ฟิลแสงเสริม เพิ่มไฮไลท์ให้ภาพมาโคร

สำหรับการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป รวมไปถึงการถ่ายภาพในระยะใกล้แบบ Close Up หรือ Macro อย่างภาพอาหาร ภาพดอกไม้ หรือภาพแมลงต่างๆ ถ้าเป็นการถ่ายภาพเพื่อโชว์บนโซเชี่ยลต่างๆ อย่างเฟซบุ๊คส์ อินสตาแกรม หรือส่งไลน์ไปอวดเพื่อนๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปซีเรียสกับเรื่องของแสงให้มากนัก เพราะหลายๆ คนก็มัก จะตกแต่งภาพก่อนส่ง เพื่อให้ได้สวยงามมากขึ้นอยู่แล้ว

แต่สำหรับช่างภาพที่ค่อนข้างซีเรียสกับการถ่ายภาพ หรือจริงจังกับการถ่ายภาพ ก็ต้องพิถีพิถันกับการถ่ายภาพมากกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นจึงค่อนข้างที่จะซีเรียสกับสภาพแสงในขณะที่ถ่ายภาพ ซึ่งหลายๆ ครั้งที่ถ่ายภาพออกมาแล้วดูแบนๆ ภาพไม่มีมิติ หรือภาพไม่มีส่วนที่สว่างหรือส่วนที่มืด นี่แหละครับที่เป็นปัญหา เพราะบางครั้งหรือหลายๆ ครั้ง เราก็ไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนทิศทางของแสงในร้าน หรือในสถานที่ที่เราไปถ่ายภาพได้ ดังนั้น นิตยสารโฟโต้อินโฟฉบับนี้ จึงมี Tips เล็กๆ สำหรับการเพิ่มแสงเสริมมาฝากกัน ซึ่งวิธีนี้ ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นรูปแบบที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคฟิล์มแล้วล่ะครับ

ความใสของขาและส่วนหัวที่เกิดจากไฟส่อง ช่วยขับให้ตัวแมงมุมเด่นขึ้นมาจากฉากหลังที่เข้มดำได้

การเติมแสงเพื่อเพิ่มมิติของภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์เสริม นั่นคือไฟฉาย หรือไฟ LED หรือถ้าหากไม่มี หรือไม่สะดวก ก็สามารถใช้ไฟฉายส่องสว่างจากโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันน่าจะเป็นรูปแบบสมาร์ทโฟนกันแทบจะทั้งหมด แล้ว มาใช้แทนก็ได้เช่นกันครับ ส่วนวิธีการส่องนั้น สามารถส่องได้จากทั่วทุกทิศทาง ตามรูปแบบภาพที่ต้องการ เช่น ส่องจาก ด้านหน้า เมื่อต้องการรายละเอียดของซับเจคต์ที่มากขึ้น วิธีนี้ก็จะต้องระวังแสงที่จะไปตกที่ฉากหลังด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ของฉากหลังเพิ่มขึ้น อาจจะทำให้ซับเจคต์หลักไม่โดดเด่นเท่าที่ควรนั่นเอง

ซ้าย : ไฟฉายแบบปรับซูมหัวไฟ ช่วยให้แสงตกลงไปเฉพาะจุดที่ต้องการได้อย่างสะดวก
กลาง : ไฟ LED สำหรับบันทึกวิดีโอ มีขายึดติดกับขาตั้งกล้องได้ สามารถเอามาประยุกต์ใช้งานได้เป็นอย่างดี สำหรับข้อดีของไฟแบบนี้คือ ให้แสงสีขาว และสามารถปรับกำลังไฟได้หลายระดับตามความต้องการอีกด้วย
ขวา : ฟอยล์ห่ออาหาร เอามาประยุกต์ใช้งานโดยการติดกับแผ่นกระดาษแข็ง ทำให้พกพาติดกระเป๋ากล้องไปใช้งานได้อย่าง สะดวกมากขึ้น

วิธีแก้ไข ก็อาจจะใช้กระดาษดำ หรือผ้าสีดำเป็นฉากหลังแทนครับ เท่านี้ซับเจคต์หลักก็จะโดดเด่นมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าเป็น การถ่ายภาพ อาหาร ฉากหลังที่เป็นบรรยากาศของร้าน จะช่วยเสริมเรื่องราวของภาพได้ดีขึ้น เพียงแต่ต้องเลือกมุมที่ดูแล้ว ไม่รกจนเกินไปครับ

การส่องจากด้านหลัง จะทำให้ได้ริมไลท์ หรือแสงตามขอบๆ ของซับเจคต์หลัก การส่องจากด้านหลังทำได้ทั้งส่อง มาแบบตรงๆ ซึ่งวิธีนี้ จะต้องระวังแสงที่อาจจะตรงเข้ามาในเลนส์ และทำให้เกิดอาการแฟลร์ขึ้นได้นั่นเอง ถ้าต้องการส่อง จากด้านหลังตรงๆ จะต้องให้ซับเจคต์หลักบังแสงให้หมด ไม่ให้หลุดลอดออกมา

การใช้ไฟฉายเพิ่มแสงเข้าไป จะช่วยให้ภาพมีมิติที่มากกว่า และเพิ่มความแตกต่างของโทนภาพได้มากขึ้น

การส่องจากด้านหลังตรงๆ อาจจะทำให้เครื่องวัดแสงทำงานผิดพลาด ทำให้ได้ภาพที่ซับเจคต์ดำมืดเกินจริง ดังนั้น จะต้องปรับชดเชยค่าการวัดแสงให้ซับเจคต์สว่างขึ้น หรือใช้ไฟอีกหนึ่งดวงส่องไปที่ซับเจคต์ เพื่อเพิ่มรายละเอียด ของซับเจคต์ไม่ให้มืดดำนั่นเอง วิธีนี้อาจจะใช้กระดาษฟรอยด์ หรือกระดาษสีเงิน หรือกระดาษสีขาวๆ ช่วยในการสะท้อน แสงเพื่อเปิดเงาของซับเจคต์ก็ได้เช่นกันครับ

การส่องจากด้านหลังแบบเฉียงๆ จะเน้นรูปร่างและรูปทรงของได้มากกว่าแบบอื่น รวมทั้งยังสามารถควบคุม แสงที่ฉากหลังได้ดีกว่า เพราะไม่มีแสงตกลงไปนั่นเอง แต่การส่องไฟจากด้านซ้ายหรือด้านขวา ก็อาจจะทำให้อีกด้านที่อยู่ ฝั่งตรงกันข้ามมืดลงได้ ดังนั้น ก็อาจจะใช้กระดาษฟรอยด์ หรือกระดาษขาวแทนแผ่นรีเฟลกซ์ เพื่อเปิดแสงด้านตรงกันข้าม กับแสงไฟนั่นเองครับ

ใช้ไฟฉายที่มีความสว่างสูง ส่องเฉียงๆ มาจากด้านหลัง

ใช้ไฟ LED ส่องเพิ่มความสว่าง โดยวางทิศทางเช่นเดียวกับแสงธรรมชาติ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเพิ่มแสงไฟมีจุดประสงค์หลักเพื่อเพิ่มไฮไลท์ของภาพ ดังนั้นในการถ่ายภาพ ซับเจคต์นั้นๆ ควรจะต้องวัดแสงได้ตามปกติอยู่แล้ว การเสริมไฟเข้าไปเป็นเพียงแค่การเพิ่มไฮไลท์ของภาพเท่านั้น เพื่อให้ภาพมีความแตก ต่างของโทนมืดและโทนสว่างมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นปัญหาเรื่องเงาต่างๆ รวมไปถึงความยุ่งยากในการใช้แผ่นรีเฟลกซ์ เหมือนที่กล่าวมา แล้ว อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะบางท่านอาจจะคิดไปว่ามันยุ่งยากเกินไปหรือเปล่า เพราะจริงๆ แล้ว เราสามารถวางตำแหน่ง ไฟได้อย่างอิสระอยู่แล้ว แสงแรงเกินไป ก็ขยับออก หรือลดกำลังไฟลง ถ้าทำได้ ถ้าแสงเบาไป ก็ขยับเข้าใกล้มากขึ้น หรือเพิ่มกำลังไฟให้มากขึ้นเท่านั้นเองครับ

เรื่อง / ภาพ : พีร วงษ์ปัญญา

——————————