REVIEWS SONY

Previews : Sony A7R III

Previews :

เทคโนโลยีได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกของการถ่ายภาพ ทุกวันนี้ข้อจำกัดต่างๆ ในการทำงานของช่างภาพลดน้อยลงเรื่อยๆ เช่นในเรื่องของการใช้กล้องดิจิตอลกับการทำงาน ก่อนหน้านี้ช่างภาพจะต้องเลือกระหว่างความละเอียดสูงกับความเร็วสูง ถ้าต้องการความละเอียดสูงก็ต้องทำใจว่า ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะไม่สูงนักคือ ประมาณ 5 ภาพ/วินาที ซึ่งไม่เร็วพอสำหรับการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่นต่างๆ กล้องความละเอียดสูงจึงเหมาะกับการถ่ายภาพแลนด์สเคป ภาพสถาปัตยกรรม ภาพพอร์ตเทรต และภาพแนวคอมเมอเชียลในสตูดิโอ

ส่วนกล้องที่มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงเกิน 8 ภาพ/วินาทีขึ้นไป ก็มักจะมีความละเอียดประมาณ 16-20 ล้านพิกเซล ใช้งานด้านถ่ายภาพกีฬาได้ดี แต่ความละเอียดจะน้อยไปสำหรับภาพแลนด์สเคป ภาพแฟชั่น ภาพคอมเมอเชียลช่างภาพมืออาชีพและระดับจริงจัง ส่วนใหญ่ได้แต่หวังว่า จะมีกล้องที่ตอบสนองการทำงานได้ทุกรูปแบบในตัวเดียว ทว่าสิ่งนั้นยังไม่เคยเกิดขึ้น โซนี่จึงพัฒนากล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ เพื่อให้เป็นกล้องที่สามารถทำงานได้ทุกรูปแบบการถ่ายภาพ โดยมีความละเอียดและไดนามิคเรนจ์กว้างอย่างที่ช่างภาพแลนด์สเคป ช่างภาพสถาปัตยกรรมและช่างภาพแฟชั่นต้องการ และยังมีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงอย่างที่ช่างภาพกีฬาและช่างภาพ Wildlife ต้องการ นี่คือที่มาของกล้องมิลเลอร์เลสรุ่นใหม่ A7R III กล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกการสร้างสรรค์ภาพในระดับมืออาชีพ

คุณภาพอันยอดเยี่ยม A7R III ออกแบบให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างเยี่ยมยอด ด้วยการใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Exmor R CMOS ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซลที่ใช้เทคโนโลยี Back illuminated เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับแสงของโฟโต้ไดโอดในแต่ละพิกเซลให้สูงขึ้น และถอดฟิลเตอร์ Low Pass ออกเพื่อให้ได้รายละเอียด กำลังแยกขยายสูงสุด การรับแสงที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้ภาพที่ได้มีสัญญาณรบกวนตํ่าและมีไดนามิคเรนจ์กว้าง จึงยืดหยุ่นต่อการถ่ายภาพในหลากหลายรูปแบบได้ดีกว่า นอกจากนั้นใน A7R III ยังมีการออกแบบ Front-end LSI ใหม่ และมีการพัฒนาชิปประมวลผลภาพ BIONZ X ใหม่ เพื่อให้กล้องทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขยายไดนามิคเรนจ์ออกไปถึง 15 สตอป เก็บรายละเอียดทั้งส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีขึ้น ลดสัญญาณรบกวนให้ตํ่าลงกว่าเดิม โดยการใช้เทคโนโลยี Detail Reproduction และ เทคโนโลยีการลดสัญญาณรบกวนเฉพาะพื้นที่ สามารถลดสัญญาณรบกวนให้น้อยลงกว่าเดิมได้ถึง 1 สตอป ทำให้ A7R III ยังคงสามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างเยี่ยมยอดแม้ใช้ความไวแสงสูง โดยความไวแสงสามารถปรับตั้งได้ตั้งแต่ ISO 100-32000 และขยายความไวแสงได้ถึง ISO 102400

A7R III ยังออกแบบด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยข้อมูลที่ออกมาจากเซ็นเซอร์รับภาพจะถูกนำส่งไปยังภาคแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอลในระดับ 16 บิต โดย Front-end LSI และชิปประมวลผลภาพ BIONZ X จากนั้นจะแปลงสัญญาณเป็นไฟล์ RAW แบบไม่มีการบีบอัดข้อมูลระดับ 14 บิต ผลที่ได้คือการไล่ระดับสีที่ละเอียด นุ่มนวล ลดหลั่นเป็นธรรมชาติ ให้ภาพที่มีคุณภาพสูงยิ่งกว่า และการประมวลผลอันลํ้าหน้านี้ทำให้สามารถได้ไฟล์ RAW 14 บิต แม้จะบันทึกด้วยโหมด silent แบบต่อเนื่อง (จะจำกัดการบันทึกเป็น 12 บิต ต่อเมื่อปรับตั้งไฟล์ RAW แบบบีบอัดข้อมูล เมื่อใช้ชัตเตอร์ B หรือเมื่อเปิดระบบลดสัญญาณรบกวน Long Exposure NR)

FE 24-70mm F2.8 GM (SEL2470GM), 1/640sec., F8, ISO 200

มองภาพได้คมชัดสบายตายิ่งกว่า A7R III พัฒนาช่องมองภาพ EVF ใหม่ Quad-VGA OLED Tru-Finder ที่มีความละเอียดสูงถึง 3.69 ล้านจุด เพื่อให้ภาพในช่องมองคมชัด รายละเอียดเยี่ยมยอด สมจริงราวกับใช้ช่องมองออพติคัล โดยพัฒนาการแสดงสีที่เที่ยงตรงยิ่งขึ้น ให้สีดำที่ดําสนิท จึงถ่ายทอดสีสันได้สดใส ตรวจสอบความคมชัดของภาพได้อย่างชัดเจนเมื่อขยายภาพเพื่อเช็คการโฟกัส ทำให้การทำงานของช่างภาพสะดวก คล่องตัวและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนั้นช่องมองภาพของ A7R III ยังมีโหมด High Quality ใหม่ ผู้ใช้สามารถปรับการเลือกแสดงภาพในช่องมองได้ทั้งแบบ Standard และ High โดยเมื่อใช้ที่ High การแสดงภาพจะดึงข้อมูลภาพมาเต็ม 42.4 ล้านพิกเซล แล้วแสดงภาพให้เห็นรายละเอียด การไล่เฉดสี และคอนทราสต์ที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นใหม่ โดยผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่โฟกัสและขยายพื้นที่นั้นขึ้นมาพร้อมๆ กับการทำงานของระบบออโตโฟกัส ทำให้สามารถตรวจสอบความแม่นยำของจุดที่ต้องการโฟกัสได้ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพมาโคร หรือภาพแนวคอมเมอเชียลต่างๆ และยังมีการปรับปรุงการทำงานของฟังก์ชั่นPeaking ให้มีความแม่นยำสูงกว่าเดิม โดยแสดงสีในส่วนที่อยู่ในระยะชัดได้เที่ยงตรงง่ายต่อการปรับโฟกัส

กล้องที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งานหนัก เพื่อให้รองรับการทำงานของมืออาชีพได้เป็นอย่างดีในทุกรูปแบบและทุกสถานการณ์ A7R III จึงออกแบบให้กล้องมีนํ้าหนักเบาแต่แข็งแกร่งด้วยการใช้โครงสร้างหลักทั้งแผงหน้า แผงหลัง ฝาครอบด้านบนโครงสร้างหลักภายในที่ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย นอกจากนั้นยังเพิ่มความแข็งแกร่งของแปลนเมาท์เลนส์เพื่อรองรับการใช้เลนส์ขนาดใหญ่ที่มีนํ้าหนักมาก กริปมีการออกแบบใหม่ให้รองรับกับโครงสร้างที่เป็นแมกนีเซียมอัลลอย เพื่อให้จับถือได้มั่นคงและดูแน่นหนายิ่งขึ้น ชัตเตอร์ของกล้องพัฒนาใหม่หมด โดยใช้มอเตอร์แบบไร้แกนที่มีการตอบสนองรวดเร็ว ออกแบบระบบเบรกให้สามารถรองรับแรงกระแทกของใบม่าน เพื่อลดความสั่นไหวได้ดีขึ้นและยังมีความทนทานเยี่ยมยอด สามารถใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง และเพื่อให้ช่างภาพทำงานได้ในทุกสภาพอากาศจึงมีการซีลป้องกันฝุ่นและความชื้น

FE 100-400mm F4.5-5.6 GM OSS (SEL100400GM), 1/4000 sec., F5.6, ISO 400

เร็วพอสำหรับทุกรูปแบบภาพเคลื่อนไหว นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่ช่างภาพมืออาชีพส่วนใหญ่ต้องการ ซึ่งสิ่งนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับกล้องความละเอียดสูงที่มักจะมีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องไม่เกิน 5-6 ภาพ/วินาที ทำให้มีข้อจำกัดในการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่น ภาพ Wildlife A7R III พัฒนาระบบประมวลผลภาพใหม่ พัฒนาชุดชัตเตอร์ใหม่ ให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 10 ภาพ/วินาที ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับกล้องที่มีความละเอียดสูงเกิน 36 ล้านพิกเซล และที่สำคัญความเร็ว 10 ภาพ/วินาที นั้นมาพร้อมการปรับโฟกัสต่อเนื่องติดตามตามวัตถุและการวัดแสงต่อเนื่อง ทำให้กล้องรุ่นนี้สามารถใช้ถ่ายภาพแอคชั่นได้ทุกรูปแบบ ทั้งภาพกีฬา สัตว์ป่า รวมถึงภาพแฟชั่น ภาพเวดดิ้ง ที่ต้องการเก็บทุกอิริยาบทของการเคลื่อนไหว ความเร็ว 10 ภาพ/วินาที มาจากชัตเตอร์แบบแมคคานิค ทำให้สามารถใช้ร่วมกับแฟลชสตูดิโอหรือแฟลชติดตัวกล้อง บันทึกด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องได้ ซึ่งจะรองรับการทำงานของช่างภาพแฟชั่นและช่างภาพคอมเมอเชียลได้อย่างดีเลิศ และที่สำคัญคือยังสามารถบันทึกด้วยไฟล์ RAW 14 บิตได้ และยังสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 8 ภาพ/วินาที ในโหมด Live View โดยมีความล่าช้าในการแสดงภาพน้อยมาก นอกจากนั้นยังพัฒนาการถ่ายภาพต่อเนื่องในโหมด Silent ที่ไม่มีความสั่นสะเทือนและเงียบสนิท ให้สามารถบันทึกต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 10ภาพ/วินาที พร้อมระบบโฟกัสต่อเนื่อง วัดแสงต่อเนื่อง โหมดนี้จะช่วยให้ช่างภาพ Wildlife ทำงานได้โดยไม่ทำให้สัตว์ตื่นตกใจ

ความเร็ว 10 ภาพ/วินาที จากชัตเตอร์แบบแมคคานิค ทำให้สามารถใช้ร่วมกับแฟลชสตูดิโอบันทึกด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องได้ จึงเหมาะกับงานแฟชันหรือการสร้างสรรค์ภาพแอคชันด้วยแฟลช ภาพชุดนี้บันทึกด้วยแฟลช Profoto Pro-10

ระบบออโตโฟกัสชั้นยอดสำหรับทุกรูปแบบการถ่ายภาพ A7R III ใช้ระบบโฟกัส 4D Focus ที่ออกแบบให้การโฟกัสทำได้รวดเร็วและแม่นยำ โดยผสานการทำงานระหว่างระบบโฟกัสเฟสดีเทคชั่น (Phase Detection) ที่มีจำนวนจุดโฟกัส 399 จุด ครอบคลุมพื้นที่ภาพ 68% ร่วมกับระบบโฟกัสแบบตรวจจับคอนทราสต์ที่มีจุดโฟกัส 425 จุด ด้วยระบบ Fast Hybrid AF ทำให้การโฟกัสมีความเร็วสูง ความแม่นยำสูง และด้วยการพัฒนาอัลกอริธึมของระบบโฟกัสใหม่ จาก 9 ทำให้ A7R III มีความเร็วในการโฟกัสติดตามวัตถุ ก็ปรับปรุงให้มีความเร็วสูงกว่าเดิม 2 เท่า ทำให้รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวรวดเร็วได้ทุกรูปแบบ และระบบเฟสดีเทคชั่น (Phase Detection) ยังรองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ A-mount ผ่านอแดปเตอร์ LA-EA3 จึงครอบคลุมพื้นที่กว้าง การตอบสนองที่รวดเร็ว และยังรองรับระบบ Eye AF กับเลนส์ A- mount ระบบออโตโฟกัสรองรับการใช้งานในสภาพแสงน้อยได้ถึง –3EV ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแสงน้อยมากได้ โดยกล้องยังโฟกัสได้แม่นยำ

ควบคุมง่าย ใช้งานคล่องตัวกว่าเดิม A7R III ออกแบบการควบคุมกล้องใหม่หลายจุดเพื่อให้ช่างภาพใช้งานได้คล่องตัวกว่ารุ่นเดิม

ปุ่ม AF-ON ออกแบบเพื่อให้ช่างภาพสามารถเปิดการทำงานของระบบออโตโฟกัสได้เมื่อถ่ายภาพวัตถุที่อยู่นิ่งๆ และวัตถุที่เคลื่อนไหว ทำให้สามารถลั่นชัตเตอร์ต่อเนื่องได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องพะวงกับการแตะปุ่มลั่นชัตเตอร์ค้างไว้ครึ่งหนึ่ง

Muti-selector
หรือที่เราเรียกว่าจอยสติ๊ก เป็นสิ่งที่ช่างภาพต้องการมากที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะช่วยให้การย้ายจุดโฟกัสทำได้สะดวกรวดเร็วและแม่นยำกว่าการย้ายจุดโฟกัสด้วย Touch AF เมื่อต้องการขยับตำแหน่งจุดโฟกัสเพียงเล็กน้อย และยังใช้งานได้อย่างคล่องตัวเมื่อมองภาพจากช่องมอง EVF

Touch Focus
A7R III เปลี่ยนมาใช้จอ LCD แบบทัชสกรีนความละเอียด 1.44 ล้านจุด ให้ภาพที่สว่าง คมชัด และสีสันเจิดจ้า มุมมองกว้างและรองรับระบบ Touch AF ช่างภาพสามารถย้ายจุดโฟกัสได้ด้วยการแตะหน้าจอ ทำให้การจัดองค์ประกอบภาพทำได้รวดเร็ว ตัดปัญหาเรื่องการชิฟท์โฟกัสจากการล็อกโฟกัสแล้วขยับกล้อง และสามารถขยายจุดโฟกัสด้วยการแตะหน้าจอสองครั้งทำให้สะดวกเมื่อปรับโฟกัสแบบแมนนวล

Touchpad
เมื่อมองภาพจากจอ EVF ช่างภาพสามารถย้ายจุดโฟกัสได้ด้วยการลากนิ้วบนหน้าจอ LCD ไปยังตำแหน่งที่ต้องการโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมอง สามารถเลือกพื้นที่การลากนิ้วได้ 9 รูปแบบตามความต้องการเลือกพื้นที่การโฟกัสสำหรับแนวนอนและแนวตั้ง ช่างภาพสามารถเลือกตำแหน่งของจุดโฟกัสเมื่อถือกล้องแนวนอนและแนวตั้งได้ ว่าจะให้จุดโฟกัสอยู่ที่เดิมหรือย้ายไปจุดใหม่เพื่อให้กล้องยังโฟกัสอยู่ที่ซับเจกต์ โดยไม่ต้องย้ายจุดโฟกัสตามซับเจกต์ปรับเลือกการตอบสนองของระบบ Tracking ได้ ผู้ใช้สามารถปรับการตอบสนองของระบบโฟกัส เมื่อซับเจกต์อยู่นอกพื้นที่โฟกัส โดยปรับเลือกได้ 5 ระดับ ว่าจะให้โฟกัสแทรคเข้าหาวัตถุใหม่เร็วหรือช้า (เพื่อให้ยังล็อกโฟกัสอยู่ที่ซับเจกต์เดิมได้นาน) จากนั้นผู้ใช้ยังสามารถปรับตั้งให้กล้องจดจำจุดโฟกัสที่ใช้บ่อยๆได้ และเรียกใช้ได้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม CUSTOM ที่เลือกไว้

รองรับการถ่ายต่อเนื่องได้ดีกว่า
A7RIII ใช้บัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การถ่ายภาพต่อเนื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถถ่ายต่อเนื่องกับไฟล์ JPEG หรือ ไฟล์ RAW แบบบีบอัดข้อมูลได้ 76 ภาพ และกับไฟล์ RAW แบบไม่บีบอัดข้อมูลได้ 28 ภาพ ทำให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้โดยไม่สะดุดจากบัฟเฟอร์เต็ม และยังปรับปรุงการเขียนข้อมูลลงการ์ดได้เร็วขึ้น สามารถปรับเซ็ทเมนูระหว่างการเขียนข้อมูลลงการ์ดได้สามารถแสดงจำนวนภาพนิ่งที่เขียนข้อมูลลงการ์ดในระหว่างการดูภาพได้ นอกจากนั้นสามารถให้ Rating ภาพเพื่อการจัดหมวดหมู่ได้ สามารถป้องกันภาพจากการถูกลบโดยไม่ตั้งใจได้ ภาพที่บันทึกเป็นชุดสามารถจัดรวมเป็นกรุ๊ปเพื่อสะดวกต่อการดูภาพได้ A7R III มีช่องใส่การ์ด SD 2 ช่อง รองรับการบันทึกได้หลายรูปแบบ

แบตเตอรี่เปลี่ยนมาใช้รุ่น NP-FZ 100 เช่นเดียวกับ 9 มีความจุมากกว่าเดิม 2.2 เท่า ทำให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานกว่า ไม่ต้องพะวงกับการต้องถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ บ่อยๆ และเมื่อใช้กับกริปแนวตั้งรุ่น VG-C3EM จะใส่แบตเตอรี่ได้ 2 ก้อน รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้มากยิ่งขึ้น และ A7R III สามารถชาร์จผ่าน USB ได้ด้วยเพาเวอร์แบงค์ จึงใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า

ระบบลดการสั่นไหวประสิทธิภาพสูงถึง 5.5 สตอป A7RIII พัฒนาประสิทธิภาพของระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องแบบ 5 แกนใหม่ สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 5.5 สตอป รองรับการทำงานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ และสามารถแสดงผลในช่องมองภาพได้ ทำให้การมองภาพ จัดองค์ประกอบภาพ ทำได้สะดวก โดยสามารถใช้ร่วมกับเลนส์ A-mount รวมทั้งเลนส์แมนนวลโฟกัส (ผ่านอแดปเตอร์แปลงเมาท์)

ระบบ Eye AF พัฒนาให้ทำงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น แม้ตัวแบบจะหันหน้าออกจากกล้องชั่วขณะ กล้องก็ยังล็อกที่ตัวแบบได้แม่นยำ FE 70-200mm F2.8 GM OSS (SEL70200GM), 1/1000 sec., F5.6, ISO 800

EYE AF ใหม่ สำหรับการถ่ายภาพบุคคล A7R III ได้พัฒนาฟังก์ชัน EYE AF ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมเท่าตัว สามารถโฟกัสติดตามซับเจกต์โดยโฟกัสที่ตาของตัวแบบได้อย่างแม่นยำ แม้ตัวแบบจะหันหน้าออกจากกล้องชั่วขณะ และยังสามารถใช้ระบบนี้ร่วมกับเลนส์ A-mount ได้อีกด้วย

รองรับการทำงานในสตูดิโอเต็มรูปแบบ A7RIII ออกแบบให้สามารถทำงานในสตูดิโอได้อย่างคล่องตัว ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปหลายอย่าง เช่น ใช้พอร์ต USB Type C เพื่อการถ่ายภาพโอนไฟล์ขนาดใหญ่จากกล้องไปคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็ว สามารถแสดงภาพบนจอคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็ว และภาพสามารถบันทึกลงในตัวกล้องพร้อมๆ กับบันทึกในคอมพิวเตอร์ จึงแสดงภาพได้อิสระโดยไม่ต้องพะวงกับการเชื่อมต่อ และเมื่อบันทึกแบบ RAW+JPEG จะสามารถถ่ายโอนไฟล์เฉพาะ JPEG ไปยังคอมพิวเตอร์ได้เพื่อลดขนาดข้อมูล จึงแสดงภาพได้ทันที นอกจากนั้นยังรองรับซอฟท์แวร์ปรับแต่งภาพที่มีประสิทธิภาพสูงในการแปลงไฟล์ RAW และสามารถควบคุมการทำงานเลือกจุดโฟกัสจากคอมพิวเตอร์ได้ สามารถสั่งบันทึกในโหมด Pixel Shift Multi Shooting โดยสามารถรวมภาพและแสดงภาพได้ทันที และยังรองรับซอฟท์แวร์ Capture One Express (for Sony) ที่เป็นซอฟท์แวร์แปลงไฟล์ RAW คุณภาพสูง

 

ในการบันทึกด้วยโหมด Pixel Shift Multi Shooting จะบันทึกต่อเนื่อง 4 ภาพ เซ็นเซอร์ภาพจะขยับครั้งละ 1 พิกเซล เพื่อให้แสงสีแดง เขียวและนํ้าเงินตกกระทบกับโฟโต้ไดโอดในแต่ละพิกเซลครบทุกสี แต่ละพิกเซลจึงมีข้อมูลภาพครบทุกสีโดยไม่ต้องจำลองจากพิกเซลข้างเคียง ทำให้ภาพมีรายละเอียดสูงมาก มีสัญญาณรบกวนตํ่าและมีไดนามิคเรนจ์กว้าง

Pixel Shift Multi Shooting เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง โดยระบบนี้จะบันทึกภาพทั้งหมด 4 ภาพ แต่ละภาพจะขยับชุดเซ็นเซอร์รับภาพ 1 พิกเซล เพื่อให้พิกเซลสีแดง เขียวและนํ้าเงิน ย้ายตำแหน่ง เมื่อนำภาพทั้ง 4 มารวมกันในซอฟท์แวร์ แต่ละพิกเซลจึงได้รับแสงครบทุกสี โดยไม่ต้องอาศัยการจำลองสีข้างเคียง ผลที่ได้คือภาพจะมีรายละเอียดสูง คมชัดยิ่งขึ้น การไล่โทนสีละเอียด มีไดนามิคเรนจ์กว้างขึ้น และมีสัญญาณรบกวนตํ่าลง โดยการบันทึกจะทำในรูปแบบไฟล์ RAW ให้ความละเอียดโดยรวมจาก 4 ภาพที่ 169.6 ล้านพิกเซลระบบนี้จะช่วยทำให้ภาพมีความคมชัดสูง รายละเอียดสูงขึ้นอย่างชัดเจน จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม แลนด์สเคป และภาพ Still Life ที่ซับเจกต์ไม่เคลื่อนไหว โดยกล้องจะต้องอยู่บนขาตั้งกล้องเท่านั้น

FE 12-24mm F4 G (SEL1224G), 2 sec., F8, ISO 100, Pixel Shift Multi Shooting mode, รวมภาพด้วยซอฟท์แวร์

ระบบวิดีโอคุณภาพเยี่ยมยอด A7RIII ออกแบบให้เป็นกล้องที่ใช้งานด้านวิดีโอในระดับมืออาชีพ ให้คุณภาพระดับ 4K โดยมีรายละเอียดสูงและไดนามิคเรนจ์กว้าง ด้วยการใช้เทคโนโลยีการบันทึกในฟอร์แมต Super 35 ที่ความละเอียด 5K (15 ล้านพิกเซล) โดยใช้ทุกพิกเซลในการบันทึก จึงได้รายละเอียดที่สูงมากและมีไดนามิคเรนจ์กว้าง จากนั้นจึงใช้การประมวลผลที่ลํ้าหน้าลดความละเอียดลงมาเป็น 4K (8 ล้านพิกเซล) ผลที่ได้คือความคมชัดที่สูงมาก ภาพมีสัญญาณรบกวนตํ่า การผิดเพี้ยนของสีตํ่า Moire น้อย ไดนามิคเรนจ์กว้าง การไล่เฉดสีละเอียด นํ้าหนักสีลดหลั่นนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ

A7R III มาพร้อม S-Log ที่ขยายไดนามิคเรนจ์ได้กว้าง ดึงรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างในขั้นตอนการทำ Grading ได้ดีเยี่ยม และยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ HLG (Hybrid Log Gamma) ซึ่งเป็นโพรไฟล์สร้างโทนสีแบบ HDR สำเร็จรูป โดยไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการทำ Color Grading แต่อย่างใด เป็นไฟล์ 4K HDR ที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยภาพจะมีรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างมากกว่าการบันทึกปกติและ A7R III มาพร้อม S-Log3 ที่มีไดนามิคเรนจ์กว้างถึง 14 สตอป ให้การไล่โทนสีจากส่วนมืดมายังค่าสีเทากลางที่ยอดเยี่ยมภายหลังการทำเกรดดิ้ง

และ A7R III ยังพัฒนาระบบโฟกัสแบบ Fast Hybrid AF สำหรับการบันทึกวิดีโอให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการโฟกัสติดตามวัตถุที่มีพื้นที่กว้างขึ้น ล็อกที่ซับเจกต์ได้แม่นยำขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบ Slow and Quick Motion สามารถปรับเฟรมเรทในการบันทึกวิดีโอได้ตั้งแต่ 1-120 fps สร้างภาพเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่เร่งสปีดเร็วกว่าปกติ 60 เท่า ไปจนถึงการเล่นภาพช้า (Slow Motion) ถึง 5 เท่า โดยจะบันทึกด้วยคุณภาพระดับ Full HD

และ A7R III ยังสามารถดึงภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ 4K ได้ รวมทั้งภาพนิ่งความละเอียด 2 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ Full HD โดยภาพยังมีคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงฟังก์ชัน Zebra ให้แสดงค่าความสว่างที่ไม่สามารถบันทึกได้ให้มีความแม่นยำสูงขึ้น และยังสามารถบันทึกวิดีโอ 4K ไปพร้อมๆ กับไฟล์วิดีโอความละเอียดตํ่าได้ (Proxy Recording) เพื่อใช้ไฟล์ความละเอียดตํ่าในการพรีวิวภาพหรือการตัดต่อเบื้องต้น ช่วยลดเวลาจากการใช้ไฟล์ 4K ขนาดใหญ่ในการทำงาน.

Planar T* FE 50mm F1.4 ZA (SEL50F14Z), 1/250 sec., F1.4, ISO 100

ใช้งานคล่องตัว ยืดหยุ่น A7R III สามารถตั้งปุ่มปรับและเมนูเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น โดยออกแบบอินเทอร์เฟสของเมนูใหม่ให้ใช้งานสะดวกขึ้น มี My Menu ให้ผู้ใช้เซ็ทระบบที่ตนเองใช้งานได้ด้วยตัวเองถึง 30 อย่าง เป็นการปรับตามการใช้งานส่วนตัว

Fn Menu ก็ปรับปรุงให้ใช้งานเร็วขึ้น ปรับตั้งได้เร็วขึ้น ปุ่มต่างๆ รวมทั้งวงแหวนควบคุมด้านหลังตัวกล้องสามารถปรับตั้งให้ทำงานในระบบที่ผู้ใช้แต่ละคนต้องการได้ แป้นควบคุมด้านหน้า ด้านหลัง รวมทั้งปุ่มลั่นชัตเตอร์ก็สามารถปรับตั้งการทำงานในหน้าที่ใหม่ได้

นอกจากนั้น A7R III ยังพัฒนาระบบวัดแสงใหม่แบบ 1200 ส่วน บน Live View ซึ่งให้ความแม่นยำสูง และมีโหมดวัดแสง Highlight เพื่อป้องกันการสูญเสียรายละเอียดในส่วนสว่าง มีการปรับปรุงระบบวัดแสงเฉพาะจุดให้ทำงานสัมพันธ์กับจุดโฟกัสเพื่อความแม่นยำ มีระบบ Anti-flicker ป้องกันภาพอันเดอร์จากการบันทึกในช่วงที่แสงจากหลอดฟลูเรสเซนต์กระพริบ ค่าแสงของ A7R III สามารถปรับได้ละเอียดถึง 1/6 สตอป โหมดไวท์บาลานซ์อัตโนมัติสามารถปรับโทนสีที่ต้องการได้ทั้ง Standard , White และ Warm

A7R III สามารถลิงค์ข้อมูลสถานที่ ตำแหน่งบันทึกภาพผ่านบลูทูธ มีฟังก์ชัน Wi-Fi , NFC และ QR Code สามารถถ่ายโอนไฟล์ FTP ผ่าน Wi-Fi ได้ สามารถตั้งชื่อโฟลเดอร์ ตั้งลิขสิทธิ์ภาพได้

A7R III คือกล้องที่เพียบพร้อม สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกภาพทุกรูปแบบโดยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องหลายตัวสำหรับงานแต่ละรูปแบบ ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซลและไดนามิคเรนจ์ที่กว้างถึง 15 สตอป รองรับการถ่ายภาพแลนด์สเคป ภาพสถาปัตยกรรม ภาพแนวคอมเมอเชียล ภาพแฟชัน ได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ความเร็ว 10 ภาพต่อวินาทีกับระบบโฟกัสประสิทธิภาพสูงก็รองรับการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชัน ภาพ Wildlife ได้อย่างดีเลิศ ส่วนไฟล์วิดีโอ 4K พร้อม S-Log3 และ HLG คุณภาพสูงก็รองรับการทำงานวิดีโอระดับอาชีพได้ 7R III จึงเป็นกล้องที่พร้อมสำหรับการทำงานของมืออาชีพและระดับจริงจังในทุกรูปแบบอย่างแท้จริง

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.sony.co.th

ติดตามอ่านรีวิว Sony A7R III ฉบับเต็มได้ใน FOTOINFO Plus ฉบับเดือนมกราคม 2561


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^

(SCAN QR CODE ด้านล่างเพื่อเพิ่มเพื่อนใน Line อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ)


หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews