โซนี่นำเทคโนโลยี Translucent Mirror มาใช้กับกล้อง A MOUNT เพื่อทดแทนกล้อง DSLR ที่ใช้กระจกสะท้อนภาพปกติ ตั้งแต่รุ่น 33 และ A55 ในปี 2010 จากนั้นก็พัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงกล้องระดับโปรรุ่น A99 ซึ่งเป็นกล้องฟูลเฟรม และรุ่นเซมิโปรขนาด APS-C กับกล้องรุ่น A77II จากนั้นก็เงียบไปนานหลายปี มีเพียงกล้องรุ่นเล็กอย่าง A68 ที่ออกสู่ตลาดแบบเงียบๆ ในปี 2015
นั่นเป็นผลมาจากกระแสของกล้องอัลฟ่า E Mount และ FE Mount มาแรงมาก โซนี่โหมการพัฒนาแทบทั้งหมดไปที่กล้องฟลูเฟรมตระกูล 7 รวมทั้งการออกเลนส์ FE มาอย่างต่อเนื่องทำให้กล้อง DSLT แน่นิ่งไปพักใหญ่ทั้งกล้องและเลนส์ หลายคนคิดว่าโซนี่คงหยุดการพัฒนากล้อง A Mount ไปแล้ว จึงหันไปหากล้องตระกูล 7 แทน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่หวังว่าโซนี่จะมีกล้อง A Mount ระดับโปรรุ่นใหม่กับเลนส์ A Mount ใหม่ๆ ออกมาให้ชาวอัลฟ่าเก่าๆ ได้เฮกันบ้าง
และวันนี้ ฝันก็เป็นจริงแล้วกับ A99II กล้อง DSLT ใหม่ระดับมืออาชีพที่มาพร้อมเทคโนโลยีลํ้าหน้าสุดๆ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยยังคงยึดมั่นอยู่กับเทคโนโลยี Translucent Mirror เช่นเดิม ไม่ใช่เทคโนโลยี Mirrorless อย่างที่บางคนคาดการณ์ A99II เป็นกล้องที่รองรับการใช้งานระดับมืออาชีพได้ทุกรูปแบบ ด้วยความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล กับความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงถึง 12 ภาพ/วินาที พร้อมระบบโฟกัสต่อเนื่อง รวมทั้งระบบวิดีโอ 4K
จุดเด่นของ Sony A99II
- ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล เก็บทุกรายละเอียด
- พลังการประมวลผลสุดยอดด้วย BIONZ-X
- ระบบออโตโฟกัสที่ยอดเยี่ยม
- เร็วอย่างเหลือเชื่อ
- ระบบป้องกันการสั่นไหว 5 แกน ในตัว
- ช่องมองภาพชั้นเยี่ยม
- การควบคุมที่ง่ายและเร็ว
- แข็งแกร่ง ทนทาน
- ระบบวิดีโอระดับมืออาชีพ
ประสิทธิภาพและการออกแบบ
A99II มีขนาดเล็กลงกว่า A99 เดิม 8% โดยเฉพาะส่วนของกระโหลกกล้อง รูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับ A77II มากกว่า เพียงแต่โครงสร้างภายนอกจะดูแข็งแรงแน่นหนากว่ามาก เพราะ 99II ใช้โครงสร้างภายนอกที่ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย ทั้งฝาครอบบน ด้านหลัง ฝาครอบล่าง และโครงสร้างภายใน ด้วยความที่เป็นกล้องโปร A99II จึงไม่มีแฟลชป๊อปอัพในตัว ทำให้ส่วนของกะโหลกกล้องเป็นชิ้นเดียว จึงดูแข็งแรงแน่นหนากว่า A77II อย่างชัดเจน
กริปมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สันกริปหนาด้านตัดชัน เซาะร่องนิ้วชี้และนิ้วกลางไว้เพื่อให้จับถือได้ถนัด หุ้มด้วยยางลายหยาบถึงร่องด้านใน ทำให้การจับกระชับ เกาะมือ และมั่นคงดี และแม้จะไม่ใช้กริปแนวตั้ง ก็ยังจับถือได้เต็มมือพอดีๆ นิ้วก้อยไม่หลุดออกนอกกริป ตำแหน่งของแป้นควบคุมด้านหน้าและด้านหลังก็ดีมาก ปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงได้สะดวก
ด้านหลังตัวกล้องวางเลย์เอาท์ของปุ่มปรับเหมือนกับ A77II เลยครับ โดยวางปุ่มบันทึกวิดีโอไว้ข้างช่องมองภาพ กดใช้งานสะดวก ติดๆ กันเป็นปุ่ม AF/MF (ใช้เป็นปุ่มซูมขยายภาพเมื่อใช้ดูภาพ) A99II ไม่ใช้แป้นสี่ทิศทาง แต่ใช้จอยสติ๊กแทน
ด้านบนตัวกล้องยังคงออกแบบเหมือน A77II โดยวางแป้นปรับโหมดไว้ด้านซ้ายของกะโหลกกล้อง ด้านขวาเป็นจอ LCD เพื่อแสดงข้อมูลที่สำคัญ ส่วนหน้าเป็นระบบที่ใช้งานบ่อย คือ ระบบเลื่อนภาพ ระบบไวท์บาลานซ์ ระบบชดเชยแสง และปรับความไวแสง โดยมีไฟดูข้อมูลวางอยู่ด้านข้างจอ 2CD
จอ LCD ด้านหลังตัวกล้องมีขนาด 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1,228,800 จุด จอสามารถพับลงด้านล่างหรือขึ้นด้านบน แล้วหมุนจอพลิกกลับ 180 องศาได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง ข้อดีคือสามารถดูภาพได้สะดวก ไม่ว่าจะถ่ายแนวนอนหรือแนวตั้ง มุมสูงหรือมุมตํ่า และแนวของภาพยังอยู่ในแกนเดียวกับช่องมองภาพ จึงปรับมุมภาพได้สะดวก และเมื่อมีการเชื่อมต่อสาย HDMI หรือสายลั่นชัตเตอร์ จอจะไม่ไปโดนสาย
ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล เก็บทุกรายละเอียด ด้วยการใช้เซ็นเซอร์รับภาพ ความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล Exmor R CMOS แบบ Back-illuminated ที่ย้ายชั้นของวงจรและสายไปไว้ด้านล่าง ทำให้โฟโต้ไดโอดอยู่ใกล้กับเลนส์รวมแสงมากขึ้น จึงรับแสงได้มากกว่า สัญญาณรบกวนจึงตํ่ากว่าเมื่อใช้ความไวแสงสูง และ A99II ยังไม่ใช้ Low pass- filter จึงให้ภาพที่คมชัด รายละเอียดยอดเยี่ยมพลังการประมวลผลสุดยอดด้วย BIONZ-X เพื่อรองรับความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล ระบบวิดีโอ 4K และฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น เทคโนโลยีลดการเลี้ยวเบนของแสง ( Diffraction-reduction ) เพื่อให้ภาพที่ได้มีความคมชัดสูงแม้ใช้รูรับแสงแคบ และช่วยให้ระบบลดสัญญาณรบกวนเฉพาะพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เพียง BIONZ-X เท่านั้น A99II ยังใช้ Front-end LSI ใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มพลังในการจัดการกับข้อมูลมหาศาลของไฟล์ 42.4 ล้านพิกเซล ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ A99II มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงมาก เมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงรุ่นอื่นๆ
ระบบออโตโฟกัสที่ยอดเยี่ยม A99II ใช้ประโยชน์จากระบบโปรงแสง (Translucent Mirror) ได้อย่างเต็มที่ โดยใช้ระบบ Hybrid Phase Detection AF ที่ผสานการทำงานระบบโฟกัสแบบเฟสดีเทคชั่นที่วางไว้ด้านบนของกระจกโปร่งแสง โดยใช้แสงที่สะท้อนจากกระจกโปร่งแสงในการทำงาน ข้อดีของเซ็นเซอร์ชุดนี้คือ มันสามารถทำงานได้ตลอดเวลา 100% เพราะกระจกไม่มีการยกตัว ดังนั้นแม้ในขณะชัตเตอร์ทำงาน ระบบโฟกัสจากเซ็นเซอร์ชุดนี้ก็ยังสามารถโฟกัสติดตามวัตถุได้ ระบบนี้จะทำงานร่วมกับเฟสดีเทคชั่นอยู่บนเซ็นเซอร์รับภาพ เพื่อให้ระบบโฟกัสมีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งความเร็วและความแม่นยำ
โดยจุดโฟกัสของเซ็นเซอร์ที่วางไว้ด้านบนกระจกโปร่งใส มี 79 จุด เป็นแบบกากบาท (Cross Type) 14 จุด และอีก 1 จุด ตรงกลางเป็นกากบาทที่รองรับเลนส์ F2.8 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง จุดโฟกัสที่เหลือจะวางแบบแนวนอน
ความฉลาดในการอออกแบบอยู่ตรงที่ A99II เอาจุดโฟกัส 79 จุดนี้ ไปทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เฟสดีเทคชั่น 399 จุด (บนเซ็นเซอร์รับภาพ) ที่วางเซ็นเซอร์แบบแนวตั้ง ดังนั้นเซ็นเซอร์โฟกัสแบบแนวนอนที่อยู่ด้านบนกระจกโปร่งแสง ก็จะมาประกบกับจุดโฟกัสแบบแนวตั้ง บนเซ็นเซอร์รับภาพ ทำให้ได้จุดโฟกัสของระบบเฟสดีเทคชั่นแบบกากบาทเป็น 79 จุด และแบบแนวตั้งอีก 320 จุด
A99II ใช้การทำงานของระบบโฟกัสที่เรียกว่า 4D FOCUS ที่มีความแม่นยำสูง และมีความเร็วในการแทรคกิ้งสูง ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เฟสดีเทคชั่น 399 จุดที่ครอบคลุมพื้นที่โฟกัส กว้างกว่ากล้องฟลูเฟรมระดับโปรทั่วไป ทำให้ A99II มีประสิทธิภาพในการโฟกัสติดตามวัตถุเยี่ยมยอด โดยไม่ต้องพะวงกับการเลือกพื้นที่โฟกัสให้ได้ตรงกับองค์ประกอบพื้นที่ต้องการ และด้วยการผสานการทำงานของเซ็นเซอร์การโฟกัสแบบดีเทคชั่น 2 ชุด ทำให้การหาโฟกัสเร็วและแม่นยำแม้ถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง
ระบบออโตโฟกัสสามารถทำงานได้ในสภาพแสงน้อยตํ่าถึง EV-4 ด้วยจุดโฟกัสกลาง ทำให้ช่างภาพสามารถบันทึกภาพในแสงน้อยมากๆ ได้ ด้วยการใช้ความไวแสงสูง ในโหมด AF-S และ AF-C ยังสามารถเลือกรูปแบบโฟกัสได้ ว่าจะให้โฟกัสชัดก่อน จึงจะลั่นชัตเตอร์ได้ หรือว่าลั่นชัตเตอร์ได้ตลอดเวลา และยังมีโหมด Balance ที่กล้องจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมให้อัตโนมัติว่าจะต้องโฟกัสให้ได้ก่อนหรือลั่นชัตเตอร์ได้เลย นอกจากนั้นยังมีระบบ Eye AF สำหรับการถ่ายภาพพอร์ทเทรต โดยกล้องจะโฟกัสดวงตาเป็นหลัก A99II สามารถเลือกความไวในการตอบสนองของระบบแทรคกิ้งได้ เลือกพื้นที่ที่จะให้ระบบโฟกัสทำงานได้ ในโหมด Flexible Stop สามารถเลือกขนาดของจุดโฟกัสได้
เร็วอย่างเหลือเชื่อ นี่คือกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงเพียงรุ่นเดียวในโลกที่สามารถถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่นได้ทุกรูปแบบ เพราะในกล้องความละเอียดสูง (36 ล้านพิกเซลหรือมากกว่า) ทั่วไป ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องมักจะถูกจำกัดอยู่เพียง 5 ภาพ / วินาที ซึ่งไม่สูงพอที่จะถ่ายภาพแอคชั่นที่รวดเร็วได้ดีพอ ส่วนกล้องระดับโปรที่มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงกว่า 10 ภาพ/วินาที ก็จะมีความละเอียดเพียง 16-20 ล้านพิกเซล
กับการเคลื่อนที่เข้าหากล้องในแนวทแยงด้วยความเร็ว ระบบ Tracking AF ยังทำงานได้ดี โฟกัสยังจับที่ซับเจกต์ได้ต่อเนื่อง กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony 70-200mm f/2.8G II SSM ; 1/1600 Sec f/3.5, Mode : M, WB : Auto, ISO 400, ความเร็ว 12 ภาพ / วินาที
แต่ A99II เป็นกล้องความละเอียดสูง 42.4 ล้านพิกเซล ที่มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงถึง 12 ภาพ/วินาที โดยกล้องยังสามารถโฟกัสติดตามวัตถุอย่างต่อเนื่องได้ และยังวัดแสงต่อเนื่องได้ ทำให้สามารถใช้กับการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่นและภาพข่าว ภาพสารคดีได้อย่างยอดเยี่ยม โดยได้โฟล์ความละเอียดสูงที่สามารถขยายเป็นภาพขนาดใหญ่ได้อย่างมีคุณภาพกว่า
A99II ยังออกแบบให้การถ่ายภาพต่อเนื่องทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของการมองภาพ และการติดตามภาพ โดยเมื่อปรับความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ H (8 ภาพ/วินาที) จะเป็นโหมด Live View ที่มีอาการหน่วงในการแสดงน้อยมาก มองภาพได้ใกล้เคียงช่องมองแบบออพติคัลอย่างมาก จึงเคลื่อนกล้องติดตามซับเจกต์ได้ง่าย ในการถ่ายภาพต่อเนื่อง
A99 II มีโหมด Flicker-free ออกแบบให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพแอคชั่นด้วยแสงฟลูออเรสเซนต์ได้ โดยกล้องจะตรวจจับการกระพริบของไฟ และเลือกบันทึกเฉพาะช่วงที่แสงยังสว่างเต็มที่ เพื่อป้องกันภาพอันเดอร์หรือมีสีผิดเพี้ยน
ระบบป้องกันการสั่นไหว 5 แกน ในตัว A99II ออกแบบระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน ที่ออกมาเป็นพิเศษสำหรับกล้อง A Mount โดยใช้เซ็นเซอร์ GYRO ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้มีความเที่ยงตรงในการตรวจจับการสั่นไหวมากขึ้น ส่งผลให้ A99II สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ตํ่ากว่ากฎ 1/ ทางยาวโฟกัสได้ถึง 4.5 สตอป โดยลดการสั่นไหวได้แทบทุกทิศทาง รองรับการใช้งานได้ดีกับการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ตํ่าในทุกสถานการณ์ รองรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ช่องมองภาพชั้นเยี่ยม A99II ออกแบบให้ช่างภาพมองภาพได้เต็มตา คมชัดราวกับช่องมองภาพออพติคัลของกล้อง DSLR ระดับโปร โดยใช้ช่องมองแบบ XGA OLED Tru-finder ขนาด 0.5 นิ้ว ความละเอียด 2,359,296 จุด อัตราขยายช่องมองสูงถึง 0.78X ให้ขนาดภาพใหญ่มาก มองภาพจัดองค์ประกอบได้สะดวก ปรับแก้สายตาได้ช่วงกว้างมาก ตั้งแต่ -4 ถึง + 0.3 ไดออพเตอร์ แสดงข้อมูลในช่องมองได้สมบูรณ์แบบ
การควบคุมที่ง่ายและเร็ว เพื่อรองรับการใช้งานของมืออาชีพ A99II จึงออกแบบให้ช่างภาพเข้าถึงระบบการทำงานที่ต้องการได้ง่ายและเร็ว จึงมีการปรับการจัดวางเมนูใหม่ แยกหมวดหมู่ชัดเจนกว่าเดิม แยกหมวด คุณภาพ/ขนาดภาพ , โหมดเลื่อนภาพ ,ระบบโฟกัส, ระบบเปิดรับแสง, ระบบแฟลช, ระบบสี, ระบบช่วยโฟกัส (แมนนวล), ระบบวิดีโอ ,ชัตเตอร์ , ระบบป้องกันการสั่นไหว ,การปรับควบคุมกล้อง, ระบบไร้สาย, ระบบดูภาพ, และระบบเซ็ทอัพ ทำให้สามารถค้นหาฟังก์ชั่นได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นวงล้อ Multi Controller ที่ด้านหน้าส่วนล่างตัวกล้องออกแบบให้ผู้ใช้สามารถปรับเลือกว่าจะปรับใช้ฟังก์ชั่นอะไรจากวงล้อนี้ โดยกดปุ่มกลางวงล้อแช่ไว้ 2 วินาที กล้องจะแสดงฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ส่วนล่างของหน้าจอ หมุนวงล้อเพื่อเลือกฟังก์ชั่นที่ต้องการ เช่น หากหมุนไปที่ Picture Effect วงล้อนี้ก็จะจะทำหน้าที่เลือกฟิลเตอร์ที่คุณต้องการใช้งาน โดยกดปุ่มกลางวงล้อลงไป หน้าจอจะแสดงฟิลเตอร์ต่างๆ หมุนวงล้อเพื่อเลือกฟิลเตอร์ได้เลย ถ้าอยากให้วงล้อเปลี่ยนไปปรับฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็เซ็ทใหม่ได้ เป็นการออกแบบที่ดีครับใช้งานได้สะดวกคล่องตัว
ช่องใส่การ์ด SD เป็นแบบคู่ สามารถเลือกการบันทึกได้ ทั้งแบบ Back-up บันทึกลง 2 การ์ดด้วยข้อมูลเดียวกัน แยกบันทึก RAW กับ JPEG คนละการ์ด แยกภาพนิ่งกับวิดีโอคนละการ์ด หรือบันทึกลงช่องเดียว หากเต็มก็ต่อที่ช่อง 2 ได้
แข็งแกร่ง ทนทาน A99II ออกแบบให้การรองรับการใช้งานระดับมืออาชีพ ดังนั้นจึงเน้นเรื่องความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ บอดี้ขึ้นรูปจากแมกนีเซียมอัลลอยทั้งภายนอกและโครงสร้างภายใน เพื่อความแข็งแรงและนํ้าหนักเบา ตัวกล้องซีลรอบตัวเพื่อป้องกันความชื้น ละอองนํ้าและฝุ่น ใช้ระบบเคลือบผิวกระจกโปร่งแสงและเซ็นเซอร์แบบพิเศษ เพื่อป้องกันฝุ่นเกาะ และถ้ามีฝุ่นเกาะก็สามารถเอาออกได้ง่าย ชัตเตอร์มีความทนทานเป็นพิเศษ ใช้งานได้ถึง 300,000 ครั้ง
ระบบวิดีโอระดับมืออาชีพ A99II ออกแบบให้สามารถทำงานวิดีโอระดับมืออาชีพได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยคุณภาพระดับ 4K บันทึกในการฟอร์แมต SUPER 35mm แบบอ่านข้อมูลทุกพิกเซล ด้วยความละเอียด 15 ล้านพิกเซล ข้อมูลสูงกว่า 4K ถึง 1.8 เท่า จากนั้นจะแปลงข้อมูลเป็น 4K ผลที่ได้คือไฟล์วิดีโอที่คมกริบ สัญญาณรบกวนตํ่า moire น้อย และภาพมีมิติ
A99II บันทึกในฟอร์แมต XAVCS ที่ให้คุณภาพสูงได้ และบันทึกในฟอร์แมต AVCHD และ MP 4 ได้ ไฟล์ 4K บันทึกในตัวมีบิตเรทถึง 100 Mbps นอกจากนั้นยังสามารถบันทึกด้วยเฟรมเรทสูงระดับ 120 fps (100 Mbps) ได้ จึงให้ภาพที่มีรายละเอียดสูง A99II รองรับ S-Gamut/S-log เพื่อขยายไดนามิคเรนจ์และการ Grading มี Picture Profile หลายรูปแบบ มีโหมด Slow & Quick Motion ปรับเฟรมเรทของการบันทึกได้ตั้งแต่ 1 fps ถึง 120 fps สามารถดึงภาพนิ่งออกจากไฟล์วิดีโอได้ด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอ 4K แบบไร้การบีบอัดผ่าน Clean HDMI Output มีช่องต่อไมโครโฟนไฮเอนด์แบบขั้ว XLR
ผลการใช้งาน
กล้อง Sony A99II เลนส์ Zeiss Vario-Sonnar 16-35mm. f/2.8 ZA ; 1/125 Sec f/5.0, Mode : A, WB : Auto, ISO 400
ผมได้รับกล้อง A99II มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar 16-35mm.f/2.8 ZA และ SONY 70-200mm. f/2.8 G II SSM และได้ลองนำเลนส์ส่วนตัว A Mount มาใช้ร่วมด้วยคือ 500mm. f/8 REFLEX เพื่อทดสอบการโฟกัสกับเลนส์ F8
ในการใช้งานสิ่งที่น่าประทับใจ คือ การจับถือการควบคุมที่ทำได้เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่ติว่ากล้องรุ่นนี้จะออกมาเพื่ออะไร ในเมื่อมี A7II, A7R II แล้ว คุณต้องลองจับ ลองเล่นดูครับ แล้วจะเห็นว่า A99II เป็นกล้องอีกรูปแบบหนึ่งที่คุณจะหลงรัก และมันเป็นกล้องที่ใช้คำว่าโปรได้อย่างแท้จริง ด้วยการวางปุ่มปรับ แป้นหมุน ที่ควบคุมง่าย รับกับนิ้วมือ กริปจับถือได้เต็มมือ กระชับ มั่นคง และสมดุลเมื่อใช้กับเลนส์ที่มีขนาดใหญ่และหนัก
แป้นควบคุมด้านหน้าและด้านหลังอยู่ในตำแหน่งที่ปรับได้ถนัดมือดีมาก ทำให้การปรับความเร็วชัตเตอร์ การปรับรูรับแสง ทำได้คล่องตัว จอยสติ๊กด้านหลังช่วยให้การย้ายจุดโฟกัส โซนโฟกัส ทำได้เร็ว เข้าระบบได้เร็ว ปุ่มปรับแต่ละปุ่มนูนขึ้นมาจากผิวตัวกล้องพอควร ทำให้กดใช้งานสะดวก โดยเฉพาะปุ่มบันทึกวิดีโอที่ใช้งานได้สะดวกดีมาก มองภาพในช่องมองแล้วประทับใจมากครับ ขนาดภาพใหญ่ ภาพใสสว่าง คมชัด มองได้เต็มตาและสบายตาราวกับช่องมองออพติคัลของกล้องระดับโปร การแสดงข้อมูลเพียบพร้อม ดูผลได้ชัดเจน และด้วยจุดเด่นของช่องมอง EVF คือแสดงค่าแสงให้เห็นจากช่องมองว่ามืดไปหรือสว่างไปแค่ไหน สีสันเป็นอย่างไร ทำให้เราเห็นภาพที่ได้ตั้งแต่ยังไม่กดปุ่มลั่นชัตเตอร์แล้ว และเห็นอย่างไรก็ได้อย่างนั้น จึงไม่พลาดทั้งเรื่องการวัดแสงและการควบคุมสีสันของภาพ ฟิลลิ่งในการใช้งานต้องบอกว่าดีมาก เป็นกล้องที่มีขนาดกำลังดีไม่ใหญ่เกิน ไม่เล็กเกิน และไม่จำเป็นต้องใช้กริปแนวตั้งก็จับมือถือได้ดี
จอ LCD เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจ การปรับมุมได้อิสระของมันทำให้การถ่ายภาพมุมสูง มุมตํ่าภาพแนวนอน แนวตั้ง ทำได้สะดวกคล่องตัวมาก และการพับจอแบบนี้ผมชอบมากกว่าการพับออกด้านข้าง (จอ LCD จะห่างจากแนวของแกนเลนส์มากเกิน และมักจะไปชนกับสาย HDMI สายไมโครโฟน หรือสายหูฟังเสมอ)
แป้นหมุนด้านหน้าตัวกล้องข้างเมาท์เลนส์ เป็นอีกจุดที่ผมชอบ มันช่วยให้การเข้าฟังก์ชั่นทำได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเข้าเมนู ปรับเข้าระบบที่ต้องการง่าย เปลี่ยนค่าต่างๆ ได้ง่าย และไม่สับสน เพราะแสดงข้อมูลการปรับเลือกให้เห็นจากในช่องมอง EVF (หรือ จอ LCD)
ระบบออโตโฟกัสคือจุดเด่นของ A99II ไม่มีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงรุ่นใดๆ เทียบมันได้แล้วครับในเรื่องนี้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสงโดยวางเซ็นเซอร์โฟกัส 1 ชุดไว้ด้านบนของกระจกโปร่งแสงตามรูปแบบของกล้อง SLT จากโซนี่ และใช้เซ็นเซอร์โฟกัสแบบเฟสดีเทคชั่นอีกชุดอยู่บนเซ็นเซอร์รับภาพ (เซ็นเซอร์รับภาพรุ่นเดียวกับ A7R II)
เมื่อทำงานร่วมกัน จุดโฟกัส 79 จุดจะเป็นแบบกากบาท ที่มีความแม่นยำสูงกว่า การตอบสนองดีกว่า ทำงานกับซับเจกต์ที่มีคอนทราสต์ตํ่าได้ดีกว่า ประสิทธิภาพในการโฟกัสจึงสูงกว่า A7R II อย่างชัดเจน
ผมลองนำไปใช้ถ่ายภาพแอคชั่นหลายๆ รูปแบบ โดยใช้เลนส์เทเลซูม พบว่าการโฟกัสทำได้ดีมาก การตอบสนองในการออกตัวของระบบโฟกัสรวดเร็ว การแทรคกิ้งรวดเร็ว และกระตือรือร้นทำให้สามารถลั่นชัตเตอร์ได้ตลอดเวลาที่จังหวะของซับเจกต์ดี มีภาพหลุดโฟกัสบ้าง แต่นับว่าค่อนข้างน้อย
ในการใช้งานผมมักจะใช้พื้นที่โฟกัสแบบ ZONE ปรับฟังก์ชั่น AF Track Sens ไปที่ 3 (Standard) หรือที่ 2 บ้างเพื่อให้ระบบโฟกัสล็อกที่ซับเจกต์นานหน่อย ไม่เปลี่ยนไปที่วัตถุใหม่เร็วเกิน ตั้งระบบโฟกัสที่ AF-C และระบบเลื่อนภาพที่ H+ สลับกับ H
ในการโฟกัสติดตามวัตถุ เพียงวางโซนโฟกัสให้ตรงกับซับเจกต์ และเคลื่อนกล้องตามโดยให้โซนโฟกัสอยู่ที่ซับเจกต์ เพียงเท่านี้ก็พร้อมลั่นชัตเตอร์ได้ตลอดเวลา กล้องจะแทรคตามซับเจกต์ โดยแสดงจุดโฟกัสที่ใช้งานให้เห็นชัดเจนในช่องมอง โฟกัสได้แม่นยำและเร็วครับ การติดตามภาพทำได้ค่อนข้างดี Blackout time มีบ้างแต่ไม่มาก ทำให้ภาพหายจากช่องมองในระหว่างเฟรมเพียงเล็กน้อย จึงยังเคลื่อนกล้องติดตามซับเจกต์ได้ บัฟเฟอร์มีความจุมากพอสมควร สามารถรัวต่อเนื่องได้ยาว กับไฟล์ RAW+JPEG สามารถรัวได้ 54 ภาพ การเขียนข้อมูลลงการ์ดก็ทำได้เร็ว พร้อมถ่ายชุดต่อไปได้เร็ว จึงไม่เสียจังหวะ ไม่เสียโอกาส หากต้องถ่ายต่อเนื่องบ่อยๆ
ระบบ Tracking AF ทำงานได้น่าพอใจมาก ภาพชุดนี้ผมถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็ว 12 ภาพต่อวินาที โดยตั้งระบบโฟกัสที่ AF-C พื้นที่โฟกัสที่ Zone ตั้ง AF Track Sens ที่ 3(Standard) จากนั้นก็เคลื่อนกล้องตามซับเจกต์มาตั้งแต่ระยะไกล เมื่อเข้าจุดก็กดรัวต่อเนื่อง 20 ภาพ กล้องสามารถแทรคตามได้ตลอด การเคลื่อนกล้องตามภาพก็ทำได้ไม่ยาก เพราะ LAG ในการแสดงภาพค่อนข้างน้อย กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony 70-200mm f/2.8G II SSM ; 1/1600 Sec f/3.5, Mode : M, WB : Auto, ISO 400
กับเลนส์ F8 ระบบออโตโฟกัสยังทำงานได้ดี เพียงแต่จะไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสได้ กล้องจะปรับใช้ที่จุดกลางภาพเท่านั้น ในการใช้งานจึงเหมาะกับการถ่ายแบบซับเจกต์ไม่เคลื่อนไหวเร็วนัก โหมด AF-C จึงจะแทรคกิ้งได้ในสภาพแสงน้อย การหาโฟกัสยังทำได้ดี โฟกัสได้แม่นยำ เพียงแต่ความเร็วในการโฟกัสจะลดลงบ้าง หากใช้เลนส์ f/2.8 หรือสว่างกว่าก็จะช่วยให้ระบบโฟกัสทำงานในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น
ระบบออโตโฟกัสยังทำงานได้แม่นยำและรวดเร็วแม้ใช้กับเลนส์ REFLEX f/8 เพียงแต่กล้องจะปรับให้ใช้ที่จุดกลางเท่านั้น ย้ายจุดโฟกัสไม่ได้ กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony AF 500mm. f/8 Reflex ; 1/2500 Sec f/8, Mode : M, WB : Auto, ISO 500
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนในตัวกล้องมีประสิทธิภาพดี น่าพอใจครับ ผมลองกับเลนส์ 70-200mm. f/2.8 G II SSM ที่ช่วง 200 มม. สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที ได้คมชัดแทบทุกภาพ ที่ความเร็ว 1/15 วินาที ภาพคมชัดประมาณ 50% และที่ความเร็ว 1/8 วินาที ภาพคมชัดประมาณ 25% ของภาพทั้งหมด เมื่อลองกับเลนส์แมนนวลโฟกัสยุคเก่า แล้วใช้ที่ช่วง 200 มม. พบว่าที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/60 วินาที ภาพคมชัดทุกภาพ ที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที ภาพคมชัดประมาณ 70% ของภาพทั้งหมด ซึ่งนับว่าน่าพอใจแล้วครับ เพียงแต่ถ้าใช้กับเลนส์มือหมุนเช่นนี้ ผมจะตั้งระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบแมนนวล โดยเลือกทางวางโฟกัสให้ตรงกับเลนส์ที่ใช้กับเลนส์ REFLEX 500mm. F/8 นี่เห็นกันชัดๆ เลยครับว่า ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนทำงานได้ดีจริง ดีกว่าที่ผมคาด เพราะระบบกันสั่นในตัวกล้องจะมีข้อจำกัดกับเลนส์เทเลโฟโต้ช่วงยาว แต่กับเลนส์ 500 มม. ผมสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/125 วินาที ถ่ายภาพจากบนรถยนต์ที่ติดเครื่องอยู่ได้
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทำงานได้น่าประทับใจ ภาพนี้บันทึกที่ช่วง 135 มม. โดยใช้ความเร็วชัตเตอร์เพียง 1/15 วินาที ภาพก็ยังคมชัด และแม้จะใช้ความไวแสงถึง ISO 1600 ภาพก็ยังมีรายละเอียดดีมาก กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony 70-200mm f/2.8G II SSM ; 1/15 Sec f/4.5, Mode : M, WB : Auto, ISO 1600
คุณภาพไฟล์ของ A99II อยู่ในระดับดีเยี่ยม ให้คุณภาพพอๆ กับ A7R II นั่นล่ะครับ แม้จะมีกระจกโปร่งแสงคั่นอยู่ คุณภาพก็ไม่ได้ลดลงอย่างที่จะสังเกตได้ ความคมชัดยังดีเยี่ยมอยู่เมื่อใช้กับเลนส์ 70-200 mm. f/2.8 G II SSM ภาพที่ได้คมกริบ รายละเอียดดีมากเมื่อใช้ความไวแสง ISO 100-800 รายละเอียดยังดีน่าพอใจที่ ISO 1600 แต่จะลดลงเมื่อใช้ความไวแสง ISO 3200 แต่ผมยังพอใจผลที่ได้ และยังยอมรับคุณภาพของภาพได้จนถึง ISO 12800 เลยครับ เป็นกล้องที่ให้ความคมชัดสูง รายละเอียดดีเยี่ยม รองรับการขยายภาพขนาดใหญ่ได้ดี
กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony 70-200mm. f/2.8G II SSM ; 1/500 Sec f/4.5, Mode : M, WB : Auto, ISO 400
สัญญาณรบกวนของ A99II อยู่ในระดับดี ที่ความไวแสง ISO 100-400 ภาพทีได้ใสเคลียร์ ที่ ISO 800 จะปรากฏสัญญาณรบกวนในส่วนมืดของภาพบ้าง แต่ไม่ได้มีผลต่อคุณภาพแต่อย่างใด ความใสเคลียร์ของภาพยังดีอยู่ ที่ ISO 1600 จะปรากฏสัญญาณรบกวนมากขึ้น แต่รายละเอียดยังดีมากครับ ในความเห็นส่วนตัว หากบันทึกด้วยไฟล์ JPEG ผมจะตั้งฟังก์ชั่น High ISO NR ไว้ที่ Low เพื่อให้ภาพไม่ขึ้นวุ้น แม้จะมีสัญญาณรบกวนบ้างแต่รายละเอียดยังน่าพอใจ ที่ ISO 3200 สัญญาณรบกวนปรากฏชัด แต่ความใสของภาพยังดี รายละเอียดก็ยังใช้ได้ครับ
A99II เป็นกล้องที่ให้ไฟล์ JPEG ที่มีสีสันดี ความอิ่มสีค่อนข้างสูง สีไม่จัดจ้านมากนัก การไล่ระดับสียังดูเป็นธรรมชาติ และให้สีผิวค่อนข้างดี ในส่วนของวิดีโอนั้นต้องบอกว่า เยี่ยมยอดครับ ดีในทุกๆ ด้าน ทั้งความคมชัด รายละเอียดที่ยอดเยี่ยมทั้งส่วนสว่างและส่วนมืด สีสันของภาพเจิดจ้าสดใส ให้ภาพคมกริบเมื่อดูบนจอ 4K
การควบคุมกล้อง การบันทึกทำได้ดีมาก ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องทำงานได้ดีเมื่อต้องถือกล้องด้วยมือ ฟังก์ชั่นด้านวิดีโอมีให้ใช้มากกว่ากล้องระดับเดียวกัน ทำให้การบันทึกวิดีโอทำได้คล่องตัวและให้ผลดี
การโฟกัสในภาควิดีโอทำได้ดีมากครับ แทรคได้นุ่นนวล ราบเรียบราวกับกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพ และยังสามารถเลือกตอบสนองของระบบแทรคกิ้งได้อีก 3 ระดับด้วย การบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนในตัวชัดเจนดี
การแชร์ภาพทำได้สะดวกด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi ในตัว และยังมี NFC อีกด้วย สามารถถ่ายโอนภาพจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้สะดวกและรวดเร็ว
ความเห็น
กล้อง Sony A99II เลนส์ Sony 70-200mm. f/2.8G II SSM ; 1/2500 Sec f/3.2, Mode : A, WB : Auto, ISO 200
หลายคนอาจมองว่า A99II มาผิดยุค เพราะ FE Mount น่าจะมีอนาคตสดใสกว่า แต่ผมเห็นว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบกล้องขนาดเล็ก มืออาชีพและนักถ่ายภาพระดับจริงจังจำนวนไม่น้อยอยากได้กล้องที่จับถือได้เต็มไม้เต็มมือ ให้ความสมดุลเมื่อใช้เลนส์ขนาดใหญ่ ต้องการกล้องที่ควบคุมสะดวก ซึ่ง A99II มีทุกสิ่งที่โปรอยากได้ ประกอบกับระบบเลนส์ A Mount ก็เต็มไลน์แล้ว ตั้งแต่ฟิชอายจนถึงซูเปอร์เทเลโฟโต้ ดังนั้น A99II จึงมีที่ยืนแน่นอน โดยเฉพาะกับตลาดใหญ่อย่างยุโรปและญี่ปุ่น
สำหรับผม… Highly Recommended ครับ หนึ่งในกล้องที่ใช้แล้วประทับใจมาก หากระบบเลนส์ A Mount ของคุณยังอยู่ นี่คือกล้องที่จะรองรับการใช้งานระดับโปรได้อีกหลายปีครับ
ขอบคุณ: บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด สำหรับความอนุเคราะห์ กล้องและเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.sony.co.th
เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์
