยู่ในคลาวด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก NetApp ช่วยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนงานจากที่ไหนก็ได้ พร้อมสมรรถนะ การกำกับดูแล และความปลอดภัยที่สอดคล้องกัน

ที่ NetApp ข้อมูลจะพร้อมใช้งานเสมอ อีกทั้งยังพร้อมปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคาม พร้อมที่จะขับเคลื่อน AI และพร้อมนำไปสู่ความก้าวหน้าครั้งใหม่ ด้วยเหตุนี้เอง องค์กรที่ล้ำหน้าที่สุดของโลกจึงไว้วางใจ NetApp ในการเปลี่ยนข้อมูลอัจฉริยะให้กลายเป็นความได้เปรียบ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.netapp.com หรือติดตามเราได้บน XLinkedInFacebook และ Instagram

NETAPP, โลโก้ NETAPP และเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ปรากฏบน www.netapp.com/TM เป็นเครื่องหมายการค้าของ NetApp, Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของสิทธิ์นั้น ๆ

Leave feedback about this

  • Quality
  • Price
  • Service

PROS

+
Add Field

CONS

+
Add Field
Choose Image
Choose Video