Canon EOS 80D : SPARK TO MORE
เมื่อกลางปี 2013 แคนนอนได้เปิดตัวกล้อง DSLR รุ่น EOS 70D ที่มาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดของเซ็นเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF โดยใช้โฟโต้ไดโอด 2 ตัวบนแต่ละพิกเซล และติดตั้งระบบโฟกัสแบบเฟสดีเทคชั่นบนเซ็นเซอร์รับภาพ ทำให้กล้องรุ่นนี้สามารถปรับโฟกัสได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อบันทึกภาพด้วย Live View หรือเมื่อกดบันทึกวิดีโอ โดยสามารถใช้ระบบโฟกัสแบบต่อเนื่องได้เมื่อบันทึกวิดีโอ ลบข้อจำกัดของการใช้กล้อง DSLR ในการบันทึกวิดีโอได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในปีนี้แคนนอนได้พัฒนาและปรับปรุงกล้อง DSLR รุ่นใหม่ EOS 80D เพื่อให้เป็นกล้องที่ตอบสนองการใช้งานได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ทั้งการบันทึกภาพนิ่งและการบันทึกวิดีโอ โดยปรับปรุงใหม่หมดทั้งเซ็นเซอร์รับภาพ ระบบโฟกัส ระบบวัดแสง ชิปประมวลผล รวมทั้งการแชร์ภาพ ซึ่งจะทำให้ EOS 80D เป็นกล้องระดับ Advanced ที่มีประสิทธิภาพสูงในทุกๆ ด้าน รองรับการใช้งานของมืออาชีพ และระดับสมัครเล่นจริงจังได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จุดเด่นของ Canon EOS 80D
- 24.2 ล้านพิกเซล Dual Pixel CMOS AF
- 45 จุดโฟกัสแบบกากบาท (Cross-Type)
- ความเร็ว 7 ภาพ / วินาที
- ระบบวิดีโอคุณภาพสูง ใช้งานคล่องตัว
- Intelligent Viewfinder
- จอ LCD ปรับมุมได้ระบบทัชสกรีน
- Wi-Fi และ NFC ในตัว
- ชัตเตอร์ทนทานถึง 100,000 ครั้ง
- ถ่ายภาพกับแสงฟลูออเรสเซนต์ด้วยระบบ Anti–Flicker
24.2 ล้านพิกเซล Dual Pixel CMOS AF
เพื่อให้ EOS 80D มีประสิทธิภาพสูงทั้งการถ่ายทอดรายละเอียด การจัดการสัญญาณรบกวน แคนนอนจึงพัฒนาเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ DualPixel CMOS AF ขนาด APS-C ที่มีความละเอียดสูงถึง 24.2 ล้านพิกเซล โดยออกแบบให้แต่ละพิกเซลมีประสิทธิภาพในการรับแสงสูง ภาพจึงมีสัญญาณรบกวนตํ่า โดยสามารถตั้งความไวแสงได้สูงถึง ISO 16000 (ขยายได้ถึง ISO 25600) และในโหมดบันทึกวิดีโอจะมีความไวแสงสูงสุด ISO 12800 (ขยายได้ถึง ISO 16000, 25600)
EOS 80D ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Dual Pixel CMOS AF ให้ทำงานได้เร็วและนุ่มนวลในระหว่างการใช้ระบบออโต้โฟกัสบน Live View และบันทึก Movie โดยเพิ่มความเร็วในการโฟกัสและเพิ่มความนุ่มนวลในการแทรคกิ้ง และรองรับการทำงานกับเลนส์ EF และ EF-S ทุกรุ่น โดยยังสามารถโฟกัสติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำแม้ในสถานการณ์ที่ยากต่อการทำงาน โดยระบบเฟสดีเทคชั่นในแต่ละพิกเซลจะตรวจจับโฟกัสและสั่งทำงานได้อย่างแม่นยำ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 80% ของพื้นที่ภาพ
ในการบันทึกวิดีโอจะเห็นศักยภาพของ Dual Pixel CMOS AF ได้อย่างชัดเจนโดย EOS 80D สามารถปรับโฟกัสติดตามวัตถุได้ คุณสามารถเลือกจุดโฟกัสจากวัตถุหนึ่งไปอีกวัตถุหนึ่งได้ด้วยระบบ Touch AF บนหน้าจอ LCD ของกล้อง ระบบจะจับโฟกัสไปยังวัตถุใหม่อย่างนุ่มนวล นอกจากนั้นยังสามารถโฟกัสแบบต่อเนื่องด้วยการแตะหน้าจอแล้วลากนิ้วไปยังตำแหน่งที่ต้องการโฟกัส หรือลากนิ้วตามการเคลื่อนที่ของวัตถุได้ เป็นจุดเด่นของเซ็นเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF ที่จะช่วยให้ช่างภาพนิ่งและช่างภาพวิดีโอทำงานได้สะดวกขึ้น
45 จุดโฟกัสแบบกากบาท (Cross-Type)
EOS 80D ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบออโต้โฟกัสขึ้นจากเดิมอย่างมากเพื่อให้เป็นกล้องที่โฟกัสได้แม่นยำ รวดเร็วในระดับที่มืออาชีพต้องการโดยใช้จุดโฟกัสพื้นที่กว้าง 45 จุด และทุกจุดโฟกัสเป็นเซ็นเซอร์แบบกากบาท (Cross Type) ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะใช้งานในสภาพแสงน้อย วัตถุมีความเปรียบต่างตํ่า มีรายละเอียดน้อย ระบบโฟกัสก็ยังทำงานได้แม่นยำ โดยจุดโฟกัสกลางเป็นแบบ Dual Cross ที่ทำงานได้ดีเป็นพิเศษกับเลนส์ f/2.8 และ f/5.6 และสามารถใช้ร่วมกับเลนส์ที่มีความสว่างน้อย f/8 (หรือเลนส์ที่ใช้ร่วมกับ Extender) ได้ถึง 27 จุดโฟกัส ระบบโฟกัสสามารถทำงานในสภาพแสงน้อยได้ถึง EV-3 และสามารถเลือกพื้นที่โฟกัสได้ 4 รูปแบบคือ Single Point AF (เลือกจุดเดียวจาก 45 จุดโฟกัส) Zone AF (ปรับเลือกได้ 9 โซน) Large Zone (ปรับเลือกโซนใหญ่ 19 จุดโฟกัสได้ 3 โซน) และ 45 Point AF Auto Selection (กล้องปรับเลือกจุดโฟกัสให้อัตโนมัติ) นอกจากนั้น EOS 80D ยังปรับปรุงระบบโฟกัสแบบตรวจจับสีของวัตถุ ด้วยการใช้ระบบเซ็นเซอร์ RGB+IR 7560-pixel ในการตรวจจับวัตถุในโหมด AI SERVO AF ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเร็ว 7 ภาพ / วินาที
EOS 80D ออกแบบให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพแอคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงถึง 7 ภาพ / วินาที พร้อมระบบโฟกัสต่อเนื่อง ให้ช่างภาพจับทุกแอคชั่นที่สวยงามได้อย่างไม่พลาด
ระบบวิดีโอคุณภาพสูง ใช้งานคล่องตัว
EOS 80D เป็นกล้อง DSLR ที่ใช้บันทึกวิดีโอได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งประสิทธิภาพและการใช้งาน โดยให้คุณภาพระดับ Full HD 60p โดยสามารถเลือกบันทึกได้ทั้งรูปแบบไฟล์ MP4 และ MOV และด้วยการใช้เซ็นเซอร์ภาพ Dual Pixel CMOS AF ทำให้สามารถทำงานในระบบ Movie Servo AF ได้ กล้องจะปรับโฟกัสต่อเนื่องตามวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างราบเรียบ ต่อเนื่องและแม่นยำ ทำให้สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ จอ LCD ที่ปรับมุมได้จะทำให้ช่างภาพมีอิสระในการเลือกมุมภาพ นอกจากนั้นยังสามารถบันทึกวิดีโอด้วยโหมด HDR MOVIE โดยกล้องจะบันทึกด้วยเฟรมเรท 60 fps. และบันทึกในรูปแบบ HDR คือบันทึกค่าแสงพอดีและอันเดอร์คู่กัน แล้วรวมภาพสองภาพเป็นเฟรมเดียวที่เก็บรายละเอียดได้ดีทั้งภาพ เมื่อรวมในหนึ่งวินาทีก็จะได้ภาพ 30 เฟรมแบบ HDR เป็นภาพเคลื่อนไหว
และ EOS 80D ยังสามารถบันทึกวิดีโอโดยใช้ Creative Filter เพื่อสร้างสรรค์เอฟเฟกต์ในภาพ มีฟังก์ชั่น Video Snapshot ที่สร้างคลิปวิดีโอน่าสนใจได้ง่ายๆ และ EOS 80D มาพร้อมฟีเจอร์การบันทึกวิดีโอหลายรูปแบบ มีช่องต่อไมโครโฟนภายนอกสำหรับรองรับการใช้งานโดยมืออาชีพ นอกจากนั้น EOS 80D ยังมีฟังก์ชั่น Time Lapse Movie ที่สามารถสร้างวิดีโอ Time Lapse ได้จากตัวกล้องโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์
Intelligent Viewfinder
EOS 80D ออกแบบให้ช่างภาพสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวสูงสุดโดยแทบไม่ต้องละสายตาเมื่อจะตรวจสอบการปรับตั้งค่าต่างๆ โดยบนจอรับภาพสามารถแสดงจุดโฟกัสที่ใช้งาน แสดงพื้นที่โฟกัสที่ใช้งาน แสดงมาตรวัดระดับ แสดงสัญญาณเตือนเมื่อเปิดใช้ระบบถ่ายภาพขาว-ดำ ระบบแก้ไวท์บาลานซ์ ระบบลดสัญญาณรบกวนภาพแบบ Multi-Shot และเมื่อเปิดใช้ระบบ HDR นอกจากนั้นยังสามารถแสดงเส้นตารางและข้อมูลถ่ายภาพ ช่องมองแสดงภาพได้ 100% ไม่มีส่วนเกินติดเข้ามาในภาพที่บันทึก
จอ LCD ปรับมุมได้ระบบทัชสกรีน
EOS 80D ใช้จอ LCD ขนาด 3.0 นิ้ว ระบบทัชสกรีน Capacitive ที่ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างยอดเยี่ยม ออกแบบให้มองภาพชัดเจนในทุกสภาพแสงด้วยมอนิเตอร์ Clear
View LCD II ซึ่งมีมุมมองกว้าง จอสามารถปรับมุมแนวตั้งได้ 270 องศา และแนวนอนได้ 175 องศา ทำให้ถ่ายภาพมุมสูง มุมตํ่าและบันทึกวิดีโอได้สะดวก ระบบทัชสกรีนทำงานได้เต็มรูปแบบ Touch AF ได้ ปรับซูมภาพที่ PLAY ได้ด้วยการถ่างนิ้ว เลื่อนภาพด้วยการปัดนิ้วซ้าย-ขวา เช่นเดียวกับการใช้สมาร์ทโฟน จึงสะดวกคล่องตัวทั้งการบันทึกและดูภาพ
Wi-Fi และ NFC ในตัว
ออกแบบให้ช่างภาพสามารถแชร์ภาพได้สะดวกคล่องตัวด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi ในตัว โดยสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้ทั้ง iOS และ Android ในการควบคุมการทำงานของกล้องผ่านฟังก์ชั่น Remote Shooting โดยใช้แอพพ์ Canon Camera Connect สามารถดูภาพจากสมาร์ทโฟน โดยปรับตั้งความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ความไวแสงและปรับโฟกัสด้วยการแตะที่หน้าจอสมาร์ทโฟนสั่งบันทึกภาพจากสมาร์ทโฟน สามารถถ่ายโอนภาพและบันทึกลงสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ และรวดเร็ว EOS 80D เป็นกล้องตัวแรกที่สามารถการควบคุมการทำงานด้านการบันทึกวิดีโอผ่าน camera connect app ได้ และเมื่อใช้เลนส์ EF-S 18-135mm f/3.5-5.6 IS USM กับ Power Zoom Adapter PZ-E1 จะสามารถปรับ Power Zoom เปลี่ยนมุมรับภาพของเลนส์จากสมาร์ทโฟนได้ นอกจากนั้นยังสามารถแชร์ภาพผ่านระบบ DLNA กับผลิตภัณฑ์ที่รองรับ DLNA เช่น HDTV ได้ และสามารถอัพโหลดภาพไปยัง Canon Image Gateway ได้ทันที นอกจากนั้นยังสามารถสั่งพิมพ์ภาพจากกล้องกับพริ้นเตอร์ที่รองรับระบบไร้สาย PictBridge โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
ฟังก์ชั่น NFC (Near Field Communication) ช่วยให้ EOS 80D สามารถถ่ายโอนภาพกับสมาร์ทโฟนระบบ Android ที่รองรับ NFC ได้ง่ายและรวดเร็วและยังใช้ร่วมกับ Canon Connect Station CS100 ได้สะดวกด้วยการแตะเพื่อถ่ายโอนภาพและวิดีโอเก็บใน CS100 และสามารถดูภาพ แชร์ภาพและวิดีโอกับทีวี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และพริ้นเตอร์ได้ง่าย
ชัตเตอร์ทนทานถึง 100,000 ครั้ง
EOS 80D ใช้ชุดชัตเตอร์แบบแมคคานิคที่ควบคุมการทำงานของความเร็วชัตเตอร์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีความเที่ยงตรงสูง ปรับปรุงระบบการขับเคลื่อนชุดชัตเตอร์ใหม่ ให้รวดเร็วมีความสั่นสะเทือนน้อย และมีโหมดชัตเตอร์เงียบ ( Silent mode ) โดยมีความเร็วในการถ่ายภาพถึง 3 ภาพ/วินาที ชัตเตอร์ของ EOS 80D มีความทนทานสูง ใช้งานได้ถึง 100,000 ครั้ง
ถ่ายภาพกับแสงฟลูออเรสเซนต์ด้วยระบบ Anti–Flicker
EOS 80D มีระบบตรวจจับ Flicker ของหลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งไม่เพียงจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบจากในช่องมองเท่านั้น แต่ฟังก์ชั่น Anti–Flicker ยังสามารถชดเชย
การกระพริบของหลอดฟลูออเรสเซนต์ โดยจะบันทึกภาพเฉพาะช่วงที่หลอดมีความสว่างสูงสุดเท่านั้น เพื่อป้องกันภาพอันเดอร์และมีสีผิดเพี้ยนเมื่อบันทึกภาพด้วยแสงฟลูออเรสเซนต์ โดยเฉพาะการบันทึกภาพต่อเนื่อง
ระบบการทำงานที่น่าสนใจ
EOS 80D สามารถบันทึกภาพต่อเนื่องเมื่อใช้ Live View พร้อมระบบโฟกัสต่อเนื่อง (SERVO AF) ให้ความเร็วสูงสุด 5 ภาพ/วินาที และในการบันทึกวิดีโอ ผู้ใช้สามารถปรับตั้ง Custom Movie Servo AF เพื่อเลือกรูปแบบการตรวจจับวัตถุของระบบโฟกัสได้ตามต้องการและสามารถดูภาพ สั่งบันทึกวิดีโอจากสมาร์ทโฟนได้ EOS 80D มีช่องต่อหูฟังเพื่อตรวจสอบเสียงที่บันทึกได้ทันที
EOS 80D เป็นกล้อง EOS รุ่นแรกที่สามารถปรับการแสดงข้อมูลในโหมด Live View ได้ตามต้องการและมีระบบ Interval Timer และ Bulb Timer นอกจากนั้นตัวกล้องยังมีการปรับปรุงการซีลเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองนํ้าเพื่อให้ใช้งานกลางแจ้งได้ทุกสภาพอากาศ
โฟกัสตามวัตถุเคลื่อนที่แบบช็อตนี้ถือเป็นเรื่องง่ายของระบบ Tracking AF ในกล้องรุ่นนี้ กล้องโฟกัสได้ทันและคมชัด กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ Canon EF 100-400mm. f/4.5-5.6L IS II USM ; 1/2000 Sec f/5.6, Mode : M, WB : Auto, Focus Area : Large Zone AF, ISO 400
ผลการใช้งาน
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกและรายละเอียดต่างๆ ผมเชื่อว่านักถ่ายภาพส่วนใหญ่อาจไม่เห็นความแตกต่างจาก EOS 70D เท่าใดนัก ผมเองก็คิดเช่นนั้นเมื่ออ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ในช่วงเปิดตัวก่อนหน้างาน CP+ ที่ญี่ปุ่น แต่เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดอย่างจริงจัง ผมก็พบว่ากล้องรุ่นนี้เปลี่ยนแปลงจาก EOS 70D ค่อนข้างมาก และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อคุณภาพของภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รวมทั้งประสิทธิภาพของระบบออโตโฟกัส
กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ Canon EF 100-400mm. f/4.5-5.6L IS II USM ; 1/1600 Sec f/5.0, Mode : M, WB : Auto, Focus Area : Large Zone AF, ISO 320
ในส่วนของระบบออโตโฟกัสนั้นดีและแตกต่างจากเดิมมากครับ พื้นที่การหาโฟกัสกว้างกว่ามาก จำนวนจุดโฟกัสมากกว่า และเป็นแบบกากบาททั้งหมด 45 จุด ประสิทธิภาพจึงขยับจากกล้องระดับ Advanced ขึ้นเป็น Semi Pro แล้วและยังปรับเลือกรูปแบบของพื้นที่โฟกัสได้เหมือนๆ กับกล้องโปร จึงทำให้ EOS 80D รองรับการถ่ายภาพทุกรูปแบบ
ในการใช้งานร่วมกับเลนส์ 70-200mm. f/2.8 ความเร็วในการโฟกัสทำได้ยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่ต้องบอกว่าน่าประทับใจคือ ความเร็วในการตรวจจับด้วยจุดโฟกัสแบบกากบาทพื้นที่กว้างและชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6 ที่รวดเร็ว ทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุทำได้ดีขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเลือกพื้นที่โฟกัสเป็นแบบ Zone หรือ Large Zone ประสิทธิภาพในการตรวจจับทำได้ดีมาก แม่นยำ รวดเร็ว ติดตามวัตถุได้ต่อเนื่อง
ระบบออโตโฟกัสได้พัฒนาจาก EOS 70D ไปมากพอควรครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือรูปแบบการเลือกพื้นที่โฟกัสที่หลากหลายโดยเฉพาะ Large Zone นั้นใช้งานได้ดีมากในการ
แทรคกิ้งตามซับเจกต์ที่เคลื่อนที่รวดเร็ว การตอบสนองของระบบออโต้โฟกัสทำได้เยี่ยมยอดกับเลนส์ EF-S 18-135 mm. รุ่นใหม่ที่ใช้มอเตอร์ Nano USM ระบบโฟกัสกระตือรือร้น ออกตัวเร็ว เงียบและหยุดได้เร็วมาก การโฟกัสติดตามวัตถุก็ทำได้เงียบและเร็วมากเช่นกัน ทำให้การถ่ายภาพแอคชั่นเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับกล้องรุ่นนี้
ที่ผมชอบมากคือการแสดงจุดโฟกัสที่ใช้งานในขณะใช้ระบบ AI Servo โฟกัสติดตามวัตถุ เพราะทำได้ชัดเจนและแสดงให้เห็นถึงจุดโฟกัสที่ใช้งานอยู่ ส่วนในโหมด ONE SHOT นั้นก็จะแสดงจุดโฟกัสได้ชัดเจนโดยในสภาพแสงน้อยกล้องจะฉายแสงสีแดงบนจุดโฟกัสให้ผู้ใช้เห็นได้ชัดเจน การปรับเปลี่ยนพื้นที่โฟกัสทำได้ง่ายและเร็วด้วยปุ่มกดที่วางไว้ด้านหน้าปุ่มลั่นชัตเตอร์ลงไปกล้องจะปรับเปลี่ยนพื้นที่โฟกัสไปทีละแบบ โดยแสดงด้วยสัญลักษณ์บนจอรับภาพในช่องมอง ผู้ใช้ไม่ต้องละสายตาแต่อย่างใด เยี่ยมยอดมาก ครับ และการเปลี่ยนจุดโฟกัสก็ทำได้ง่ายๆ โดยกดปุ่มนี้แล้วใช้แป้นสี่ทิศทางย้ายจุดโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวผมมักจะใช้พื้นที่โฟกัสแบบ Zone ส่วนภาพทั่วๆ ไปมักจะใช้แบบจุดเดียว ซึ่งในส่วนของความแม่นยำและความเร็วนั้น EOS 80D ทำได้น่าประทับใจมาก
การตรวจจับวัตถุทําได้น่าพอใจมาก ช่วงเวลาการหายไปของภาพในช่องมองค่อนข้างน้อย ทําให้การมองภาพยังดีแม้ถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 7 เฟรม / วินาที กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ Canon EF 100-400mm. f/4.5-5.6L IS II USM ; 1/3200 Sec f/5.6, Mode : M, WB : Auto, Focus Area : 45 Point AF Auto Selection, ISO 200
เมื่อลองใช้ Live View และใช้ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ก็พบว่าความเร็วในการโฟกัสยังทำได้ดีมาก กับเลนส์ EF-S 18-135mm. รุ่นใหม่ โฟกัสได้เร็วแม่นยำ ทำให้การใช้ Live View บันทึกภาพร่วมกับจอ LCD ที่ปรับมุมได้สะดวกอย่างยิ่ง รับรองว่าไม่เป็นรองกล้องมิเรอร์เลสเลยครับ แต่ที่ดีอย่างยิ่งคือการตอบสนองของระบบ Touch AF ที่เร็วและแน่นอนมาก แตะแล้วกล้องโฟกัสในทันทีด้วยเวลาไม่เกิน 0.2 วินาที ลืมระบบ Live View ของกล้อง DSLR ทั่วไปได้เลย
การควบคุม การจัดวางปุ่มปรับต่างๆ ทำได้ดี ไม่มีที่ติครับ ใช้งานได้คล่องตัวมากและเป็นกล้องที่ใช้ง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน เรียงเมนูได้ชัดเจน เข้าถึงง่าย ทั้งการใช้ปุ่มและแป้นสี่ทิศทาง หรือจะใช้ทัชสกรีนก็ทำได้เร็ว
จอ LCD ปรับมุมได้ ทำให้ EOS 80D ใช้งานได้สนุกมาก มันเปิดอิสระในการจัดองค์ประกอบทั้งมุมตํ่า มุมสูง และแม้จะ Selfie ทำได้ง่าย ระบบทัชสกรีนแบบ Capacitive ของกล้องรุ่นนี้ตอบสนองดีมากๆ ราวกับใช้สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ทำให้การปรับตั้งค่าต่างๆรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับปุ่ม Q จะช่วยให้ปรับตั้งค่าได้เร็วมาก
ช่องมองภาพดีครับ ขนาดของช่องมองอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ให้ภาพใสเคลียร์ คมชัด มองภาพได้ชัดเจน การแสดงข้อมูลทำได้ดีมาก ละเอียด ชัดเจน ดูผลง่าย
ในส่วนของคุณภาพไฟล์นั้น ต้องบอกว่าเป็นก้าวใหม่ของ APS-C จากแคนนอนเลยครับ ไฟล์ 24 ล้านพิกเซลของกล้องรุ่นนี้ให้รายละเอียดดีมาก คมชัด แสดงรายละเอียดเล็กๆ ที่อัตราขยาย 100% ได้ชัดกว่าเดิม กับเลนส์ดีๆ อย่าง EF 100-400mm. f/4.5-5.6L IS II นั้น ภาพที่ได้คมมาก และที่น่าประทับใจคือการจัดการกับสัญญาณรบกวนที่ดีขึ้น ที่ ISO 800 ภาพใสเคลียร์หน้าพอใจมาก ที่ ISO 1600 ผมยังพอใจในความใสเคลียร์ของภาพแม้จะมีสัญญาณรบกวนบ้างแต่รายละเอียดของภาพยังทำได้ดี ที่ ISO 3200 ซึ่งเคยเป็นจุดที่เคยให้ติ แต่กับ EOS 80D มันทำได้ดีน่าพอใจ ที่ ISO 6400 ผมยังรับกับคุณภาพของภาพได้แม้ในส่วนมืดของภาพจะมีสัญญาณรบกวนชัดเจนมากแต่ในส่วนของรายละเอียดยังดี และสัญญาณรบกวนน้อยกว่าที่คาด
แต่สิ่งที่นับเป็นความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ ไดนามิกเรนจ์ที่กว้างขึ้นจากเดิมมาก และน่าจะดีที่สุดของแคนนอนในขณะนี้ (หากไม่นับรวมรุ่น EOS 1DX Mark II) การขุดรายละเอียดจากไฟล์ที่บันทึกมาอันเดอร์ 3-4 สตอปทำได้ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน และกับภาพที่โอเวอร์ 3-5 สตอปก็ยังดึงรายละเอียดกลับมาได้ในระดับน่าประทับใจ สำหรับช่างภาพ
ที่บันทึกด้วยไฟล์ RAW นี่คือสิ่งที่คุณจะต้องชอบ การถ่ายทอดสีทำได้ดีครับ ภาพดูใสเคลียร์ สีสันดี ให้ภาพ JPEG ที่ดูสดชื่นและพร้อมสำหรับการแชร์โดยไม่ต้องปรับอะไรมาก
ในส่วนของการบันทึกวิดีโอนั้น EOS 80D ทำได้ดีมากการบันทึกสะดวกคล่องตัว เพราะสามารถใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องได้ และการแทรคยังนุ่มนวลในสไตล์ของ
การบันทึกวิดีโอ ไม่โฟกัสแบบออกตัวเร็วหยุดเร็วแบบภาพนิ่งทำให้ภาพดูสบายตา การชิฟท์โฟกัสด้วย Touch AF ทำให้สามารถย้ายจุดโฟกัสได้สะดวกและแม่นยำแต่ที่น่าประทับใจคือ การลากนิ้วบนหน้าจอตามวัตถุ กล้องจะโฟกัสตามตำแหน่งนิ้ว ทำให้สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้สะดวกกว่ากล้องมิเรอร์เลสด้วยซํ้า
คุณภาพของไฟล์วิดีโอ FULL HD / 50p อยู่ในระดับดีมาก ภาพคมชัด รายละเอียดดี และให้สีสันดี การบันทึกเสียงจากไมโครโฟนภายในตัวกล้องทำได้ชัดเจนดี แต่จะดีมากเมื่อใช้ไมโครโฟนภายนอก
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพ/วินาที ทำให้ EOS 80D ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้ในการถ่ายภาพแอคชั่นได้ดี และเป็นกล้องที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนก ภาพสัตว์ป่า ด้วยความสะดวกของ Live View และประสิทธิภาพของระบบออโต้โฟกัส
A : กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ Canon EF 100-400mm. f/4.5-5.6L IS II USM ; 1/640 Sec f/6.3, Mode : Av, WB : Auto, Focus Area : Single Point AF, ISO 400
B : กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ Canon EF-S 18-135mm. f/3.5-5.6 IS USM ; 1/100 Sec f/5.6, Mode : Av, WB : Auto, Focus Area : Single Point AF, ISO 1600
ความเห็น
ผมเชื่อว่านักถ่ายภาพหลายท่านคิดว่า EOS 80D ไม่ได้แตกต่างจาก EOS 70D เท่าใดนัก แต่จากการลองใช้งานผมพบว่ามันแตกต่างค่อนข้างมาก ไฟล์ภาพมีคุณภาพดีขึ้น ไดนามิกเรนจ์กว้าง สัญญาณรบกวนตํ่ากว่า และที่สำคัญระบบออโต้โฟกัสแบบกากบาท 45 จุดนั้นทำให้กล้องรุ่นนี้ใช้งานได้เยี่ยมยอดกว่าทั้งแม่นยำ ความเร็วและประสิทธิภาพในการตรวจจับวัตถุ แนะนำเป็นพิเศษสำหรับนักถ่ายภาพระดับจริงจังและมืออาชีพ นี่คือกล้อง DSLR ที่ใช้งานได้สนุกเช่นเดียวกับกล้องมิเรอร์เลส แต่เหนือกว่าด้วยระบบโฟกัสติดตามวัตถุและการตอบสนองเมื่อถ่ายภาพแอคชั่น
เรื่อง : ภาพ / อิสระ เสมือนโพธิ์