Motorola แบรนด์มือถือชื่อดังในอดีต หรือปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Moto เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานานพอๆ กับเจ้าดังอย่าง Nokia แต่มาห่างหายไปในยุคของสมาร์ทโฟนและ Motorola กลับเข้าสู่วงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งในชื่อใหม่ Moto (by Lenovo) รุกตลาดด้วยสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง สเปคกล้องดี และเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีนวัตกรรมใหม่ Moto MOD ออกมาที่สามารถเปลี่ยนมือถือธรรมดาๆ เป็นนู่นนี่นั่นได้หลายอย่าง ในช่วงที่เทรนด์กล้องคู่กำลังมาแรง Moto เองก็มีข่าวลือออกมาให้ได้ยินมานานพอสมควร กับสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นแรกของค่าย ก่อนที่จะเปิดตัว Moto G5s สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด และ G5s Plus ที่มาพร้อมกล้องหลังแบบกล้องคู่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ บอกได้เลยใครที่คิดว่าเป็น G5 Plus ที่เปลี่ยนอะไรนิดๆ หน่อยแบบ minor change กำลังคิดผิด เพราะนี่คือการอัพเกรดให้กับเครื่องรุ่นที่ลงตัวทั้งสเปคและรูปร่าง มีความสมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น
บอดี้ของ Moto G5s Plus มาพร้อมหน้าจอ 5.5” ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 พิกเซล (401 ppi) กระจก Gorilla glass 3 กันรอยขีดข่วนได้ดี ใช้วัสดุโลหะทั้งตัวขึ้นรูปแบบ unibody ไร้รอยต่อ ขัดเงา ดูหรูหรา เกินราคาของเครื่องรุ่นนี้ไปมาก มีเส้นลายพ่นทรายคาดที่ด้านบนและด้านล่างบอดี้ เป็นแนวเส้นของสายอากาศ บอดี้มีขอบโค้งทั้งสี่มุม นํ้าหนักพอเหมาะ และงานประกอบทำได้แน่น เนี้ยบ ไม่มีส่วนไหนที่จับแล้วยวบ หรือให้ความรู้สึกไม่แข็งแรง ตัวเครื่องมีขนาดบางกว่า G5s อย่างสังเกตุเห็นได้ หน่วยประมวลผลที่ใช้คือ Qualcomm Snapdragon 625 Octa-Core จะความเร็ว 2.0 GHz , RAM 4GB ROM 32 GB รันด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 7.1 Nougat แผงวงจรภายในเคลือบกันน้ำด้วย nano coating ใช้แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว TurboPower charging ชาร์จเพียง 15 นาที ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมง ด้านหน้าของตัวบอดี้ ที่ด้านบนของหน้าจอประกอบด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อม Beauty mode ปรับได้ 7 ระดับ เซ็นเซอร์วัดแสง ลำโพง และไฟแฟลช led ขยับขึ้นไปด้านบนสุดที่ขอบตัวเครื่องเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่ขอบด้านล่างเป็นตำแหน่งของ ไมโครโฟน ช่องเสียบสาย micro USBลำโพง วางเรียงกันตามลำดับ และที่ด้านใต้ของหน้าจอเป็นปุ่มโฮม และปุ่มสแกนลายนิ้วมือ วางไว้ตรงกลาง เป็นปุ่มขนาดใหญ่ ใช้งานด้วยระบบสัมผัส สแกนลายนิ้วหัวแม่โป้งได้ถนัดแม้จับด้วยมือเดียว ส่วนปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power / เปิด-ปิดหน้าจอ วางไว้ที่ขอบด้านขวาของตัวเครื่อง และช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ทางขอบซ้ายของตัวเครื่อง โดย G5s Plus รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด โดยซิม 2 ต้องเลือกว่าจะใส่ซิม หรือ MicroSD โดยรองรับความจุสูงสุด 128 GB
ด้านหลัง เด่นชัดที่สุดคือ module กล้องคู่ ที่ออกแบบเป็นวงกลม วางเลนส์ไว้คู่กันในแนวนอน พร้อมไฟแฟลช led แบบ two tone ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความบาง กล้องจึงนูนออกมาจากตัวเครื่อง ประกบทับด้วยกระจก Gorilla glass มั่นใจได้ว่าจะไม่มีรอยขีดข่วนให้เสียคุณภาพของภาพแน่ๆ ด้านบนของกล้องเป็นรูเล็กๆ ของไมโครโฟนอีกตัว ถัดลงมาเป็นโลโก้ M ในวงกลมเซาะร่อง เวลาจับตัวเครื่องเพื่อใช้งานรับสาย-โทรออก เป็นตำแหน่งวางนิ้วชี้ช่วยให้จับเครื่องได้มั่นคงมากขึ้น Moto G5s Plus ใช้กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.0 ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นสุดชิค หน้าชัด-หลังเบลอ โดยใช้กล้องคู่ เซ็นเซอร์ RGB และเซ็นเซอร์ Monochrome แยกกันทำงานคนละหน้าที่เพื่อบันทึกภาพด้วย Depth Sensor ทำให้ได้ภาพหน้าชัด หลังเบลอที่ดูเป็นธรรมชาติและยังมีลูกเล่นอีกเพียบ เช่น การเลือกเบลอภาพโดยแสดงที่หน้าจอแบบ real time , สามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสหลังบันทึกภาพ , เปลี่ยนสีภาพเป็นขาวดำ, เปลี่ยนฉากหลังของภาพได้ และมีดิจิตอลซูม 8 เท่า มาให้ใช้งานด้วย
ผมจะไม่ลงไปในรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเครื่อง แต่จะขอเน้นที่กล้อง โดยเฉพาะกล้องหลังคู่ และฟังก์ชั่นการทำงานที่เด่นๆมากเป็นพิเศษที่ได้มาจากความสามารถของกล้องคู่นะครับ
บันทึกด้วยโหมด Depth Enable และเลือกเปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่ในภาพ
แก้ไขภาพในเมนูเลือกขาวดำ
โหมด Depth enable หรือโหมด “ความลึกของภาพ” กล้องคู่ของ G5s plus ที่ใช้เซ็นเซอร์ RGB และ Monochrome แยกกันอย่างละชุด จะบันทึกภาพด้วย depth sensor ที่ช่วยในการถ่ายภาพโดยการแบ่งเป็น layer ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฉากหน้า ส่วนกลางภาพ หรือฉากหลัง เรียกได้ว่าวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้สุดไปจนถึงระยะไกลสุดทั้งหมดในภาพไม่มีหลุดรอด โดยการโฟกัสและบันทึกภาพแยกเป็น layer นี้จะเป็นคล้ายๆกับการสร้างภาพให้มี Depth of field หรือระยะชัดลึกที่เหมือนกับการถ่ายด้วยกล้อง DSLR/Mirrorless ด้วยเลนส์รูรับแสงกว้าง ซึ่งจุดเด่นในภาพจะถูกเน้นให้มีความโดดเด่น ฉากหลังหรือส่วนอื่นๆจะถูกเบลอออกไป เมื่อใช้งานโหมด Depth enable จะสามารถปรับระยะชัดของภาพได้ละเอียดถึง 7 ระดับ โดยการเลื่อนแถบค่าความเบลอที่หน้าจอ โดยภาพจะแสดงให้เห็นการปรับค่าจริงแบบ real time ก่อนการบันทึกภาพด้วยและยังไม่ได้หมดแค่การทำหน้าชัด หลังเบลอเพียงเท่านั้น ภาพถ่ายที่บันทึกด้วยโหมด depth enable ยังสามารถเอาภาพนั้นมาเลือกเปลี่ยนจุดโฟกัสทีหลังได้อีก โดยเข้าไปเปลี่ยนในฟังก์ชั่นแก้ไขภาพ (เป็น App.อัพเดทได้ผ่าน Play Store) “ตัวแก้ไขความลึก” ในโหมด selective focus (เลือกโฟกัส) ทีนี้ก็เลือกจิ้มกันตามสบายครับ จะให้กล้องโฟกัสตรงไหน ก็เลือกจิ้มที่หน้าจอได้เต็มที่ จนกว่าจะพอใจแล้วค่อยกดบันทึกภาพ กล้องจะเซฟภาพแยกออกมาเป็นไฟล์ใหม่ โดยคงเก็บรักษาไฟล์ต้นฉบับไว้ อยากเลือก อยากเปลี่ยนอีกก็สามารถเข้าไปทำได้ตลอดเวลา โดยภาพที่บันทึกด้วยโหมด depth enable นี้เมื่อเปิดโฟลเดอร์แสดงภาพจะสังเกตุได้จากสัญลักษณ์เป็นรูปสีเหลี่ยมซ้อนกันสองชั้นอยู่ที่มุมขวาบนของภาพ และด้วยความที่กล้องคู่นี้เก็บข้อมูลภาพถ่ายเป็นชั้นๆหรือ layer จึงสามารถนำเอาข้อมูลนั้นมาสร้างลูกเล่นอื่นๆได้อีก ในฟังก์ชั่นแก้ไขภาพ นอกจากจะมีโหมด เลือกโฟกัส ยังมีโหมด “เลือกขาวดำ” (หรือเปลี่ยนสีภาพหรือดูดสี) กล้องจะให้เราเลือกพื้นที่ที่จะคงสีสันเดิมและเปลี่ยนสีในพื้นที่ไม่ต้องการให้เป็นสีขาวดำแทน และสุดท้ายคือโหมด “เปลี่ยนพื้นหลังของภาพ” โดยเลือกคงฉากหน้าไว้แล้วเลือกภาพที่ต้องการเอามาวางซ้อนกันเป็นฉากหลังอีกทีแต่ต้องบอกกันก่อนว่า G5s Plus ณ ปัจจุบันที่ผมกำลังปิดต้นฉบับนี้ โหมด “เลือกขาวดำ” และ โหมด “ เปลี่ยนพื้นหลังของภาพ” ยังเป็น App. ที่เป็น Betaอยู่นะครับ กว่าจะเป็นตัวสมบูรณ์ออกมาให้อัพเดท น่าจะมีการทำงานที่สมบูรณ์ ทำงานได้เร็วขึ้น และแอบหวังว่าอาจจะมีลูกเล่นอื่นๆเพิ่มเข้ามาได้อีก
ซ้าย : กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้งานสะดวก ได้ภาพดี
ขวา : ลองเปลี่ยนฉากหลังให้ภาพด้วยการแก้ไขในเมนู เปลี่ยนพื้นหลัง
ซ้าย : โหมดการทำงานหลักของ G5s Plus
ขวา : หน้าตาของการปรับโหมดโปร หรือโหมดมืออาชีพ
นอกจากลูกเล่นที่ได้บอกไป ความสามารถของกล้องหลังในการถ่ายภาพทั่วๆ ไปยังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แค่ยกเล็งแล้วถ่าย ก็ได้ภาพดีๆ ง่ายๆ ในโหมดถ่ายภาพปรกติ หากแตะที่ปุ่ม โฮมค้างไว้ กล้องจะบันทึกภาพไปจนกว่าจะปล่อยนิ้วออก นำภาพไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนกับการถ่ายภาพต่อเนื่อง โดยส่วนตัวสิ่งที่ชอบคือโทนสีของภาพที่ได้จากกล้องคู่นี้ออกแนวจัดจ้าน แต่ไม่เกินความเป็นธรรมชาติ เลนส์ที่นำมาใช้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของภาพได้ยอดเยี่ยม คอนทราสต์สูง และให้มีความคมชัดสูงมาก โดยเฉพาะกับในสภาพแสงกลางแจ้ง หรือแม้แต่ในที่ร่ม แม้ว่าในที่แสงน้อยอาจจะจะดูดรอปลงไปบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรวมยังถ่ายทอดสีและรายละเอียดออกมาได้ดีครับ นอกจากนั้นยังให้ค่า auto white balance ที่ไว้ใจได้ วัดแสงดี ทั้งสภาพแสงปรกติและในที่ร่ม
ซ้าย : แถบการตั้งค่าระยะชัดลึกเมื่อเลือกถ่ยภาพโหมด Depth Enable
ขวา : แถบเครื่องมือการตั้งค่าด้านบน ในเมนุการใช้งานกล้อง
ระบบโฟกัสทั้งในสภาพแสงปรกติและในที่แสงน้อย อย่างการถ่ายภาพในอาคาร มีความเร็วและแม่นยำสูง ดีกว่าสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกันและราคาแพงกว่าหลายรุ่น หน้าจอตอบสนองฟังก์ชั่นการทัชโฟกัสได้ค่อนข้าดี เมื่อทัชที่จอแล้วจะมีหน่วงให้เห็นบ้างในบางครั้งแต่น้อยมาก โฟกัสได้เป๊ะ ตรงตามจุดที่เลือกจิ้ม ไม่มีพลาด โดยรวมถือว่าทำได้ดีเยี่ยม และที่จุดโฟกัสจะแสดงเป็นรูปวงกลม เมื่อทัชโฟกัสแล้วสามารถปรับภาพให้สว่างหรือ มืดได้ทันทีโดยการใช้นิ้วลากที่วงกลมนี้ กล้องจะแสดงภาพให้เห็นแบบ Real Time ที่หน้าจอก่อนบันทึกภาพหน้าตาเมนูของทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ Moto G5S Plus จะเป็น Interface ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน กล้องหน้ามีโหมด มืออาชีพที่สามารถเลือกปรับ ไวบาลานซ์ ความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง ชดเชยแสง ปรับHDR ได้เหมือนกล้องหลัง โหมดพาโนราม่า และโหมดปรับความเนียนที่มีให้เลือกแบบอัตโนมัติและปรับด้วยตนเอง ได้ 7 ระดับ ไม่มีเอฟเฟคอื่นๆ เช่น คางแหลม ลบแก้มหรือทำตาโต การใช้งานทั่วๆไปทั้งแบบ indoor และ outdoor ทำได้ดี กล้องหน้ารองรับวีดีโอความละเอียด Full HD ส่วนกล้องหลังจะมีโหมดถ่ายภาพหลักให้เลือกใช้งาน 4 โหมด คือ Auto, Panorama, Depth (หน้าชัด-หลังเบลอ) และโหมด Pro ส่วนแถบการเลือกด้านบนจะมีให้ปรับตั้งค่า HDR ตั้งค่าการทำงานของไฟแฟลช ตั้งเวลาถ่ายภาพ และโหมดถ่ายปรกติ/แสงน้อย ในส่วนของโหมดโปรจะตั้งค่าได้มากกว่ากล้องหน้า คือมีการเลือกระยะโฟกัสเพิ่มเข้ามา โหมดพาโนราม่า สามารถถ่ายได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ส่วนการทำงานของโหมดอื่นๆจะใกล้เคียงกัน วีดีโอจะรองรับความละเอียดได้ที่ 4K ส่วนอื่นๆ ที่ชอบ โดยรวมๆ ของ G5s Plus ตั้งแต่ภายนอกบอดี้คือวัสดุที่ใช้ผลิต ที่เปลี่ยนจากเดิมมาใช้เป็นโลหะ ทำให้ดูสวย และหรูกว่าเดิมมาก งานการประกอบที่เนี้ยบเกินร้อย สเปคเครื่องที่ให้มาแรงมาก เกินพอกับการใช้งานทั่วๆ ไป หน้าจอทัชตอบสนองการทำงานได้ดีเยี่ยม อาจจะไม่ถึงขั้นลื่นหัวแตก แต่ก็ใกล้คียง การแสดงผลภาพทำได้ดี ภาพคม สีสวย แถมยังปรับโทนหน้าจอได้ว่าจะให้แสดงผลเป็นแบบมาตรฐาน หรือ สีสดใส และมีโหมดลดแสงสีฟ้าในตอนกลางคืนช่วยรักษาดวงตาแถมมาอีก ตลอดเวลาที่ได้เครื่องมาใช้งานยังไม่เจออาการหน่วง ให้เหนื่อยใจ อีกฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่องโทรศัพท์ คือ Moto Actions ที่ใช้ท่าทางการเคลื่อนไหวของมือควบคุมการทำงานของเครื่อง ทั้งเปิดกล้อง เปิดไฟฉาย ย่อขนาดจอ ปิดเสียงเรียกเข้า ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
ภาพถ่ายเวลากลางคืน ความเร็วชัตเตอร์ 1/17 วินาที f/2 iso2026 ถือด้วยมือ
แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ที่ให้มาอึดมากกว่าที่คิด ระบบการจัดการใช้พลังงานของ G5s Plus ทำได้ดีมาก ปรกติสมาร์ทโฟนที่ผมใช้อยู่จะมีขนาดแบตเตอรีความจุเท่ากัน ถ้าใช้งานทั้งวันเต็มวัน ช่วงบ่ายๆต้องวิ่งหาที่ชาร์จให้อุ่นใจแล้ว แต่ G5s Plus ใช้งานทั้งวัน ทั้งโทรศัพท์และกล้อง มีเพลย์ภาพ แก้ไขภาพ ต่อเน็ท แอบเล่นเกมนิดหน่อย กลับถึงบ้านช่วงหัวค่ำแบตยังเหลือที่ประมาณ 30-40% เท่าๆ กันทุกวัน และนอกจากอึดแล้วระบบชาร์จเร็วแบบ Turbo Power ยังชาร์จไฟได้เร็วเว่อร์ ตรงนี้ชอบมากครับ
จุดที่ไม่ชอบคือ เครื่องร้อนเร็วไปนิด ตรงนี้อาจจะเกิดจากการใช้งานของผมเองที่เปิด ปิดกล้องสลับไปมา ถ่ายรูปบ้าง ดูรูปบ้าง เปิด App. ซ้อนๆ กันบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ซีเรียสอะไรครับ ตัวเครื่องช่วงนี้หายากนิดนึง อยากได้จริงๆ อาจต้องวิ่งหาหลายที่ แต่เรื่องเคส หายากมากถึงยากมากๆ ใครที่เจอเคสรุ่นที่ถูกใจ ซื้อเก็บไว้เผื่อ 2 อันก็ดีนะครับ ถ้าไม่ได้ใช้..ส่งมาแถวๆนี้ก็ได้ครับ ส่วนอื่นๆเรื่องตัวเครื่องยังไม่เจออะไรที่ต้องมาบ่นกันจริงๆจังๆครับ
ถ่ายด้วยกล้องหลังโหมด auto
สเปคกล้องไม่ต้องพูดถึงครับ ที่ให้มาเกินราคาค่าตัวไปเยอะ นอกจากกล้องคู่ที่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมแล้ว โหมด Auto ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ใช้งานง่าย เปิดกล้องมาใช้ได้ทันที แต่ให้ภาพที่หวังผลได้ โดยรวมของกล้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ แต่ถ้าจะมีเรื่องที่ต้องขอบ่นอยู่บ้าง คงจะเป็นเรื่องการหน่วงของชัตเตอร์ที่พอแตะปุ่มชัตเตอร์ไปแล้วจะหน่วงอยู่แป๊บนึง กล้องถึงจะถ่ายภาพ ตรงนี้อาจจะทำให้พลาดโอกาสได้ภาพดีๆ ไปก็ได้นะครับ
ซ้าย : ถ่ายในอาคารทดสอบเรื่องการโฟกัส และไวท์บาลานซ์
ขวา : ถ่ายในอาคารทดสอบเรื่องการโฟกัส และไวท์บาลานซ์
อีกเรื่องคือการบันทึกภาพในโหมด ความลึกหรือ Depth Enable แม้การทำเอฟเฟคเลือกระยะชัดจะแสดงผลออกมาได้ดี แต่ขั้นตอนตั้งแต่แตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพ กล้องจะใช้เวลานานพอสมควรในการไล่เก็บวัตถุในระยะต่างๆ ให้ครบครอบคลุมทั้งภาพ ก่อนจะบันทึกข้อมูล ตรงนี้ไม่เหมาะกับการใช้ถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวหรือ ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่นะครับ ใครที่เคยใช้งานแบบเล็งแล้วถ่ายด่วนๆ มาใช้งาน G5s Plus คงมีขัดใจบ้าง ต้องปรับตัวให้ชินนะครับMoto G5s Plus เปิดตัวมาที่ราคา 9,990 บาท เท่ากับรุ่นเดิม ในราคานี้ กับสเปคตัวเครื่องขนาดนี้ กล้อง และ App. อื่นๆที่ให้มา ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีครบทั้งสเปคที่ครอบคลุมการใช้งาน และมีกล้องถ่ายภาพคู่ (Dual-Camera) ที่มีฟีเจอร์ที่โดดเด่น สามารถถ่ายภาพหน้าชัด-หลังเบลอได้อย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองการใช้งานได้ครบ ในราคาที่ไม่แรงเกินไป และอยากได้กล้องสเปคดีๆ ไว้ใช้งาน แนะนำครับ
เรื่อง / ภาพ : สมศักดิ์ ทัศนเศรษฐ
อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^
(SCAN QR CODE ด้านล่างเพื่อเพิ่มเพื่อนใน Line อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ)
หรือสนใจดูเรื่องราวเกี่ยวกับ Smart Phone ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/mirrorless-smart-phone/smart-phone-corner/