เลนส์เทเลโฟโต้ซูมสำหรับกล้องดิจิตอลฟูลเฟรม รวมทั้งสามารถนำมาใช้กับกล้องตัวคูณ หรือกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ตัวเลนส์โดดเด่นที่ขนาดรูรับแสงกว้างสุด F2.8 และมีระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว ซึ่งเอื้อประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ โดยไม่ใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้องเพื่อเก็บบรรยากาศแสงธรรมชาตินั่นเอง ตัวเลนส์ออกแบบได้สวยงามและมีความแข็งแรง พร้อมซีลตามรอยต่อต่างๆ ช่วยให้นำไปใช้งานในสภาพอากาศที่เลวร้ายได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2
- ออกแบบใช้งานได้ทั้งกล้องฟูลเฟรม และกล้องตัวคูณ
- รูรับแสงกว้างสุด F2.8 ตลอดช่วงซูม
- มีระบบป้องกันการสั่นไหว VC ในตัว
- ระบบโฟกัส Ultrasonic Silent Drive ตอบสนองการโฟกัสได้รวดเร็ว
- ใช้ระบโฟกัสแบบ Internal Focus และซูมเลนส์แบบ Internal Zoom
- ซีลตามรอยต่อป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า
- ออกแบบคอลล่าร์ให้ติดหัวขาตั้งกล้องแบบ Arca Swiss ได้อย่างสะดวก
- เคลือบผิวเลนส์แบบ eBAND, BBAR และ Fluorine Coatings
โครงสร้างและประสิทธิภาพ
เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ซูมอเนกประสงค์ และเป็นเลนส์ช่วงที่สองที่ช่างภาพมักจะเลือกมาใช้งานต่อจากเลนส์คิท หรือเลนส์ซูมมาตรฐาน ตัวเลนส์ออกแบบสำหรับกล้องฟูลเฟรม แต่ก็สามารถใช้งานกับกล้องที่ใช้ เซ็นเซอร์แบบตัวคูณ หรือเซ็นเซอรืขนาด APS-C ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ได้ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นเป็น 112-320 มม. เมื่อใช้งานกับกล้องที่มี crop factor 1.6 เท่า และ 105-300 มม. เมื่อใช้งานกับกล้องตัวคูณที่มี crop factor 1.5 เท่า
โครงสร้างของตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 23 ชิ้น จัดเป็น 17 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษ LD (Low dispersion) 5 ชิ้น และชิ้นเลนส์ XLD (Extra Low Dispersion) 1 ชิ้น ช่วยปรับแก้ไขความบิดเบือนต่างๆ ของเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและมีสัดส่วนตามจริงทั่วทั้งภาพและตลอดช่วงซูมด้วยเช่นกัน รวมทั้งให้คอนทราสต์ของภาพที่ดีเยี่ยม และลดอาการฟุ้ง หรือแฟลร์ในกระบอกเลนส์จากการเคลือบผิวเลนส์แบบ eBAND, BBAR และ Fluorine Coatings
เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 โดดเด่นด้วยระบบป้องกันการสั่นไหว VC หรือ Vibration Compensation ช่วยให้ถ่ายภาพโดยการถือกล้องถ่ายภาพด้วยมือในสภาพแสงน้อยๆ ได้คมชัดด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่าปกติ รวมทั้งการซูมเลนส์ไปที่ระยะเทเลที่สุด ช่วยให้สะดวกกับการใช้งานมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องทุกๆ ครั้ง หรือไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แฟลช รวมทั้งช่วยให้บันทึกสภาพแสงตามธรรมชาติในขณะนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 ตอบสนองการโฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำดีทีเดียว จากระบบโฟกัสแบบ Ultrasonic Silent Drive รวมทั้งมีการปรับโฟกัสที่เงียบเชียบอีกด้วย การปรับโฟกัสเป็นแบบ Internal Focus และการปรับซูมเป็นแบบ Internal Zoom ซึ่งเป็นการขยับเคลื่อนที่ของชิ้นเลนส์ในกระบอกเลนส์ ทำให้ขนาดของตัวเลนส์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ รวมทั้งหน้าเลนส์ไม่หมุนตามเมื่อปรับโฟกัสอีกด้วย ช่วยให้ใช้งานฟิลเตอร์ผลพิเศษต่างๆ อาทิ ฟิลเตอร์ C-PL หรือฟิลเตอร์ ND Graduate ได้ สะดวกโดยไม่ ต้องคอยปรับหมุนเอฟเฟคต์ของฟิลเตอร์ใหม่ทุกครั้งหลังการโฟกัส
ซ้าย : สวิทช์ปรับตั้งการทำงาน สะดวกกับการใช้งานทีเดียว
ขวา : ตัวเลนส์ออกแบบให้สามารถปรับโฟกัสได้ใกล้ถึง 0.95 เซ็นติเมตร สะดวกกับการถ่ายภาพแบบ Close Up เพื่อเน้นซับเจคต์ให้โดดเด่นขึ้น
ตัวกระบอกเลนส์ออกแบบได้สวยงาม และตามรอยต่อต่างๆ ยังได้รับการซีลป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า ช่วยให้ใช้งานในสภาพ อากาศที่เลวร้ายได้อย่างไร้กังวลอีกด้วย ด้านหน้าสุดของกระบอกเลนส์มีเขี้ยวสำหรับใส่ฮูดบังแสง ถัดเข้ามาเป็นวงแหวนซูมขนาดใหญ่พอสมควร หุ้มด้วยยางเซาะร่องให้จับได้ถนัดมือดี ถัดเข้ามาอีกเล็กน้อย เป็นวงแหวนโฟกัสหุ้มด้วยยางเซาะร่องให้จับปรับใช้งานได้อย่างสะดวกเช่นกัน ใกล้ๆ กันนั้นเป็นหน้าต่างแสดงระยะโฟกัส ปิดทับด้วยพลาสติกใสมองได้อย่างชัดเจน ข้างๆ กระบอกเลนส์มีสวิทช์ให้ปรับใช้งานระยะโฟกัส ซึ่งเลือกได้ทั้งแบบ Full ปรับโฟกัสได้เต็มช่วง ระหว่าง 0.95 เซ็นติเมตร ไปจนถึงระยะอินฟินิตี้ และระยะ 3 เมตร ถึงอินฟินิตี้ ในกรณีที่ถ่ายภาพจากระยะไกลตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไป เพื่อให้ตัวเลนส์ตอบสนองการปรับโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น
ซ้าย : ฐานติดกับขอตั้งกล้องของคอลลาร์ออแบบให้สามารถใช้งานกับหัวขาตั้งแบบ Arca Swiss ได้เลย
ขวา : เม้าท์เลนส์เป็นโลหะ ให้ความแข็งแรงในขณะใช้งาน พร้อมขอบยางป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า เมื่อติดเข้ากับตัวกล้อง
ถัดลงไปเป็นสวิทช์เลือกระบบโฟกัส AF/MF, สวิทช์เลือกระบบป้องกันการสั่นไหว และสวิทช์เลือกโหมดป้องกันการสั่นไหว ซึ่งมีให้เลือกใช้งานตามรูปแบบของการถ่ายภาพ 3 โหมดด้วยกัน นั่นคือโหมด 1 ใช้สำหรับถ่ายภาพปกติ หรือการถ่ายภาพที่ตัวกล้อง และเลนส์ไม่มีการเคลื่อนที่ โหมด 2 เป็นการใช้งานในกรณีที่เป็นการถ่ายภาพแบบแพนกล้อง และโหมด 3 เป็นการใช้งานในกรณีที่กล้อง และเลนส์มีการเคลื่อนที่ หรือถ่ายภาพจากยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ ซึ่งเลนส์จะปรับรูปแบบการตอบสนองการโฟกัสให้เหมาะสมกับ การเคลื่อนที่ และช่วยให้มองภาพจากวิวไฟน์เดอร์ได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง ด้านท้ายสุดเป็นเม้าท์เลนส์แบบโลหะ ให้ความแข็งแรงในการติดเข้ากับตัวกล้อง พร้อมขั้วไฟสำหรับเชื่อมต่อการทำงานกับกล้องด้วย รอบๆ แฟลนเม้าท์เลนส์หุ้มด้วยยางเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า เมื่อติดเลนส์เข้ากับตัวกล้อง
การใช้งาน
กล้อง Canon EOS 5D MK II เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 โหมด M ชัตเตอร์ 1/60 วินาที f/3.2, ISO 800, WB: Auto, ซูมเลนส์ 200 มม.
Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ซูมที่ถือได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานของช่วงเลนส์ที่ต่อจากเลนส์ซูมมาตรฐาน รวมทั้งเลนส์คิทได้เป็นอย่างดี เนื่องจากครอบคลุมระยะเลนส์ตั้งแต่เทเลโฟโต้ต้นๆ นั่นคือ 70 มม. ที่เหมาะกับการถ่ายภาพทั่วๆ ไป รวมทั้งภาพบุคคลไปจนถึงระยะเทเลปานกลาง 200 มม. สำหรับการถ่ายภาพในระยะไกล รวมทั้งถ่ายภาพที่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆ ซับเจคต์ได้
Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 ออกแบบให้ใช้งานสำหรับกล้องดิจิตอลฟูลเฟรม ซึ่งจะได้ทางยาวโฟกัสตามระยะจริงของเลนส์ แต่ก็สามารถใช้งานกับกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C หรือกล้องตัวคูณด้วย โดยรุ่นที่ผมได้มาลองใช้งานนี้ เป็นเม้าท์สำหรับกล้องแคนนอน ซึ่งถ้าหากนำมาใช้งานกับกล้องตัวคูณจะได้ทางยาวโฟกัสเที่ยบเท่าระยะ 112-320 มม. ซึ่งก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในระยะไกลมากขึ้น อย่างภาพสัตว์ในธรรมชาติ หรือภาพกีฬาในสนามแข่งขันที่ค่อนข้างกว้างนั่นเองครับ
ตัวเลนส์มีขนาดค่อนข้างอวบอ้วนอยู่พอสมควรจนอาจจะมองว่าตัวเลนส์ดูใหญ่ แต่ก็เหมาะสมกันดีกับขนาดรูรับแสงที่กว้างถึง f/2.8 และการออกแบบก็ช่วยให้จับถือสำหรับใช้งานค่อนข้างสะดวกดีทีเดียว ตัวเลนส์ออกแบบเป็น Internal Focus และ Internal Zoom ดังนั้นจึงไม่มีส่วนใดๆ ของตัวเลนส์ยื่นยาวออกมาในขณะใช้งาน มีความสมดุลระหว่างตัวเลนส์กับตัวกล้อง ซึ่งผมใช้งานกับกล้อง Canon EOS 5D MK II เมื่อติดเลนส์เข้ากับตัวกล้องแล้วดูลงตัวดีครับ
การปรับซูมเลนส์จากช่วง 70 มม. ไปที่ระยะ 200 มม. หมุนกระบอกซูมเพียงแค่ไม่ถึง 1/4 รอบ ทำให้ปรับได้รวดเร็วมาก และด้านหน้าเลนส์ไม่หมุนตามทั้งการปรับซูมเลนส์และการโฟกัส ดังนั้นจึงทำให้ผมใช้งานกับฟิลเตอร์ C-PL รวมทั้งฟิลเตอร์ ND Adjustable ที่จะต้องหมุนหน้าฟิลเตอร์ เพื่อให้ได้ผลของภาพที่ต้องการได้อย่างสะดวก และไม่ต้องคอยหมุนใหม่ทุกครั้งที่ปรับซูมหรือปรับโฟกัสครับ
การปรับเลือกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวเลนส์ ทั้งการปรับเลือกช่วงระยะโฟกัส, การเลือกใช้งานระบบโฟกัส, การเลือกเปิด หรือปิดระบบป้องกันการสั่นไหว และการเลือกใช้โหมดต่างๆ ของระบบป้องกันการสั่นไหว ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายๆ จากสวิทช์ที่วางเรียงกันเป็นแนวอยู่ข้างๆ กระบอกเลนส์ และสามารถใช้นิ้วโป้งมือซ้ายควบคุมการเลื่อนเปิด-ปิด ของสวิทช์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกครับ
ตัวเลนส์ให้ความคมชัด และถ่ายทอดสีสันได้ดีทีเดียว กล้อง Canon EOS 5D MK II เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 โหมด M ชัตเตอร์ 1/200 วินาที f/4.5, ISO 800, WB: Auto, ซูมเลนส์ 150 มม.
คุณภาพและความคมชัดนั้น ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมทีเดียว ภาพทีความคมชัดตั้งแต่กลางภาพไปจนถึงขอบภาพ ถึงแม้ว่าจะใช้ขนาดรูรับแสงกว้างสุด f/2.8 ก็ตาม และคมชัดทุกระยะซูมตั้งแต่ระยะ 70 มม. ไปจนถึงระยะ 200 มม. อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงที่ยอดเยี่ยม ของ รุ่น G2 เลยทีเดียว ส่วนที่รูรับแสงแคบสุดมีความควมชัดทั่วทั้งเฟรมภาพเช่นกัน และจะซอฟท์กว่าที่ขนาดรูรับแสงกว้างสุดอยู่เล็กน้อย เฉพาะขอบๆ ภาพเท่านั้น แต่โดยรวมก็ยังคงถือว่าภาพที่ได้มีความคมชัดและคุณภาพที่ดีเยี่ยมครับ
ส่วนอาการแฟลร์และฟุ้งในกระบอกเลนส์ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเคลือบผิวเลนส์ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงของ Tamron นั่นคือการเคลือบผิวเลนส์แบบ eBAND, BBAR และ Fluorine Coatings ที่ช่วยให้ตลอดทั้งการใช้งานอยู่กว่าหนึ่งอาทิตย์ ผมเองไม่มีปัญหากับอาการที่ว่านั้นเลย แม้บางครั้งจะถ่ายภาพในลักษณะย้อนแสงอยู่ด้วยก็ตามครับ นอกจากนี้ อาการ CA หรืออาการสีเหลื่อม ซึ่งก็ไม่มีให้เห็นจากการใช้งานเช่นเดียวกันครับ
ตัวเลนส์มีระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวแบบ VC ซึ่งมีประโยชน์มากกับเลนส์ที่มีช่วงทางยาวโฟกัสสูงๆ หรือเลนส์ช่วงเทเลโฟโต้ ซึ่งผมเองก็ได้ประโยชน์จากระบบนี้เป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ได้ตํ่ากว่าปกติ เมื่อต้องซูมเลนส์ที่ระยะไกลที่สุด 200 มม. รวมทั้งการถ่ายภาพในสภาพแสงที่ไม่ได้เอื้ออำนวยอยู่ตลอด หรือแสงน้อยกว่าปกติ เมื่อยามที่ต้องการเก็บบรรยากาศของแสงสีตามธรรมชาตินั่นเอง ซึ่งในสเปคระบุว่าชดเชยได้ถึง 5 สตอป ผมได้ลองที่เกือบๆ 3 สตอป ซูมเลนส์ 200 มม. ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที ก็ได้ภาพที่คมชัดดีทีเดียวครับ สำหรับรูปแบบของระบบ VC มีให้เลือกใช้งานได้ 3 โหมดคือ โหมด 1 สำหรับการถ่ายภาพแบบทั่วๆ ไป โหมดที่ 2 สำหรับการถ่ายภาพแบบแพนกล้อง และโหมดที่ 3 เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในขณะที่กล้องและเลนส์ไม่ได้อยู่นิ่งๆ หรืออยู่บนพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ ซึ่งจะมีการตอบสนองของระบบ VC ให้สัมพันธ์กันเป็นอย่างดีกับการเคลื่อนที่ของกล้องและเลนส์ครับ
ระยะโฟกัสใกล้สุด ช่วยเน้นซับเจคต์ให้โดดเด่นขึ้นได้เป็นอย่างดี และระบบป้องกันการสั่นไหว ยังช่วยให้ถือกล้องถ่ายภาพได้ที่ความเร็ว ชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติอีกด้วย กล้อง Canon EOS 5D MK II เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 โหมด M ชัตเตอร์ 1/30 วินาที f/2.8, ISO 1600, WB: Auto, ซูมเลนส์ 200 มม.
Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 มีฟีเจอร์ในการออกแบบชิ้นเลนส์อย่างหนึ่งที่ผมเองชื่นชอบ นั่นคือ ฟังก์ชั่น MOD หรือ Minimum Object Distance ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ใกล้ถึง 0.95 เซ็นติเมตร ซึ่งช่วยให้ผมถ่ายภาพแบบ Close Up ซับเจคต์ต่างๆ เพื่อเน้นความโดดเด่นของซับเจคต์นั้นๆ ให้หลุดออกจากฉากหลังได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งช่วยเน้นซับเจคต์ให้ดูโดดเด่นมากขึ้นนั่นเองครับ
อีกการออกแบบหนึ่งที่ผมชอบเช่นกันคือ ออกแบบคอลลารืให้สามารถติดเข้ากับหัวขาตั้งกล้องแบบ Arca Swiss ได้อย่างลงตัว โดยไม่ต้องกังวลกับการถอดเพลทเพื่อมาติดเข้ากับคอลลาร์ให้ยุ่งยากอีกด้วย บางครั้งผมเองใช้กล้องหลายตัว ก็ไม่ต้องเสียเวลากับการเปลี่ยนเพลทไปใช้กับเลนส์ตัวนั้นที ตัวนี้ทีอีกต่อไปสามารถใช้เพลทไปติดกับเลนส์หรือกล้องตัวอื่นได้เลยครับ
สรุปผลการใช้งาน
กล้อง Canon EOS 5D MK II เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 โหมด M ชัตเตอร์ 16 วินาที f/11, ISO 100, WB: Auto, ซูมเลนส์ 70 มม.
ผมได้ใช้งานเลนส์อยู่กว่าหนึ่งสัปดาห์ ค่อนข้างถูกใจและประทับใจหลายอย่างกับเลนส์ตัวนี้ โดยเฉพาะความคมชัดและคุณภาพที่ได้ ถือว่าแทมรอนทำออกมาได้ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ จากออกแบบชิ้นเลนส์พิเศษต่างๆ หรือการเคลือบผิวเลนส์อีกด้วย ตัวเลนส์ตอบสนองการใช้งานอย่างการถ่ายภาพบุคคล การถ่ายภาพดอกไม้ การถ่ายภาพกีฬา รวมไปถึงการถ่ายภาพวิวในระยะไกลได้เป็นอย่างดี ตอบสนองการโฟกัสได้รวดเร็ว แม่นยำ รวมทั้งระบบป้องกันการสั่นไหว ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น สำหรับบางกรณีที่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้ขาตั้งกล้องหรือการใช้แฟลช ซึ่งสำหรับผู้กำลังมองหาช่วงทางยาวโฟกัสในช่วงเทเลโฟโต้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ครอบคลุมต่อจาก ช่วงเลนส์คิทหรือเลนส์ซูมมาตรฐานที่มีอยู่แล้ว เลนส์ Tamron SP 70-200mm F2.8 Di VC USD G2 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว Highly Recommended ครับ
ขอบคุณ บริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด สำหรับความอนุเคราะห์ กล้องและเลนส์ที่ใจในการทดสอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.eastenterprise.net
เรื่อง / ภาพ : พีร วงษ์ปัญญา
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews