ในช่วงปลายฤดูร้อน ย่างเข้าฤดูฝน ฟ้าฉ่ำ สายฝนเริ่มสาด ถือเป็นช่วงทองของช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาโคร เพราะจะมีซับเจคเด่นๆ ออกมาให้เป็นกันมากมาย เช่น เห็ดถ้วยแชมเปญ เห็ดขน รวมไปถึงแมลงต่างๆ อีกด้วย
อุปกรณ์ที่สำคัญที่จะช่วยให้การถ่ายภาพมาโครแบบนี้ สะดวกและง่ายขึ้น นั่นคือขาตั้งกล้อง ซึ่งก็มีให้เลือกใช้งานกันมากมายหลายแบบ แต่สำหรับขาตั้งกล้องและหัวขาตั้งกล้องสำหรับสายมาโคร จะมีลักษณะพิเศษโดดเด่นต่างจากขาตั้งกล้องแบบปกติ จะมีอะไรพิเศษบ้างนั้น ไปดูกันครับ
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710663866759-1024x708.jpg)
พูดถึงเรื่องขาตั้งกล้องแล้ว หลายๆ ท่านที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ น่าจะมีขาตั้งกล้องเกิน 1 อัน อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะเป็นขาตั้งกล้องสำหรับใช้งานทั่วๆ ไป แต่มีขนาดที่แตกต่างกัน อาทิ ขาตั้งขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 130 ซม. พับเก็บได้สั้นประมาณ 30 ซม. สำหรับการพกพาติดตัว เวลาเดินทางท่องเที่ยว ที่ไม่ใช่ทริปถ่ายภาพ, ขาตั้งขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 140-150 ซม. สำหรับใช้งานทุกรูปแบบ และขาตั้งขนาดใหญ่ สำหรับเลนส์ประเภท Super Telephoto เป็นต้น
ยังมีขาตั้งกล้องอีกประเภทหนึ่ง ที่ออกแบบสำหรับการถ่ายภาพมาโคร ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นการทำงาน รวมทั้งส่วนเสริม อย่างหัวขาตั้ง หรือเพลทสำหรับติดกับกล้อง ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพมาโครสะดวกขึ้นอีกมากทีเดียว และสะดวกกว่าขาตั้งกล้องทั่วๆ ไปนั่นเอง มาดูกันว่า ขาตั้งกล้องสำหรับงานมาโคร มีความโดดเด่นอย่างไรบ้าง
ขาตั้ง Multi-Function
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664023398-1024x1024.jpg)
เป็นขาแบบที่สามารถถอดแกนกลางออกมาใช้งานในแนวระนาบได้ ซึ่งจะช่วยให้ยื่นกล้องเข้าไปใกล้กับซับเจกต์ได้มากขึ้น และไม่ต้องมีส่วนของขาตั้งเข้ามาบังแสงอีกด้วย
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664025380-1024x683.jpg)
ขาตั้งกล้องแบบ Multi Function จะช่วยให้ยื่นกล้องเข้าหาซับเจคได้ โดยไม่ต้องตั้งกล้องให้ติดหรือชิดจนเกินไป เพราะซับเจคของเราอาจจะกระโดดหนีไปได้
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664027383-1024x683.jpg)
บางครั้งก็ไม่สามารถตั้งกล้องติดๆ กับซับเจคได้ จึงต้องใช้แกนกลางในการยื่นกล้องให้เข้าใกล้ซับเจคให้มากขึ้น
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664029218-1024x683.jpg)
ก้านเกสรดอกที่บอบบาง พร้อมที่จะหลุดได้ทุกเมื่อ ถ้าหากกระทบจากการกางขาตั้งกล้องติดๆ กับต้น ดังนั้นจึงจึงตั้งกล้องให้ห่างเล็กน้อย แล้วใช้แกนกลางยื่นกล้องเข้าไปให้ใกล้แทน
กางราบได้ต่ำ
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664031022-1024x1024.jpg)
เป็นส่วนที่สำคัญมากทีเดียว เพราะซับเจคบางอย่าง เช่น เห็ดขน หรือเห็ดถ้วยแชมเปญ ก็มักจะอยู่ติดๆ กับพื้น ซึ่งจะต้องลดกล้องลงต่ำติดพื้น ซึ่งถ้าหากว่าขาตั้งกล้อง ปรับระดับได้ไม่ต่ำมาก จึงต้องถ่ายภาพในมุมกด จะทำให้ซับเจคนั้นๆ ไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664032768-1024x655.jpg)
ส่วนมากแล้ว เห็ดมักจะขึ้นอยู่กับพื้นดิน ขาตั้งกล้องที่กางราบได้ต่ำ จะช่วยให้ถ่ายภาพในแนวระนาบได้เป็นอย่างดี ทำให้เห็ดขนาดเล็ก โดดเด่นจากฉากหลังที่เบลอ ส่วนขาตั้งกล้องที่กางราบไม่ได้ จะต้องถ่ายภาพมามุมกดลง ซึ่งเห็ดก็จะไม่โดดเด่นมากนัก เพราะอยู่ติดๆ กับพื้นที่เป็นฉากหลังนั่นเอง
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664034686-1024x682.jpg)
มุมแบบนี้ จะต้องตั้งกล้องในมุมต่ำติดพื้น ขาตั้งกล้องที่กางราบได้ จะสะดวกกับการใช้งานมากที่สุด
หัวขาตั้งแบบปรับละเอียด (Gear Head)
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664036670-1024x1024.jpg)
หัวขาตั้งกล้อง มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งแบบ 3 ทาง แบบหัวบอล ที่เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากกว่าหัวบอลแบบเดิมๆ หรือหัวขาตั้งแบบ Gear Head ที่ออกแบบคล้ายๆ กับหัวแบบ 3 ทาง แต่มีก้านปรับสั้นๆ และมีเฟืองสำหรับปรับเปลี่ยนมุมมองของกล้องได้อย่างละเอียด โดยไม่จำเป็นต้องคลายล็อค แล้วหมุนปรับทั้งหมด แต่ถ้าจะปรับใช้งานแบบหัว 3 ทางปกติ ก็ได้เช่นกัน
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664038422-1024x683.jpg)
หัวแบบ Gear Head จะช่วยให้ปรับมุมกล้องได้อย่างละเอียดทีละคลิก และควบคุมได้ง่ายกว่าการปลดล็อกทั้งหมด
เพลทแบบสไลด์เลื่อน
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664040309-1024x1024.jpg)
เพลทขาตั้งแบบปกติ จะมีขนาดสั้น ทำให้การขยับเข้าใกล้ซับเจค จะต้องยกทั้งขาตั้งกล้อง ซึ่งนั่นหมายถึง จะต้องมาจัดองค์ประกอบใหม่ทั้งหมดอีกด้วย หรือบางรูปแบบมีความยาวพอสมควร และมีสเกลให้ดูได้ แต่การปรับจะต้องคลายล็อก แล้วดันเพลทให้เลื่อนไปตามที่ต้องการ ซึ่งก็สะดวกในระดับหนึ่ง
แต่สำหรับเพลทสำหรับถ่ายภาพมาโครนั้น จะเป็นเพลทที่ออกแบบให้มีก้านหมุน สำหรับเลื่อนเพลทด้วยเกลียวเฟือง ที่สามารถปรับได้ละเอียดมาก ช่วยให้ปรับระยะใกล้-ไกลซับเจค โดยไม่ต้องขยับขาตั้งกล้องใหม่ ประโยชน์ของเพลทแบบนี้คือ สามารถปรับได้นิ่งและได้ระยะตามที่ต้องการง่ายๆ นั่นเอง
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664042124-1024x574.jpg)
เพลทสไลด์ จะช่วยให้ขยับเข้าใกล้ หรือถอยห่างจากซับเจคได้สะดวก โดยไม่ต้องปลดล็อกหัวขาตั้ง หรือขยับขาตั้งกล้องใหม่
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664043892-1024x683.jpg)
นอกจากจะขยับเพื่อหาระยะโฟกัสแล้ว ยังสามารถขยับ เปลี่ยนจุดโฟกัส เพื่อให้คุมระยะชัดลึกได้ตามที่ต้องการอีกด้วย
![](https://fotoinfo.online/wp-content/uploads/2024/03/FB_IMG_1710664045641-1024x764.jpg)
เลนส์มาโครและท่อต่อที่เพิ่มกำลังขยายมากกว่า 1:1 การขยับเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้จุดโฟกัสเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว เพลทแบบสไลด์ จะช่วยให้ปรับโฟกัสได้ง่ายขึ้น
Leave feedback about this