Nikon D780
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์ CMOS ขนาดฟูลเฟรม ความละเอียด 24.5 ล้านพิกเซล
- หน่วยประมวลผล Expeed 6
- จุดโฟกัส 51 จุด แบบ cross-type 15 จุด เมื่อใช้ Live View เลือกได้ 273 จุด
- ISO 100-51,200 ปรับขยายได้สูงถึง ISO 204,800
- บันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K UHD
- จอ LCD 3.2 นิ้ว 2,360,000 พิกเซล ปรับระดับได้ และควบคุมด้วยระบบสัมผัส
- ช่องเมมโมรี่การ์ดแบบ SD Card 2 ช่อง
- ตัวบอดี้ซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ
- มี Wi-Fi, Blutooth และ GPS ในตัว
- มีพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จไฟได้ด้วย
กล้อง DSLR ระดับกลาง ที่ใช้เซ็นเซอร์ FX-format หรือเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรม ปรับปรุงเพิ่มเติมจากรุ่นเดิมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 24.5 ล้านพิกเซล ตอบสนองการทำงานที่รวดเร็วจากประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล EXPEED 6 ให้ไฟล์ภาพคุณภาพสูง คมชัด และถ่ายทอดรายละเอียดได้ครบถ้วนทั้งในโทนมืดและโทนสว่าง รวมทั้งยังให้ไฟล์ภาพที่ใสเคลียร์ ปราสจาก Noise รบกวน แม้จะต้องถ่ายภาพที่ความไวแสงสูงๆ ก็ตาม
D780 ถ่ายภาพนิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 7 ภาพต่อวินาที และเมื่อเลือกเป็น Live View และใช้ Silent Mode ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะถูกปรับได้สูงถึง 12 ภาพต่อวินาที ช่วยให้เก็บจังหวะแอ๊คชั่นต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนทุกอริยาบถ
D780 ใช้จอมอนิเตอร์ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2,360,000 พิกเซล แบบปรับระดับได้ พร้อมควบคุมการทำงานระบบสัมผัส รองรับการควบคุมการทำงานได้ทั้งโหมดถ่ายภาพนิ่ง และโหมดวิดีโอ โดยสำหรับวิดีโอ บันทึกด้วยคุณภาพระดับ 4K UHS 30p ปรับเปลือกเป็น Full HD 120p เพื่อเปิดชมภาพแบบ Slow Motion ได้ด้วย
สำหรับฟีเจอร์วิดีโอ ยังโดดเด่นด้วย N-log หรือ Hybrid Log-Gamma ที่มีช่วงการรับแสงกว้าง บันทึกรายละเอียดของโทนต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งส่วนมืดและส่วนสว่าง ซึ่งช่วยให้นำไป grading ในขั้นตอนโปรเซสได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีช่องไมโครโฟนและหูฟังเสริม สำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพด้วยเช่นกัน
ราคา (จากบริษัทผู้ผลิต) : 78,000 บาท (เฉพาะบอดี้), 89,900 บาท (รวมเลนส์ 24-120mm)
เหมาะสำหรับ : กล้องฟูลเฟรม DSLR ระดับกลาง ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การทำงานไม่แต่ตางจากกล้องระดับเรือธงเท่าใดนัก รองรับการใช้งานได้ทั้งมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ
ข้อจำกัด : เป็นรุ่นที่ตัดเอาแฟลชหัวกล้องออกไป อาจจะไม่สะดวกสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยๆ สำหรับการใช้งานของมือใหม่