Knowledge

Create a Distinctive Image With a Costume

หากเปรียบเทียบการถ่ายภาพ Pre-Wedding ในยุคนี้กับสมัยก่อน สิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจนอย่างนึงคือรูปแบบของภาพที่เปลี่ยนไปอย่างมาก จะเห็นได้ว่าภาพ Pre-Wedding ในสมัยนี้ดูหวือหวา ลึกล้ำไปด้วยเทคนิคและท่วงท่าในการถ่ายและการโพสของตัวแบบ จนเรียกได้ว่าการถ่าย Pre-Wedding ในสมัยนี้เป็นน้องๆ การถ่ายแฟชั่นไปซะแล้ว ซึ่งแตกต่างจากการถ่าย Pre-Weddingในสมัยก่อนที่เน้นดูเรียบง่ายและอบอุ่น แต่ด้วยยุคสมัยที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่สูงของช่างภาพที่ล้นตลาดในปัจจุบัน จึงจำเป็นที่ช่างภาพเองต้องสร้างงานที่โดดเด่นและแตกต่างขึ้นเพื่อให้ถูกใจลูกค้าที่นับวันยิ่งเปิดกว้างในเรื่องของการเสพงานประเภทนี้ และนี่เองนำมาซึ่งรูปแบบของการถ่าย Pre-Wedding ที่ดูหวือหวาขึ้นในปัจจุบัน

ด้วยเทคโนโลยีของกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่สูงขึ้น ตลอดจนโปรแกรมปรับแต่งภาพขั้นเทพทั้งหลาย ทำให้การถ่ายภาพ Pre-Wedding ที่ดูหวือหวา ดูอลังการณ์งานสร้างเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยากอีกต่อไป จนบางครั้งแทบจะเรียกว่ากลายเป็น Pre-Wedding แนวแฟนตาซีไปเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคเอาแสงสีมาย้อมในภาพอย่างที่เคยพูดถึงในเล่มที่แล้วมา การสร้างสรรค์แยกแฟลชในการถ่าย การทำกราฟฟิคตัดต่อจนดูอลังการณ์ดาวล้านดวง ไปจนกระทั่งการสรรหาพร๊อพหรืออุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ เข้ามาช่วย

แต่ไม่ว่าปัจจุบันนี้เราจะมีตัวช่วยหรือพร๊อพในการเข้าฉากมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม แต่มีอยู่อย่างนึงที่ไม่ว่าจะเป็นยุคนี้หรือยุคก่อนหน้านี้ อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นตัวเอกให้ได้ภาพที่โดดเด่นอยู่เสมอ แถมไม่ต้องไปเตรียมไปสรรหาอะไรให้วุ่นวาย เพราะมันเป็นสิ่งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องใช้อยู่แล้ว นั่นก็คือ “ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่นเอง” เพียงแต่เราจะมองเห็นและสามารถนำเสนอความได้เปรียบเสียเปรียบของชุดแต่ละชุดได้หรือไม่ หากเราหลับตาลองนึกถึงการนำเสนอภาพชุดบ่าวสาวให้ดูสวยงามอลังการณ์ในสมัยก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะมองเห็นภาพเจ้าสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวที่ชายกระโปรงยาวเป็นเมตรยืนสูงระหงส์สง่างามราวนางพญาอยู่เคียงข้างกับเจ้าบ่าวในชุดสูทสุดเท่ห์ประมาณคุณชายที่หลุดมาจากละครเรื่องไหนสักเรื่อง

แต่ถ้าเป็นในยุคนี้ภาพที่กล่าวมาคงจะถูกมองว่าดูเชยไปซะแล้ว ภาพที่หลายคนอาจจะเห็นจนชินตาไปแล้วในยุคนี้ก็คือภาพที่มีเวลล์ติดผมเจ้าสาวหรือผ้าโปร่งสีขาวๆ ที่ดูปลิวลอยละล่องอยู่ในอากาศอย่างสวยงาม ซึ่งจะทำให้ภาพดูหวือหวาแปลกตากว่าการจัดวางชุดให้ดูยาวๆ อลังการณ์อย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปว่าชุดๆ นั้นจะต้องเป็นชุดยาวเท่านั้นถึงจะสร้างความโดดเด่นให้กับภาพได้ ชุดสั้นก็สามารถนำเสนอได้เช่นกัน ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าเราจะมองเห็นความเด่นหรือความได้เปรียบของชุดนั้นๆ และนำมาเสนอให้เป็นจุดเด่นของภาพได้หรือไม่

ht108

อย่างในภาพที่เห็นอยู่นี้เราจะเห็นได้ว่าจุดเด่นของชุดที่เห็นได้ชัดเจนคือสีสันสีแดงสดของชุดเจ้าสาว ซึ่งผมเลือกที่จะนำจุดเด่นข้อนี้มาใช้โดยเลือกวิธีการถ่ายโดยแยกแฟลชออกมาไว้ด้านซ้ายบนของตัวแบบ แล้ววัดแสงให้อันเดอร์ลงเล็กน้อยเพื่อให้ฉากหลังของท้องฟ้าเข้มขึ้น ซึ่งในขณะนั้นกำลังมีเมฆฝนจึงทำให้เห็นริ้วรอยของเมฆที่ชัดเจน แล้วนำมาปรับสีท้องฟ้าให้ออกสีน้ำเงินในขั้นตอนการปรับภาพเพื่อให้ขับสีแดงของชุดให้เด่นยิ่งขึ้น แต่เท่านั้นมันคงธรรมดาไป เพราะพระเอกของงานนี้หรือจุดเด่นที่ผมมองเห็นจริงๆ คือกระโปรงของเจ้าสาวที่ยาวเป็นพิเศษ บวกกับลมที่ค่อนข้างแรงบนสะพานพระรามแปด ถ้าทำให้มันสบัดพริ้วได้น่าจะสวย ว่าแล้วผมจึงนั่งลงเพื่อถ่ายภาพในมุมต่ำและถ่ายย้อนขึ้นเพื่อเก็บสีสันของท้องฟ้าให้ตัดกับชุดสีแดงสดของเจ้าสาว โดยอาศัยประโยชน์ของเลนส์มุมกว้างที่จะทำให้ทรวดทรงของผ้าที่พริ้วไหวบิ้ดเบี้ยวไปจากรูปทรงปกติ ช่วยให้การสบัดพริ้วของผ้าดูอลังการณ์กว่า จากนั้นจัดองค์ประกอบภาพตามต้องการแล้วให้ผู้ช่วยดึงชายผ้าของชุดขึ้นมาในตำแหน่งที่ต้องการนั่นคือมุมขวาบนและขวาล่างของภาพเพื่อเป็นแนวทางคร่าวๆ ของทิศทางการปลิวสะบัดของผ้า เมื่อพร้อมแล้วก็บอกให้ผู้ช่วยปล่อยผ้าแล้วก็ถ่ายในจังหวะที่ต้องการ เนื่องจากกระแสลมที่ค่อนข้างแรงในวันนั้นจึงทำให้ไม่ต้องสะบัดผ้าให้พริ้ว แค่ปล่อยตามลมผ้าก็ปลิวแล้ว ก็ต้องบอกละครับว่าปล่อยผ้าอยู่หลายครั้งกว่าจะได้จังหวะสะบัดของผ้าที่ลงตัว แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่มีลมเราอาจต้องใช้มือช่วยในการสะบัดผ้า

จริงๆ เทคนิคนี้ไม่ได้ใช้ความยุ่งยากอะไรมากมายเลยครับ แค่เพียงเราสังเกตุและหาจุดเด่นของชุดมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ เพียงเท่านี้เราก็สามารถได้ภาพที่โดดเด่นได้ไม่ยากเลย คราวหน้าลองสังเกตุกันดูนะครับว่าเราจะนำเสนอจุดเด่นของชุดกันยังไงดี ได้ภาพสวยๆ แล้วก็อย่าลืมนำมาแบงกันชื่นชมบ้างนะครับ ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ

เรื่อง / ภาพ : พิษณุ พวงแก้ว