Photo Techniques Photography

5 เคล็ดลับปรับโฟกัสให้คมสุด

การโฟกัสภาพถ่ายให้คมชัด เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดของช่างภาพมือใหม่ เคล็ดลับห้าวิธีการโฟกัสภาพให้คมชัดนี้ สามารถนำไปใช้ได้กับกล้องดีเอสแอลอาร์ มิลเลอร์เลส หรือกล้องชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ทุกแบรนด์

การโฟกัสภาพให้ได้ภาพที่คมชัด มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งการเลือกระบบโฟกัสที่เหมาะสม การเลือกจุดโฟกัส การปรับตั้งค่ากล้อง การจับถือและอื่นๆ

1. เลือกใช้จำนวนจุดโฟกัสสูงสุดของกล้อง

     กล้องดิจิตอลทุกรุ่น จะมาพร้อมคุณสมบัติจุดโฟกัสจำนวนมากที่แตกต่างกันไปตามรุ่น ระดับ และประเภทของกล้อง หลักการทำงานคือการล็อคโฟกัสเพื่อถ่ายภาพ โดยการกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งทาง การเลือกจุดโฟกัสที่เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่การเลือกใช้จุดโฟกัสทั้งหมด และสามารถปรับเลือกเองได้ เช่น เลือกใช้ 11 จุด, 9 จุด หรือ 1 จุด

สำหรับการถ่ายภาพทั่วๆไป การเลือกใช้จุดโฟกัสจำนวนสูงสุดที่มีของกล้อง มีประโยชน์ในการช่วยโฟกัส และจัดองค์ประกอบใหม่ได้สะดวก นอกจากนั้นแล้วการใช้จุดโฟกัสทั้งหมดนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการโฟกัสภาพจะทำได้ครอบคลุมเต็มพื้นที่เซ็นเซอร์อีกด้วย

  • เพิ่มเติม ปัจจุบันกล้องรุ่นใหม่ๆพัฒนาระบบออโต้โฟกัสไปไกลมาก จำนวนจุดโฟกัสในกล้องหลายรุ่นมีสูงมาก และยังแบ่งเป็นโหมดย่อยต่างๆกันให้เลือกใช้ตามความต้องการ หรือตามลักษณะการใช้งานถ่ายภาพแต่ละประเภท ควรศึกษาคู่มือการใช้งานให้ละเอียดเพื่อจะได้ใช้งานได้เต็มที่ และถูกต้องก่อนการใช้งานกล้อง

2. เลือกใช้โฟกัสจุดเดียว

     ในบางสถานการณ์การเลือกใช้จุดโฟกัสจุดเดียว (single-point AF) จะให้ประสิทธิภาพการโฟกัสภาพที่ดีกว่า และให้ภาพที่มีคมชัดสูงสุด ได้ดีกว่าการใช้จุดโฟกัสทั้งหมด เช่น การถ่ายภาพพอร์ตเทรต ที่ต้องการความคมชัดของดวงตา หากใช้จุดโฟกัสจำนวนมาก กล้องอาจไปโฟกัสที่จมูกหรือริมฝีปากของนางแบบ หรือไปโฟกัสในตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ แต่การใช้จุดโฟกัสจุดเดียว เราสามารถเล็งจุดโฟกัสไปที่ดวงตาและจัดองค์ประกอบใหม่หลังจากการโฟกัสได้ หรืออีกตัวอย่าง เช่น การถ่ายภาพมาโคร หรือภาพที่ต้องการเน้นความคมชัดในจุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ หากใช้จุดโฟกัสจำนวนมาก กล้องจะไม่รู้ถึงความต้องการของเราและจะเลือกโฟกัสในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดไว้ก่อนเสมอ

กล้องรุ่นใหม่ๆนอกจากจะเลือกใช้จุดโฟกัสได้หลากหลาย ยังสามารถปรับขนาดจุดโฟกัสได้หลายขนาด หรือบางรุ่นมีระบบ Eye-AF โฟกัสติดตามดวงตา ช่วยให้ช่างภาพทำงานได้ง่ายขึ้นแต่ยังหวังผลความคมชัดได้สูงสุด

การใช้จุดโฟกัสจุดเดียวช่วยให้ช่างภาพเลือกตำแหน่งของการโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพได้สะดวกมากขึ้น

  • เพิ่มเติม กล้องรุ่นใหม่ๆนอกจากจะเลือกจุดโฟกัสจุดเดียวได้ ยังย้ายจุดโฟกัสไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่ายๆด้วยจอยสติ๊กหรือแป้นปรับสี่ทิศทางได้อีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกหลังจากโฟกัสแล้วไม่ต้องมาจัดองค์ประกอบภาพใหม่

3. การโฟกัสด้วย Back Button focus

     ในการถ่ายภาพบางสถานการณ์ การโฟกัสด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์อาจใช้เวลานานเกินไปกว่าจะกดปุ่มชัตเตอร์ลงได้สุดเพื่อถ่ายภาพ หรือถ่ายภาพได้ไม่คมชัด อาจจะทำให้พลาดโอกาสถ่ายภาพดีๆไป โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพต่อเนื่อง ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการตั้งค่าให้ปุ่มใดปุ่มหนึ่งด้านหลังกล้อง หรือใช้ปุ่มที่ออกแบบมาเฉพาะ เช่น AF-ON ทำหน้าที่เป็นปุ่มโฟกัสแทนการกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งทาง

กล้องหลายรุ่นออกแบบให้สามารถตั้งค่าคัสตอมฟังก์ชั่น ให้ปุ่มต่างๆบนตัวกล้องทำหน้าที่ได้หลายอย่าง สามารถตั้งค่าตามความถนัด และการใช้งานบ่อยของช่างภาพแต่ละคนได้ ส่วนใหญ่จะเป็นปุ่มที่มีสัญลักษณ์รูป * หากเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องกดปุ่มค้างไว้กล้องจะโฟกัสตลอดเวลา ช่างภาพสามารถกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพได้ทุกวินาทีที่ต้องการ ส่วนการถ่ายภาพนิ่ง กดจะเป็นการโฟกัสภาพ เมื่อปล่อยกล้องจะล็อคโฟกัส สามารถจัดองค์ประกอบภาพใหม่ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าระยะโฟกัสจะเปลี่ยนหรือกลับมาโฟกัสใหม่

4. เลือกโหมด Shutter Priority

     สำหรับช่างถ่ายภาพสัตว์ป่า, ถ่ายภาพนก, ถ่ายภาพแอคชั่น หรือ ถ่ายภาพกีฬา ที่วัตถุจะมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง หรือช่างภาพทั่วๆไปที่ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยไม่เอื้อต่อการถ่ายภาพ (low-lighting) ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลโดยตรงต่อความคมชัดของภาพ

ทางเลือกในการรับมือกับปัญหานี้ คือ การเลือกใช้โหมดถ่ายภาพแบบ Shutter Priority (โหมด S หรือ TV) เพื่อเลือกปรับความเร็วชัตเตอร์ที่ต้องการได้ตามที่ต้องการ

     หลักการเลือกใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่มั่นใจได้ว่าภาพจะคมชัดคือเลือกให้สัมพันธ์กับทางยาวโฟกัสเลนส์ จำง่ายๆคือ“ความเร็วชัตเตอร์ 1/(2x) ทางยาวโฟกัส” เช่น ใช้เลนส์ 50 มม. เท่ากับ 1/100 วินาที หรือหากเลนส์ที่ใช้มีระบบกันสั่น หรือทีกันสั่นในบอดี้กล้องก็สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำกว่านี้ได้ 1-2 สตอป โดยที่ถือถ่ายด้วยมือเปล่าแล้วยังมั่นใจว่าได้ภาพที่คมชัดแน่นอน

5. ถ่ายภาพสำรองไว้

     เคล็ดลับข้อสุดท้ายคือ การถ่ายภาพเดิมซ้ำเก็บไว้อีกสองสามช็อต หากภาพใดภาพหนึ่งโฟกัสพลาด ยังมีภาพอื่นที่โฟกัสได้ชัดให้เลือกใช้งานได้ โดยเฉพาะกับช่างภาพที่รับงานถ่ายภาพสำคัญๆ หรือใช้ภาพเพื่อการค้า การมีถ่ายภาพสำรองไว้เป็นสิ่งจำเป็นมาก แม้แต่ช่างภาพมืออาชีพหลายคนก็ยังต้องถ่ายภาพช็อตสำรองเก็บไว้เช่นกัน

Leave feedback about this

  • Quality
  • Price
  • Service

PROS

+
Add Field

CONS

+
Add Field
Choose Image
Choose Video