Olympus OM-D E-M 1X
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ LiveMOS ฟอร์แมท Micro Four Thirds ความละเอียด 20.4 ล้านพิกเซล
- หน่วยประมวลผล Dual TruePic VIII
- ระบบโฟกัส Hybrid AF จุดโฟกัส 121 จุด
- ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน
- ISO 200-25,600 ปรับลดลงได้เป็น ISO 100 และ 64 ตามลำดับ
- บันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K UHD
- จอ LCD 3 นิ้ว 1,037,000 พิกเซล ปรับระดับได้ ควบคุมระบบสัมผัส
- วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 2,360,000 พิกเซล
- ตัวบอดี้ซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ
- มี Wi-Fi และ NFC ในตัว
กล้อง Mirrorless รุ่นท๊อปสุด มาพร้อมเซ็นเซอร์ Live MOS ฟอร์แมท Micro Four Thirds ความละเอียด 20.4 ล้านพิกเซล ให้ไฟล์ภาพที่คมชัด และถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวกล้องมีการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ จากการทำงานของประมวลผลคู่ Dual TruePic VIII
E-M1X ออกแบบตัวบอดี้ให้มีกริปแนวตั้งในตัว ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกกับการถ่ายภาพทุกรูปแบบทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง โดยออกแบบปุ่มและแป้นควบคุมต่างๆ ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก และเป็นปกติ ไม่ว่าจะถ่ายภาพแนวนอน หรือแนวตั้ง รวมทั้งยังสามารถใช้แบตเตอรี่ได้พพร้อมกัน 2 ก้อน ช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วยนั่นเอง
E-M1X อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากมาย อาทิ ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว ที่ชดเชยความเร็วชัตเตอร์ได้สูงถึง 7.5 สตอป ซึ่งถือว่าเป็นระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวกล้องที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก (มีนาคม 2563) ฟีเจอร์ Live ND ช่วยลดแสงที่จะเข้ามาในตัวกล้อง เพื่อสร้างเอฟเฟคต์ภาพพิเศษจากการใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ ได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องถ่ายภาพในยามแสงน้อย, ฟีเจอร์ High-Res Shot Mode โหมดบันทึกภาพที่สามารถเพิ่มความละเอียดของกล้องขึ้นไปถึง 50 ล้านพิกเซล เมื่อติดกล้องเข้ากับขาตั้งกล้อง และ 50 ล้านพิกเซล เมื่อใช้มือถือกล้อง (Handheld High-Res Shot Mode) ซึ่งทั้งสองรูปแบบ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพซับเจคต์ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่เท่านั้น
โหมด Pro Capture เมื่อแตะชัตเตอร์ลงครั้งหนึ่ง กล้องจะช่วยบันทึกภาพล่วงหน้าไว้ 35 ภาพ ก่อนที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพจริง ซึ่งช่วยให้ไม่พลาดกับจังหวะสำคัญๆ ที่เกิดขึ้น, โหมด Focus Stacking กล้องจะบันทึกภาพ โดยการเปลี่ยนจุดโฟกัสไปทีละน้อยๆ ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ 3-15 ภาพ ก่อนที่จะนำภาพทั้งหมดมาประมวลผลรวมให้เป็นภาพเดียวที่มีความคมชัดทั่วทั้งเฟรมภาพ แต่ถ้าหากว่าต้องการระยะชัดลึกที่มากกว่านั้น อย่างภาพมาโครในระยะใกล้ๆ ก็สามารถเลือกใช้โหมด Focus Bracketing ซึ่งสามารถเลือกถ่ายภาพได้สูงถึง 999 ภาพ และนำมารวมภาพในโปรแกรมต่างหาก
ฟีเจอร์ชดเชย Keystone และ Fisheye เมื่อเปิดใช้งาน Keystone กล้องจะปรับชดเชยอาการบิดเบี้ยวของรูปทรงให้กลับมาเป็นเส้นตรง เหมือนกับการใช้เลนส์ Tilt/Shift ซึ่งสามารถเห็นเอฟเฟคต์ที่เกิดขึ้นผ่าน Live View ตั้งแต่ก่อนถ่ายภาพ , และ AF Face / Eye Priority AF ช่วยให้จับภาพบุคคลพิเศษให้อยู่ในโฟกัส เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดตามที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุดถึง 18 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง ช่วยให้จับจังหวะแอ๊คชั่นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและคมชัด รวมทั้งสามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องได้สูงถึง 60 ภาพต่อวินาที โดยล๊อคโฟกัสไว้ที่เฟรมแรก
E-M1X บันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K UHD และ DCI พร้อม OM-Log และเอาต์พุตแบบ 4: 2: 2 ผ่านสาย HDMI เพื่อบันทึกจากเครื่องบันทึกภายนอก ตัวกล้องมีช่องเสียบไมโครโฟนและหูฟังสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพมากขึ้นด้วย และหนึ่งในความโดดเด่นของกล้องโอลิมปัสคือ ตัวบอดี้ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ และได้รับการซีลป้องกันฝุ่นละอองน้ำป้องกันตามมาตรฐาน IPX1 ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้เป็นปกติในทุกสภาพอากาศ
ราคา (จากบริษัทผู้ผลิต) : 119,990 บาท (เฉพาะบอดี้)
เหมาะสำหรับ : กล้อง Mirrorless ระดับ Flagship ประสิทธิภาพสูง มีการทำงานที่รวดเร็วตอบสนองการใช้งานหนักของมืออาชีพ อย่าง ช่างภาพกีฬา, ช่างภาพแนวแอ๊คชั่น รวมทั้งผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนก และสัตว์ป่าในธรรมชาติด้วย
ข้อจำกัด : ตัวกล้องมีขนาดใหญ่, น้ำหนักมาก, มีขนาดเซ็นเซอร์เล็กกว่าแบรนด์อื่นๆ จึงมีตัวเปรียบเทียบในเรื่องของราคาด้วย
