MIRROR LENS เล็ก เบา เอฟเดียว โบเก้โดนัท
นี่คือเลนส์ที่คนถ่ายภาพหลายคนรู้จักแต่ไม่เคยใช้ เลนส์ที่หลายคนไม่เคยใช้และไม่รู้จัก เลนส์ที่หลายคนรู้จักแต่ไม่คิดจะใช้ และนี่อาจจะเป็นเลนส์ที่หลายคนหลงรักจนต้องยอมจ่ายกว่าครึ่งแสนสำหรับเลนส์มือสองตัวจิ๋ว
มันคือ MIRROR LENS หรือที่เราเรียกกันว่า REFLEX LENS แม้จะเป็นเลนส์ที่ค่ายกล้องไม่สนใจ แต่เลนส์รีเฟล็กซ์เป็นเลนส์ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งอาจจะตรงกับความชอบของคุณได้ มีอะไรน่ารู้เกี่ยวกับเลนส์ชนิดนี้ ..ไปดูกัน
1. ชื่อเรียกหลากหลายที่สุด
เลนส์รีเฟล็กซ์ที่เรารู้จักกันนั้น จริงๆ แล้วชื่อเรียกที่ใช้กันอย่างเป็นทางการ คือ Mirror Lens (เลนส์กระจกเงา) เพราะเป็นเลนส์ถ่ายภาพชนิดเดียวที่ใช้กระจกเงาในโครงสร้างระบบออพติคของเลนส์ อีกชื่อที่ใช้กันค่อนข้างมากคือ Reflex Lens (เพราะอาศัยหลักการสะท้อนกลับไปมาของแสงด้วยกระจกเงา) ส่วนอีกชื่อที่ไม่ค่อยมีใครใช้แล้วคือ Catadioptric Lens (คำผสมของ Catoptrics กระจกเงาโค้ง กับ Dioptrics) ซึ่งเป็นระบบออพติคที่ผสมกันระหว่างชิ้นเลนส์แก้วกับกระจกเงา
เลนส์ชนิดนี้ผลิตออกมานานมากแล้วโดยใช้กันในแวดวงดาราศาสตร์ เป็นกล้องดูดาว แต่ต่อมาได้ผลิตออกมาให้มีขนาดเล็กลงเพื่อใช้กับการถ่ายภาพนิ่ง เป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในช่วง 30-40 ปีที่แล้ว แต่ความนิยมลดลงเพราะใช้งานยาก ปรับโฟกัสยาก ปรับเอฟไม่ได้ คุณภาพแค่พอใช้ และแทบทั้งหมดต้องโฟกัสด้วยมือหมุน
2. ใช้กระจกเงาเพื่ออะไร
Mirror Lens จะใช้กระจกเงา 2 ชิ้นในการสะท้อนแสง โดยกระจกเงาชิ้นแรกจะติดกับชิ้นเลนส์ด้านหน้าสุด ด้านที่เป็นกระจกเงาจะอยู่ด้านใน ส่วนกระจกเงาชิ้นที่สองจะมีขนาดใหญ่ วางอยู่ส่วนท้ายของกระบอกเลนส์ ผิวกระจกเป็นทรงโค้งเพื่อรวมแสงสะท้อนกลับไปยังกระจกเงาชิ้นแรก จากนั้นแสงจะสะท้อนจากกระจกเงาชิ้นแรกผ่านชุดเลนส์ออกไปยังฟิล์มหรือเซ็นเซอร์รับภาพ
ปกติแล้วเลนส์ทางยาวโฟกัส 500 มม. ทั่วๆ ไปจะต้องใช้กระบอกเลนส์ที่ยาวประมาณ 45-60 ซม. แต่ด้วยการพับแสงเป็นสามชั้นของเลนส์รีเฟล็กซ์ทำให้สามารถออกแบบให้เลนส์สั้นลงได้ถึง 2-3 เท่า เลนส์รีเฟล็กซ์ 500 มม. จะมีกระบอกเลนส์ยาวเพียง 15-20 ซม. เท่านั้น จึงเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
3. ทำไมมีเอฟเดียว
เลนส์รีเฟล็กซ์ทุกรุ่นไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ทั้งนี้เป็นผลจากการใช้กระจกเงาชิ้นหน้าที่ขวางทางเดินแสง แสงจะผ่านได้เฉพาะส่วนของชิ้นเลนส์ที่อยู่รอบๆ กระจกเงาชิ้นหน้า เมื่อแสงสะท้อนจากกระจกเงาไปที่ชุดเลนส์ท้ายจึงไม่สามารถควบคุมแสงด้วยไดอะแฟรมได้ หากต้องการลดความเข้มแสงจะต้องใช้ฟิลเตอร์ ND ซึ่งเลนส์รีเฟล็กซ์หลายรุ่นออกแบบให้สามารถใส่ฟิลเตอร์ที่ด้านท้ายเลนส์ได้
ความสว่างของเลนส์รีเฟล็กซ์ไม่สูงมาก เช่น เลนส์ทางยาวโฟกัส 250-400 มม. มักจะเป็น f/5.6 หรือ f/6.3 ส่วนเลนส์ 500-600 มม. มักจะเป็น f/8 ส่วนเลนส์ตั้งแต่ 800 มม. มักจะเป็น f/11 แต่ก็มีเลนส์รีเฟล็กซ์บางรุ่นที่ออกแบบได้สว่างมาก เช่น Vivitar Series 1 450mm f/4.5 เป็นต้น แต่ก็ใหญ่และหนักจนทำให้ขายไม่ได้
4.เอาไว้ใช้งานอะไร
เลนส์รีเฟล็กซ์ก็คือเลนส์เทเลโฟโต้ชนิดหนึ่ง ประโยชน์ในการใช้งานจึงไม่ต่างจากเลนส์เทเลโฟโต้ทั่วไป คือใช้ถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ในระยะไกล แต่ด้วยรูรับแสงที่ไม่กว้าง การโฟกัสที่ต้องปรับด้วยมือ(ปรับหาจุดชัดยากกว่าเลนส์เทเลโฟโต้ทั่วไปมาก) จึงไม่เหมาะกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ภาพกีฬา ภาพนกบิน ภาพในสภาพแสงน้อย แต่มันเหมาะกับการถ่ายภาพสัตว์ที่อยู่นิ่งๆ ภาพนกเกาะบนกิ่งไม้ ภาพทิวทัศน์ดวงอาทิตย์ตก หรือภาพบุคคลที่ต้องการเอฟเฟคของโบเก้รูปโดนัท
** มีเลนส์รีเฟล็กซ์เพียงสองรุ่นเท่านั้นที่ทำงานในระบบ AF ได้ คือ MINOLTA AF 500mm F8 Reflex และ SONY AF 500mm F8 Reflex (ยกเอาโครงสร้างและการออกแบบมาจาก MINOLTA)
5. โบเก้คือจุดขาย
ในยุคนี้ช่างภาพที่ซื้อเลนส์รีเฟล็กซ์มาใช้ไม่ใช่เพราะขนาดที่เล็ก กะทัดรัด ไม่ใช้น้ำหนักที่เบา แต่เป็นเพราะต้องการโบเก้รูปโดนัทที่ได้จากเลนส์ชนิดนี้ มันสามารถสร้างฉากหลังที่แปลกตาด้วยวงโดนัทที่ดูเหมือนจะลายตา รบกวนสายตา แต่ไม่ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่างภาพหลายคนยอมจ่ายเงินครึ่งแสนเพื่อซื้อเลนส์รีเฟล็กซ์ขนาดจิ๋ว มือสอง อายุกว่า 40 ปี (เงินขนาดนี้ซื้อเลนส์เทเลโฟโต้หรือเทเลซูมดีๆ สว่างกว่าได้สบาย)
ความชัดลึกที่น้อยมากทำให้เลนส์รีเฟล็กซ์สามารถสร้างวงแหวนโดนัทได้ง่ายๆ ขอเพียงฉากหลังหรือฉากหน้ามีจุดสว่าง เช่น แสงที่ลอดพุ่มไม้ แสงอาทิตย์ระยิบระยับที่สะท้อนบนผิวน้ำ
6. อย่าคาดหวังกับคุณภาพ
หากจะซื้อเลนส์รีเฟล็กซ์มาใช้ ไม่ควรคาดหวังกับคุณภาพมากนัก ด้วยรูปแบบระบบออพติคที่อาศัยการสะท้อนกลับไปมาของแสงกับโครงสร้างออพติคที่ไม่มีการพัฒนามากว่า 40 ปี ไม่มีการใช้ชิ้นเลนส์พิเศษ ไม่มีการเคลือบผิวที่ดีนัก ดังนั้นความคมชัดที่ได้จากเลนส์รีเฟล็กซ์จึงเป็นรองเลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่ๆ อย่างชัดเจน หรือแม้จะเทียบกับเลนส์เทเลซูมระดับกลางๆ ก็ยังเป็นรอง ความคมชัดของมันทำได้พอๆ กับเลนส์เทเลซูมรุ่นประหยัด ส่วนเรื่องแสงฟุ้งก็เป็นอีกสิ่งที่มักจะเป็นจุดด้อยของเลนส์รีเฟล็กซ์หลายรุ่น การถ่ายย้อนแสงแรงๆ จะทำให้คอนทราสต์และสีสันดรอปลงบ้าง
7. ข้อจำกัดในการใช้งาน
เลนส์รีเฟล็กซ์มีข้อจำกัดในการใช้งานหลายอย่าง คือ ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็วคล่องตัว เพราะการโฟกัสต้องทำอย่างประณีตมาก หากเป็นกล้อง Mirrorless ควรใช้วิธีขยายจุดโฟกัสแล้วจึงปรับ การใช้ระบบ Peaking Focus มีโอกาสโฟกัสหลุดได้ง่าย ต้องโฟกัสย้ำตำแหน่งชัดให้ชัวร์ก่อนลั่นชัตเตอร์ทุกภาพ เรื่องที่สองคือ แม้จะเล็กและเบาก็ควรใช้ขาตั้งกล้องเพราะหากความเร็วชัตเตอร์ไม่สูงพอ คือไม่ถึงตามกฏ 1/ทางยาวโฟกัส โอกาสที่ภาพจะเบลอก็เป็นไปได้มาก เช่น ถ้าใช้เลนส์ 500 มม. ก็ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/500 วินาทีขึ้นไป (แต่ในการใช้งานจริง แสงที่จะแรงขนาดนั้นหายาก จึงมักต้องดัน ISO เสมอ) ถ้ากล้องมีระบบกันสั่นในตัวจะช่วยได้มาก ไม่ใช่แค่เรื่องภาพชัดหรือเบลอ แต่จะช่วยให้การโฟกัสง่ายขึ้นเมื่อถือกล้องด้วยมือ
8. ของใหม่ยังมีขายอยู่มั๊ย
เลนส์รีเฟล็กซ์ของใหม่ยังมีขายอยู่หลายรุ่นซึ่งมักจะเป็นจากผู้ผลิตเลนส์อิสระ เช่น TOKINA SZX 400mm F8 Reflex MF , Kenko Mirror 400mm F8 N II (ออพติคเดียวกับ Tokina ต่างกันแค่ภายนอก) , Samyang 300mm F6.3 ED UMC CS , Sony AF 500mm F8 Reflex (ยังพอหาซื้อได้ เป็น A Mount ) นอกจากนั้นจะเป็นแบรนด์จีน แต่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก เช่น JINTU 900mm F8 (ขนาดเล็กจนไม่น่าจะเป็น 900mm F8 ราคาแค่ประมาณ 4000 บาท)
* อัพเดทข้อมูลของเลนส์รีเฟล็กซ์ ระยะสองสามปีหลังนี้มีเลนส์รีเฟล็กซ์รุ่นใหม่ๆที่เป็นของใหม่ มือ 1 ออกมาให้เลือกใช้กันหลายแบนด์ เช่น Tokina มีออกมาหลายทางยาวโฟกัสให้เลือก, NiSI, Kase Optics
9. มือสองตัวไหนน่าสน
เลนส์รีเฟล็กซ์ที่โด่งดังที่สุด เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือ MINOLTA 250mm F5.6 ราคาของมันเคยเริ่มตั้งแต่สองหมื่นกว่าบาท แต่ด้วยความหายาก ขนาดที่เล็กมากใกล้เคียงกับเลนส์ Kit โบเก้โดนัทที่โดดเด่น ทำให้ราคาขายทะลุครึ่งแสนไปแล้วสำหรับเลนส์สภาพดี หากสู้ราคาไม่ไหวเราแนะนำ Nikon AIS 500mm F8 Reflex เลนส์แมนนวลหน้าตาสวยงาม ภาพดี โฟกัสใกล้ 1.5 เมตร ยังหาได้ไม่ยากในตลาดมือสอง ราคา 15,000-25,000 บาท อีกรุ่นคือ TAMRON SP 500mm F8 Reflex เลนส์ในซีรีส์โปรของแทมรอน คุณภาพดี ออกแบบดี แต่ต้องระวังเรื่องฝ้า ดูให้ดีก่อนซื้อ ราคา 4,000-8,000 บาท และตัวสุดท้ายที่แนะนำคือ MINOLTA AF 500mm F8 Reflex เลนส์ตัวนี้เป็นระบบออโตโฟกัส A Mount หากจะนำมาใช้กับกล้อง Mirrorless ของโซนี่ต้องผ่านอแดปเตอร์ LA-EA4 จึงจะใช้ระบบ AF ได้ การใช้งานดีมากครับ คุณภาพดี ราคามือสอง 8,000-14,000 บาท (ปัจจุบันราคาน่าจะไปมากกว่านี้ครับ)
10. เลนส์รีเฟล็กซ์ในตำนาน
ในตลาดเลนส์ถ่ายภาพ มีเลนส์รีเฟล็กซ์ที่ผลิตออกมาไม่น้อยกว่า 30 รุ่น แต่ที่โดดเด่นในยุค 30-40 ปีก่อนขอยกให้ตัวนี้ครับ มันเป็นเลนส์จากผู้ผลิตอิสระที่โด่งดังมากในยุคนั้นคือ Vivitar กับเลนส์รุ่น Series 1 450mm F4.5 Reflex เลนส์ที่สว่างเหลือเชื่อ(สำหรับเลนส์รีเฟล็ก) ขนาดใหญ่โต น่าใช้แต่หายากมากในปัจจุบัน อีกรุ่นคือเลนส์รีเฟล็กซ์ขนาดยักษ์ของนิคอน Reflex Nikkor 2000mm F11 เลนส์รีเฟล็กซ์สำหรับการถ่ายภาพนิ่งที่หายากและโคตรแพง ราคาที่ขายกันใน Ebay อยู่ที่ระดับหนึ่งล้านบาท!!สำหรับเลนส์สภาพดี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านหน้า 254 มม. น้ำหนัก 17.5 กก.
Leave feedback about this