ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนาหุ่นยนต์โคบอทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Universal Robots เปิดตัวนวัตกรรมอนาคตแห่งระบบอัตโนมัติในงาน Collaborate Thailand 2025
พร้อมโชว์ไฮไลต์ AI Accelerator และไลน์อัปโคบอทรุ่นใหม่ล่าสุด UR8 Long, UR15, UR7e และ UR12e

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568 – Universal Robots (UR) ผู้นำระดับโลกด้านหุ่นยนต์โคบอท จัดงาน Collaborate Thailand 2025 อย่างยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตของประเทศไทยในด้านระบบอัตโนมัติแบบโคบอท ภายในงานมีการจัดแสดงหุ่นยนต์โคบอทกว่า 15 units บนพื้นที่จัดแสดง ทำให้ Collaborate Thailand ก้าวขึ้นเป็นงานสัมมนาโคบอทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ทั้งผู้บริหารระดับตัดสินใจ ผู้นำอุตสาหกรรม และพันธมิตรในระบบนิเวศของ UR มารวมตัวกันเพื่อสัมผัสโซลูชันฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และ AI ล้ำสมัยที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมในอนาคต
ภายใต้ธีม “Collaborative Automation: The Future of Industry” ของงานในปีนี้ UR ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่หลายรายการ ได้แก่ โคบอทรุ่น UR8 Long ซึ่งได้เปิดตัวในระดับโลกไปในเดือนที่ผ่านมา และโคบอทรุ่น UR15 ที่มอบประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวเหนือระดับ พร้อมความเร็วสูงสุดที่จุดศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต่อเพิ่ม (tool center point: TCP) ได้สูงสุดถึง 5 เมตรต่อวินาที

Poi Toong Tang รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท Teradyne Robotics กล่าวว่า “ระบบอัตโนมัติไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ผลิตที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน แรงกดดันด้านต้นทุน และความต้องการด้านการผลิตที่ซับซ้อน ปัจจุบันบทสนทนาได้เปลี่ยนจากคำถามว่า ‘ทำไมต้องทำ’ มาเป็น ‘จะทำได้เร็วแค่ไหน’ ซึ่ง Teradyne Robotics กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงกายภาพ (Physical AI) และระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นจากแนวคิดมาสู่การใช้งานจริง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและสมรรถนะของภาคการผลิตทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรม”
ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังเผชิญกับความต้องการด้านระบบอัตโนมัติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Colin Soh ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย บริษัท Teradyne Robotics เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของไทย เขากล่าวว่า “ประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านระบบอัตโนมัติ ผ่านการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากภาครัฐ บุคลากรที่มีทักษะ และฐานการผลิตที่มั่นคง ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะทำให้ระบบอัตโนมัติขั้นสูงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยหุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่ล่าสุด ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ และรุ่นที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาด เช่น UR7e และ UR12e เพื่อสนับสนุนการเดินหน้าสู่เป้าหมายอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพ”

AI Accelerator และโคบอทรุ่นใหม่ ดึงดูดทุกสายตาในงาน
AI Accelerator ของ UR ออกแบบมาเพื่อมอบความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์และการปรับตัวอย่างชาญฉลาดให้กับระบบอัตโนมัติ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงาน โดย AI Accelerator ของ UR ทำงานบนระบบโมดูล NVIDIA Jetson AGX Orin และขับเคลื่อนด้วยชุดเครื่องมือเร่งความเร็วด้วย CUDA ของ NVIDIA Isaac และโมเดล AI ทำให้สามารถมอบแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นให้กับนักพัฒนาในการสร้างและทดสอบแอปพลิเคชัน ลดระยะเวลาการออกสู่ตลาด และช่วยแก้ปัญหาที่เคยเป็นไปไม่ได้ในวงการหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน อีกทั้งแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI ได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมการใช้งาน เช่น การตรวจจับวัตถุด้วย AI (AI Object Detection), การวางแผนเส้นทางอัจฉริยะ (Smart Path Planning), การตรวจหาความบกพร่องด้วย AI (AI Defect Detection) และ การปรับพื้นที่ทำงานให้แม่นยำ(Workspace Calibration)
นอกจากฮาร์ดแวร์ล้ำสมัยแล้ว UR ยังได้สาธิตซอฟต์แวร์และบริการล่าสุด ซึ่งรวมถึง PolyScope X ที่มาพร้อมฟีเจอร์นวัตกรรมอย่าง Motion+, OptiMove, Teach Mode และ UR Studio รวมถึง URCare บริการระดับโลกเฉพาะของบริษัทที่สนับสนุนธุรกิจทั่วโลก ทั้งนี้ URCare ถือเป็นบริการที่โดดเด่นและไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นของ UR ที่มีต่อความสำเร็จระยะยาวของลูกค้า

โชว์ศักยภาพผ่านการใช้งานจริง
ยิ่งไปกว่านั้น Collaborate Thailand 2025 ในปีนี้ ยังมีการสาธิตนวัตกรรมหุ่นยนต์โคบอท พร้อมกับพันธมิตร UR+ ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การประยุกต์ใช้จริงในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น การบรรจุภัณฑ์ การประกอบ การเชื่อม การตรวจสอบคุณภาพ และอื่น ๆ การสาธิตเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ระบบนิเวศระดับโลกของ UR ช่วยสร้างประสบการณ์ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร ทำให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพงานได้อย่างเต็มความสามารถยิ่งขึ้น
จากนวัตกรรมเหล่านี้ ลูกค้าของ UR ได้นำหุ่นยนต์โคบอทไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาจริงในสายการผลิต ตัวอย่างเช่น บริษัท Toyoda Gosei (Thailand) ได้นำแนวคิดงานกลไกแบบญี่ปุ่น “คาราคุริ (Karakuri)” มาผสานกับหุ่นยนต์โคบอทของ UR เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เคอิโงะ คิมูระ รองประธาน บริษัท Toyoda Gosei (Thailand) กล่าวว่า “เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสายการผลิต เราได้นำแนวคิดงานกลไกแบบญี่ปุ่น คาราคุริ (Karakuri) มาผสานกับหุ่นยนต์โคบอทของ UR เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดภาระงานทางกายให้กับพนักงานของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาวิศวกรรุ่นใหม่ด้านระบบอัตโนมัติอีกด้วย เรามุ่งหวังที่จะขยายโมเดลความร่วมมือระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้ไปสู่โรงงานของเราในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการผลิตอัจฉริยะของ Toyoda Gosei ต่อไป”
UR ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน พร้อมสนับสนุนการก้าวสู่ อุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ผลิตทั่วโลกต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.universal-robots.com
เว็บไซต์งาน: Collaborate Thailand 2025
Leave feedback about this