OTHER REVIEWS

Reviews : OLYMPUS OM-D E-M1X

สำหรับกล้องมิเรอร์เลสแล้ว กล้องที่ผลิตออกสู่ตลาดแทบทั้งหมด จะอยู่ในระดับ Entry Level ระดับ Advanced ไปจนถึงระดับ Semi Pro แต่มีน้อยรุ่นมากที่ออกแบบในระดับ Professional ที่รองรับการทำงานของมืออาชีพ ซึ่งตัวกล้องจะต้องแข็งแรง ทนทาน รองรับการใช้งานหนักของมืออาชีพได้ ทั้งกันฝุ่น กันละอองนํ้า กันอากาศเย็นมากๆ รวมถึงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงเกิน 18 เฟรม/ วินาที ระบบออโตโฟกัสที่แม่นยำรวดเร็ว แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้นาน การควบคุมกล้องที่คล่องตัว การจับถือที่ยอดเยี่ยมทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และความไว้ใจได้ในการทำงานทุกสถานการณ์ หากจะทำกล้องให้ไปถึงจุดนี้ ต้องใช้เทคโนโลยีและการออกแบบที่ลํ้าหน้า และ OM-D E-M1X ก็คือกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกจากโอลิมปัส ที่ระบุว่านี่คือกล้องระดับโปรเฟสชั่นแนล ที่มีประสิทธิภาพสูงในทุกๆ ด้าน รองรับการใช้งานทุกรูปแบบในทุกสถานการณ์ แม้สภาวะอากาศที่เลวร้าย

การออกแบบที่เยี่ยมยอด E-M1X ออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกคล่องตัวสูงสุด ลดความยุ่งยากในการปรับและควบคุมกล้อง โดยออกแบบกริปที่มีความมั่นคง รับกับนิ้วมือ จับได้กระชับ และที่สำคัญไม่ว่าจะจับถือแนวนอน หรือแนวตั้ง จะไม่มีความแตกต่างใดๆ รูปแบบของกริป ตำแหน่งการวางปุ่มต่างเหมือนกันทุกจุด ช่างภาพจึงทำงานได้คล่องตัว และด้วยการออกแบบที่ดีทำให้มีพื้นที่วางนิ้วมือมากพอ และยังสามารถวางปุ่มปรับฟังก์ชั่นอันด้านในได้อีก ปุ่มปรับบนตัวกล้องออกแบบให้ทำหน้าที่แยกกันชัดเจน จึงไม่สับสนในการใช้งาน ด้านหลังตัวกล้องจะมีจอยสติ๊กถึง 2 ตำแหน่ง สำหรับการถือกล้องแนวนอนและแนวตั้ง มีสวิทซ์ล็อกการปรับตั้งเพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนระบบโดยไม่ตั้งใจ มีปุ่มเลือกการ์ดที่ต้องการใช้งานจากหลังตัวกล้องเลย มีช่องใส่การ์ด SD 2 ช่อง ตามความต้องการของมืออาชีพ

จอ LCD สามารถพับออกด้านข้างและปรับมุมได้อิสระ ทำให้ใช้งานได้สะดวกคล่องตัวไม่ว่าจะถ่ายภาพมุมตํ่า มุมสูง หรือใช้บันทึกวิดีโอ และด้วยระบบทัชสกรีนเต็มรูปแบบ ทั้ง Touch Focus , Touch Shutter และ Touch menu ทำให้การเข้าระบบต่างๆ รวดเร็ว ใช้งานสะดวกคล่องตัว

E-M1X แม้จะมีขนาดใหญ่กว่า E-M1 Mark II เนื่องจากติดกริปแนวตั้งในตัว แต่หากเทียบกับกล้องระดับโปร E-M1X ก็ยังมีขนาดเล็กกว่ามาก และมีนํ้าหนักตัวกล้องเพียง 849 กรัม (รวมแบตเตอรี่ BLH-1 จำนวน 2 ก้อน และ SD Card 2 อัน นํ้าหนักอยู่ที่ 997 กรัม) เมื่อรวมกับเลนส์ Micro four thirds ที่มีขนาดเล็ก ความสว่างสูง และนํ้าหนักเบา ทำให้ E-M1X เป็นกล้องที่พกพาสะดวก ไม่เป็นภาระในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อใช้กับเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ จะสามารถถือกล้องด้วยมือเป็นเวลานานได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เช่น เมื่อใช้กับเลนส์ 300mm. F4 จะมีทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 600mm. F4 ของกล้องฟูลเฟรม โดยมีนํ้าหนักเพียง 2,300 กรัม และด้วยระบบกันสั่นชั้นยอด ทำให้สามารถถือถ่ายด้วยมือแบบหวังผลได้ทุกช็อต รูปแบบการทำงานของปุ่มปรับเป็นแบบ 1 ฟังก์ชั่นต่อ 1 ปุ่ม ทำให้ไม่สับสนในการใช้งาน และด้วยการออกแบบให้ความสูงและรูปร่างของปุ่มควบคุมตำแหน่งแต่ละปุ่มแตกต่างกันจึงช่วยป้องกันความผิดพลาดในการใช้งานได้ดี

แข็งแกร่ง ทนทาน ในทุกสภาวะการใช้งาน นี่คือหัวใจของกล้องโปร กล้องจะต้องพร้อมทำงานในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะร้อนจัด หนาวจัด ฝุ่นละอองเยอะ หรือฝนตก ต้องรองรับการกระแทกซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เสมอในการทำงาน E-M1X เป็นกล้องที่ออกแบบให้ทนทานต่อการใช้งานหนัก ด้วยการใช้โครงสร้างหลักที่ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยทั้งชุด เบาแต่แข็งแกร่ง ทุกแป้นหมุน ปุ่มปรับ รอยต่อต่างๆ ถูกซีลอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น ละอองนํ้า (ซึ่งในเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับกันมาตั้งแต่ E-M1 และ E-M1 Mark II แล้ว) โดยทำได้สูงกว่ามาตรฐาน IPX 1 นอกจากนี้การซีลยังป้องกันแม้จะเชื่อมต่อสายลั่นชัตเตอร์ ไมโครโฟนและขั้วหูฟัง รวมทั้งยังซีลที่ฝาปิดช่องใส่ SD การ์ดอีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่า E-M1X จะรองรับการใช้งานของมืออาชีพได้ทุกรูปแบบการถ่ายภาพ ในทุกสถานการณ์ นอกจากนั้น E-M1X ยังมีระบบลดฝุ่นละอองบนเซ็นเซอร์ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยใช้ฟิลเตอร์คลื่นซุปเปอร์โซนิค (SSWF) ทำงานด้วยความเร็ว 30,000 ครั้งต่อวินาที เพื่อกำจัดฝุ่นออกจากเซ็นเซอร์ภาพทำให้ E-M1X สามารถเปลี่ยนเลนส์ระหว่างการใช้งานได้โดยไม่ต้องพะวงเรื่องฝุ่นเกาะเซ็นเซอร์ภาพ

โครงสร้างการกระจายความร้อนที่ยอดเยี่ยม E-M1X ออกแบบระบบระบายความร้อนใหม่ที่มีขนาดใหญ่ มีท่อระบายความร้อนจากการทำงานของเซ็นเซอร์ภาพ จากอุณหภูมิที่สูงขึ้นเมื่อถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอต่อเนื่องนานๆ ทำให้สามารถลดความร้อนได้เร็ว ตัดปัญหาเรื่องกล้องหยุดทำงานเมื่อบันทึกในสภาพอากาศร้อน หรือบันทึกวีดีโอต่อเนื่องนานๆ

ระบบ AF ที่พัฒนาให้ก้าวลํ้ายิ่งขึ้น E-M1X พัฒนาระบบออโตโฟกัสขึ้นมาจาก E-M1 Mark II เพื่อให้ช่างภาพสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบการถ่ายภาพ โดยสามารถปรับแต่งปุ่มควบคุมให้ทำงานตามความต้องการของช่างภาพ จอยสติ๊กที่ช่วยให้กล้องตอบสนองต่อการถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว ขนาด และความเร็วแตกต่างกันได้ดีเยี่ยม E-M1X ใช้จุดโฟกัส 121 จุด โดยเป็นจุดโฟกัส เฟส ดีเทคชั่นแบบกากบาท (Cross Type) ทุกจุด แตกต่างจากระบบเฟสดีเทคชั่นในกล้องมิเรอร์เลสส่วนใหญ่ที่ทำงานแกนเดียว ทำให้ E-M1X มีความแม่นยำในการทำงานสูง แม้วัตถุมีรายละเอียดน้อย คอนทราสต์ตํ่า และในส่วนของระบบโฟกัสต่อเนื่องจะทำงานได้รวดเร็ว ตอบสนองฉับไว โฟกัสติดตามวัตถุได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถเลือกพื้นที่การทำงานได้ถึง 6 โหมด คือ จุดเดียว, กลุ่ม 5 จุด , กลุ่ม 25 จุด ,121 จุดโฟกัส และจุดเดียวขนาดเล็ก และยังสามารถคัสตอมพื้นที่โฟกัสเองได้ตามความต้องการ โดยเลือกจุดโฟกัส 11 จุดแนวตั้งและ 11 จุดแนวนอนได้อิสระตามรูปทรงของซับเจกต์ที่คุณถ่ายภาพได้ โดยการย้ายพื้นที่โฟกัสสามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยจอยสติ๊ก และที่โดดเด่นมากของระบบโฟกัสใน E-M1X คือ ระบบ AF ตรวจจับวัตถุอัจฉริยะ ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์รูปทรงวัตถุ ขนาดวัตถุ ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลภาพ True Pic VIII 2 ชุด การตรวจจับวัตถุจะเป็นแบบเรียลไทม์ ทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุทำได้เร็วและแม่นยำ (รองรับการทำงานในโหมด C-AF+TR เท่านั้น) โดยในโหมดนี้จะสามารถตรวจจับรูปทรงของยานพาหนะ เช่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน และรถไฟได้ ทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพมอเตอร์สปอร์ตเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อระบบตรวจจับวัตถุได้ จะปรับโฟกัสไปยังตำแหน่งหมวกกันน็อคของนักแข่งทันที ส่วนเครื่องบินระบบจะโฟกัสไปยังห้องคนขับทันที ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็จะปรับโฟกัสไปยังหมวกกันน็อค ทำให้ช่างภาพทำงานได้สะดวกและการโฟกัสแม่นยำโดยไม่ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ในการถ่ายภาพประเภทนี้แต่อย่างใด

ภาพชุดนี้ใช้ระบบพื้นที่โฟกัสแบบ Custom ปรับจุดโฟกัสเป็น 11จุดแนวนอนกับ 3 แถวแนวตั้งเพื่อให้กล้องมีพื้นที่โฟกัสกว้าง การโฟกัสทำได้ดีเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ออกนอกกลางภาพ กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/2000 Sec f/4 , WB : Auto, Mode : M, C-AF+TR, ISO 200

ภาพชุดนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบโฟกัสต่อเนื่องติดตามวัตถุแบบ C-AF+TR เมื่อกล้องล็อกตัวนกได้แล้วก็จะโฟกัสติดตามต่อเนื่อง แม้มีนกตัวอื่นๆ เคลื่อนเข้ามาบัง โฟกัสก็ยังจับที่ซับเจกต์หลักอยู่ กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/2000 Sec f/5.6 , WB : Auto, Mode : M, C-AF+TR, ISO 200

ในโหมด C-AF สามารถปรับความไวในการตอบสนองได้ 5 ระดับ เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการถ่ายภาพ สามารถปรับโฟกัสแบบแมนนวลได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับสวิทซ์ใดๆ และที่น่าสนใจมากคือ สามารถตั้งระยะโฟกัสช่วงที่คุณใช้งาน (AF Limiter) ได้จากตัวกล้องกับเลนส์ทุกช่วง ทำให้สามารถล็อกช่วงโฟกัสให้เหมาะกับลักษณะภาพที่คุณถ่าย ซึ่งทำให้การหาโฟกัสทำได้เร็วยิ่งขึ้นและ E-M1X ยังมาพร้อมระบบตรวจจับใบหน้าและดวงตา ซึ่งจะช่วยให้การโฟกัส เมื่อถ่ายภาพบุคคลมีความแม่นยำ ระบบโฟกัสสามารถทำงานได้แม้ในสภาพแสงน้อยถึง -6EV

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงถึง 18 ภาพต่อวินาทีทำให้มีช็อตแอคชันที่เคลื่อนไหวรวดเร็วให้เลือกใช้งานได้มากกว่า เพราะหลายๆ ช็อตนกจะซ้อนทับกันมากเกิน กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/3200 Sec f/9 , WB : Auto, Mode : M, ISO 200

สุดยอดความเร็ว E-M1X ออกแบบให้ช่างภาพไม่พลาดโอกาสเพียงเสี้ยววินาที ในการบันทึกภาพด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Ultra high-speed) ที่สูงถึง 18 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบโฟกัสต่อเนื่องและวัดแสงต่อเนื่อง (บันทึกที่ความละเอียด 20.4 ล้านพิกเซล) และสามารถบันทึกด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 ภาพ ต่อวินาทีเมื่อล็อกระยะโฟกัสและวัดแสงไว้ที่เฟรมแรก ทำให้สามารถเก็บทุกแอคชั่นของการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วได้อย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากตามนุษย์ และ E-M1X ยังมาพร้อมช่องใส่ SD การ์ดแบบ 2 ช่องที่รองรับการ์ดความเร็วสูงได้ทั้ง 2 ช่อง จึงมั่นใจในการบันทึกภาพว่าจะไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ

การถ่ายภาพในแบบฉับพลันคือเห็นนกแล้วเคลื่อนกล้องมาทันทีอย่างรวดเร็วแล้วลั่นชัตเตอร์เป็นชุดเป็นสิ่งที่โดดเด่นของกล้องรุ่นนี้ เพราะการตอบสนองของระบบโฟกัสต่อเนื่องเร็วมาก กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/2000 Sec f/4 , WB : Auto, Mode : M, C-AF+TR, ISO 200

นอกจากนั้น E-M1X ยังมาพร้อมโหมด Pro Capture โดยเมื่อแตะปุ่มลั่นชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง กล้องจะบันทึกล่วงหน้าไว้ถึง 35 ภาพ ก่อนการกดชัตเตอร์แบบ Full Press ทำให้ช่างภาพไม่พลาดช็อตสำคัญ แม้จะกดชัตเตอร์ช้ากว่าแอคชั่นนั้นๆ ไปบ้างก็ตาม จะยังได้ภาพจากภาพที่บันทึกล่วงหน้าให้E-M1X มีโหมดบันทึกภาพเงียบ ไม่มีเสียงการทำงานของกลไกชัตเตอร์รวมทั้งเสียงอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เล็ดรอดออกมา จึงเหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่ห้ามใช้เสียง เช่น โรงละคร และ E-M1X มีโหมดถ่ายภาพ Anti-flicker ช่วยลดเอฟเฟกต์ของการกระพริบจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ กล้องจะบันทึกเฉพาะช่วงเวลาที่หลอดฉายแสงเต็มที่ ทำให้ภาพไม่อันเดอร์และสีไม่ผิดไม่เพี้ยน

ระบบโฟกัสต่อเนื่องติดตามวัตถุแบบ C-AF+TR นั้นใช้งานได้ดีมาก พอกล้องล็อกตัวนกได้แล้วก็จะโฟกัสติดตามอย่างแม่นยำ กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/2000 Sec f/4 , WB : Auto, Mode : M, C-AF+TR, ISO 200

คุณภาพยอดเยี่ยม E-M1X ใช้เซ็นเซอร์ภาพ LIVE MOS ความละเอียด 20.4 ล้านพิกเซลที่ออกแบบมาให้มีความไวแสงสูง ให้ภาพที่มีรายละเอียดสูง สัญญาณรบกวนตํ่า เคลือบป้องกันแสงสะท้อนบนผิวเซ็นเซอร์เพื่อช่วยลดแสงฟุ้งและภาพหลอน ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลภาพ TruePic VIII แบบคู่(2 ชิ้น) ทำให้สามารถถ่ายทอดภาพคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว รองรับระบบการทำงานลํ้าหน้าใหม่ๆ ได้เต็มประสิทธิภาพ ให้ภาพที่มีความอิ่มสีสูง รายละเอียดดีเยี่ยม และให้ภาพใสเคลียร์

E-M1X มาพร้อมโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูงโดยใช้ขาตั้งกล้อง (Tripod High Res Shot) โดยจะบันทึกภาพ 8 ภาพต่อเนื่อง โดยขยับเซ็นเซอร์ ช็อตละ 0.5 พิกเซล โดยภาพ 8 ภาพจะถูกรวมเป็นภาพๆ เดียวที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ให้คุณภาพสูง รายละเอียดเยี่ยมยอด

แต่ที่น่าทึ่งคือ โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูงโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง (Handheld High Res Shot) โดยกล้องจะบันทึกภาพ 16 ภาพต่อเนื่อง โดยการขยับเซ็นเซอร์ที่แม่นยำ เพื่อสร้างภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล เหมาะกับการถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องถ่ายภาพ หรือเมื่อไม่มีขาตั้งกล้องติดตัว แต่ยังต้องการภาพคุณภาพสูง ความละเอียดสูง

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/50 Sec f/22 , WB : Auto, Mode : M, ISO 100 ( ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง )

ระบบกันสั่นประสิทธิภาพสูง โอลิมปัสตระกูล OM-D ได้การยอมรับมานานว่ามีระบบลดการสั่นไหวในตัวกล้องที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด และ E-M1X ก็ได้สร้างสถิติใหม่ของประสิทธิภาพการลดการสั่นไหว โดยสามารถทำได้ถึง 7.5 สตอป เมื่อใช้งานคู่กับเลนส์ M Zuiko Digital ED 12-100mm F4 IS PRO และโดยลำพังของระบบกันสั่นในบอดี้ สามารถทำได้ถึง 7.0 สตอป โดยจะทำงานในแบบ 5 แกน ที่ตรวจสอบด้วยเซ็นเซอร์ Gyro ใหม่ที่มีความแม่นยำในการตรวจสอบสูงกว่าเดิมถึง 5 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า ช่างภาพสามารถถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ตํ่าถึง 4 วินาที โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง

เมนูใหม่ใช้งานคล่องตัว เมนูของ E-M1X ออกแบบใหม่ให้ตอบสนองต่อการใช้งานของช่างภาพได้ดีขึ้น จัดวางระบบต่างๆ ได้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน ช่างภาพสามารถสร้างเมนูเฉพาะตัวที่เข้าถึงฟังก์ชัน 35 รายการใน 5 แท็บ (7 รายการในแต่ละแท็บ) และมีเมนูใหม่ช่วยให้เลือกภาพหลายๆ ภาพได้อย่างรวดเร็ว

LIVE ND ฟีเจอร์ใหม่ของ E-M1X ที่ออกแบบให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพด้วยการใช้เอฟเฟกต์ของความเร็วชัตเตอร์ตํ่า ด้วยการรวมแสงจากการถ่ายภาพซ้อนหลายๆ ภาพ โดยสามารถปรับเอฟเฟกต์ ND ได้ 5 ระดับ ตั้งแต่ ND1 จนถึง ND32 (5สตอป) ที่โดดเด่นคือผู้ใช้สามารถมองเห็นเอฟเฟกต์ได้ก่อนบันทึกภาพเอฟเฟกต์นี้ช่วยให้ ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์ หรือไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ระหว่างถ่ายภาพให้ยุ่งยากและช่วยให้สามารถใช้กับเลนส์ที่ตัดฟิลเตอร์ยาก เพราะหน้าเลนส์ใหญ่ อย่าง M. ZUIKO Digital 7-14mm F2.8 PRO

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO+MC14 ; 1/1600 Sec f/7.1 , MODE : M, ISO 200 (ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง)

BULB E-M1X ได้เพิ่มชัตเตอร์ B บนแป้นปรับโหมด รองรับโหมด Bulb ชึ่งจะรวมทั้ง 3 โหมดการบันทึกภาพนาน คือ Live Composite , Live Bulb และ Live Time ทำให้ช่างภาพสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น เมื่อถ่ายภาพ Long Exposure โดยโหมด Live Composite จะสามารถบันทึกเฉพาะแสง ส่วน Live Time จะเปิดชัตเตอร์ค้างไว้เมื่อคุณกดปุ่มลั่นชัตเตอร์ครั้งแรก และปลดชัตเตอร์เมื่อกดชัตเตอร์อีกครั้ง โดยสามารถดูผลลัพธ์ของค่าแสงบนภาพที่หน้าจอ Live view ได้

Focus Stacking โหมดนี้กล้องจะบันทึกภาพโดยโฟกัสตั้งแต่ระยะใกล้จนถึงระยะไกล แล้วนำภาพหลายๆ ภาพมารวมเป็นภาพๆเดียวที่มีช่วงความชัดลึกสูง ใน E-M1 Mark II จะถูกล็อกไว้ที่ 8 ภาพ แต่ E-M1X สามารถเลือกจำนวนภาพที่ต้องการทำ Focus Stacking ได้ตั้งแต่ 3-15 ภาพ ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและสามารถสร้างภาพที่มีความชัดลึกได้มากขึ้น

นอกจากนั้น E-M1X ยังมาพร้อมระบบ Focus Bracketing ที่สามารถบันทึกได้ถึง 999 ภาพ ด้วยระยะโฟกัสต่างกัน แล้วใช้ซอฟต์แวร์รวมภาพเพื่อสร้างภาพที่มีความชัดลึกสูงเป็นพิเศษ เช่น การถ่ายภาพมาโคร

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/1600 Sec f/7.1, Mode : M, ISO 200 (ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง)

ระบบการทำงานลํ้าหน้า E-M1X มีระบบการทำงานลํ้าหน้าหลายอย่างเช่น การชดเชย Keystone เพื่อแก้อาการลู่เอียงของภาพ เมื่อเงยกล้องถ่ายภาพ มีฟังก์ชันปรับชดเชย Fisheye ในตัว เพื่อแก้ไขเส้นโค้งในภาพที่บันทึกด้วยเลนส์ Fisheye ให้ตรง โดยสามารถมองเห็นเอฟเฟกต์ได้จากหน้าจอ LCD และ EVF มีฟังก์ชัน Live View Boost เพิ่มความสว่างของ Live View ให้เหมาะกับสถานที่ ใช้ประโยชน์ได้ดีในการถ่ายภาพดาว เป็นต้น มีฟังก์ชัน Flicker Scan เพื่อลดเอฟเฟกต์การกระพริบและแถบมืดของ Flicker

ผลการใช้งาน

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO ; 1/60 Sec f/22, MODE : M, ISO 125 ( ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง )

E-M1X เป็นกล้องระดับโปร ดังนั้นกล้องรุ่นนี้ขนาดจึงไม่เล็ก เพราะต้องออกแบบให้มืออาชีพใช้ การควบคุมกล้อง การจับถือ จะต้องดีเพียงพอ ขนาดจึงค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับกล้องตระกูลนี้รุ่นก่อนๆ แต่ถ้าเทียบกับกล้องระดับโปรในตลาด E-M1X ก็ยังนับว่ายังเล็กและเบากว่ามาก

การจับถือ การควบคุมทำได้ดีมาก การแยกปุ่มแบบ 1 ปุ่ม 1 ฟังก์ชั่นทำให้การใช้งานคล่องตัวมาก และด้วยการจัดวางปุ่มที่ลงตัว ทำให้ไม่สับสนในการใช้งาน ระบบที่ใช้งานบ่อยเรียกใช้ได้ง่าย สามารถคัสตอมการปรับตั้งได้เต็มที่ กริปของกล้องรุ่นนี้ออกแบบได้ดี จับถือได้ถนัดมือ และที่ชอบมากคือ การจับถือแนวตั้งเหมือนกับแนวนอนทุกอย่าง เพราะรูปทรงกริปเหมือนกัน ปุ่มปรับอยู่ตำแหน่งเดิม แป้นปรับโหมดออกแบบดี มีปุ่มล็อกที่กดเลือกว่าจะล็อกแป้นหรือไม่ล็อก ความนูน และ รูปทรงของปุ่มแต่ละปุ่มไม่เหมือนกัน หากใช้จนคุ้น แตะแล้วจะรู้ทันทีว่าเป็นปุ่มอะไร จอยสติ๊กที่มี 2 ตำแหน่ง ก็ทำให้การใช้งานคล่องตัวขึ้น เมื่อติดกล้องรุ่นนี้กับเลนส์ระดับโปร เช่น M. Zuiko Digital 7-14mm F2.8 Pro หรือ M.Zuiko Digital ED 40-150mm F2.8 Pro จะมีความสมดุลดีมาก ให้ความมั่นใจในการถือกล้องได้ดี โดยยังควบคุมการทำงานต่างๆ ของกล้องและเลนส์ได้สะดวก จอ LCD ที่พับออกด้านข้างทำให้การใช้ E-M1X สะดวก คล่องตัว โดยเฉพาะภาพมุมสูงหรือมุมตํ่า เมื่อใช้ร่วมกับการเลือกจุดโฟกัสด้วยการแตะหน้าจอ LCD จะทำให้ทำงานได้คล่องตัวมาก การเข้าเมนูของกล้องรุ่นนี้ดีกว่าเดิม ผมรู้สึกได้เลยว่า หาฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่ายกว่า เข้าถึงระบบที่ต้องการได้มากกว่า ระบบออโตโฟกัสคือจุดเด่นของ E-M1X เลยครับ ไม่ต้องพูดถึงระบบโฟกัสแบบทีละภาพ (AF-S) เพราะเร็วมากและแม่นยำมาก แต่สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ หรือกับกล้องมิเรอร์เลสในตลาดคือ ประสิทธิภาพของการโฟกัสต่อเนื่อง (AF-C) ด้วยการใช้ระบบเฟสดีเทคชั่น ที่ติดเซ็นเซอร์โฟกัสแบบ Cross Type ถึง 121 จุดทำให้การแทรคตามวัตถุทำได้ดีมาก การตอบสนองเยี่ยมยอด ผมลองถ่ายภาพนกนางนวลที่กำลังบินโดยใช้ระบบโฟกัส C-AF+TR พบว่ากล้องวิเคราะห์ซับเจกต์แล้วแสดงกรอบโฟกัสครอบตัวซับเจกต์แล้วแทรคตามได้รวดเร็ว แม่นยำน่าพอใจ ได้ภาพที่คมชัดง่ายๆ โดยไม่ต้องอาศัยทักษะใดๆ (ขอแค่เคลื่อนกล้องตามซับเจกต์ให้ทัน) และแม้จะมีนกตัวอื่นบินตัดหน้าอยู่ตลอด กล้องจะยังคงจดจำรูปทรงของซับเจกต์หลักได้ และโฟกัสยังคงเกาะติดอย่างเหนียวแน่น การถ่ายภาพมอเตอร์สปอร์ต จะใช้ระบบนี้ได้ดีมาก เพราะกล้องจะโฟกัสที่หมวกกันน็อคเป็นหลัก เมื่อตรวจจับรถได้

หน่วยประมวลผล 2 ชุด ทำให้กล้องมีความเร็วในการโฟกัสติดตามวัตถุดีเยี่ยม เมื่อลองเปลี่ยนมาเป็น C-AF (ไม่มี TR) การโฟกัสยังดีมาก ผมลองเลือกพื้นที่โฟกัสหลายๆ แบบ 5 จุดบ้าง , 9 จุดบ้าง, 121 จุดบ้าง พบว่าการโฟกัสติดตามวัตถุมีการตอบสนองดี แทรคได้ราบเรียบต่อเนื่อง และมันยังทำงานได้ดีแม้วัตถุจะมีคอนทราสต์ตํ่า รายละเอียดน้อย ซึ่งนี่คือจุดเด่นของการใช้เซ็นเซอร์แบบ Cross Type (ทุกจุดโฟกัส) ซึ่งหาได้ยากมากในกล้องมิเรอร์เลส การโฟกัสในสภาพแสงน้อยก็นับว่าทำได้ดี แต่จะดีมากกับเลนส์ไวแสง เช่น F2.8 , F1.8 หรือ F1.2

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO + MC14 ; 1/640 Sec f/7.1, MODE : M, ISO 200 ( ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง )

ในส่วนของคุณภาพ E-M1X ทำได้ดี คุณภาพไม่ได้แตกต่างจาก E-M1 Mark II ครับ ไฟล์มีความอิ่มสีสูง คอนทราสต์สูง ให้ภาพใสเคลียร์ รายละเอียดดีมาก เมื่อประกบกับเลนส์ดีๆ รหัส PRO ทั้งหลายคมชัดน่าพอใจ แม้ดูที่อัตราขยาย 100% บนจอมอนิเตอร์ รายละเอียดดีมากจนถึง ISO 800 และจะลดลงบ้างเมื่อใช้ความไวแสง ISO 1600 ขึ้นไป

เมื่อลองใช้โหมด Tripod High Res Shot พบว่าภาพยังมีคุณภาพดีมาก แม้ขนาดไฟล์จะใหญ่ขึ้นอย่างมาก ความละเอียดสูงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว คุณภาพยังดี ทำให้ได้ความละเอียดสูงเทียบเท่ากล้องฟลูเฟรม High Res แต่ที่ดีมากคือ โหมด Handheld High Res Shot ที่ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ออกแบบได้น่าทึ่ง ได้ไฟล์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มีคุณภาพดีได้ง่ายๆ

ระบบกันสั่นในกล้องรุ่นนี้ ต้องบอกว่าเป็นที่สุดแล้วครับ จะหาระบบกันสั่นรุ่นไหนที่สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ตํ่าได้ถึง 1 วินาที หรือ 2 วินาที โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง แต่ E-M1X ทำได้ เป็นระบบที่ช่วยให้ช่างภาพสามารถทำงานได้ในทุกสภาวะแสง และช่วยได้มากเมื่อใช้กับเลนส์เทเลโฟโต้ เทเลซูม ช่างภาพ Wildlife น่าจะได้ประโยชน์อย่างมากสำหรับการถ่ายแบบ Handheld (เพื่อความคล่องตัว)

ในส่วนของวิดีโอนั้น ยังทำได้ดี โดยเฉพาะระบบกันสั่นที่ทำงานได้ราวกับใช้ GIMBAL แม้โอลิมปัสจะไม่ได้เน้นวิดีโอมากนัก แต่ E-M1X ก็ใช้งานด้านวิดีโอได้อย่างดีเยี่ยม และให้ภาพวิดีโอที่รายละเอียดดีเยี่ยม สีสันสดใส ใช้งานสนุก

กล้อง OLYMPUS OM-D E-M1X เลนส์ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/2.8 PRO+MC14 ; 1/50 Sec f/22, Mode : M, ISO 100 (ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง)

ความเห็น แน่นอนครับว่า ราคาขาย 119,990 บาท อาจทำให้หลายคนสะดุดบ้าง แต่ต้องไม่ลืมว่า นี่คือกล้องระดับโปรที่ออกแบบมารองรับงานระดับโปรอย่างแท้จริง มันจึงต่างจาก E-M1 Mark II (ที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปของนักถ่ายภาพระดับสมัครเล่น และระดับจริงจัง) E-M1X เป็นกล้องที่เหมาะกับช่างภาพ Wildlife อย่างมาก มันจะลดภาระในการแบกอุปกรณ์ ทั้งกล้องขนาดใหญ่ เลนส์ขนาดยักษ์ และขาตั้งกล้อง ไปสู่กล้องและเลนส์เล็กๆ ที่ถือกล้องด้วยมือเปล่า ด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่าๆ ได้ มีระบบออโตโฟกัสที่ดีพอสำหรับทุกแอคชั่น E-M1X ยังเหมาะสำหรับช่างภาพกีฬา ที่ต้องการความคล่องตัวสูง แต่ทำงานได้ในระดับอาชีพ กับเลนส์ที่มีขนาดเล็ก เบา แต่คุณภาพสูงและใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ

OLYMPUS OM-D E-M1X เป็นกล้องที่น่าสนใจรุ่นหนึ่ง ถ้าความต้องการของคุณ คือ ขนาดที่ไม่ใหญ่เหมือนกล้องโปรทั่วไป มีความคล่องตัวสูง ประสิทธิภาพดีเยี่ยมทั้งความเร็วของการถ่ายภาพต่อเนื่องและความเร็วของระบบ AF

ขอบคุณ : บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับความอนุเคราะห์กล้องและเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.olympusimaging-th.com

เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)

ขอบคุณครับ

ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่
Line@ : @fotoinfo
YouTube : Fotoinfo Channel
Website : fotoinfomag.com
e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine


ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus


หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews