เลนส์ซูมมุมกว้างเกรดโปรรุ่นใหม่ ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสุด F2.8 ทุกช่วงซูม พัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มเติมจากรุ่นเดิม 16-35 mm. II เป็นเลนส์เกรดโปร L Series ออกแบบสำหรับกล้องดิจิตอลฟูลเฟรม แต่ก็สามารถใช้งานกับกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
จุดเด่นของ Canon EF 16-35mm F2.8L III USM
- เลนส์ EF เกรดโปร ตระกูล L
- ออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งกล้องฟูลเฟรม และกล้อง APS-C
- รูรับแสงกว้างสุด F2.8 ทุกช่วงซูม
- มีชิ้นเลนส์พิเศษช่วยปรับแก้ความบิดเบี้ยว
- เคลือบผิวเลนส์แบบ Subwavelength และ Air-Sphere Coatings
- มอเตอร์โฟกัส Ultra Sonic Motor
- ระบบโฟกัสแบบ Inner Focusing
- กระบอกเลนส์ออกแบบป้องกันนํ้าและฝุ่นละออง
ประสิทธิภาพและการออกแบบ
Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM เป็นเลนส์ตระกูล EF ที่ออกแบบให้ใช้งานกับกล้องดิจิตอลที่ใช้เซ็นเซอร์ฟูลเฟรมในกลุ่ม 1Dx และ 5D มีมุมรับภาพประมาณ 108° 10’ – 63° รวมทั้งสามารถใช้งานกับกล้องดิจิตอลที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ด้วย โดยจะได้ทางยาวโฟกัสเทียบเท่าระยะ 25.6-56 มม. โครงสร้างตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น จัดเป็น 11 กลุ่ม โดยมีชิ้นเลนส์พิเศษ Aspherical 3 ชิ้น ซึ่งแบ่งออกเป็นชิ้นเลนส์ GMO Aspherical ขนาดใหญ่ 2 ชิ้นที่ด้านหน้า กับชิ้นเลนส์ Aspherical ปกติที่ด้านหลังอีกหนึ่งชิ้นช่วยลดอาการ Distortion ทำให้ได้ภาพที่คมชัดตลอดช่วงซูมและทั่วทั้งเฟรมภาพ ถึงแม้ว่าจะถ่ายภาพที่ขนาดรูรับแสงกว้างสุดก็ตาม นอกจากนี้ยังมีชิ้นเลนส์ UD (Ultra Low Dispersion) 2 ชิ้น ซึ่งช่วยให้ได้ภาพคุณภาพสูง ให้คอนทราสต์ของภาพดีเยี่ยม และช่วยลดอาการสีเหลื่อมที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
ชิ้นเลนส์ได้รับการเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยี Subwavelength Coating (SWC) และ Air-Sphere Coatings (ASC) ช่วยลดแสงแฟลร์ และอาการภาพหลอนในกระบอกเลนส์ ช่วยให้ได้ภาพที่มีสีสันอิ่มตัวอีกด้วย นอกจากนี้ ชิ้นเลนส์ด้านหน้าและด้านหลังยังได้รับการเคลือบผิว ด้วย Fluorine ช่วยลดการเกิดรอยเปื้อน และรอยนิ้วมือที่อาจจะไปโดนโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย
Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ใช้มอเตอร์โฟกัสแบบ Ultra Sonic Motor ซึ่งมีการตอบสนองการโฟกัสได้รวดเร็วและเงียบเชียบ เหมาะสำหรับทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และการบันทึกวิดีโอ รวมทั้งยังเป็นระบบโฟกัสที่สามารถปรับหมุนโฟกัสเองแบบแมนนวล เมื่อต้องการ เปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่ได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าสวิทช์ระบบโฟกัสจะอยู่ที่ตำแหน่งออโต้อีกด้วย ซึ่งวงแหวนโฟกัส และวงแหวนซูมเลนส์ออกแบบได้ค่อนข้างใหญ่ หุ้มด้วยยางและเซาะร่องให้จับได้ถนัดมือดีทีเดียว
ตัวบอดี้ของเลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ออกแบบได้แข็งแรงบึกบึน ตามสไตล์เลนส์เกรดโปร ตัวกระบอกเลนส์ดูอวบอ้วนกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ก็ยังจับถือและปรับใช้งานได้อย่างสะดวก ตามรอยต่อต่างๆ ของตัวเลนส์ ได้รับการซีลป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า เมื่อต้องใช้งานในสภาพอากาศที่เลวร้าย ช่วยให้รองรับการใช้งานหนักๆ แบบมืออาชีพได้เป็นอย่างดีอีกด้วยตัวเลนส์ใช้ระบบโฟกัสแบบ Inner focusing ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ของชื้นเลนส์ด้านในกระบอกเลนส์ ทำให้ด้านหน้าเลนส์ไม่หมุนตาม แต่ต่างจากรูปแบบ Inner focusing ของเลนส์ EF รุ่นอื่น โดยชุดเลนส์ชิ้นหน้าจะมีการขยับตามระยะโฟกัสเข้าๆ ออกๆ แต่ไม่ยื่นออกมาพ้นระยะด้านหน้าของกระบอกเลนส์ออกมา ซึ่งเมื่อใส่ฟิลเตอร์ปิดหน้าเลนส์จะทำให้ไม่รู้สึกว่าชิ้นเลนส์มีการขยับ และเมื่อใส่ฟิลเตอร์ปิดหน้าเลนส์ไว้จะเป็นการช่วยป้องกันฝุ่น และละอองน้ำที่อาจจะเข้าไปในส่วนของเลนส์จากด้านหน้าได้ด้วย
Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ใช้ไดอะแฟรม 9 กลีบ ให้โบเก้ที่กลมมน และสวยงามตามธรรมชาติ ส่วนฟิลเตอร์นั้นยังคงใช้ ขนาด 82 มม. เช่นเดียวกับรุ่นเดิม และโดยที่ออกแบบให้ด้านหน้าเลนส์ไม่หมุนตามในขณะที่ปรับซูมและปรับโฟกัส จึงทำให้สามารถใช้ฟิลเตอร์ ผลพิเศษอย่าง C-PL หรือ ND แบบปรับเปลี่ยนค่าความเข้มได้เป็นปกติอีกด้วย
การใช้งาน
Canon EOS 5D mark IV เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM โหมด M ชัตเตอร์ 1/200 วินาที f/8, ISO200, WB: Auto ซูมเลนส์ 16 มม. (เปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพ HDR)
ในครั้งนี้ ผมได้รับเลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM มาพร้อมๆ กับบอดี้กล้อง Canon EOS 5D mark IV ซึ่งเป็นกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดด้วยเช่นกัน และเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม จึงให้มุมมองที่เต็มประสิทธิภาพของเลนส์ และเมื่อจับมาเข้าชุดกันก็ดู สวยงามลงตัวมากทีเดียวครับ ตัวเลนส์เองก็ถือว่าออกแบบได้สวยงามลงตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน
Canon EOS 5D mark IV เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM โหมด M ชัตเตอร์ 1/80 วินาที f/11, ISO200, WB: Auto ซูมเลนส์ 16 มม. (เปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพ HDR)
คุณภาพไฟล์ภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้ ถือว่าดีเยี่ยมทีเดียวครับ สมกับที่เป็นเลนส์เกรดโปร L-Series ความคมชัด ความอิ่มตัวของสีสัน รวมทั้งคอนทราสต์ที่ได้จากการใช้งานในระยะเวลาสั้นๆ ก็ถือได้ว่าสร้างความประทับใจให้กับอยู่พอสมควรทีเดียว ไฟล์ภาพที่ได้ออกแนวนุ่มนวลตามสไตล์แคนนอน ซึ่งผมมองว่าน่าจะถูกใจผู้ใช้หลายๆ คน มุมมองของเลนส์กว้างประมาณ 108 องศา ที่ช่วง 16 มม. ทำให้เก็บบรรยากาศได้แทบจะทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่คับแคบก็ตาม นอกจากนี้ผมยังสร้างสรรค์ภาพที่สนุกสนาน แปลกตาได้จากเพอร์สเปคทีฟของเลนส์ได้อีกด้วย ซึ่งผมใช้อยู่บ่อยๆ กับการเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ เพราะเลนส์สามารถโฟกัสระยะใกล้สุดได้ถึง 28 เซ็นติเมตรเลยทีเดียว
ช่วงมุมกว้าง 16 มม. ช่วยให้เก็บบรรยากาศได้ครบถ้วน โดยไม่ต้องถอยห่างมากนัก Canon EOS 5D mark IV เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM โหมด M ชัตเตอร์ 1/125 วินาที f/2.8, ISO400, WB: Daylight ซูมเลนส์ 16 มม.
สำหรับคุณภาพและความคมชัดนั้นดีเยี่ยมทีเดียว ผมลองถ่ายภาพที่ f/2.8 และลองซูมขยายดูตามมุม หรือเลื่อนดูตามขอบภาพ ความคมชัดยังคงดีเยี่ยมทีเดียว ส่วนที่รูรับแสงแคบๆ อย่าง f/16 หรือ f/22 ที่มักจะด้อยลงมามากพอสมควรสำหรับเลนส์ทั่วๆ ไป แต่สำหรับ เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ก็ยังคงมีความคมชัดที่ดีอยู่เช่นกัน
ปรับซูมเลนส์ที่ระยะ 16 มม. หย่อนกล้องลงไปใกล้ๆ ผิวน้ำ เปิดใช้จุดโฟกัสแบบอัตโนมัติทุกจุด องศาการรับภาพของเลนส์ช่วยให้ได้ภาพที่ พิเศษมากกว่าการตั้งกล้องถ่ายภาพตามปกติ Canon EOS 5D mark IV เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM โหมด M ชัตเตอร์ 1/250 วินาที f/8, ISO200, WB: Auto ซูมเลนส์ 16 มม.
อาการ CA หรือ Chromatic Aberration ไม่มีให้เห็น ถึงแม้ว่าจะถ่ายภาพแบบย้อนแสงอยู่หลายครั้งก็ตาม รวม ทั้งการฟุ้งและแฟลร์ ของแสง เมื่อถ่ายย้อนแสงแบบตรงๆ ก็แทบจะไม่มีให้เห็นครับ อาการ Distortion มีให้เห็นบ้างที่ช่วง 16 มม. ซึ่งเป็นไปก็ตามลักษณะของเลนส์มุมกว้างมากๆ นั่นล่ะครับ แต่พอซูมเลนส์เข้ามาที่ประมาณ 20 มม. อาการ Distortion หายไปพอสมควร ส่วนอาการ Vignette นั้นไม่มีให้เห็น สำหรับการใช้งานที่ผ่านมาครับ
ตัวเลนส์มีการตอบสนองการโฟกัสรวดเร็วฉับไวตามสไตล์เลนส์เกรดโปร หลายครั้งที่ผมลองยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพแบบเร็วๆ ระบบ โฟกัสก็ตอบสนองได้อย่างฉับไวเช่นกัน ไม่มีอาการวืดวาดให้หงุดหงิดหรือเสียโอกาส รวมถึงการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องชมประสิทธิภาพของระบบโฟกัสของกล้อง Canon EOS 5D mark IV ด้วยเช่นเดียวกันครับ
สรุป
Canon EOS 5D mark IV เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM โหมด M ชัตเตอร์ 1/100 วินาที f/5.6, ISO200, WB: Auto ซูมเลนส์ 16 มม.
ถึงแม้ว่าจะได้ทดลองใช้งานในระยะเวลาสั้นๆ แต่เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ก็สร้างความประทับใจให้กับผมอยู่มาก ทีเดียวครับ ภาพที่ถ่ายส่วนใหญ่ ก็เป็นภาพแนว Landscape ถึงแม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจมากนัก แต่ก็ถ่ายทอดความคมชัด สีสันและคอนทราสต์ ของภาพออกมาได้เป็นอย่างดี การตอบสนองการโฟกัสทำได้ดีเยี่ยม รวดเร็วฉับไว รองรับการใช้งานในระดับที่ซีเรียสแบบมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในสภาพแสงปกติ และในสภาพแสงน้อยๆ ซึ่งก็ถือว่าแคนนอนได้ปรับแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับการใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ สำหรับแฟนๆ แคนนอนที่กำลังมองหาเลนส์ซูมมุมกว้างที่ให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่ล่ะก็ เลนส์ Canon EF 16-35 มม. F2.8L III USM ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ
เรื่อง / ภาพ : พีร วงษ์ปัญญา
ขอขอบคุณ : บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จํากัดสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
ขอมูลเพิ่มเติมที่ : www.canon.co.th