NIKON REVIEWS

Reviews : Nikon D7500

Nikon D7500 กล้องดิจิตอลฟอร์แมต DX ที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องของกล้องในซีรีส์ D7000  จัดว่าเป็นกล้องฟอร์แมต DX ที่ได้รับความนิยมจากนักถ่ายภาพด้วยดีเสมอมา สำหรับรุ่นล่าสุด D7500 โดดเด่นด้วยการปรับเปลี่ยนเซ็นเซอร์รับภาพใหม่ ระบบโฟกัสใหม่ จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่บิดพับปรับองศาได้ ควบคุมด้วยระบบสัมผัสหน้าจอมอนิเตอร์ และระบบการทำงานที่โดดเด่นอีกหลายอย่าง

จุดเด่นของ NIKON D7500

  • เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C (23.7 X 15.7 มม.)
  • ความละเอียด 20.9 ล้านพิกเซล
  • หน่วยประมวลผล EXPEED 5
  • เซ็นเซอร์โฟกัส Multi-CAM 3500 II
  • จุดโฟกัส 51 จุด เป็นแบบ cross-type 15 จุด
  • เซ็นเซอร์วัดแสง 180,000-pixel RGB
  • บันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K
  • จอมอนิเตอร์ขนาด 3.2 นิ้ว 922,000 พิกเซล ปรับระดับได้
  • จอมอนิเตอร์รองรับการควบคุมการทำงานแบบ Touch Screen
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 8 ภาพต่อวินาที
  • ปรับตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO100-51200
  • ปรับชิฟท์ได้สูงสุดถึง Hi.5 (เทียบเท่า ISO 1,640,000)
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi

ประสิทธิภาพและการออกแบบ

รูปลักษณ์ของ Nikon D7500 ได้รับการออกแบบใหม่หลายๆ จุดด้วยกัน อาทิ กริปมือจับดูอ้วนและสั้นลง แต่เซาะร่องเว้าด้านในทำให้ยังคงจับถือได้กระชับเช่นเดิม รวมทั้งยังสามารถปรับคอนโทรลปุ่มฟังก์ชั่นข้างๆ ฐานเม้าท์เลนส์ได้อย่างสะดวกดีทีเดียว ตัวบอดี้หุ้มด้วยหนังลายหยาบดูเหมือนกล้องระดับโปรมากขึ้น

ส่วนหัวกระโหลกออกแบบให้แบนเรียบเนียน และเป็นที่อยู่ของแฟลชป๊อบอัพอีกด้วย ไมโครโฟนบันทึกเสียงอยู่ด้านข้างซ้ายและขวาของหัวกะโหลก ปุ่มปรับการทำงานข้างปุ่มชัตเตอร์มีให้เลือกใช้งาน 3 ปุ่ม นั่นคือ ปุ่มเลือก ISO, ปุ่มชดเชยแสง และบันทึกวิดีโอ ปุ่มควบคุมด้านหลังยังคงมีให้ใช้งานได้ครบครัน โดยเริ่มจากข้างๆวิวไฟน์เดอร์ เป็นปุ่มพรีวิวภาพและปุ่มลบภาพ ถัดลงมาด้านข้างจอมอนิเตอร์เป็นปุ่มเมนู, ปุ่มปรับไวท์บาลานซ์, ปุ่มเลือกคุณภาพของภาพ และปุ่มเลือกระบบวัดแสง และปุ่ม info ตามลำดับ เหนือวิวไฟน์เดอร์เล็กน้อย เป็นเซ็นเซอร์ตัดการทำงานของจอมอนิเตอร์อัตโนมัติ เมื่อแนบตาเข้ากับวิวไฟน์เดอร์

แป้นด้านขวาติดกับวิวไฟน์เดอร์เป็นแป้นเลือกปรับ diopter สายตา ข้างๆ กันเป็นปุ่ม AF-L/AE-L สำหรับล็อคโฟกัสและล็อคความจำแสง ถัดไปเล็กน้อยเป็นแป้นปรับควบคุม ด้านหลังตํ่าลงมาเป็นแป้นปรับควบคุมแบบสี่ทิศทางและปุ่ม OK ตรงกลาง สำหรับยืนยันค่าการปรับตั้ง สามารถล็อคแป้นเพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนโดยไม่ตั้งใจได้ด้วย ถัดลงไปเล็กน้อยเป็นไฟแสดงสถานะการทำงาน, ช่องลำโพงและก้านพร้อมปุ่มปรับใช้งาน Live Veiw ซึ่งเลือกใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอตามลำดับ

ด้านซ้ายของตัวกล้องเป็นช่องเชื่อมอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ ไมโครโฟน, ช่อง USB, ช่อง HDMI, ช่องเสียบหูฟัง และช่องต่อสายลั่นชัตเตอร์ ส่วนด้านขวาของตัวกล้องเป็นช่องเมมโมรี่การ์ดแบบ SD, SDHC และ SDXC ส่วนช่องร้อยสายคล้องกล้องออกแบบเป็น ร่องแบนๆ ให้ร้อยสายสะพายเข้าไปได้เลย

จอมอนิเตอร์ขนาด 3.2 นิ้ว ออกแบบใหม่ให้สามารถปรับระดับได้ตามการใช้งาน ทั้งปรับก้มลงมา เมื่อถ่ายภาพในมุมสูงเหนือหัว หรือปรับหงายให้มองได้จากด้านบน เมื่อถ่ายภาพมุมตํ่าติดพื้น นอกจากนี้ ยังปรับควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส ช่วยให้สะดวกกับการใช้งานมากขึ้น ทั้งเมื่อต้องปรับเมนูต่างๆ ต้องเลือกจุดโฟกัส หรือเมื่อต้องกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ก็สามารถแตะลงไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ได้เลย

จอมอนิเตอร์แบบปรับองศาได้ และควบคุมด้วยระบบสัมผัส

ซ้าย : ปุ่มฟังก์ชั่น (Fn.) ที่สามารถปรับตั้งให้เป็นคีย์ลัดสำหรับเมนูการทำงานหลายรูปแบบ
ขวา : ปุ่มปรับเลือกโหมดโฟกัส และรูปแบบการโฟกัส

ซ้าย : ปุ่มปรับใช้งานและควบคุมการทำงานของแฟลช
ขวา : ช่องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ

ข้างๆ ฐานเลนส์ด้านซ้าย เริ่มจากบนสุด เป็นปุ่มเปิดใช้งานแฟลชพร้อมปรับชดเชยแสงแฟลชได้โดยการกดค้างไว้ แล้วใช้แป้นปรับควบคุมเลือกค่าการชดเชยตามที่ต้องการได้เลย ถัดลงมาเป็นปุ่มเลือกระบบถ่ายภาพคร่อม และล่างสุดเป็นก้านเลือกโหมดโฟกัส AF/MF พร้อมปุ่มตรงกลางสำหรับเลือกรูปแบบโฟกัส อาทิ AF-S, AF-C และพื้นที่โฟกัสแบบอัตโนมัติทุกจุด หรือแบบโซน หรือแบบทีละจุด ตามรูปแบบการใช้งาน โดยวิธีตั้งค่าก็ให้กดปุ่มตรงกลางของก้านเลือกโหมดโฟกัสค้างไว้ จากนั้นก็ใช้แป้นควบคุมด้านหลังเลือกรูปแบบโฟกัส และใช้แป้นควบคุมด้านหน้าเลือกพื้นที่โฟกัสตามการใช้งานได้เลย

Nikon D7500 ใช้เซ็นเซอร์แบบ CMOS ฟอร์แมท DX ขนาด APS-C (23.7 X 15.7 มม.) ความละเอียด 20.9 ล้านพิกเซล และเป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบไม่มี Low Pass Filter (เซ็นเซอร์รับภาพรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน D500)  ซึ่งข้อดีก็คือ ทำให้ถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะส่วนที่เล็กๆ อย่างลายผ้าหรือเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น  จุดเด่นของเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นนี้ คือ ไดนามิคเรนจ์กว้างและมีสัญญาณรบกวนตํ่า

Nikon D7500 ใช้หน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง EXPEED 5 ที่ช่วยให้กล้องตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็วตั้งแต่การเปิดใช้งานกล้องไปจนถึงการถ่ายภาพ และการจัดการไฟล์ภาพที่ยอดเยี่ยม ตัวกล้องมาพร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วฉับไว มีจุดโฟกัสทั้งหมด 51 จุด (เป็นแบบ Cross-type ถึง 15 จุด) พื้นที่การโฟกัสกว้างมากทำให้เป็นผลดีต่อการแทรคกิ้งเมื่อถ่ายภาพแอคชั่น รองรับการโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำ แม้จะใช้งานกับเลนส์ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/8  โดยเลือกปรับโฟกัสได้ทั้งแบบอัตโนมัติ 51, 21 หรือ 9 จุด, เลือกแบบแบ่งโซนหรือเลือกทีละจุด ตามการใช้งาน ซึ่งครอบคลุมได้ทั้งการถ่ายภาพแนวตั้งและแนวนอน

ภาพที่ได้มีความคมชัด ถ่ายทอดรายละเอียดได้ครบถ้วน และมีสีสันอิ่มตัว Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 10-24 มม. F3.5-4.5G ED โหมด M ชัตเตอร์ 1/125 วินาที f/11, ISO100,

ฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ที่โดดเด่นของ Nikon D7500 อย่างหนึ่งคือ Picture Control แบบ Auto ซึ่งกล้องจะปรับรูปแบบ Picture Control ตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ โดยประเมินจากระยะโฟกัส ขนาดรูรับแสง และเลนส์ที่ใช้ รวมทั้งรูปร่างและรูปทรงของซับเจกต์ด้วย เช่น ถ่ายภาพใช้เลนส์มุมกว้าง ปรับรูรับแสงแคบๆ  โฟกัสระยะไกล แบบนี้กล้องจะประเมินว่ากำลังถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ดังนั้นกล้องก็จะปรับ Picture Control แบบ Landscape ให้อัตโนมัติ ซึ่งก็จะได้ภาพที่มีสีสันสดใสอิ่มตัว และคอนทราสต์จัดจ้านมากขึ้นนั่นเอง โดยที่เราเองไม่ต้องคอยเปลี่ยน Picture Control ตามรูปแบบภาพถ่ายอยู่บ่อยๆ และสะดวกกับการใช้งานมากขึ้นด้วย

Nikon D7500 ปรับความไวแสงปกติได้ตั้งแต่ ISO100 ไปจนถึง ISO51200 แต่สามารถปรับขยายได้เป็น L เทียบเท่า ISO50 และ H ซึ่งการปรับชิฟท์ความไวแสงในระดับ H หรือ High นั้น สามารถปรับได้ถึง H5 หรือเทียบเท่า ISO1640000 เลยทีเดียว รวมทั้งสามารถเลือกใช้งานแบบ Auto โดยให้กล้องเลือกปรับให้ และผู้ใช้ยังสามารถเลือกระดับสูงสุดที่จะให้กล้องปรับให้ได้อีกด้วย

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอื่นๆ

เมนูรีทัช หรือเมนูตกแต่งภาพ ถือเป็นฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในกล้องนิคอนหลายๆ รุ่น ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายเพิ่มเติมจากภาพปกติที่ถ่ายมาแล้วได้หลายรูปแบบ ซึ่งช่วยให้ปรับแก้ไขไฟล์ภาพตามที่ต้องการได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องรอกลับไปแก้ไขจากคอมพิวเตอร์ในภายหลัง โดยเมนูรีทัชที่โดดเด่นยังเป็นเมนูโปรเซสไฟล์ RAW ในตัวกล้องที่สามารถปรับเปลี่ยนค่าการปรับตั้งใหม่ได้เลยทันที และบันทึกเป็นไฟล์ใหม่ โดยที่ไฟล์ RAW เดิมยังคงอยู่เช่นเดิม

ฟังก์ชั่นที่ดูจะเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานสำหรับกล้องยุคใหม่ คือสามารถต่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการถ่ายภาพ หรือโอนถ่ายไฟล์ภาพมายังสมาร์ทโฟน โดยผ่านแอพลิเคชั่น ซึ่ง Nikon D7500 นัั้นใช้รูปแบบเชื่อมกับแอพลิเคชั่น SnapBridge  ผ่านการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ซึ่งถือเป็นการเชื่อมต่อที่ใช้พลังงานน้อยแต่สามารถใช้งานได้เต็มระบบ ทั้งการใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทคอนโทรล รวมทั้งการอัพโหลดไฟล์ภาพมายังสมาร์ทโฟนเพื่อนำไปแชร์ทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจในทุกๆ สถานที่อีกด้วย

ระบบวิดีโอโดดเด่นด้วยคุณภาพระดับ 4K UHD ให้รายละเอียดเยี่ยมยอด มีระบบปรับควบคุมรูรับแสงอัตโนมัติ และใช้ระบบ Touch Focus ในการชิพท์จุดโฟกัสได้ มีช่องต่อไมโครโฟนภายนอก


การใช้งาน

Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF 85 มม. F1.8 โหมด M ชัตเตอร์ 1/250 วินาที f/1.8, ISO1000, WB: Auto (ภาพโดย ธีรนัย จันทร์หนัก)

Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 35 มม. F1.4G โหมด M ชัตเตอร์ 1/80 วินาที f/2, ISO800

ผมได้รับตัวกล้องมาพร้อมเลนส์ซูมมุมกว้าง Nikkor AF-S 10-24 มม. F3.5-4.5G ED,เลนส์เทเลซูม AF-S NIKKOR 70-200mm F2.8E FL ED VR และเลนส์เทเลซูม AF-S NIKKOR 200-500mm F5.6E ED VR ซึ่งสองตัวหลังนั้นเป็นเลนส์ที่ออกแบบสำหรับกล้องแบบฟูลเฟรม เมื่อใช้กับ Nikon D7500 จะได้ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการระยะเลนส์ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างภาพกีฬา หรือภาพนกและสัตว์ป่าในธรรมชาติ เป็นต้นครับ

ถึงแม้ว่ามองรวมๆ แล้วจะดูว่า Nikon D7500 จะดูคล้ายๆ กับรุ่นเดิม แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ครับ อย่างความสูงและความหนาของตัวกล้องที่น้อยกว่า D7200 อยู่เล็กน้อย แต่จับได้ถนัดมือดี ถึงจะเป็นคนมือใหญ่แบบผม ก็ยังจับถือได้โดยนิ้วก้อยไม่หลุดตัวกล้อง และยังปรับควบคุมการทำงานได้เป็นปกติ

การปรับตั้งเมนูสะดวกขึ้นจากระบบสัมผัสหน้าจอมอนิเตอร์ ที่สามารถแตะเลือกเมนูและค่าเมนูย่อยที่ต้องการได้เลยทันที ไม่จำเป็นต้องกดไล่ไปเรื่อยๆ รวมไปถึงการเลือกโฟกัสแบบ Touch AF และ Touch Shutter ด้วยเช่นกัน  โดยเฉพาะ Touch Shutter นั้น ตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็วดีทีเดียวครับ

ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที ช่วยให้จับจังหวะแอคชั่นต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกีฬาหรือภาพสัตว์ในธรรมชาติด้วยเช่นกัน Nikon D7500 เลนส์ AF-S NIKKOR 200-500mm F5.6E ED VR โหมด M ชัตเตอร์ 1/640 วินาที f/8, ISO400, WB: Auto (โหมด 1.3x crop)

การโฟกัสติดตามวัตถุแบบต่อเนื่อง (AF-C) ทำได้ดีมาก ภาพที่บันทึกด้วยความเร็ว 8 ภาพ/วินาที คมชัดทุกช็อต Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 70-200 มม. F2.8G ED VR II โหมด A ชัตเตอร์ 1/1600 วินาที f/4, ISO400

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Nikon D7500 คือ ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 8 ภาพต่อวินาที  ผมมีโอกาสได้ลองการถ่ายภาพต่อเนื่องกับนกยางทะเลที่ไล่จับปลาเป็นอาหารด้วยเลนส์ AF-S NIKKOR 200-500mm F5.6E ED VR  โดยตั้งใช้ความเร็วสูงสุด 8 ภาพต่อวินาที ปรับระบบโฟกัสเป็นแบบต่อเนื่อง (AF-C) และปรับพื้นที่โฟกัสเป็นแบบ Group  ซึ่งถึงแม้ผมจะตั้งความละเอียดภาพแบบ RAW+JPEG  แต่ผมก็สามารถกดชัตเตอร์ต่อเนื่องได้โดยไม่มีติดขัดกับเมมโมรี่การ์ดความเร็ว 95MB/S  และทุกภาพที่แพนตามตัวนกที่วิ่งไล่จับปลาไปมา ซึ่งก็เข้าโฟกัสตลอดครับ ทำให้เชื่อมั่นในประสิทธิภาพการทำงานของระบบโฟกัสได้เป็นอย่างดีครับ นอกจากนี้ผมยังเปิดใช้ฟังก์ชั่น Active D-Lighting ระดับ High เพื่อเปิดรายละเอียดในส่วนมืดของตัวนกที่นอกจากจะมีสีเข้มดำแล้ว ยังเป็นการถ่ายภาพในลักษณะย้อนแสงจากการสะท้อนของนํ้าทะเลอีกด้วย ซึ่งก็ช่วยให้ถ่ายทอดรายละเอียดของขนและรายละเอียดอื่นๆ ได้ครบถ้วน

Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 50 มม. F1.4G โหมด M ชัตเตอร์ 1/160 วินาที f/2.5, ISO1000, WB: Auto

ที่ผมชอบรูปแบบปุ่มควบคุมของ Nikon D7500 ที่มีให้เลือกใช้งานหลายปุ่ม อาทิ ปุ่มฟังก์ชั่น 1 (Fn.1) และปุ่มฟังก์ชั่น 2 (Fn.2) ซึ่งทั้งสองปุ่มสามารถตั้งค่าให้เป็นปุ่มลัดได้หลายอย่าง ซึ่งผมเองตั้งค่าปุ่ม Fn.1 เป็นปุ่มลัดสำหรับปรับตั้งค่า Active D-Lighting หรือการปรับชดเชยโทนมืดของภาพให้ถ่ายทอดรายละเอียดได้มากขึ้น จากการถ่ายภาพตามปกติ ซึ่งปรับได้หลายระดับ และตั้งปุ่ม Fn.2  เป็นปุ่มปรับเปลี่ยนฟอร์แมทภาพจาก DX หรือใช้พื้นที่เซ็นเซอร์รับภาพเต็มเฟรม ให้ครอปเพิ่มขึ้นอีก 1.3 เท่า เมื่อต้องการทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น สำหรับการถ่ายภาพในระยะไกล เช่นภาพนกหรือภาพสัตว์ป่าในธรรมชาติ  โดยกล้องจะปรับลดความละเอียดเป็น 4272 x 2848 พิกเซล หรือประมาณ 12.1 ล้านพิกเซล สำหรับการใช้งานในโหมด 1.3x ครอปก็แสนง่ายทีเดียว เพราะผมปรับตั้งปุ่ม Fn.2 ให้เป็นปุ่มลัดสำหรับปรับครอปอยู่แล้ว โดยผมสามารถใช้นิ้วนางกดปุ่ม และใช้นิ้วโป้งปรับแป้นหมุนด้านหลังตัวกล้องเพื่อปรับครอปได้ทันทีกับนิ้วนางกดได้ในขณะที่จับถือกล้องตามปกติ และใช้นิ้วโป้งเปลี่ยนค่าที่ต้องการได้เลย และเมื่อเลือกใช้รูปแบบครอปภาพ  กล้องจะแสดงกรอบภาพที่ครอปให้เห็นในช่องมองภาพด้วย

ซ้าย : ระบบ Touch Screen เลือกใช้งานได้ทั้งการปรับตั้งค่าเมนูการทำงาน และการแตะเลือกจุดโฟกัส รวมทั้งระบบ Touch Shutter ด้วย
ขวา : ฟอร์แมตภาพเพิ่มรูปแบบดาว (..) ต่อท้ายหมายถึงเป็นคุณภาพไฟล์ที่ไม่มีการบีบอัดนั่นเอง

ฟังก์ชั่น 1.3 ครอป จากเซ็นเซอร์ DX ปกติ จะได้ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า จากระยะเดิม หรือประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับฟอร์แมทฟูลเฟรม

ฟังก์ชั่นใหม่อย่างหนึ่งของ Nikon D7500 คือ รองรับการปรับตั้งค่าเมนูการทำงานต่างๆ รวมทั้งการถ่ายภาพด้วยระบบสัมผัสหน้าจอมอนิเตอร์ ซึ่งเลือกการทำงานได้ทั้งการปรับตั้งค่าเมนูต่างๆ การซูมขยายและย่อภาพด้วยการกวาดนิ้วออกหรือเข้าหากัน และการเลือกรูปการโฟกัสแบบ Touch AF แตะเพื่อเลือกจุดโฟกัสก่อน  จากนั้นแตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อทำการโฟกัสหรือรูปแบบ Touch Shutter แตะเลือกจุดโฟกัสก่อน จากนั้นกล้องทำการโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพให้อัตโนมัติ เมื่อปรับโฟกัสได้แล้ว ซึ่งจากการททดลองใช้งาน ก็มีการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจดีทีเดียวครับ

ผมรู้สึกได้ว่าไฟล์ภาพของ Nikon D7500 จะมีความนุ่มนวลดีทีเดียว คอนทราสต์ไม่จัดจ้านมากนัก แต่ยังคงให้ความคมชัด และเก็บรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม จากเซ็นเซอร์ CMOS แบบไม่มี Low Pass Filter  รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของวัตถุปรากฏอย่างเด่นชัดเมื่อขยายภาพที่ 100% บนจอคอมพิวเตอร์  สำหรับการจัดการ Noise นั้น  ผมลองถ่ายภาพไล่ความไวแสงไปจนถึงระดับสูงสุด ISO 51200  ซึ่งผมเองทึ่งกับคุณภาพที่ได้ ที่ ISO 12800 ยังคงให้ความคมชัดใช้ได้และถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม บริเวณที่เป็นสีดำยังคงดำสนิท และมี Noise ปรากฎให้เห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ

การจัดการ Noise ที่ดีเยี่ยม ช่วยให้สะดวกกับการถ่ายภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องพะวง แม้จะถ่ายภาพในบรรยากาศที่มีแสงน้อยก็ตามNikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 10-24 มม. F3.5-4.5G ED โหมด M ชัตเตอร์ 1/160 วินาที f/11 ISO1600, WB: Auto

ฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือ Picture Control แบบ Auto ที่กล้องจะประเมินลักษณะการถ่ายภาพจากรูปแบบการถ่ายภาพ อาทิ เมื่อใช้เลนส์มุมกว้าง ปรับโฟกัสในระยะไกล ใช้รูรับแสงแคบ กล้องจะปรับรูปแบบ Picture Control เป็น Landscape หรือเมื่อตรวจจับได้ว่ามีใบหน้าบุคคลในเฟรมภาพ กล้องจะปรับ Picture Control เป็นแบบถ่ายภาพบุคล หรือ Portrait เป็นต้น ซึ่งจากการได้ลองใช้งาน Picture Control แบบ Auto อยู่หลายวัน และถ่ายภาพหลายๆ รูปแบบ กล้องปรับสีสันและโทนของภาพได้เป็นที่น่าพอใจทีเดียวครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ และไม่ต้องปรับไป ปรับมาบ่อยๆ

อีกหนึ่งรูปแบบที่ผมเองก็สะดุดตาอยู่พอควร เวลาปรับเลือกคุณภาพของภาพ JPEG ที่มีดาวห้อยท้าย คุณภาพของภาพจะดีขึ้นอย่างสังเกตุได้เมื่อเทียบกับไฟล์ JPEG Fine หรือ JPEG Normal แต่ก็จะกินพื้นที่ในเมมโมรี่การ์ดเพิ่มตามไปด้วยครับ

ซ้าย : รูปแบบหน้าจอแสดงผลปกติ
ขวา : ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อแอพลิเคชั่น SnapBridge ผ่าน Bluetooth

ซ้าย : การปรับแต่งปุ่มและแป้นควบคุมต่างๆ ให้เป็นคีย์ลัดให้ปรับตั้งการทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น
ขวา : Picture Control ใหม่แบบ Auto ปรับใช้งานได้อย่างสะดวก โดยกล้องจะประเมินค่าที่เหมาะสมกับรูปแบบการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ

Nikon D7500 เป็นกล้องยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น SnapBridge ที่ช่วยให้สามารถควบคุมการถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟน  หรือดาวน์โหลดภาพจากกล้องมายังสมาร์ทโฟนเพื่อนำไปใช้งานงานอย่างอื่น เช่น โพสในโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ หรือส่งเป็นตัวอย่างงานให้ลูกค้า เป็นต้น  ซึ่งก็สะดวกกับการใช้งานดี

ผมเองก็ใช้งานอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากว่าไม่มีสายลั่นชัตเตอร์  เมื่อต้องตั้งถ่ายภาพ Long Exposure  หรือเมื่อถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่า โดยในครั้งแรกนั้นจะต้องทำการ pair ระหว่างตัวกล้องกับสมาร์ทโฟนเสียก่อน  หลังจากนั้นก็สามารถใช้งานได้ปกติครับ

ระบบวิดีโอของ D7500 ให้คุณภาพดีครับ เมื่อลองถ่ายด้วยฟอร์แมต 4K แล้วต่อสาย HDMI เพื่อดูภาพจากทีวี 4K พบว่าภาพที่ได้มีรายละเอียดดีมาก  การใช้งานก็ค่อนข้างคล่องตัวดีทีเดียวครับ

Nikon D7500 เลนส์ Nikkor AF-S 50 มม. F1.4G โหมด M ชัตเตอร์ 1/125 วินาที f/2.5, ISO500, WB: Auto


สรุปผลการใช้งาน

เปรียบเทียบขนาดกับ Nikon D500 จะเห็นได้ว่า D7500 มีขนาดเล็กกว่าอย่างชัดเจน  จึงเหมาะสำหรับนักถ่ายภาพที่ต้องการกล้องขนาดเล็กและเบาแต่ประสิทธิภาพสูง

Nikon D7500 ยังคงเอกลักษณ์ของกล้อง APS-C รุ่นรองท้อปที่ไม่ได้มีขนาดตัวกล้องที่ใหญ่ ออกแบบให้จับถือและใช้งานได้ง่าย  แต่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ใกล้เคียงรุ่นท้อป รองรับการใช้งานได้ทั้งมือใหม่ที่อยากได้กล้องดีๆ ไปจนถึงมือโปรที่อาจจะใช้เป็นกล้องสำรอง หรือแม้แต่จะเป็นกล้องหลักเลยก็ได้เช่นกัน เกือบๆ หนึ่งสัปดาห์ที่ได้ใช้งานแบบจริงๆ จังๆ ยอมรับว่าเป็นกล้องที่ตอบสนองการใช้งานได้ครบถ้วน ทั้งคุณภาพของไฟล์ การจัดการ Noise ที่ดีเยี่ยม ระบบโฟกัสที่รวดเร็ว แม่นยำ ช่องมองภาพที่เห็นภาพได้เต็ม 100%  ไม่ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดอีกต่อไป  รวมทั้งการถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที และโหมด Effect ต่างๆ มากมายหลายแบบ ทำให้ผมสนุกกับการถ่ายภาพอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อได้ลองโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง กลับมาดูไฟล์ภาพในคอมอีกที ถือเป็นอีกทริปหนึ่งที่ถ่ายภาพมาเยอะมากทีเดียวครับ สำหรับใครที่เล็งกล้องขนาดกลาง ขนาดไม่ใหญ่ พกพาสะดวก ถ่ายภาพสนุก  Nikon D7500 เป็นตัวเลือกที่น่าสนในอันดับต้นๆ เลยล่ะครับ  เป็นกล้องที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ทั้งภาพแลนด์สเคป  ภาพพอร์ตเทรต  ภาพงานพิธีต่างๆ  ภาพกีฬา  ภาพนก สัตว์ป่า และภาพทั่วๆ ไป   …Higly Recommened ครับ

ขอบคุณ : บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดสำหรับความอนุเคราะห์อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : http://www.nikon.co.th/

เรื่อง / ภาพ : พีร วงษ์ปัญญา

อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews