RICOH IMAGING เปิดตัวกล้อง Ricoh GR IV กล้องคอมแพคไฮเอนด์รุ่นล่าสุดในซีรีส์ GR ด้วยการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ผสานเข้ากันกับคุณภาพไฟล์ระดับยอดเยี่ยม, การตอบสนองที่รวดเร็ว โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพแบบสแนปชอต เหมาะกับผู้รักการถ่ายภาพทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงช่างภาพมืออาชีพ


เพื่อให้เป็นกล้องที่สมบูรณ์ตามปรัชญาของกล้องซีรีส์ GR ที่ต้องมีพร้อมทั้งในด้านคุณภาพของภาพถ่าย, การตอบสนองที่ฉับไว และการพกพาที่คล่องตัว – เลนส์, เซนเซอร์รับภาพ และระบบประมวลผล อันเป็นหัวใจหลักของกล้องรุ่นนี้จึงต้องได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่โดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมๆ ไปกับการปรับปรุงขนาดโดยรวมของตัวกล้องให้มีขนาดที่เล็กลง และใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ครบครัน RICOH GR IV รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน GR World ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับกล้องซีรีส์ GR ช่วยให้สามารถโอนไฟล์ภาพที่ต้องการ แล้วส่งต่อความประทับใจนั้นสู่โลกโซเชียลได้อย่างง่ายดาย

คุณสมบัติน่าสนใจ
- Newly designed, super-slim, high-performance GR lens ภายใต้ความบาง และความกะทัดรัดของกล้อง GR IV คือความทรงพลังของเลนส์มุมกว้างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด เลนส์ GR 18.3mm f/2.8 (เทียบเท่าเลนส์ 28mm ในกล้องแบบฟูลเฟรม) ออกแบบโดยประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น จัดเป็น 5 กลุ่ม รวมถึงชิ้นเลนส์พิเศษแบบ Glass-molded Aspherical เพื่อให้เป็นเลนส์คุณภาพเยี่ยมในทุกด้าน ทั้งในเรื่องความคมชัดแบบขอบจรดขอบ, ความคลาดต่ำ, ความบิดโค้ง (Distortion) ต่ำ และลดอาการ CA (Chromatic Aberration) ที่อาจเกิดขึ้น
- High-quality, high-resolution images ส่งต่อผลงานภาพถ่ายที่สวยงาม ผ่านเซนเซอร์รับภาพขนาด APS-C แบบ Back-illuminated CMOS รุ่นใหม่ในกล้อง GR IV ร่วมด้วยระบบประมวลผล GR ENGINE 7 ที่ได้รับการพัฒนามาควบคู่กัน จึงถ่ายทอดภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูง มีสีสันสวยงาม, สมจริง และยังสามารถจัดการสัญญาณรบกวน (Noise) ได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานในที่แสงน้อย และลงตัวกับความสามารถของเซนเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ที่สามารถเพิ่มค่าความไวแสง (ISO) ได้มากถึง 204800
- More advanced original SR mechanism ระบบป้องกันการสั่นไหว SR (Shake Reduction) ในกล้อง GR IV ได้รับการปรับปรุงให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยสามารถเคลื่อนไหวได้ถึง 5 แกน เพื่อประสิทธิภาพในการชดเชยการสั่นไหวในหลากหลายทิศทาง ทั้งก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา และการเอียง เหมาะการถ่ายภาพทุกรูปแบบ ทั้งในการถ่ายภาพทั่วไป, ในที่แสงน้อย และในการถ่ายภาพระยะใกล้ (Macro) โดยมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ 6 สตอป (ทดสอบภายใต้ 2024 CIPA standards : 6 สตอป ที่กลางภาพ และ 4 สตอป ที่ขอบภาพ)
- Advanced AF system with minimized start-up time and high-speed autofocus operation กลไกของเลนส์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ได้รับการปรับปรุงให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ส่งผลให้กล้องสามารถเปิดพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.6 วินาที และนี่คือกล้องที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่มีกล้องในซีรีส์ GR รวมถึงการสลับเปลี่ยนจากโหมดถ่ายภาพธรรมดาไปใช้งานระบบมาโครที่ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำขึ้นในทุกสภาพแสง ทุกรูปแบบการถ่ายภาพ ด้วยการทำงานที่ยอดเยี่ยมของเลนส์ ร่วมกับระบบโฟกัสแบบ phase-matching AF ที่ทรงพลัง
- Compact, slim and functional body design ในด้านการใช้งานจริงที่ต้องการความคล่องตัวสูงสุด การออกแบบให้ตัวกล้องโดยรวมมีขนาดที่เล็ก และใช้วัสดุคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงอย่างแมคนีเซียมอัลลอยย์ (Magnesium Alloy) ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ กล้อง GR IV ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงต้องรักษาการจับถือ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยมไว้ พร้อมการจัดวางปุ่มต่างๆ อย่างลงตัว สามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่ต้องการได้อย่างราบลื่น รวมถึงมีการปรับควบคุมที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในกล้องรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงปุ่ม ADJ (Adjustment) ให้เป็นแบบวงล้อที่สามารถปรับหมุนได้โดยรอบ เพิ่มความรวดเร็ว และต่อเนื่องในการปรับค่าต่างๆ ที่ต้องการ
- Quick setting of the desired exposure mode best suited for a given subject ในกล้อง GR IV มีการปรับปรุงการใช้งานในโหมดถ่ายภาพ P (Program AE) ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ชื่อว่า Program Auto Ex function ที่ช่วยให้ช่างภาพสามารถปรับค่าแสงตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วผ่านวงแหวนด้านหน้าสำหรับการเน้นการควบคุมแบบโหมด Av (Aperture-Priority AE) หรือการปรับวงแหวนด้านหลังเพื่อเน้นการควบคุมแบบโหมด Tv (Shutter-Priority AE) โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้นำเอาโหมดถ่ายภาพ Sn (Snap Distance-Priority AE) ขึ้นมาไว้บนแป้นหมุนเปลี่ยนโหมด เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้สะดวกมากขึ้น (เดิมในกล้อง GR III และ GR IIIx โหมดนี้จะอยู่ระบบเมนู) โดยโหมดนี้จะเน้นให้ช่างภาพควบคุมช่วงความชัดลึกที่ต้องการผ่านการเลือกระยะโฟกัส และช่วงความกว้างของ DOF (Depth-of-field) แล้วกล้องจะเลือกค่าการถ่ายภาพที่เหมาะสมให้
- New Cinema mode added to the Image Control function to expand the range of visual expressions โทนสีในฟังก์ชัน Image Control ของกล้อง GR IV มีให้เลือกใช้งานมากถึง 12 รูปแบบ รวมถึงโทนสีใหม่ 2 โทนสี คือ Cinema (Yellow) และ Cinema (Green) ที่ได้รับการปรับแต่งมากอย่างสวยงาม ให้โทนสี และอารมณ์คล้ายภาพยนตร์ที่ถ่ายภาพด้วยระบบฟิล์ม นอกจากนี้ยังสามารถแต่งแต่งเพิ่มเติมได้ผ่านค่าในพารามิเตอร์ (Parameters) ที่หลากหลาย รวมถึงการปรับ Grain Effect ที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถปรับแยกระหว่าง strength และ size ได้ เพื่อสร้างเกรนในภาพได้อย่างอิสระตามต้องการมากขึ้น โดย Grain Effect จะเป็นค่าพารามิเตอร์ที่มีให้เลือกในโทนสีแบบ Monotone, Soft Monotone, Hard Monotone, High-contrast B&W, Negative Film, Positive Film, Cinema (Yellow) และ Cinema (Green)
- Bluetooth® and wireless LAN dual communication กล้อง GR IV รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ Bluetooth® และ Wireless LAN (Wi-Fi) ผ่านแอปพลิเคชัน GR WORLD (ดาวน์โหลดฟรี ทั้งในระบบ iOS และแอนดรอยด์) สำหรับโอนถ่ายข้อมูลภาพที่ต้องการ, เชื่อมต่อข้อมูลตำแหน่งที่ถ่ายภาพ และสามารถใช้สมาร์ตโฟนเป็นรีโมตในการกดถ่ายภาพได้ด้วย
- High-definition LCD monitor with outstanding outdoor visibility กล้อง GR IV ใช้จอภาพขนาด 3 นิ้ว มีความละเอียดสูง 1,037,000 จุด พร้อมโครงสร้างแบบ Air Gapless ที่จะมีชั้นเรซินแบบพิเศษอยู่ระหว่างพาเนลของระบบสัมผัส และแผ่นกระจกที่มีความทนทานสูง ด้วยการออกแบบที่ไม่มีช่องว่างระหว่างชั้นแบบนี้ จึงช่วยให้การมองภาพ และใช้งานระบบเมนูผ่านจอสามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยฟังก์ชัน Outdoor Monitor Setting ที่สามารถปรับเพิ่ม และลดความสามารถของจอภาพได้ตามต้องการ ทั้งยังได้เพิ่มตัวเลือกแบบ Auto เข้ามา เพื่อความสะดวกในการใช้งานให้มากขึ้น 3.0-inch high-definition LCD



พร้อมกับการเปิดตัว GR IV ทาง RICOH ได้เปิดตัว Ricoh GF-2 ไฟแฟลช ขนาดเล็ก guide number 3 / ISO 100 เป็นแฟลชที่มีระบบการทำงาน Auto และ แมนนวล ไม่มีระบบ TTL มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ใช้งานโดยใส่กับ Hot shoe บนตัวกล้อง
RICOH GR IV พร้อมวางจำหน่ายกลางเดือนกันยายน ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1499



ที่มา : Ricoh Pentax Thailand, petapixel, dpreview
Leave feedback about this